โปรยยาหอมอีสาน ‘เศรษฐา’ขนรมต.ลงขอนแก่น-อุดร/ลั่นไม่มี‘จำนำ-ประกัน’

"เศรษฐา" ประเดิมหอบ  รมต.ลงพื้นที่ขอนแก่น ประชาชน-เสื้อแดงแห่รับเพียบ นั่งหม่ำข้าวร่วมชาวบ้าน "นายกฯ" รับมีหลายเรื่องต้องเร่งแก้ไข ระบุน้ำท่วมกาฬสินธุ์บรรเทาลงใน 3 วัน คอนเฟิร์มไม่มีจำนำ-ประกันอยู่ในนโยบายรัฐบาล เว้นแต่มีภัยพิบัติ กร้าว จีดีพีต้องโต 5% ต่อปี

เมื่อวันที่ 8 ก.ย. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.การคลัง พร้อมด้วยนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกฯ,   ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์, นายไชยา พรหมา รมช.เกษตรและสหกรณ์, นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม, นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม, นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมว.วัฒนธรรม และนายเกรียง กัลป์ตินันท์ รมช.มหาดไทย ลงพื้นที่พบปะประชาชนที่ จ.ขอนแก่น โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น สส.ขอนแก่น และอดีต สส.ขอนแก่น ให้การต้อนรับ

เวลา 08.15 น. นายเศรษฐาและคณะได้สักการะศาลหลักเมือง อ.เมืองฯ  จ.ขอนแก่น โดยมีกลุ่มชาวอีสาน 20 จังหวัดมารอต้อนรับ โดยผูกผ้าขาวม้า และมอบพวงมาลัยให้นายเศรษฐา  พร้อมส่งเสียงตะโกนว่า “นายกฯเศรษฐา พาไปเป็นเศรษฐี” จากนั้นนายเศรษฐาและคณะได้รับประทานอาหารเช้าที่ร้านเอมโอช ซึ่งเป็นร้านไข่กระทะชื่อดัง

ด้าน นพ.เชิดชัย ตันติศิรินทร์ อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ที่มาต้อนรับ กล่าวว่า โครงสร้าง ครม.ชุดนี้ เท่าที่ดูยอมรับได้ เพราะเป็นรัฐบาลพันธุ์ผสม หรือจะผสมพันธุ์อะไรก็แล้วแต่ แต่ตนเองไม่เรียก เพราะเป็นพันธุ์ผสมจริงๆ  แต่พรรคเพื่อไทยไม่ได้เสียมากมายอะไร มีทั้งหมด 141 เสียง เป็นพรรคหลักในการจัดตั้งรัฐบาล ต้องเชื่อมั่นในพรรคเพื่อไทย เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาและสามารถขับเคลื่อนประเทศไปต่อได้ และมั่นใจภายหลังจากการทำงาน 6 เดือนนี้จะพิสูจน์ได้ชัดว่าใครเป็นใคร และเชื่อว่า 4 ปีที่ทำงานของพรรคเพื่อไทยจะสามารถไปต่อได้ ส่วนคนเสื้อแดงจะคอยสนับสนุน

จากนั้นเวลา 10.00 น. นายเศรษฐา และคณะเดินทางมายังเขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น เพื่อพบปะประชาชนทั้งที่อยู่ในพื้นที่ชลประทานและนอกพื้นที่ชลประทาน โดยนายเศษฐาได้รับฟังรายงานสถานการณ์น้ำภายในเขื่อนอุบลรัตน์จากกรมชลประทานและการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ และ พล.ท.อดุลย์ บุญธรรมเจริญ ว่าที่แม่ทัพภาคที่ 2 โดยมีเนื้อหาสรุปว่า ปีนี้น้ำในเขื่อนอุบลรัตน์มีน้ำน้อย โดยช่วงหนึ่งนายเศรษฐาได้พูดคุยกับ พล.ท.อดุลย์ เพื่อให้กองทัพเข้ามาจัดกำลังพลสนับสนุนกรมชลประทานในการขุดลอกคูคลองในพื้นที่ขอนแก่น ซึ่ง พล.ท.อดุลย์ระบุยินดีให้ความร่วมมือ ทำให้นายเศรษฐายกไหว้ขอบคุณ พล.ท.อดุลย์

นายเศรษฐายังได้พูดคุยกับกลุ่มตัวแทนเกษตรกรและประชาชนในพื้นที่โดยรอบเขื่อนอุบลรัตน์ว่า ขณะนี้ปริมาณน้ำในทุกเขื่อนของภาคอีสานยังน้อยอยู่ จึงต้องบริหารจัดการให้ดี ทั้งด้านการเกษตร อุปโภคบริโภค และภาคอุตสาหกรรม และน้ำที่ใช้เยอะสุดคือ การเกษตร รัฐบาลที่มาจากประชาชนจะเข้ามาทำให้ดีที่สุด และการบริหารจัดการคูคลองถ้ามีปัญหากองทัพก็พร้อมเข้ามาช่วย สำหรับเรื่องการเกษตรแม้ตนมาจากภาคธุรกิจ แต่เชื่อว่าประเทศไทยมีเกษตรกรหลายล้านคน รัฐบาลมีงบประมาณ เชื่อว่าเงินทุกบาทที่ลงทุนทำให้น้ำไม่ท่วม ไม่แล้ง จะทำให้เกิดรายได้มวลรวมของประเทศ

นายกฯ กล่าวว่า เชื่อว่าการลงทุนด้านการเกษตร เช่น โครงการโขง ชี มูล เลย เรื่องชลประทาน ฝายแกนซอยซีเมนต์ เป็นเรื่องที่รัฐบาลจะให้ความสำคัญมากที่สุด เพราะเกษตรกรเป็นประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ

ทั้งนี้ มีช่วงหนึ่ง นายวรพนธ์ จันทรธีระยานนท์ รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลภูเวียง กล่าวกับนายเศรษฐาว่า “ท่านเป็นนายกฯ ที่ดีที่สุดเท่าที่โลกมีมา” ทำให้นายเศรษฐาตัดบทว่า “ไม่ขนาดนั้นหรอก เพิ่งเป็นไม่กี่วัน” จากนั้นนายเศรษฐายังให้สัมภาษณ์ในเรื่องนี้ด้วยว่า “คงไม่จริงหรอกครับ ผมเพิ่งได้เป็นนายกฯ อย่าไปหลงรักเสียงที่เราอยากจะฟังตลอด วันนี้เอาความเป็นจริงดีกว่า บางทีเสียงที่เราไม่อยากได้ยินคือเสียงที่ประเสริฐที่สุด”

ไม่มีจำนำ-ประกันราคา

อย่างไรก็ตาม นายเศรษฐาพูดถึงการลงพื้นที่ครั้งนี้ว่า การลงพื้นที่ในครั้งนี้ถือเป็นภารกิจแรกของรัฐบาลที่ได้ดำเนินการ โดยรัฐบาลให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน ในเรื่องเศรษฐกิจและการประกอบอาชีพรวมทั้งที่ดินทำกิน ซึ่งการประชุม ครม.นัดแรก จะมีการนำปัญหาหนี้สิน การพักหนี้เกษตรกร เข้าสู่การประชุมเป็นวาระเร่งด่วน โดยเฉพาะในเรื่องของปุ๋ย จะมีมาตรการในการบรรเทาเพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชน และจะมีการให้ความรู้ด้านการเกษตร ส่งเสริมการใช้ปุ๋ยอินทรีย์ มาตรการบรรเทาราคาน้ำมันดีเซลและราคาไฟฟ้า

"ปัญหาหนี้สินการพักหนี้เกษตรกรนั้น จะเน้นการเพิ่มรายได้สุทธิ พักรายจ่าย เพื่อแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน ขอให้ประชาชนมั่นใจว่าการลงพื้นที่พบปะพูดคุยในครั้งนี้ จะนำเอาประเด็นปัญหาเข้าสู่การแก้ไขโดยจะลงมือทำทันที ขอให้มั่นใจว่ารัฐบาลทำงานเพื่อพี่น้องประชาชนอย่างแท้จริง"

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศในการลงพื้นที่พบปะกับประชาชนครั้งนี้ มีทั้งคนเสื้อแดง ชาวบ้านในหลายพื้นที่ รวมทั้งหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับกันอย่างเป็นกันเอง นอกจากนี้ นายกฯ ยังได้ร่วมรับประทานอาหารเที่ยงกับประชาชน ซึ่งเป็นการรับประทานอาหารแบบบุฟเฟต์ โดยมีเมนูอาหารประกอบด้วย แกงเขียวหวานไก่ ผักพริกแกงไก่ ไข่เจียว หมูทอดกระเทียม และไก่ย่าง ซึ่งนายกฯ ได้เดินไปตักอาหารทานด้วยตัวเอง

ระหว่างนั้นนายเศรษฐาได้ย้ำว่า ให้คำมั่นกับพี่น้องประชาชนว่าจะลดค่าไฟฟ้าและค่าน้ำมันดีเซลทันทีภายหลังจากประชุม ครม.นัดแรกเสร็จ เพราะนโยบายต่างๆ จะต้องหารือร่วมกันหลายพรรค เพื่อให้เดินหน้าไปในทิศทางเดียวกัน และอยากให้มองในภาพรวมของการทำงาน ไม่อยากให้มองเฉพาะตัวบุคคลหรือพรรคการเมืองเพียงพอความชอบ-ไม่ชอบ

 นายกฯ ยังให้สัมภาษณ์ถึงการลงพื้นที่ว่า มีหลายเรื่องที่ต้องเร่งแก้ไข เพราะปีนี้น้ำน้อย อีกแค่ 1 เดือนจะจบฤดูฝนแล้ว ฉะนั้นปริมาณน้ำฝนสุทธิจะมีน้อยด้วย การใช้น้ำแบ่งออกเป็นการใช้บริโภคอุปโภค อุตสาหกรรม เกษตร ระบบนิเวศ ซึ่งเป็นห่วง ต้องมีการบริหารจัดการระยะสั้น ไม่ว่าจะเป็นการใช้งบประมาณจำกัดที่มีอยู่จากท้องถิ่นหรือกระทรวงมหาดไทย เช่น การทำฝาย การขุดลอกคลอง ขุดลอกบ่อ

นายกฯ ยังกล่าวถึงสถานการณ์น้ำท่วมใน จ.กาฬสินธุ์ ว่า ร.อ.ธรรมนัสได้แยกไปดูแล้ว และคาดว่าจะบรรเทาได้ภายใน 3 วัน เป็นเรื่องของร่องความกดดันอากาศต่ำ และฝนยังตกอยู่ รวมถึงเป็นเรื่องของการกักเก็บน้ำเพื่อใช้ในหลังจากที่ฝนหยุดตกแล้ว เชื่อมโยงถึงแผนระยะยาว และเราไม่อยากแก้ปัญหาระยะสั้นตลอดไป

เมื่อถามถึงเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจ นายเศรษฐากล่าวว่า 11 พรรคที่มาร่วมรัฐบาล เราจะได้เห็นจีดีพีที่เติบโตมากยิ่งขึ้น ตั้งเป้าหมายไว้ว่าจีดีพีจะต้องเติบโต 5% ต่อปี

เมื่อถามถึงแนวทางการเพิ่มรายได้สุทธิให้เกษตรกร นายเศรษฐาตอบว่า ต้องมีการเปิดตลาดใหม่เพิ่มขึ้น เพื่อขอโควตาจีน ตะวันออกกลางเพิ่มในการส่งสินค้า ส่วนเรื่องการลดรายจ่าย เช่น เรื่องค่าปุ๋ย การเพิ่มความรู้ให้กับเกษตรกร ซึ่งจะเป็นการลดรายจ่ายเพิ่มรายได้ ทำให้มีรายได้สุทธิสูงขึ้น ทั้งนี้ ต้องควบคู่ไปกับการที่เราพักหนี้เกษตรกร และเชื่อว่าพี่น้องเกษตรกรมีศักดิ์ศรี กู้เงินใครมาก็อยากใช้คืน หน้าที่ของรัฐบาลคือทำให้ประชาชนมีรายได้ที่ดี สามารถกินอยู่ได้ ลงทุนในการเพาะปลูกได้ แก้ไขปัญหาเรื่องหนี้สินได้ อย่างไรก็ตาม การพักหนี้เกษตรกรถือเป็นญัตติด่วน และตนบอกว่าการจำนำ การประกัน ไม่ได้อยู่ในนโยบายรัฐบาล ยกเว้นแต่มีภัยพิบัติจริงๆ แล้วค่อยว่ากัน

ต่อมาเวลา 12.30 น. นายเศรษฐา และคณะได้แวะเยี่ยมเกษตรกร นายอุดร พื้นทอง ชาวนา อ.อุบลรัตน์ เพื่อสอบถามถึงปัญหาในการเพาะปลูกข้าว โดยนายอุดรได้สะท้อนปัญหาข้าวที่มีราคาตกต่ำ

นายเศรษฐาได้กล่าวว่า ปัญหาราคาข้าวตกต่ำ รัฐบาลพยายามจะเพิ่มผลผลิตต่อไร่ให้กับเกษตรกรให้ได้เพิ่มขึ้นกว่าเดิม 50% เหมือนกับในประเทศเพื่อนบ้าน แต่ต้องไปดูด้วยว่าที่ราคาตกต่ำขึ้นอยู่กับพันธุ์ข้าว วิธีการปลูก วิธีการใส่ปุ๋ย และวิธีการตรวจสอบดินหรือไม่

นายกฯ ระบุด้วยว่า ปัญหาน้ำมันที่มีราคาสูงขึ้นนั้น ยืนยันว่าเมื่อมีการประชุม ครม.นัดแรก จะลดราคาค่าน้ำมันทันที อย่างไรก็ตาม เรื่องการขายโคกระบือที่ไม่ได้ราคา เรามีรองนายกฯ ที่ถนัดเรื่องโคกระบืออยู่แล้วในการส่งโคกระบือไปขายในต่างประเทศ นอกจากนี้ รัฐบาลจะมีนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาท นโยบายพักชำระหนี้เกษตรกร และลดค่าไฟให้กับพี่น้องประชาชนทุกคน

รับไม่ได้งบเพิ่มเท่าตัว

ขณะที่ นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวถึงสถานการณ์น้ำในเขื่อนอุบลรัตน์ว่า ปัจจุบันมีปริมาณน้ำใช้การได้ประมาณ 296 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็น 16% ของความจุอ่างฯ ซึ่งถือว่าน้อยมาก เมื่อเทียบกับปี 2565 เนื่องจากปริมาณฝนตกสะสมในพื้นที่น้อยกว่าค่าเฉลี่ยมากถึง 39% กรมชลประทานและการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ร่วมกับจังหวัด วางแผนบริหารจัดการน้ำให้สอดคล้องกับปริมาณน้ำต้นทุนที่มีอยู่อย่างรัดกุม คาดการณ์ว่าปริมาณน้ำในเขื่อนอุบลรัตน์ในช่วงฤดูแล้งปี 2566/67 จะมีปริมาณน้ำเพียง 709 ล้าน ลบ.ม. จะเพียงพอเฉพาะการอุปโภคบริโภค รักษาระบบนิเวศ สำรองน้ำไว้ใช้ในช่วงต้นฤดูฝนถัดไป และอุตสาหกรรมเท่านั้น

นายประพิศกล่าวว่า ส่วนด้านการเกษตร จะมีการพิจารณาด้านการเพาะปลูกพืชฤดูแล้งตามปริมาณน้ำต้นทุน โดยคณะกรรมการลุ่มน้ำชีและกรมชลประทานยังได้เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ภัยแล้ง โดยในระยะสั้น จะสนับสนุนเครื่องจักรเครื่องมือ เข้าไปกำจัดวัชพืชและขุดลอกคลองต่างๆ เพื่อจัดทำแหล่งน้ำสำรอง กักเก็บน้ำไว้ใช้ให้ได้มากที่สุด ส่วนในระยะกลาง ได้จัดทำแผนพัฒนาลุ่มน้ำชีตอนบน โดยการจัดทำระบบเครือข่ายอ่างเก็บน้ำ (อ่างพวง) จำนวน 5 แห่ง ตามแนวพระราชดำริ เพื่อเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุน ได้แก่ อ่างเก็บน้ำลำสะพุงอันเนื่องมาจากพระราชดำริ, อ่างเก็บน้ำลำเจียงอันเนื่องมาจากพระราชดำริ, อ่างเก็บน้ำลำน้ำชีอันเนื่องมาจากพระราชดำริ, อ่างเก็บน้ำโปร่งขุนเพชร และอ่างเก็บน้ำพระอาจารย์จื่อ (ลำกระจวน) หากมีการดำเนินการแล้วเสร็จทั้งหมด จะสามารถเพิ่มปริมาณน้ำเก็บกักได้ 240 ล้าน ลบ.ม. มีพื้นที่รับประโยชน์มากถึง 188,000 ไร่

อธิบดีกรมชลประทานระบุว่า ชลประทานมีอีกหนึ่งแผนงานสำคัญในการรับรับมือสถานการณ์ภัยแล้ง คือ โครงการแก้มลิงแก่งน้ำต้อน พร้อมอาคารประกอบ ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง โดยมีแผนดำเนินงานปี พ.ศ.2564-2569 เป็นการขุดลอกแก้มลิงพร้อมอาคารประกอบ เพื่อเพิ่มความจุเก็บกักน้ำจากเดิม 7.43 ล้าน ลบ.ม. เป็น 35.02 ล้าน ลบ.ม. ทำให้สามารถเพิ่มพื้นที่ชลประทานได้อีกประมาณ 35,000 ไร่ นอกจากนี้ยังได้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานท้องถิ่น ต่อยอดพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญในอนาคตอีกด้วย 

เขากล่าวอีกว่า ส่วนในระยะยาว ได้วางแผนโครงการบริหารจัดการน้ำโขง เลย ชี มูล โดยแรงโน้มถ่วง ระยะที่ 1 ซึ่งเป็นหนึ่งในแผนพัฒนาโครงการลุ่มน้ำชี ด้วยการปรับปรุงปากแม่น้ำเลย การขุดคลองชักน้ำ บ่อดักตะกอน และอาคารควบคุมน้ำ การก่อสร้างอุโมงค์ส่งน้ำด้วยแรงดัน คลองลำเลียงน้ำ และการก่อสร้างอุโมงค์ส่งน้ำทางน้ำเปิด รวมแนวผันน้ำทั้งหมดประมาณ 174.449 กิโลเมตร ซึ่งจะช่วยในการส่งน้ำไปยังบริเวณพื้นที่สูงหรือพื้นที่แห้งแล้งได้อย่างทั่วถึง อีกทั้งยังช่วยเติมน้ำในอ่างเก็บน้ำ เช่น เขื่อนห้วยหลวง เขื่อนอุบลรัตน์ ได้อีกทางหนึ่งด้วย

ต่อมาเวลา 14.10 น. นายกฯ และคณะเดินทางมายัง จ.อุดรธานี โดยได้เข้าสักการะพระพุทธโพธิ์ทอง ศาลหลักเมือง และท้าวเวสสุวรรณ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำ จ.อุดรธานี โดยมี สส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย รอให้การต้อนรับอย่างพร้อมเพรียง ก่อนจะเดินทางต่อไปยัง สวนสาธารณะหนองแด อ.เมืองอุดรธานี เพื่อรับฟังความคืบหน้าโครงการมหกรรมพืชสวนโลกที่จะเกิดขึ้นในปี 2569

โดยนายกฯ กล่าวว่า อุดรธานีเป็นจังหวัดใหญ่ที่มีความสำคัญในพัฒนาภาคอีสาน สนามบินอุดรธานีมีมูลค่าสูงมีเที่ยวบินวันละหลายสิบเที่ยว งานพืชสวนโลกต้องเชื่อมโยงกับการใช้สาธารณูปโภคพื้นฐาน เพื่อผลักดันให้เป็นอีเวนต์ระดับอินเตอร์ให้เป็นหน้าตาของประเทศชาติและภาคอีสานตอนบน  สอดคล้องกับการพัฒนาเศรษฐกิจภายใต้รัฐบาลประชาชน 11 พรรค สำหรับการสร้างสถานที่จัดงานพืชสวนโลก เป็นเรื่องของการจัดสรรงบประมาณ

นายกฯ ชี้แจงว่า ไม่ได้มาหาเสียง แต่มาพูดจาอย่างตรงไปตรงมา ให้เข้าใจถึงภารกิจของรัฐบาลประชาชนที่จะต้องดูแลหลายภาคส่วน แต่ตนมีคำถามเรื่องงบประมาณ ที่เดิมวางไว้ 2,500 ล้านบาท แต่ขอเพิ่มอีก 3,000 ล้านบาท เป็น 5,500 ล้านบาท กระโดดไปได้อย่างไร แล้วจะเอางบมาจากไหน รัฐบาลก็มีภาระอื่นๆ ที่สำคัญเช่นกัน การที่งบประมาณงอกไปกว่าหนึ่งเท่าตัว เป็นเรื่องที่เรารับไม่ได้ เพราะรัฐบาลเองก็มีงบประมาณจำกัด เราต้องบริหารหลายภาคส่วน ตนยืนยันว่าจะต้องมีการบริหารจัดการให้อยู่ภายใต้งบประมาณที่เราพูดกันไว้ก่อนหน้านี้ หน้าที่ของรัฐบาลต้องทำให้ได้ทันเวลา งบประมาณแผ่นดินเป็นเรื่องที่สำคัญ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการลงพื้นที่ จ.ขอนแก่นและอุดรธานีในครั้งนี้ของนายเศรษฐา ถือเป็นการลงพื้นที่ต่างจังหวัดครั้งแรกนับตั้งแต่นำคณะรัฐมนตรีชุดใหม่เข้าถวายสัตย์ฯ เมื่อวันที่ 5 ก.ย. ขณะเดียวกัน ยังมีการตั้งข้อสังเกตถึงรูปแบบการลงพื้นที่ที่คล้ายกับสมัยรัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'หมอมิ้ง' แจงยังไม่นำรายชื่อ 'ครม.อิ๊งค์ 1' ขึ้นทูลเกล้าฯ

นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าในการตรวจสอบประวัติ คุณสมบัติ ในลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญของผู้ที่ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี

สุดสับสน! ปรากฏการณ์การเมืองไทย ยุครัฐบาล 'อิ๊งค์'

นายดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม อดีตสมาชิกวุฒิสภา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ว่า พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เป็นพรรคร่วมรัฐบาลเฉพาะกลุ่ม สส. แต่หัวหน้าพรรคกลับถูกไล่ออกไม่ให้ร่วมด้วย

'เรืองไกร' ท้า 'นายกฯอิ๊งค์' โชว์ใบลาออก พ้นกรรมการ 20 บริษัท

ายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ เปิดเผยว่า วันนี้ได้ส่งหนังสือทางไปรษณีย์ EMS ถึงนายกรัฐมนตรีเพื่อขอให้แสดงหลักฐานต่อสาธารณะเกี่ยวกับการลาออกจากกรรมการบริษัทต่างๆ รวม 20 บริษัท

'นายกฯอิ๊งค์' อยู่ได้เกิน 6 เดือนไหม! ขึ้นอยู่กับ 2 ทางรอด

พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์ อดีตหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (ศรภ.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า อุ๊งอิ๊งจะอยู่เกิน 6 เดือนไหม