โจ๊กโวกำนันนกไม่รอด

“บิ๊กโจ๊ก” เข้าพบนายกฯ  รายงานคดี "กำนันนก" เผยนายกฯ สั่งปราบมาเฟียถึงรากถึงโคน ขยายผลถึงตัวสุดท้าย รวมทั้งการทุจริตฮั้่วประมูลงาน  มั่นใจดิ้นไม่หลุดแน่ หลักฐานมัดแน่น พร้อมสาวถึงส่วยสติกเกอร์ คาดใช้เวลา 1สัปดาห์ปิดคดี "อนุทิน" ลั่นผู้มีอิทธิพลต่อจากนี้ลุแก่อำนาจไม่ได้อีก แจงตั้ง "ชาดา" ปราบตรงจุด มีใจกล้าชน ขออย่าด้อยค่า  เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ รับตัวกำนันนกไว้แล้ว กรมราชทัณฑ์สั่งให้ออกราชการ มือโยนเซิร์ฟเวอร์ทิ้งบ่อน้ำ บช.ภ.7 สอบเครียด "เก่ง-โบ๊ท" คนทิ้งปืน-เซิร์ฟเวอร์ ฟันอีก 6 ตร.ให้ออกราชการไว้ก่อน คดีช่วยผู้ต้องหาหลบหนี จ่อฝากขังศาลอาญาทุจริตฯ พร้อมค้านประกันตัว

ที่บ้านพิษณุโลก เวลา 12.35 น. วันที่ 10 กันยายน นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ประชุมร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) โดย พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ  (ผบ.ตร.) ได้หอบเอกสารมาประชุมด้วย

ภายหลังการประชุม นายเศรษฐากล่าวถึงกรณี พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล  เข้าพบได้รายงานความคืบหน้าคดีนายประวีณ จันทร์คล้าย หรือ "กำนันนก" หรือไม่ ว่าได้มีการรายงาน

ด้าน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์เปิดเผยว่า วันนี้นายกฯ เป็นห่วงเป็นใยเรื่องการขยายผล  โดยมีแนวทางให้ขยายผลให้ถึงที่สุดจนถึงตัวสุดท้าย ไม่ใช่เฉพาะเรื่องผู้มีอิทธิพลอย่างเดียว เรื่องการทุจริตต่างๆ  ในพื้นที่ การฮั้วประมูลการได้งานต่างๆ   จะต้องลงไปดูให้หมดว่ามีใครเกี่ยวข้องบ้าง

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีการออกหมายเรียกหมายจับเพิ่มเติมในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องอีกหรือไม่  พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าวว่า วันนี้กำลังสอบอยู่ โดยนายกฯ เน้นให้ความเป็นธรรม ทำอย่างตรงไปตรงมา หากเราสอบสวนและพบว่าใครเป็นผู้กระทำความผิดก็จะดำเนินการออกหมายจับต่อไป ส่วนเซิร์ฟเวอร์กล้องวงจรปิด เราได้กู้มาแล้ว คาดว่าใช้เวลา 3-4 วัน แม้จะเปียกน้ำ เมื่อแห้งก็กู้ข้อมูลได้อย่างสมบูรณ์ไม่มีปัญหา ส่วนทรัพย์สินบ้านกำนันนก วันนี้ยังไม่ได้อายัด เพราะทรัพย์สินยังไม่ได้เข้าความผิด แต่ก็ได้เอกสารส่วนใหญ่มาแล้ว เดี๋ยวจะดูเรื่องการฮั้วประมูลอะไรต่างๆ  หากมีการฮั้วประมูลก็เข้าข่ายฐานความผิด นำไปสู่การยึดทรัพย์ต่างๆ

"แน่นอน โดยหลักของกฎหมาย แต่ถ้าเป็นเรื่องของการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่  ทำลายวัตถุพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ ซึ่งตอนนี้ตำรวจในเหตุการณ์แบ่งเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มแรกเกิดเหตุและวิ่งหนีไปไม่ทำอะไรเลย ถือว่าละเว้นหน้าที่แน่นอน  โดยกลุ่มแรกเราออกหมายจับไปบางส่วนแล้ว กลุ่ม 2 ร่วมทำลายพยานหลักฐานและพากำนันนกหนี และกลุ่มที่ 3 กลุ่มที่พาคนเจ็บส่งโรงพยาบาล ตรงนี้เราต้องให้ความเป็นธรรมเขา" พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวเมื่อถามว่าคดีนี้ต้องมีเจ้าหน้าที่ตำรวจที่รับผิดชอบอย่างแน่นอนใช่หรือไม่

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าวว่า คดีนี้ถือว่าไม่ซับซ้อน ถ้าเปรียบเทียบคดีแอม ไซยาไนด์ ง่ายกว่าเยอะเลย เพราะพยานหลักฐานนิ่ง ขณะที่ผู้ต้องหาก็นิ่งอยู่แล้ว เมื่อไล่เส้นทางการเงินและกล้องวงจรปิดต่างๆ ใกล้ครบแล้ว น่าจะใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์จะสมบูรณ์  แม้เป็นตำรวจด้วยกัน ในคราวแรกก็โกหกหมด ไม่เป็นไร แต่เราก็มีการสืบสวนสอบสวน และมีข้อมูลที่ชัดเจนอยู่แล้ว สามารถทำให้ศาลอนุมัติหมายจับได้ เพราะศาลเชื่อในพยานหลักฐาน

เมื่อถามว่า ส่วยสติกเกอร์กระต่ายรถบรรทุกจะสอบด้วยหรือไม่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าวว่า สอบหมด ทั้งส่วยและการฮั้วประมูล ประเด็นที่สังคมตั้งคำถามต้องสอบ ทั้งนี้ นายกฯ ไม่ได้พูดถึงประเด็นส่วย เพียงแต่เป็นห่วงและมองเรื่องกลุ่มมาเฟีย ซึ่งนายกฯ มีความตั้งใจที่จะปราบปรามมาเฟียและผู้มีอิทธิพลแบบถอนรากถอนโคนให้หมด โดยนายกฯ บอกว่าตำรวจต้องอยู่กับประชาชน ไม่ใช่ไปอยู่กับมาเฟียหรือผู้มีอิทธิพล นายกฯกำชับลักษณะนี้ และจากการสอบสวนตำรวจทั้ง 6 นายก็รับสารภาพตรงกัน

หลักฐานมัดแน่น 'กำนันนก' ไม่รอด

ถามว่า ตรงกันคือกำนันนกสั่งการใช่หรือไม่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าวย้ำว่า เรื่องนี้ให้การตรงกันอยู่แล้วว่ากำนันนกสั่งการชัดเจน ถามอีกว่าเรื่องที่กำนันนกคุยกับสารวัตรศิวกรเป็นเรื่องส่วยหรือเรื่องการโยกย้ายตำแหน่ง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าวว่า "ประเด็นหลักไม่ใช่ส่วย แต่เป็นเรื่องของการขอตำรวจแล้วไม่ให้ ก็สั่งยิง พูดง่ายๆ คือเหิมเกริม และอยู่อย่างนี้มานาน  ผูกพันกับตำรวจท้องที่มานาน จนกระทั่งเหิมเกริม ฉะนั้นวันนี้ต้องล้างบางเสียที"

เมื่อถามว่า ประเด็นสติกเกอร์กระต่ายอาจจะมีการเชื่อมโยงระดับรองผู้บัญชาการ ตรงนี้มีความกังวลหรือไม่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าวว่า ไม่ได้กังวล ขอเรียนตรงๆ ว่าเชื่อมโยงถึงใครดำเนินคดีหมด ต้องทำอย่างตรงไปตรงมา ในโลกปัจจุบันมันปิดกันไม่ได้ และไม่เป็นมวยล้มต้มคนดู ถ้าตนลงมาเองไม่เป็นแน่ ยังไงต้องเด็ดขาดแน่นอน แม้เวลานี้กำนันนกจะภาคเสธ โดยเขาบอกไม่ได้เป็นคนสั่งให้ยิง บอกว่าหน่องยิง           

"กำนันนกยังไงก็ไม่มีทางหลุดรอดคดีนี้ เพราะการที่เราขออนุมัติออกหมายจับศาลยังเชื่อในพยานหลักฐานที่เรามี วันนี้มีทั้งพยานให้การยืนยันและพยานแวดล้อม ยังไงก็ไม่มีทางหลุด"

เมื่อถามว่า ในเรื่องของความปลอดภัย พยานอาจโดนปิดปาก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ยืนยันไม่มี เพราะตนลงมาเองร่วมกับชุดใหญ่ทั้งนั้น คงไม่มีใครกล้ากระดิก โดยหลักฐานที่มีจะต้องเอาผิดกำนันนกในอัตราโทษสูงสุดที่ศาลพิพากษา เอาอย่างนี้กำนันนกไม่มีทางหลุด เพราะการควบคุมตัวทั้งหมดเราไม่ได้ให้ท้องที่ทำ เพราะถ้าให้ทำอาจมีข่าวรั่ว จึงเป็นที่ไม่ไว้วางใจ วันนี้เอาชุดสืบสวนของ ตร.และกองปราบฯ ลงไปทำ คดีนี้จะทำให้เป็นตัวอย่าง ว่าใครทำตัวเป็นผู้มีอิทธิพลจะต้องเจอแบบนี้ วันนี้จะล้างให้หมด และล่าสุดกำนันนกก็ยังไม่ขอประกันตัว ซึ่งเขากลัวความไม่ปลอดภัย

ที่พรรคภูมิใจไทย (ภท.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุม สส.ของพรรค ถึงนโยบายปราบปรามผู้มีอิทธิพลจะสำเร็จได้เมื่อไหร่ว่า คงไปกำหนดวันเสร็จไม่ได้ แต่จะทำให้พวกเขารู้ว่าต่อไปจะทำอะไรลุแก่อำนาจไม่ได้อีก ซึ่งคำว่าผู้มีอิทธิพล มันมีนิยามอยู่ เช่น ฮั้วประมูล ค้าประเวณี ค้าน้ำมันเถื่อน เป็นต้น ซึ่งจะนำมาพิจารณาด้วย

เมื่อถามว่า กรณีที่เอานายชาดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย มาแก้ปัญหาผู้มีอิทธิพล ถือว่าแก้ปัญหาได้ตรงจุดหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า นายชาดาก็มาช่วยกับตำรวจในการแก้ปัญหา เช่นกรณีกำนันนก ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่ากำนัน สังกัดมหาดไทย ซึ่งวานนี้ (9 ก.ย.) ก็มีการเพิกถอนใบอนุญาตการใช้อาวุธ ซึ่งถือว่ามีการตอบสนอง

เมื่อถามว่า การเอานายชาดามาแก้ปัญหาตรงนี้ เหมือนเป็นการหนามยอกเอาหนามบ่งหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า เราต้องเลือกคนที่มีความเข้าใจว่าที่มาที่ไปเป็นอย่างไร สิ่งสำคัญคือต้องมีใจที่จะกล้าชนกับคนพวกนี้ ตนเชื่อว่านายชาดากล้าชน

มท.1 ลั่นอย่าสมยอมผู้มีอิทธิพล

ส่วนที่นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน บอกว่าให้นายชาดาตรวจสอบตัวเองก่อน นายอนุทิน กล่าวว่า วาทกรรมก็ต้องเป็นแบบนี้ แทนที่จะให้คนไปทำคุณประโยชน์ กลับมาพูดแบบนี้ก็คงไม่ถูกนัก คนมาเป็นรัฐมนตรีต้องผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติ ซึ่งเรื่องนี้ก็ผ่านพ้นไปได้ด้วยดีจนมีการนำชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย ฉะนั้นจึงไม่ควรพูดถึงว่านายชาดาเป็นอย่างไร เพราะแบบนี้มันเป็นการด้อยค่า

เมื่อถามว่า จะแก้ปัญหากำนันผู้ใหญ่บ้านที่เป็นผู้มีอิทธิพลได้อย่างไร นายอนุทินกล่าวว่า ผู้มีอิทธิพลหากเป็นคนธรรมดา อิทธิพลก็มาจากคนที่เป็นเจ้าหน้าที่บ้านเมืองไปยอมเขา เราต้องทำให้เห็นว่าคนพวกนี้ไม่ใช่คนที่ควรสมยอม ต้องไม่ยอมรับผลประโยชน์จากคนพวกนี้เลย หากไปรับเงินทอง ทรัพย์สิน ก็เท่ากับเราไปยอมให้ระบบนี้เกิดขึ้น ถ้าตนมาอยู่ตรงนี้ ส่วนที่รับผิดชอบอยู่เรื่องแบบนี้จะไม่เกิดขึ้น และตนต้องทำให้ได้

นายอนุทินยังได้แสดงความขอบคุณผู้ว่าฯ นครปฐม และนายอำเภอในพื้นที่ ที่เร่งรีบดำเนินการกรณีเหตุยิงตำรวจในพื้นที่ จ.นครปฐม ซึ่งอย่างน้อยก็แสดงถึงความตื่นตัว

วันเดียวกัน นายสิทธิ สุธีวงศ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ และโฆษกประจำกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยกรณีของนายประวีณ จันทร์คล้าย หรือกำนันนก ว่าได้รับรายงานจากผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ว่าได้รับ ข.ช.ประวีณ จันทร์คล้าย ในข้อหากระทำความผิดฐาน เป็นผู้ใช้ให้ผู้อื่นกระทำความผิดฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และพยายามฆ่าผู้อื่นไว้เรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 9 ก.ย.2566 เวลาประมาณ 15.30 น. จากศาลอาญา รัชดา ฯ เข้าสู่กระบวนการแรกรับ ตามมาตรฐานการปฏิบัติงานของเรือนจำ (SOPs) โดยมีเจ้าหน้าที่งานรูปพรรณ ฝ่ายจำแนกลักษณะผู้ต้องขัง ได้ดำเนินการสอบถามประวัติ พิมพ์มือ ถ่ายรูป หลังจากนั้นพยาบาลวิชาชีพปฏิบัติการดำเนินการตรวจสุขภาพและสอบถามประวัติการรักษา ซึ่งผู้ต้องขังแจ้งว่ามีโรคประจำตัวความดันโลหิตสูง มีน้ำหนักตัวมาก และภายนอกมีอาการเครียด มีความกังวลอย่างเห็นได้ชัด แต่หลังจากที่ส่งตัวเข้าคุมขังที่แดนกักโรค โดยมีผู้ต้องขังเป็นเพื่อนร่วมห้องจำนวน 4 คน เมื่อคืนนี้สามารถนอนหลับและรับประทานอาหารได้

โดยเช้านี้ เวลา 05.30 น. ตื่นมาทำกิจกรรมสวดมนต์ไหว้พระ หลังจากนี้จะผ่านการคัดกรองโรค ตรวจหาเชื้อโควิด-19 และกักตัวอยู่ในสถานที่กักกันโรคของแดนแรกรับเป็นระยะเวลา 5 วัน ก่อนจะส่งไปที่ห้องกันชน เพื่อดูอาการอีก 5 วัน หากตรวจแล้วไม่พบเชื้อโควิด-19 จะเข้าสู่กระบวนการต่อไป คือการพิจารณาของคณะกรรมการจำแนกลักษณะผู้ต้องขังที่ต้องสัมภาษณ์ ดูประวัติเป็นรายบุคคลว่าจะส่งตัวไปควบคุมที่แดนใดต่อไป

เชือด จนท.เรือนจำนำเซิร์ฟเวอร์ทิ้งน้ำ

นายสิทธิเปิดเผยด้วยว่า จากกรณีที่มีข่าวว่าเจ้าหน้าที่เรือนจำเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิตที่บ้านกำนันนก โดยเป็นผู้ที่นำเซิร์ฟเวอร์กล้องวงจรปิดภายในบ้านของกำนันนกโยนลงน้ำนั้น ทางกรมราชทัณฑ์ ได้รับรายงานจากผู้บัญชาการเรือนจำกลางราชบุรี พบว่าบุคคลดังกล่าวที่อยู่ในคืนเกิดเหตุคือ นายฐิตินันท์ อินต้นวงศ์  เป็นพนักงานราชการที่มาปฏิบัติหน้าที่ในเรือนจำกลางราชบุรีเมื่อเดือน ต.ค.2565 ยังทำงานไม่ถึงปี และมิใช่เจ้าหน้าที่เรือนจำกลางเขาบินตามที่เป็นข่าว ซึ่งขณะนี้ได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมไว้แล้ว โดยอธิบดีกรมราชทัณฑ์ได้สั่งการให้เรือนจำประสานขอหลักฐานการจับกุมและการควบคุมตัว จากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยด่วน เพื่อเร่งดำเนินการออกคำสั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรงและให้ออกจากราชการไว้ก่อน รวมถึงยกเลิกสัญญาจ้าง และในส่วนของการดำเนินคดีอาญา ขอให้เป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมายต่อไป

นายสิทธิกล่าวเพิ่มเติมว่า กรมราชทัณฑ์ไม่ปกป้องผู้กระทำผิดอย่างแน่นอน โดยการกระทำดังกล่าวถือเป็นความผิดร้ายแรง จึงต้องดำเนินการและลงโทษขั้นเด็ดขาด

ที่ห้องประชุมเสสะเวช ตำรวจภูธรภาค 7 ชุดสอบสวนคลี่คลายคดีนายธนัญชัย หรือหน่อง ใช้อาวุธปืนยิง พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว สว.สทล.1 กก.2 นครปฐม เสียชีวิต และ พ.ต.ท.วศิน พันปี รอง ผกก.2บก.ทล. ได้รับบาดเจ็บ ได้เรียกนายฐิตินันท์ หรือโบ๊ท ทำหน้าที่ซ่อนเร้นเซิร์ฟเวอร์ เข้าให้ถ้อยคำ และนายสนธยา หรือเก่ง  ทำหน้าที่ซ่อนเร้นอาวุธปืน มาให้ถ้อยคำสอบเพิ่มเติมกว่า 2 ชม. แล้วนำขึ้นไปพักคอยที่ชั้นสาม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวนายสนธยาออกจากห้องประชุมเสสะเวช มีอาการวิตกกังวล ผู้สื่อข่าวพยายามถามว่ามีใครสั่งการ, กำนันนกใช้ให้เอาไปทิ้งใช้หรือไม่ นายสนธยา พยักหน้า สังเกตเห็นว่ามีน้ำตาไหล ส่วนนายฐิตินันท์มีสีหน้านิ่งเฉย

ขณะเดียวกัน ชุดสอบสวนตำรวจสอบสวนกลาง สอบ พ.ต.ท.ภทร วรญาวิสุทธิ์ สว.(สอบสวน) สภ.สระยายโสม จังหวัดสุพรรณบุรี เพิ่มเติม สังเกตเห็นว่า พ.ต.ท.ภทรมีสีหน้าสดชื่น ไม่กังวล

ด้านนายระยอง อินต้นวงศ์ พ่อของนายฐิตินันท์ กล่าวว่า มาเป็นเพื่อนลูกชาย เนื่องจากตำรวจเรียกมาสอบเพิ่ม ไม่รู้อะไรมาก ถ้าผิดก็ว่าไปตามผิด หากไม่ผิดก็ขอความเป็นธรรมให้ลูกชายด้วย เขาเพิ่งเข้าทำงานที่เรือนจำ เป็นพนักงานราชการ เห็นว่าทางกรมราชทัณฑ์ให้ออกแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากแนวทางการสืบสวนของ สภ.เมืองนครปฐม พบหลักฐานสำคัญหลายอย่าง มีตำรวจ 6 นายมีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำลายหลักฐาน และช่วยเหลือผู้ต้องหาก่อเหตุยิง พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว เสียชีวิต และให้ได้รับการหลบหนี โดยในจำนวนนี้มีตำรวจในสังกัด บก.ทล.ร่วมด้วย 4 นาย ประกอบด้วย ร.ต.ท.ประสาร รอดผล รอง สว.ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล., ร.ต.อ.ณรงค์ศักดิ์ แตงอำไพ รอง สว.ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล.,  ร.ต.อ.ณัฏฐพล นาคกร รอง สว.ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล. และ ร.ต.ต.สรรเสริญ ศรีสวัสดิ์ รอง สว.ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล.

ฝากขัง 6 ตร.ช่วยผู้ต้องหาหลบหนี

ด้วยเหตุนี้ในฐานะผู้บังคับบัญชา ทาง พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รรท.ผบก.ทล. จึงลงนามในคำสั่งให้ตำรวจทั้ง 4 นาย ออกจากราชการไว้ก่อนโดยไม่มีกำหนด เพื่อรอฟังผลการสอบสวนพิจารณาทางวินัย ซึ่งมีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 9 กันยายน เป็นต้นไป

ขณะที่ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสาคร และผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม ได้มีหนังสือคำสั่งให้ข้าราชการตำรวจออกจากราชการไว้ก่อนจำนวน 2 นาย คือ พ.ต.ต.เกียรติศักดิ์ สมสุข ตำแหน่งสารวัตรสืบสวน สถานีตำรวจภูธรกระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร และ ร.ต.ท.นิมิตร สลิดกุล ตำแหน่งรองสารวัตร ปฏิบัติการสายงานจราจร สถานีตำรวจภูธรเมืองนครปฐม จ.นครปฐม เนื่องจากถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรงจนถูกตั้งกรรมการสอบสวน โดยต้องหาคดีอาญาในข้อหาเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ, ร่วมกันทำลาย ซ่อนเร้นพยานหลักฐานในการกระทำความผิด, ร่วมกันช่วยผู้อื่นซึ่งเป็นผู้กระทำความผิด อันมิใช่ความผิดลหุโทษเพื่อไม่ให้ต้องโทษหรือถูกจับกุม โดยให้ตำรวจทั้ง 2 นายออกจากราชการไว้ก่อน เพื่อรอฟังผลสอบสวนพิจารณาทางวินัย คำสั่งมีผลตั้งแต่วันที่ 9 กันยายนเป็นต้นไป

ขณะที่ พล.ต.ต.จักรกฤษ เครือสุนทรวานิช ผบก.ภ.จว.นครปฐม ได้ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีการกล่าวว่า ร.ต.ท.นิมิตร สลิดกุล รอง สว.จร.สภ.เมืองนครปฐม ที่ตกเป็นผู้ต้องหาร่วมในคดีดังกล่าวเป็นพลขับรถผู้การนครปฐมนั้น ไม่ใช่ แท้จริง ร.ต.ท.นิมิตรเป็นพลขับรถนำ เดี๋ยวจะคลาดเคลื่อน ส่วนตนก็ไม่ได้ไปงานวันเกิดเหตุ ซึ่งปกติจะมีพลขับประจำตำแหน่งและมีสายเวรไปด้วย ยืนยัน ร.ต.ท.นิมิตรไม่ใช่พลขับรถผู้การนครปฐม

"ผิดว่าไปตามผิด นิ้วไหนร้ายก็ตัดทิ้ง ไม่เลี้ยง ส่วนตัวไม่เคยรู้จักกับกำนัน ย้ายมาเป็นผู้การนครปฐมเดือนตุลาคม พลขับรถนำคนนี้ชวนให้ไปงานวันเกิดกำนัน 7 พฤศจิกายน 2565 เห็นว่าเป็นลูกผู้ใหญ่โยชน์ เป็นบุคคลที่สังคมยอมรับ จึงไปร่วมงาน เท่านั้นเอง"

พ.ต.อ.ภูภณ ทัพเจริญ ผกก.สภ.เมืองนครปฐม เปิดเผยกรณีการจับกุมตำรวจ 6 นาย ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดี พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว ถูกยิงเสียชีวิตว่า วันที่ 11 ก.ย. จะถูกคุมตัวไปฝากขังยังศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 7 จ.สมุทรสงคราม เบื้องต้นพนักงานสอบสวนจะคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเป็นคดีที่สังคมให้ความสนใจและกังวลว่าจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน ส่วน ร.ต.ท.นิมิตร สลิดกุล สารวัตรจราจร สภ.เมืองนครปฐม ที่ปรากฏชื่อเป็นเจ้าของทะเบียนอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุในครั้งนี้ และยังให้การช่วยเหลือหลบหนี ตนยังไม่ได้พูดคุย แต่จะให้พนักงานสอบสวนชุดใหญ่เป็นคนสอบปากคำ ยืนยันไม่กดดันแม้ผู้ต้องหาจะเป็นตำรวจ

แหล่งข่าวให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ผู้ต้องหาทั้ง 6 รายขณะนี้ถูกคุมตัวอยู่ภายในห้องกักขัง สภ.เมืองนครปฐม ซึ่งได้มีการแยกขังคนละห้อง และได้มีการติดกล้องวงจรปิดทุกห้อง โดยจะมีการเฝ้าดูตลอด 24 ชม. เนื่องจากเกรงว่าจะเครียดคิดสั้น ส่วนเรื่องการเยี่ยมนั้น ให้เป็นไปตามระเบียบเช่นเดียวกับผู้ต้องขังรายอื่นๆ คือแบ่งเป็น 3 ตั้งแต่ 08.00-09.00 น., 12.00-13.00 น. และ 16.00-17.00 น.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'หมอมิ้ง' แจงยังไม่นำรายชื่อ 'ครม.อิ๊งค์ 1' ขึ้นทูลเกล้าฯ

นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าในการตรวจสอบประวัติ คุณสมบัติ ในลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญของผู้ที่ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี

สุดสับสน! ปรากฏการณ์การเมืองไทย ยุครัฐบาล 'อิ๊งค์'

นายดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม อดีตสมาชิกวุฒิสภา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ว่า พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เป็นพรรคร่วมรัฐบาลเฉพาะกลุ่ม สส. แต่หัวหน้าพรรคกลับถูกไล่ออกไม่ให้ร่วมด้วย

'เรืองไกร' ท้า 'นายกฯอิ๊งค์' โชว์ใบลาออก พ้นกรรมการ 20 บริษัท

ายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ เปิดเผยว่า วันนี้ได้ส่งหนังสือทางไปรษณีย์ EMS ถึงนายกรัฐมนตรีเพื่อขอให้แสดงหลักฐานต่อสาธารณะเกี่ยวกับการลาออกจากกรรมการบริษัทต่างๆ รวม 20 บริษัท

'นายกฯอิ๊งค์' อยู่ได้เกิน 6 เดือนไหม! ขึ้นอยู่กับ 2 ทางรอด

พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์ อดีตหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (ศรภ.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า อุ๊งอิ๊งจะอยู่เกิน 6 เดือนไหม