อิทธิพลเผ่นนอกหนีคดี ร้องยธ.เปิดภาพทักษิณ

"รองโฆษกอัยการ" ยันศาลอาญาคดีทุจริตฯ ภ.2 ออกหมายจับ "อิทธิพล คุณปลื้ม" จริง นักกฎหมายชี้หนีพ้น 10 ก.ย. เป็นอิสระทันที เหตุคดีขาดอายุความ 15 ปี กลุ่ม ปภส.ร้อง รมว.ยธ. สั่งราชทัณฑ์เปิดภาพ "ทักษิณ" เข้าคุก-นอน รพ.ตำรวจ

เมื่อวันที่ 6 กันยายน นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวถึงกรณีศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 2 จังหวัดระยอง  ออกหมายจับนายอิทธิพล คุณปลื้ม อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เมื่อครั้งดำรงตำเเหน่งนายกเมืองพัทยา ในความผิดฐานปฏิบัติหน้าที่มิชอบฯ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 กรณีพิจารณาออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร ลงวันที่ 10 ก.ย.2551 ให้แก่บริษัท บาลี ฮาย จำกัด เพื่อก่อสร้างอาคารโครงการวอเตอร์ฟร้อนท์ฯ บริเวณเชิงเขาพระตำหนัก เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี ไม่ถูกต้องตามกฎหมายว่า เรื่องดังกล่าวทราบจากนายคำนึง วงษ์ทวีทรัพย์ อธิบดีอัยการ สำนักงานคดีปราบปรามการทุจริตภาค 2 ว่าพนักงานอัยการสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริตภาค 2 ได้นัดให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นำตัวนายอิทธิพลมาพบพนักงานอัยการ เพื่อยื่นฟ้องคดีเมื่อวันที่ 4 ก.ย.ที่ผ่านมา  เเต่นายอิทธิพลไม่เดินทางมาตามนัด ทางพนักงานอัยการจึงแจ้งให้ ป.ป.ช. ผู้ร้อง  ไปดำเนินการขอศาลออกหมายจับ เเละศาลออกหมายจับเมื่อวันที่ 5 ก.ย. ซึ่งพนักงานอัยการมีหน้าที่ประสานให้นำตัวผู้ต้องหามาส่งฟ้องตามกฎหมายต่อไป

 “คดีนี้ ป.ป.ช.ส่งเรื่องให้อัยการเมื่อวันที่ 3 ส.ค. อัยการสูงสุดพิจารณาสั่งฟ้อง 30 ส.ค. คดีอยู่ที่อัยการไม่ถึงเดือน” นายโกศลวัฒน์ระบุ

แหล่งข่าวนักกฎหมายเปิดเผยว่า หากนายอิทธิพลยังคงหลบหนีไม่ถูกเจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมตามหมายจับของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 2  ได้จนพ้นหลังวันที่ 10 ก.ย.นี้ เท่ากับว่านายอิทธิพลจะพ้นจากความผิดคดีนี้ เนื่องจากคดีขาดอายุความแล้ว จึงไม่สามารถยื่นฟ้องคดีต่อศาลอาญาคดีทุจริตฯ ได้อีก ยกตัวอย่างคดีของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่หลบหนีออกนอกประเทศ จนคดีขาดอายุความหลายคดี

"คดีนี้เกิดขึ้นเมื่อปี 51 แต่ ป.ป.ช.รวบรวมสำนวนและพยานหลักฐานส่งให้พนักงานอัยการพิจารณาเมื่อวันที่ 3 ส.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเวลาล่วงเลยมาเกือบจะครบ 15 ปี ในวันที่ 10 ก.ย.นี้ ซึ่ง ป.ป.ช.ใช้เวลารวบรวมสำนวนและพิจารณานานมาก และอัยการสูงสุดได้มีความเห็นสั่งฟ้องนายอิทธิพลวันที่ 30 ส.ค. และนัด ป.ป.ช.ให้นำตัวนายอิทธิพลมาเพื่อยื่นฟ้องคดีต่อศาลอาญาคดีทุจริตฯ ภาค 2 วันที่ 4 ก.ย. แต่นายอิทธิพลไม่มาพบตามนัด กระทั่งศาลอาญาคดีทุจริตฯ ภาค 2 อนุมัติหมายจับดังกล่าว" แหล่งข่าวระบุ

ที่กระทรวงยุติธรรม (ยธ.) มีความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับการจำคุกนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดยนายทรงชัย เนียมหอม ประธานกลุ่มประชาภักดิ์พิทักษ์สถาบัน (ปภส.) พร้อมตัวแทน เดินทางยื่นเอกสารถึง พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ทวงคืนความเท่าเทียมของสังคม ประเด็นการควบคุมดูแล น.ช.ทักษิณ ชินวัตร เป็นพิเศษจริงหรือไม่ ก่อให้เกิดกระแสสังคมขยายเป็นวงกว้างถึงแนวทางเลือกปฏิบัติเหนือนักโทษเด็ดขาดหรือผู้ต้องขังรายอื่นทั่วประเทศกว่า 200,000 ราย โดยมีนายวัลลภ นาคบัว รองปลัด ยธ. ในฐานะโฆษก พร้อมนายปริญญ์วัฒน์ เปี่ยมปิ่นวงศ์ หัวหน้าศูนย์บริการร่วมกระทรวงยุติธรรม เป็นผู้รับเรื่อง

นายทรงชัยระบุว่า สืบเนื่องจาก น.ช.ทักษิณ มีอาการนอนไม่หลับ แน่นหน้าอก ความดันโลหิตสูง ระดับออกซิเจนปลายนิ้วต่ำ เมื่อคืนวันที่ 22 ส.ค. จึงได้ย้ายรักษาตัวต่อโรงพยาบาล (รพ.) ตำรวจ จนถึงขณะนี้ แต่ไม่พบมีการรักษาอื่นใด เช่น การผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจ การทำบอลลูนหรืออื่นใด มีเพียงข่าวจากแพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ แจ้งอาการของโรคประจำตัว รวมระยะเวลาเป็น 15 วัน ทำให้ตัวแทนกลุ่ม เกิดความไม่ไว้วางใจกรมราชทัณฑ์ ขอให้มีการสืบสวนสอบสวนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ ว่ามีการดูแลตามขั้นตอน และนำตัว น.ช.ทักษิณเข้าไปในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ จริงหรือไม่ จึงมาขอหลักฐานกับ ยธ. ไม่ว่าจะเป็นภาพนิ่งหรือคลิปวิดีโอว่า น.ช.ทักษิณมีการเข้าไปในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ จริงหรือไม่ รวมถึงการพักอยู่ใน รพ.ตำรวจ

ช่วงบ่ายวันเดียวกัน กลุ่มประชาภักดิ์พิทักษ์สถาบันได้เดินทางไปสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยื่นหนังสือแจ้งให้เข้าจับกุมผู้ต้องหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ที่อัยการสูงสุดมีความเห็นสั่งฟ้อง น.ช.ทักษิณ กรณีที่ พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร อดีต รมช.กลาโหม และอดีต ผบ.ทบ. ในฐานะเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) สั่งให้เจ้าหน้าที่กรมพระธรรมนูญไปแจ้งความเอาผิดนายทักษิณ ที่ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนที่ประเทศเกาหลีใต้ และพูดพาดพิงสถาบันฯ และได้มีการออกหมายจับนายทักษิณไปแล้ว รวมทั้งอัยการสูงสุดได้มีคำสั่งฟ้อง เมื่อวันที่ 19 ก.ย.2559 แต่ผู้ต้องหาหลบหนี อัยการสูงสุดได้แจ้งให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ขณะนั้น ให้จัดการติดตามผู้ต้องหาให้ได้มาภายในระยะเวลา 15 ปี ซึ่งคดียังไม่ขาดอายุความ จึงขอให้ ผบ.ตร.ดำเนินการตามกระบวนการกฎหมายโดยเร่งด่วน.