‘เศรษฐา’ชูอีสานที่ฮีลใจ

ไทยโพสต์ ๐ “เศรษฐา” นั่งรถไฟจากอุดรฯ ถึงหนองคาย ถกพัฒนารถไฟรางคู่เฟสสอง ชาวบ้านเห็นชมไม่ขาดปาก ตัวจริงสูงและหล่อกว่าในทีวี มดขึ้น! นายกฯ เผยมีเรื่องหนักใจก็อยากเดินทางมาอีสาน เพราะเหมือนเป็นการฮีลใจ เตรียมประชุมครม.สัญจรเดือน พ.ย. เริ่มที่หนองบัวลำภู

     เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 9 กันยายน   2566 ที่สวนสาธารณะหนองประจักษ์ จ.อุดรธานี นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.การคลัง พร้อมด้วยนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์, นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกฯ, นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม, นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมว.วัฒนธรรม, นายไชยา พรหมา รมช.เกษตรและสหกรณ์, นายเกรียง กัลป์ตินันท์ รมช.มหาดไทย และคณะ ลงพื้นที่ตลาดร่มเขียวอุดรธานี โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคัก มีประชาชนมาให้การต้อนรับอย่างเนืองแน่น และรุมกรี๊ดเมื่อเจอนายกฯ ตัวจริง ก่อนพูดว่า “ตัวจริงสูงและหล่อกว่าในทีวี”

     ด้านนายกฯ ได้ยกมือไหว้ทักทายประชาชนตลอดเส้นทาง ซึ่งทุกร้านค้าได้พยายามนำเสนอสินค้าของตนเองให้นายกฯ ได้ชิม ทั้งข้าวจี่ ปลาร้าบอง ถั่วคั่ว กล้วย และก๋วยเตี๋ยวหลอด ซึ่งนายกฯ ได้ทดลองชิมเพียงบางอย่าง เพราะบางอย่างทานไม่เป็น ขณะที่นายกฯ ยังอุดหนุนสินค้าการเกษตร อาทิ ผักสวนครัว ข้าวไรซ์เบอร์รี และถั่วคั่วทราย ที่เป็นของขึ้นชื่อของ จ.อุดรธานี และนายกฯ ยังถือโอกาสเหมาร้านข้าวจี่ด้วย นอกจาก นายกฯ จะเดินตลาดแล้ว ยังให้คำแนะนำกับพ่อค้าแม่ค้าพัฒนาแพ็กเกจจิ้งเพื่อส่งออก รวมถึงอยากให้ใส่รายละเอียดเพื่อจูงใจให้ผู้บริโภคซื้อสินค้า เพราะสินค้าบางอย่างของไทยเป็นที่ต้องการในต่างประเทศ

     ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ช่วงหนึ่งระหว่างเดินในตลาด มีคุณลุงได้เดินมา ท้านายกฯ ว่า “นายกฯ ต้องทำให้ประเทศนี้เป็นรัฐสวัสดิการให้ได้ แล้วผมจะยอมรับ” ซึ่งนายกฯ ตอบกลับไปทันทีว่า “พูดแบบนี้คนอาจจะไม่เข้าใจ รัฐสวัสดิการคือ รัฐดูแลประชาชน ย้ำว่ารัฐดูแล

     ต่อมาเวลา 09.50 น. นายเศรษฐา  พร้อมคณะเดินทางด้วยรถไฟดีเซลรางนั่งปรับอากาศชั้นสอง ขบวนพิเศษ เดินทางจากสถานีรถไฟอุดรธานีไปยังสถานีรถไฟหนองคาย กับนักธุรกิจภาคเอกชน เพื่อพูดคุยประเด็นการขนส่งสินค้าจากประเทศไทยไปยังประเทศจีน 

     ซึ่งระหว่างนั่งรถไฟนายกรัฐมนตรีและคณะได้พูดคุยกับนายณรงค์ศักดิ์ พุทธพรมงคล ประธานหอการค้าไทย-จีน, นายวรายุส์ ตรีวัฒนสุวรรณ ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดอุดรธานี และนายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย ถึงเส้นทางรถไฟรางคู่ ซึ่งขณะนี้ระยะ 1 ถึงแค่จังหวัดขอนแก่นเท่านั้น ส่วนระยะที่ 2 จะมีการเชื่อมต่อจากจังหวัดขอนแก่นมายังจังหวัดหนองคาย  เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพทางเศรษฐกิจและการขนส่งให้สามารถเชื่อมต่อจากไทยไปลาวและจีนได้

     และเมื่อเวลา 10.50 น. ขบวนรถไฟมาถึงสถานีรถไฟหนองคาย มีประชาชนจำนวนมากรอต้อนรับอยู่ โดยได้มอบดอกกุหลาบ ผูกผ้าขาวม้า และขอถ่ายรูปกับนายกรัฐมนตรีด้วยความคึกคัก พร้อมตะโกนด้วยว่า “นายกฯ เศรษฐา ชาวนาจะเป็นเศรษฐี” นอกจากนี้ยังมีสภาเกษตรกรจังหวัด สภาเกษตรกรหนองคาย ได้ยื่นหนังสือร้องเรียนกับนายกฯ เพื่อขอให้แก้ไขปัญหาสิทธิทำกินและปัญหาแหล่งน้ำ

     เวลา 11.10 น. นายเศรษฐาพร้อมคณะเดินทางมาถึงด่านพรมแดนหนองคาย มีนายเอกธนัช อินทร์รอด, น.ส.ชนก จันทาทอง สส.หนองคาย และนายกฤษฎา ตันเทอดทิตย์ อดีต สส.หนองคาย มารอให้การต้อนรับ โดยนายกฯ ได้พูดคุยกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งสินค้าเกี่ยวกับขั้นตอนพิธีการศุลกากร การค้าชายแดน และการพัฒนา One Stop Service ระหว่างไทย  ลาว และจีน

     เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงรถไฟรางคู่เฟส 2 จาก จ. ขอนแก่นมา จ.หนองคาย ต้องนำเรื่องเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) หรือสามารถเดินหน้าระยะที่ 1 ต่อได้เลย  นายเศรษฐากล่าวว่า เข้าใจว่าเข้า ครม. ครั้งเดียวก็จบแล้ว มีเรื่องและงบประมาณที่กันไว้เรียบร้อยแล้ว และคาดว่าจะได้กลับมา จ.หนองคายอีกครั้งในช่วงปลายเดือนหน้า เข้ามารับฟังความคืบหน้าเรื่องนี้

     "การที่ผมมาภาคอีสาน เป็นการทำให้ทราบปัญหาจริงๆ ไม่อยากใช้คำว่าอิน แต่ดูจากแววตาเห็นว่าประชาชนเดือดร้อนจริงๆ มาจังหวัดที่เจริญที่สุดในภาคอีสานแล้ว แต่ก็ยังเห็นว่ามีความยากลำบาก ผมก็มีคำถามว่าเรื่อง ครม.นอกสถานที่ ซึ่งได้คุยกับรองนายกรัฐมนตรีและเลขาธิการนายกรัฐมนตรีแล้วว่า หากเรามี ครม.สัญจร ก็จะบอกอีกครั้งว่าเมื่อไหร่ แต่หวังว่าจะไม่เกินเดือนพฤศจิกายน ซึ่งคิดว่าจังหวัดแรกที่น่าจะไปคือหนองบัวลำภู"

     นายเศรษฐากล่าวด้วยว่า การลงพื้นที่อีสานรอบนี้แตกต่างจากการลงตอนหาเสียงเลือกตั้ง เพราะการลงพื้นที่ครั้งนี้รู้สึกได้ถึงความเป็นธรรมชาติมากกว่า มีความอบอุ่นในแววตาของคนที่ได้พบเห็น หากตนมีเรื่องหนักใจก็อยากเดินทางมาอีสานเพราะเหมือนเป็นการฮีลใจ (ได้รับการเยียวยาจิตใจให้รู้สึกดีขึ้น)

     จากนั้นเวลา 13.30 น. นายเศรษฐาและคณะเดินทางต่อมายังวัดโพธิ์ชัย จ.หนองคาย เพื่อเข้าสักการะหลวงพ่อพระใส วัดโพธิ์ชัย หรือที่หลายคนรู้จักในชื่อบ้านหลวงพ่อพระใส ซึ่งเป็นอารามหลวง   ทันทีที่นายเศรษฐาเดินมาถึงอุโบสถได้มีชาวบ้านเข้ามาขอถ่ายรูป พร้อมนำผ้าขาวม้ามาผูกที่เอว และกล่าวว่า ต้องผูกแน่นๆ จะได้อยู่นานๆ พวกเรารอมานานแล้ว นายกฯ ต้องอยู่นานๆ

     จากนั้นนายเศรษฐาได้เข้ากราบสักการะพระพุทธรูปหลวงพ่อพระใส พระพุทธรูปสำคัญคู่เมืองหนองคาย และนมัสการพระเทพวชิรคุณ (รศ.ดร.พิศิษฐ์ สุวีโร) เจ้าอาวาสวัดโพธิ์ชัย พร้อมทั้งรับพรจากเจ้าอาวาส ที่ระบุว่า “ได้ติดตามพวกท่านทั้งหมด รู้จักชื่อรัฐมนตรีทุกคน ขอให้ช่วยกันบริหารประเทศให้ดี” จากนั้นนายเศรษฐาได้ก้มกราบรับน้ำมนต์จากเจ้าอาวาส โดยเจ้าอาวาสได้ใช้ตอกพรมน้ำมนต์แตะไปที่ศีรษะของนายกรัฐมนตรี.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ช่วยนักโทษติดคุกหมด เสรีพิศุทธ์ถอนตัวงัดหลักฐานมัดแก๊งชั้น14/ปชป.มีมติร่วมรบ.

"นายกฯ อิ๊งค์" อารมณ์ดีนัดสื่อให้สัมภาษณ์เรื่องการเมือง 30 ส.ค. "ภูมิธรรม" มั่นใจเสถียรภาพรัฐบาล หลังดึง