ดับมือปืน/เด้ง25ตร.เข้ากรุ

สิ้นสุดทางโจร! ชุดปฏิบัติการ บช.ก. วิสามัญฯ "หน่อง ท่าผา" มือปืนยิง "สว.ทางหลวง" เสียชีวิต หลังหนีจนมุมโรงเจร้างหลังวัดพระแท่นดงรัง จ.กาญจนบุรี ยังหาญสู้ตำรวจ "บิ๊กต่อ" ยันไม่ใช่การแก้แค้น แต่ทำตามยุทธวิธี "กองปราบฯ" คุมตัว "กำนันนก" เค้นสอบโยงสั่งการ ค้านประกันตัวหวั่นยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน "รองโจ๊ก" เผยแม่บ้านสารภาพกำนันนกให้ทำลายหลักฐานวันเกิดเหตุ "ผบ.ตร." สั่งเด้ง 25 สีกากีร่วมงานเลี้ยงเข้ากรุ ลั่นพบใครร่วมเอี่ยวฟันอาญาซ้ำ "นอภ.นครปฐม" เชือดกำนันนกพ้นหน้าที่ "มท.1" สั่งผู้ว่าฯ ขึ้นบัญชีดำผู้มีอิทธิพลทั่ว ปท.

เมื่อวันที่ 8 ก.ย. เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) นำโดย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รักษาการ ผบก.ทล.  พบความเคลื่อนไหวของนายธนัญชัย   หมั่นมาก หรือหน่อง ท่าผา อายุ 45 ปี ผู้ต้องหาหมายจับศาลจังหวัดนครปฐม ที่  จ.462/2566 ซึ่งก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงพ.ต.ต.ศิวกร สายบัว สว.ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล. เสียชีวิต และ พ.ต.ท.วศิน พันปี รอง ผกก.2 บก.ทล. บาดเจ็บ เหตุเกิดในบ้านนายประวีณ จันทร์คล้าย หรือกำนันนก ในพื้นที่ ต.ตาก้อง อ.เมืองฯ จ.นครปฐม เมื่อคืนวันที่ 6 ก.ย.ที่ผ่านมา  ก่อนจะหลบหนีไป ได้เข้ามาหลบซ่อนอยู่ในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี จึงกระจายกำลังออกติดตามหาตัว

กระทั่งเมื่อเวลา 05.45 น. พบนายธนัญชัยหลบหนีอยู่บริเวณซอยโรงเจร้างหลังวัดพระแท่นดงรัง อ.ท่าเรือ จ.กาญจนบุรี จึงนำกำลังปิดล้อมเพื่อจับกุม แต่ระหว่างปิดล้อมนายธนัญชัยพยายามหลบหนีโดยใช้อาวุธปืนที่พกติดตัวมายิงใส่เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการเพื่อเปิดทางหลบหนี ก่อนจะถูกชุดปฏิบัติการยิงสวนไปถูกนายธนัญชัยเสียชีวิต

จากการตรวจจุดเกิดเหตุ พบนายธนัญชัยแต่งกายนุ่งกางเกงยีนส์ขายาว  สวมเสื้อสีดำ ที่มือขวามีอาวุธปืนพกสั้น 1 กระบอก นอนหงายเสียชีวิตอยู่กับพื้นข้างรถกระบะยี่ห้อฟอร์ด เรนเจอร์ 4  ประตู สีขาว ซึ่งใช้เป็นพาหนะหลบหนี   เจ้าหน้าที่ได้นำเชือกมาขึงกั้นพื้นที่บริเวณโดยรอบจุดเกิดเหตุเอาไว้ ไม่อนุญาตให้ผู้ไม่เกี่ยวข้องเข้าไป เนื่องจากเกรงจะเหยียบย่ำทำลายหลักฐาน รวมทั้งต้องให้แพทย์เวรและเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจพิสูจน์หาหลักฐานอย่างละเอียด เนื่องจากผู้เสียชีวิตถูกวิสามัญฆาตกรรม

ต่อมาเวลา 08.30 น. พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วยพล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์  ผบช.ภ.7 ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ โดยพล.ต.อ.ต่อศักดิ์กล่าวว่า เหตุการณ์ครั้งนี้ถือเป็นเหตุสุดวิสัยที่ทางตำรวจถูกคนร้ายยิงเข้าใส่ก่อน จึงต้องยิงสวนไปเพื่อป้องกันตัว ทำให้คนร้ายถูกกระสุนปืนจนเสียชีวิต

"ยืนยันว่าไม่ได้เป็นการตั้งใจวิสามัญฯ เพื่อแก้แค้นแต่อย่างใด ตอนนี้ก็มี พ.ร.บ.อุ้มหายแล้ว การวิสามัญฯ ถือเป็นทางเลือกสุดท้ายจริงๆ ซึ่งผมได้ให้นโยบายกับตำรวจชุดติดตามจับกุมไว้แล้ว ว่าหากสามารถจับตัวนายหน่องได้แบบเป็นๆ ก็จะได้นำมาสอบสวนขยายผลไปถึงผู้บงการได้ แต่หากเกิดเหตุสุดวิสัย อันตรายจะถึงตัว ก็อนุญาตให้ใช้ยุทธวิธีขั้นเด็ดขาดได้ ส่วนรายละเอียดของเหตุการณ์นั้น อยู่ในขั้นตอนการสอบสวนและชันสูตรพลิกศพของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง" พล.ต.อ.ต่อศักดิ์กล่าว

จากนั้น ภายหลังการตรวจพิสูจน์ศพนายหน่องแล้ว ตำรวจได้มอบหมายให้อาสาสมัครมูลนิธิขุนรัตนาวุธ นำส่งสถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ  กรุงเทพมหานคร เพื่อชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้ง ทั้งนี้ ญาติของนายหน่องได้ประสานจะขอรับศพนายหน่องกลับไปบำเพ็ญกุศลที่วัดหนองกบ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ในวันที่ 9 ก.ย.นี้

กองปราบฯ เค้นสอบกำนันนก

ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามได้ควบคุมตัวนายประวีณ จันทร์คล้าย หรือ กำนันนก ผู้ต้องหาตามหมายจับเป็นผู้ใช้ให้ผู้อื่นกระทำความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และพยายามฆ่าผู้อื่น ในคดียิง พ.ต.ต.ศิวกรเสียชีวิตที่บ้านพัก ต.ตาก้อง อ.เมืองฯ จ.นครปฐม มาสอบปากคำเพิ่มเติม หลังจากที่กำนันนกเข้ามอบตัวและยังให้การปฏิเสธ ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้มีการโอนสำนวนมาให้กองปราบปรามเป็นผู้รับผิดชอบคดี

ทั้งนี้ ขณะที่เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวกำนันนกเดินทางเข้าห้องควบคุม ผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึงเรื่องที่เกิดขึ้น แต่กำนันนกไม่ตอบคำถามแต่อย่างใด โดยมีสีหน้าที่เคร่งเครียด

พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. กล่าวว่า พนักงานสอบสวนเตรียมสอบพยานรวมกว่า 30 ปาก แบ่งเป็นพลเรือนที่ไปร่วมงานประมาณ 10 ปาก และตำรวจประมาณ 20 ปาก ส่วนการตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง การละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ หรือความผิดฐาน 157 เป็นหน้าที่ของตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ ปปป. เป็นผู้สอบสวน

"แม้ผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธ ก็ถือเป็นสิทธิของผู้ต้องหา โดยชั้นสอบได้คัดค้านการประกันตัว เพราะเป็นพฤติกรรมที่อุกอาจไม่เกรงกลัวกฎหมาย และเกรงว่าจะยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน ข่มขู่ เนื่องจากผู้ต้องหาเป็นผู้มีอิทธิพล เตรียมควบคุมตัวไปฝากขังที่ศาลอาญารัชดาฯ ในวันที่ 9 ก.ย.นี้" รอง ผบก.ป.กล่าว

ด้าน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. กล่าวว่า รู้อยู่แล้วว่าอย่างไรกำนันนกต้องให้การปฏิเสธ จึงไม่อนุญาตให้ประกันตัว โดยตำรวจแจ้งข้อกล่าวหาจ้างวานฆ่าฯ แต่ตนได้สั่งให้สอบประเด็นร่วมกันฆ่าฯ เพิ่มเติม เพราะหลังจากสอบปากคำแม่บ้านพบว่ากำนันนกเป็นคนสั่งให้ทำลายพยานหลักฐาน ทั้งแกะกล้องวงจรปิด ล้างคราบเลือด เก็บปลอกกระสุนไปทำลาย

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าวว่า ในส่วนของตำรวจทั้ง 21 นาย ได้สั่งสอบรายละเอียดทั้งหมดว่าเข้าข่ายความผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ม.157 หรือไม่ หากเข้าข่าย ก็ต้องดำเนินคดีอาญา  เพราะคนที่อยู่ในงานมีผู้กำกับถึง 3 คน และมีผู้กำกับสืบสวนจังหวัดซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบพื้นที่ ยังปล่อยให้มีการทำลายพยานหลักฐาน การมีผู้อิทธิพลแบบนี้ต้องเกิดจากผู้กำกับในพื้นที่หย่อนยาน  หากผู้กำกับในพื้นที่เข้มแข็ง เรื่องแบบนี้ต้องไม่เกิด อีกทั้งเบื้องต้นทราบว่ากลุ่มเจ้าหน้าที่ตำรวจไปกินอาหารกับกำนันนกเป็นประจำทุกเดือน เพราะตัวกำนันนกรู้จักตำรวจทางหลวงเยอะ เนื่องจากทำธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง การเรียกตำรวจไปเลี้ยงก็เพื่อเสริมบารมีตัวเอง  กินกันจนกระทั่งหมดความเกรงใจจึงเกิดเหตุการณ์แบบนี้

ต่อมา พล.ต.อ.สุรเชษฐ์เรียกประชุมความคืบหน้าคดีคนร้ายยิงตำรวจทางหลวงเสียชีวิตและบาดเจ็บ โดย พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าวว่า นอกจากวิสามัญฯ คนร้ายแล้ว สิ่งสำคัญต่อมาคือเรื่องการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อเอาผิดผู้กระทำความผิดทั้งหมด  วันนี้มีการสอบปากคำแม่บ้าน เจ้าของโต๊ะจีน รวมถึงพนักงานทั้งหมดที่อยู่ในที่เกิดเหตุ ส่วนวันที่ 9 ก.ย. จะได้มีการสอบปากคำตำรวจทั้งหมดเกิน 21 นาย ที่กำลังพิสูจน์ตัวอยู่อาจจะถึง 25 นาย คนภายนอกอีก 6-7 คน

"คดีนี้ไม่ซับซ้อน พยานหลักฐานนิ่งตัวบุคคลเห็นชัดเจนแล้ว แต่ที่ต้องไล่ไปให้ได้คือ 1.การทำลายหลักฐานมีใครร่วมด้วย ตำรวจเกี่ยวข้องหรือไม่ ใครเป็นคนสั่งการ ใครอำนวยความสะดวกต้องหาความจริงมาปรากฏ ซึ่งความจริงทั้งหมดเดี๋ยวจะออกมา เมื่อวานจากการซักถามตำรวจบางส่วน ยังให้การไม่ตรง    แต่ไม่เป็นไร การให้การเท็จ แน่นอนคนเมื่อทำผิดก็ต้องโกหก ถ้าโกหกจับไม่ได้ก็ไม่เป็นความผิด แต่ถ้าโกหกจับได้ต้องเข้า 157 เพราะฉะนั้นทุกอย่างมันจะออกมาเอง วันนี้กำลังไล่อยู่ ทั้งเส้นทางการเงิน โทรศัพท์ และนำตำรวจทั้งหมดไปเก็บดีเอ็นเอ ลายพิมพ์นิ้วมือมาตรวจเปรียบเทียบ" พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าว

รอง ผบ.ตร.กล่าวว่า แม้มือปืนจะถูกวิสามัญฯ ซึ่งมีคนมองว่าเป็นการตัดตอนให้กำนันนกหลุดคดี แต่ยืนยันว่าไม่มีทางรอด พยานหลักฐานชัด เมื่อเจอเซิร์ฟเวอร์ก็จะสามารถกู้หลักฐานออกมาได้เพิ่มเติมอีก ส่วนจะถึงการจ้างวานฆ่าหรือไม่ ต้องดูว่ามือปืนเขาไม่ได้มีเรื่องกับผู้ตาย แต่เกิดจากกำนันนกเสียหน้า ส่วนจะมีมูลเหตุอะไรให้มือปืนไปยิงถ้าไม่มีคนสั่ง แต่เราจะสอบอย่างไรให้พยานเหล่านี้มาอยู่ในสำนวน เราจบกฎหมายมากับคนไม่มีความรู้ ไม่ยาก  แต่ที่เหิมเกริมได้เพราะตำรวจไปส่งเสริม

เด้งกราวรูด 25 ตร.เข้ากรุ

วันเดียวกัน พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ว่า พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยด่วน โดยประสานข้อมูลกับชุดสืบสวนทีมงาน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ชุดทำงานตำรวจภูธรภาค 7 และกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมออกคำสั่งให้ข้าราชการตำรวจทั้ง 25 นาย ที่ปรากฏภาพเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องอยู่ในที่เกิดเหตุมาช่วยราชการที่ ศปก.ตร.

"ผบ.ตร.เน้นย้ำต้องตรวจสอบสาเหตุความเกี่ยวข้องที่เข้าไปร่วมในงาน รวมถึงสาเหตุที่มีการปล่อยให้ผู้กระทำผิดได้หลบหนีไป มีการทำลายพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ โดยตรวจสอบข้อเท็จจริงรายละเอียดแยกเป็นรายบุคคล รวบรวมข้อเท็จจริงให้ครบทุกมิติ หากพบว่าข้าราชการตำรวจรายใดมีความผิดอาญา หรือวินัย ให้ดำเนินการเด็ดขาดตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป" โฆษก ตร.กล่าว

ก่อนหน้านั้น พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 มีคำสั่งตำรวจภูธรภาค 7 ที่ 616/2566  เรื่อง ให้ข้าราชการตำรวจปฏิบัติราชการ ประกอบด้วย พ.ต.อ.ภาณุทัต เหลืองสัจจกุล ผกก.สืบสวน บก.ภ.จว.นครปฐม, พ.ต.ท.ภทร วรญาวิสุทธิ์ สารวัตร (สอบสวน) สภ.สระยายโสม จ.สุพรรณบุรี และ พ.ต.ต.เกียรติศักดิ์ สมสุข สว.สส.สภ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร มาปฏิบัติราชการที่ ศปก.บช.ภ.7

เช่นเดียวกับ พล.ต.ต.อัฏธพร วงศ์ศิริปรีดา ผบก.น.1 ได้มีคำสั่งให้ พ.ต.อ.กฤษฎาพร จงอักษร ผกก.สน.พญาไท  ทำรายงานแจ้งเหตุผลการเดินทางไปร่วมงานที่บ้านกำนันนกในวันเกิดเหตุ ว่าเดินทางออกนอกพื้นที่ได้อย่างไร และชี้แจงรายละเอียดภายในช่วงก่อนและหลังเกิดเหตุทั้งหมด ซึ่ง ผกก.สน.พญาไทได้ให้เจ้าหน้าที่นำรายงานมาส่งให้ที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 1 เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาแล้ว

พล.ต.ต.อัฏธพรกล่าวว่า ผกก.สน.พญาไทชี้แจงว่ามีรุ่นพี่ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ไปร่วมงาน ชวนตนให้ไปร่วมงานด้วย ในฐานะที่ในอดีตเคยสังกัด บก.ทล.มาก่อน โดยเดินทางออกนอกพื้นที่นครบาลช่วงหลังเลิกงาน ซึ่งเจ้าตัวระบุว่าไม่ได้เป็นการเบียดบังใช้เวลาราชการไปทำเรื่องส่วนตัว

"ได้มีคำสั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกับ ผกก.สน.พญาไท เรื่องการไปร่วมงานดังกล่าวว่าจะเข้าข่ายทำผิดวินัยหรือไม่ ส่วนที่จะจำเป็นต้องให้ไปช่วยราชการหรือไม่ อยู่ระหว่างการพิจารณาตามระเบียบและข้อมูลที่ได้รับ" ผบก.น.1 ระบุ

ขณะที่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รักษาการ ผบก.ทล. มีคำสั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงตำรวจในสังกัด บก.ทล. ที่เข้าไปเกี่ยวข้องไปร่วมงานเลี้ยงกำนันนกทั้งหมด และมีการเรียกสอบทั้ง 9 นาย ประกอบด้วย 1.พ.ต.อ.วชิรา ยาวไทยสง ผกก.2 บก.ทล. 2.พ.ต.ท.วศิน พันปี รอง ผกก.2 บก.ทล. 3.ด.ต.ชนาณัฐ วุฒิยากร ผบ.หมู่ บก.ทล. 4.พ.ต.ต.ณรงค์ พิทักษ์ฉนวน สว.ฝอ.กก. 2 บก.ทล. 5.จ.ส.ต.พิสิฐ ชิวปรีชา ผบ.หมู่ ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล. 6.จ.ส.ต.เมทิศกร พันศ์สีจันทร์ ผบ.หมู่ ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล. 7.ร.ต.ท.ณรงค์ศักดิ์ แดงอำไพ รองสว.ทล.1 กก. 2 บก.ทล. 8.ด.ต.สราวุฒิ เชียงทอง ผบ.หมู่ บก.ทล. 9.จ.ส.ต.ทศพร แซ่อึ้ง ผบ.หมู่ บก.ทล. มาให้ข้อมูลข้อเท็จจริง

ด้านนายยุทธนา โพธิวิหศ นายอำเภอเมืองนครปฐม ลงนามคำสั่งให้นายประวีณ จันทร์คล้าย พักหน้าที่กำนันตำบลตาก้อง และผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 1

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย กล่าวว่า ได้รับรายงานจากทางจังหวัดนครปฐมแล้วว่าผู้ว่าราชการจังหวัดได้ขอให้กำนันนกมามอบตัว และคงจะมีการสั่งออกจากราชการไว้ก่อน คือหยุดปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งเราก็ต้องดูพฤติกรรมของคนเหล่านี้ว่าจะปล่อยไปคุกคามประชาชนแบบนี้ไม่ได้ ต้องดำเนินการอย่างเด็ดขาด

"ภายใต้ความเป็นผู้ว่าฯ ในฐานะพ่อเมือง จะปล่อยให้เกิดขึ้นอีกไม่ได้ เราต้องไปดูว่าคนเหล่านี้เข้ามาเป็นกำนัน มาเป็นหัวหน้าผู้นำมวลชนได้อย่างไร  และจะปล่อยให้มวลชนเดินตามสไตล์คนเหล่านี้ แล้วชุมชนและประเทศจะเป็นอย่างไร เราต้องไปดู ไปขึ้นบัญชี ไปดูประวัติและดูพฤติกรรม ใครที่มีพฤติกรรมเยี่ยงนี้ จะมาเป็นผู้นำมวลชนไม่ได้" นายอนุทินระบุ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง