“คลัง” ฟุ้งลุยทำมาตรการของขวัญปีใหม่ให้ประชาชนเสร็จแล้ว รอชง ครม.เคาะ โชว์ยอดจัดเก็บ 2 เดือนแรกปีงบ 65 ฉลุย รีดภาษี VAT สูงกว่าปีก่อนหมื่นล้านบาท "ธ.ก.ส." จัดชุดใหญ่เอาใจลูกค้า ส่ง “โครงการชำระดีมีคืน-นาทีทองลดดอกเบี้ยสู้โควิด” อุ้มลูกหนี้วินัยดี ชูลดดอกเบี้ยที่ค้างชำระสูงสุด 50% พร้อมสนับสนุนสินเชื่อใหม่เข็นฟื้นฟูและพัฒนาอาชีพสร้างรายได้
เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม นายกฤษฎา จีณะวิจารณะ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เป็นของขวัญปีใหม่ในส่วนของกระทรวงการคลังได้ดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยเตรียมจะเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาต่อไป โดยมีทั้งมาตรการของสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ ที่สามารถดำเนินการได้เลย และบางส่วนที่ต้องขอความเห็นชอบจาก ครม.ก่อน จึงอยากให้รอดูรายละเอียดหลังจากนี้
นายกฤษฎากล่าวยืนยันว่า ยังไม่มีความกังวลเกี่ยวกับการระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน เนื่องจากเชื่อมั่นว่ามาตรการป้องกันของภาครัฐจะสามารถควบคุมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขณะที่ภาพรวมเศรษฐกิจยังเดินหน้าได้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะหลังรัฐบาลเปิดประเทศในวันที่ 1 พ.ย.2564 ส่วนภาพรวมการจัดเก็บรายได้ในช่วง 2 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2565 ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดี สะท้อนจากการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) จากการบริโภคที่สูงกว่าประมาณการ และสูงกว่าปีก่อนราวกว่า 1 หมื่นล้านบาท ขณะที่การจัดเก็บรายได้ในส่วนอื่นๆ ก็ยังขยายตัวได้เป็นอย่างดี อีกทั้งภาพรวมการส่งออกที่เติบโตได้อย่างมีศักยภาพจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ โดยคาดการณ์ว่าปีนี้ภาพรวมการส่งออกขยายตัวเพิ่มขึ้นราว 16-17%
“มาตรการของขวัญปีใหม่ในส่วนของกระทรวงการคลังตอนนี้ทำเสร็จหมดเรียบร้อยแล้ว อยากให้รอติดตามหลังจากเสนอให้ที่ประชุม ครม.พิจารณารับทราบ” นายกฤษฎากล่าว
สำหรับความคืบหน้าเกี่ยวกับโครงการลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อยเพื่อรับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่ (บัตรคนจน) นั้น ขณะนี้นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.การคลัง ซึ่งรับผิดชอบโครงการดังกล่าว อยู่ ระหว่างการหารือเกี่ยวกับหลักเกณฑ์การดำเนินการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งน่าจะได้ข้อสรุปเร็วๆ นี้
ด้านนายธนารัตน์ งามวลัยรัตน์ ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการเสริมสภาพคล่องในการลงทุนและการจับจ่ายใช้สอยในช่วงเทศกาลปีใหม่ ธ.ก.ส.ได้ออกมาตรการเพื่อช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จำนวน 2 โครงการ ได้แก่ 1.โครงการชำระดีมีคืน ปีบัญชี 2564 สำหรับลูกค้าทั่วไปที่มีหนี้คงเหลือ ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2564 ยกเว้นหนี้เงินกู้โครงการที่ได้รับชดเชยดอกเบี้ยตามนโยบายรัฐบาล ที่ชำระหนี้ตามกำหนดเวลา โดยธนาคารจะคืนดอกเบี้ยเข้าบัญชีเงินฝากลูกค้าโดยตรง ร้อยละ 20 ของดอกเบี้ยที่ชำระจริง ไม่เกินรายละ 1,000 บาท วงเงินงบประมาณ 1,200 ล้านบาท โดยจะมีเกษตรกรลูกค้าได้รับประโยชน์กว่า 4.1 ล้านราย
และ 2.โครงการนาทีทองลดดอกเบี้ยสู้โควิด ปีบัญชี 2564 สำหรับลูกค้าที่มีภาระหนี้คงค้าง หรือลูกค้าที่ปรับปรุงโครงสร้างหนี้ ณ วันที่ 31 ต.ค.2564 โดย ธ.ก.ส.จะลดดอกเบี้ย ดังนี้ กรณีชำระหนี้เสร็จสิ้นเป็นรายสัญญาและ/หรือกรณีเป็นสัญญาปรับปรุงโครงสร้างหนี้ โดยธนาคารจะลดดอกเบี้ยที่ค้างชำระ รวมถึงเบี้ยปรับที่มี ไม่เกิน 50% ณ วันชำระหนี้กรณีชำระดอกเบี้ยได้เสร็จสิ้น แต่ไม่สามารถชำระต้นเงินได้ จะลดดอกเบี้ยค้างชำระรวมถึงเบี้ยปรับที่มี 30% ของดอกเบี้ยที่ชำระจริง กรณีชำระดอกเบี้ยได้บางส่วนจะลดดอกเบี้ยค้างชำระรวมถึงเบี้ยปรับที่มี 20% ของดอกเบี้ยที่ชำระจริง และกรณีกลุ่มเกษตรกรสหกรณ์ นิติบุคคล และกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง ที่ชำระดอกเบี้ยได้เสร็จสิ้นหรือบางส่วน จะลดดอกเบี้ยค้างชำระรวมถึงเบี้ยปรับที่มี 10% ของดอกเบี้ยที่ชำระจริง
ทั้งนี้ เมื่อชำระหนี้แล้ว ลูกค้าสามารถรับการสนับสนุนสินเชื่อใหม่เพื่อนำไปลงทุนในการประกอบอาชีพ รวมถึงการฟื้นฟูอาชีพเพื่อสร้างรายได้ โดยเป็นไปตามเงื่อนไขของ ธ.ก.ส. ซึ่งผู้ที่สนใจสามารถยื่นความประสงค์ได้ตั้งแต่ 15 ธ.ค.2564 ถึง 31 มี.ค.2565 ที่ ธ.ก.ส.ทุกสาขาทั่วประเทศ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ตั้งกก.สอบผกก.บางซื่อ ทนายปาเกียวเล็งทิ้งตั้ม
“ดีเอสไอ” เตรียมสรุปสำนวนคดี 18 บอสดิไอคอนเสนออัยการคดีพิเศษภายใน 20 ธ.ค.นี้
นิกรหักเพื่อไทย เตือนส่อผิดกม. ให้กมธ.ตีความ
“นิกร” หักข้อเสนอ “ชูศักดิ์” เลยช่วงเวลาแปลงร่างประชามติเป็นกฎหมายการเงินแล้ว
‘สนธิ’ลั่นการเมืองใกล้สุกงอม!
“อุ๊งอิ๊ง” เมินปม กกต.สอบครอบงำต่อ เด็ก พท.ยันเป็นการดำเนินการตามปกติ
จ่อส่งคดีหมอบุญให้DSI
ตร.สอบปากคำอดีตภรรยา-ลูกสาว “หมอบุญ” เพิ่มเติม
ทักษิณรอดคลุมปี๊บ! ส้มเหลวปักธงอุดรธานี ‘คนคอน’ตบหน้า‘ปชป.’
เลือกตั้ง อบจ. 3 จังหวัด “เพชรบุรี-อุดรธานี-นครศรีธรรมราช” ราบรื่น
ล่า ‘หมอบุญ’ เมียแค้นเอาคืน
ออกหมายจับ "หมอบุญ" พร้อมพวก 9 คน ร่วมหลอกลวงประชาชนร่วมลงทุนธุรกิจ รพ.ขนาดใหญ่หลายโครงการ เสียหายกว่า 7,500 ล้านบาท