จับตา "น.ช.ทักษิณ" รักษาตัว รพ.ตำรวจ เหตุใกล้ครบ 30 วัน อธิบดีราชทัณฑ์-แพทย์ใหญ่เตรียมหารือ นอนต่อหรือส่งกลับเรือนจำ พร้อมพ่วงพิจารณาความเห็นแพทย์ "ผบ.ตร." โยน รพ.ตำรวจ-ราชทัณฑ์แจงอาการป่วยเอง "ศรีสุวรรณ" ร่อนหนังสือถึงกรมราชทัณฑ์ ค้านแนวคิดพักโทษทักษิณ ชี้ไม่เป็นธรรมกับนักโทษรายอื่น "ปิยบุตร" จี้ "รัฐบาลเศรษฐา" ผลักดันนิรโทษฯ คดีการเมืองทุกเสื้อสีตั้งแต่ปี 48 จะเป็นการก้าวข้ามขัดแย้งที่แท้จริง
เมื่อวันอังคาร นายปริญญา เทวานฤมิตรกุล อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้ตั้งคำถามผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุเนื้อหาสาระเกี่ยวกับระยะเวลาการรักษาตัวนอกเรือนจำของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ตามกฎกระทรวงยุติธรรม เรื่องการส่งตัวผู้ต้องขังไปรักษาตัวนอกเรือนจำ พ.ศ.2563 ซึ่งลงนามโดยคุณสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรมในขณะนั้น พร้อมระบุว่า หากมีการรักษาตัวนอกเรือนจำนานกว่า 30 วัน จะต้องมีความเห็นจากทางอธิบดีกรมราชทัณฑ์และแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ หากนานกว่า 60 วัน จะต้องมีความเห็นจากทางปลัดกระทรวงยุติธรรม และหากนานเกิน 120 วัน จะต้องมีความเห็นจาก รมว.ยุติธรรม พร้อมทั้งขอให้มีการแถลงรายละเอียดต่อสาธารณชนเพื่อคลายข้อสงสัยว่าได้มีการเลือกปฏิบัติต่อนายทักษิณหรือไม่
"เรื่องนี้ต้องทำให้เป็นการปฏิบัติที่โปร่งใสและเสมอภาค ผู้ต้องขังไม่ว่าใคร จะยากดีมีหรือจน หากป่วยแล้วโรงพยาบาลราชทัณฑ์รักษาไม่ได้ ก็พึงได้สิทธิและโอกาสในการออกมารักษาตัวนอกเรือนจำเช่นเดียวกัน และอยู่ภายใต้หลักว่าถ้าหายป่วยแล้วก็ต้องกลับไปเข้าเรือนจำ หากไม่ทำดังที่ว่า เรื่องนี้จะเป็นเรื่องใหญ่และกระทบรัฐบาลแน่นอน" นายปริญญาระบุ
แหล่งข่าวระดับสูงในกระทรวงยุติธรรมเปิดเผยถึงเรื่องดังกล่าวว่า สำหรับอาการเจ็บป่วยของผู้ต้องขังตลอดช่วงระยะเวลาการนอนพักรักษาตัว จะมีความทุเลาดีขึ้นหรืออาการทรงตัวอย่างไร จะเป็นดุลพินิจของนายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจที่จะต้องรายงานแจ้งมายังอธิบดีกรมราชทัณฑ์ เพื่ออธิบดีมีความคิดเห็นพิจารณาอนุมัติว่าจะให้รักษาตัวอยู่ที่ รพ.ตำรวจต่อเนื่อง หรือพิจารณาอนุมัติให้ย้ายกลับมารักษาที่ทัณฑสถาน รพ.ราชทัณฑ์ ณ เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ดังนั้น ในกรณีที่นายทักษิณจะมีการรักษาตัวที่รพ.ตำรวจนานกว่า 30 วันนั้น ทางแพทย์ที่เป็นผู้รักษาจะต้องรายงานอาการความเจ็บป่วยและความคิดเห็นของแพทย์ไปยังอธิบดีกรมราชทัณฑ์เพื่อพิจารณาอนุมัติตามขั้นตอน และถ้าหากจะมีการรักษานานกว่า 60 วัน ก็จะต้องมีหนังสือขอความเห็นชอบจากอธิบดี พร้อมกับความเห็นของแพทย์ผู้ทำการรักษาและหลักฐานอื่นที่เกี่ยวข้อง และรายงานปลัดกระทรวงยุติธรรมรับทราบ ส่วนถ้าจะมีการรักษานานกว่า 120 วัน ก็จะต้องมีหนังสือขอความเห็นชอบจากอธิบดี พร้อมกับความเห็นของแพทย์ผู้ทำการรักษาและหลักฐานอื่นที่เกี่ยวข้องและรายงานรัฐมนตรีทราบ
แหล่งข่าวระบุอีกว่า เมื่อใกล้ครบกำหนดระยะเวลาการนอนพักรักษาตัว 30 วัน ตามหลักการแล้วทางอธิบดีกรมราชทัณฑ์หรือตัวแทนราชทัณฑ์จะต้องมีการประชุมหารือร่วมกับทีมแพทย์ รพ.ตำรวจ ผู้ทำการรักษา เพื่อมีความเห็นร่วมกันว่าจะอนุมัติให้ยังคงรักษาตัวที่เดิมหรือไม่ อย่างไร
เมื่อถามว่า หากต้องมีการรักษานานเกินกว่า 30 วัน มีแนวโน้มที่นายทักษิณจะย้ายไปรักษาตัวที่ รพ.เอกชน ซึ่งจะมีเครื่องมือทางการแพทย์และแพทย์เฉพาะทางเหมาะสมต่อการรักษาหรือไม่ แหล่งข่าวบอกว่า หาก รพ.ที่ได้ลงนาม MOU กับราชทัณฑ์ (หรือ รพ.แม่ข่าย) ยังคงมีศักยภาพในการรักษา ก็ยังจะต้องเป็น รพ.ของรัฐต่อไป แต่ถ้าหาก รพ.ของรัฐที่ลงนามอยู่นั้นไม่มีเครื่องมือพร้อมในส่วนอื่นใด ก็อาจจะมีความจำเป็นต้องพิจารณาย้ายไปรักษาตัวที่ รพ.เอกชนแทนได้ แต่เท่าที่รับทราบ ยังไม่มีแนวโน้มย้ายนายทักษิณไปรักษาตัวที่รพ.แห่งอื่น
ย้ำต้องรับโทษจำคุก 1 ใน 3
แหล่งข่าวยังระบุถึงโครงการพักการลงโทษกรณีมีเหตุพิเศษเนื่องจากเจ็บป่วยร้ายแรง หรือพิการ หรือมีอายุตั้งแต่ 70 ปีขึ้นไปว่า ปกติแล้วในเวลา 1 ปี ทางราชทัณฑ์จะมีโครงการอยู่แล้ว ซึ่งเรือนจำจะมีการสำรวจรายชื่อของผู้ต้องขังแล้วก็มีการจัดทำบัญชีรายชื่อเพื่อแจ้งผู้ต้องขัง หากเข้าเกณฑ์ก็ให้ดำเนินการยื่นเอกสารมาทางเรือนจำ และที่สำคัญจะต้องมีการรับรองเนื้อหาเอกสารการเจ็บป่วยด้วย
"อย่างไรก็ตาม ตามเกณฑ์จะต้องมีการรับโทษจำคุกแล้วหนึ่งในสามหรือไม่น้อยกว่า 6 เดือน แต่ในกรณีของนายทักษิณนั้น เข้ามารับโทษจำคุกเพียง 1 ปี หากคำนวณหนึ่งในสามก็เท่ากับ 4 เดือน ซึ่งนายทักษิณก็จะต้องรับโทษจำคุกไม่น้อยกว่า 6 เดือนก่อน จึงจะเข้าเกณฑ์ยื่นขอเข้าโครงการพักการลงโทษได้ แต่ถ้าหากมีการพระราชทานอภัยโทษเป็นการทั่วไปในวาระโอกาสสำคัญ ก็จะเป็นอีกกรณีหนึ่ง" แหล่งข่าวระบุ
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร ถูกย้ายเข้ามารักษาอาการป่วยที่ รพ.ตำรวจ ตั้งแต่วันที่ 22 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยยืนยันว่า ทางราชทัณฑ์ประสานกับทาง รพ.ตำรวจในการย้ายมาตามปกติ ในส่วนของภาพรวม ได้มอบหมายให้ พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร. ควบคุมดูแลและประสานการทำงานในภาพรวม ส่วนรายละเอียดเรื่องการรักษาตัวหรือสภาพร่างกายต่างๆ ขึ้นอยู่กับทางโรงพยาบาลที่จะเป็นผู้ให้ข้อมูล
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการรายงานเข้ามาให้ทราบหรือไม่ ผบ.ตร.กล่าวว่า เป็นรายละเอียดของทางแพทย์ที่ทำการรักษาขอให้เป็นผู้ให้ข้อมูลจะดีกว่า เช่นเดียวกับระยะเวลาที่พักรักษาตัวที่ รพ.ตำรวจ ซึ่งตามระเบียบหากครบ 30 วันจะต้องพิจารณาว่าจะรักษาตัวที่ รพ.ต่อหรือย้ายกลับไปที่ราชทัณฑ์นั้น เรื่องดังกล่าวขอให้สอบถามกับทางราชทัณฑ์เพราะตนเองไม่มีความชำนาญเรื่องนี้ ในส่วนของการรักษาความปลอดภัยนั้น ในภาพรวมได้มอบหมายให้ พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร.ดูแล
ด้านนายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน เปิดเผยว่า ภายหลังนายทักษิณ ชินวัตร ได้รับการพระราชทานอภัยลดโทษจาก 8 ปี เหลือเพียง 1 ปีไปเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ทำให้สังคมไทยให้ความสนใจกับความเคลื่อนไหวของนายทักษิณหลังจากนี้ โดยเฉพาะการพูดกันอย่างหนาหูเกี่ยวกับการขอพักโทษ ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นจริง สังคมไทยจะกลายเป็นสังคมแห่งดับเบิลสแตนดาร์ดหรือ 2 มาตรฐานที่น่ารังเกียจที่ชัดเจนที่สุด
นายศรีสุวรรณกล่าวว่า แม้ช่องทางการพักโทษจะมีอยู่ 2 ช่องทาง ตามขั้นตอนคือ 1.การรับโทษแล้ว 1 ใน 3 ซึ่งก็จะเข้าเงื่อนไขการเป็นนักโทษชั้นดี สามารถปรับขึ้นได้ตามปกติ หรือขึ้นเป็นในกรณีพิเศษ ซึ่งหากทำตามนี้ ก็จะไปครบในวันที่ 22 ธ.ค. ก็จะเลยวันที่ 13 ต.ค. เลยวันที่ 5 ธ.ค. ส่วนข้อที่ 2 คือ การพักโทษกรณีพิเศษ เช่น สูงวัยอายุเกิน 70 ปี หรือเป็นป่วยหนักมีโรคประจำตัว ก็อาจจะใช้ช่องทางนี้ แต่ถึงแม้จะใช้ช่องทางใดก็เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง เพราะเป็นการใช้อำนาจหรือดุลยพินิจ หรือเลือกปฏิบัติโดยใช้กฎกระทรวงที่ออกโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายในสมัยที่นายสมศักดิ์ เทพสุทินเป็น รมว.ยุติธรรม เพราะมิได้ดำเนินการให้เป็นไปตาม ม.77 ของรัฐธรรมนูญ 2560
น่าจะมีเจตนาที่จะออกมาเพื่อรองรับ น.ช.ทักษิณเป็นการเฉพาะ
จี้นิรโทษกรรมทุกเสื้อสี
"องค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน จึงได้ทำหนังสือด่วนถึงอธิบดีกรมราชทัณฑ์ และ รมว.ยุติธรรม ในฐานะประธานคณะกรรมการราชทัณฑ์ เพื่อขอให้ทบทวนหรือยกเลิกกฎกระทรวงทั้ง 2 ฉบับ รวมทั้งหลักเกณฑ์การพิจารณาพักการลงโทษ พ.ศ.2562 ดังกล่าว ซึ่งอาจมีเจตนาที่ไม่บริสุทธิ์เพียงเพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับนักโทษเทวดาบางคนที่ไม่ยอมเข้าคุกจริงๆ ตามคำพิพากษาของศาล กรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรมจำจะต้องมีการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย ตาม พ.ร.บ.หลักเกณฑ์การประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย พ.ศ.2562 ตามกรอบระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด มีผลกระทบอื่นอันก่อให้เกิดความไม่เป็นธรรมแก่ประชาชน ญาตินักโทษ และหรือนักโทษอีกหลายแสนคนที่อาจต้องป่วยและถูกจำคุกอยู่ในเรือนจำอยู่ในขณะนี้ ซึ่งในที่สุด นายทักษิณจะต้องไม่ถูกพักโทษไม่ว่ากรณีใดๆ ไม่เช่นนั้นคงต้องพึ่งศาลปกครองต่อไป" นายศรีสุวรรณระบุ
ขณะที่ นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า โพสต์เฟซบุ๊กเรียกร้องว่า รัฐบาลเศรษฐาและทุกพรรคในสภาควรเร่งผลักดันการนิรโทษกรรมคดีการแสดงออกทางการเมือง นับตั้งแต่คุณทักษิณเดินทางกลับประเทศไทยในวันที่ 22 สิงหาคม และได้รับการลดโทษเหลือจำคุก 1 ปี ในวันที่ 1 กันยายน และเตรียมเข้าสู่กระบวนการพักโทษหรือได้รับอภัยโทษตามวโรกาสสำคัญต่อไปนั้น จนถึงตอนนี้ มีคนจำนวนมากตั้งคำถามและไม่เห็นด้วยกับกรณีคุณทักษิณ โดยเฉพาะเรื่องมาตรฐานที่เท่าเทียมกัน และการตกลงเจรจาต่างๆ เพียงแต่ว่ามีการแสดงออกมากน้อยต่างกันไป
เพื่อลดทอนการตั้งคำถามเรื่องความไม่เสมอภาค และเพื่อความปรองดองอย่างแท้จริงและเท่าเทียม รัฐบาลเศรษฐา และพรรคการเมืองในสภา ควรเร่งผลักดันให้มีการตราพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมคดีเกี่ยวกับการแสดงออกทางการเมืองของประชาชนทุกฝักฝ่าย ทั้งพันธมิตรฯ นปช. กปปส. และกลุ่มเยาวชน และ “ราษฎร” ตั้งแต่ปี 48 จนถึงปัจจุบัน
"นี่ต่างหากที่จะเป็นก้าวแรกของการก้าวข้ามขัดแย้งที่แท้จริง สร้างความปรองดองสมานฉันท์ และเกิดประโยชน์ตกแก่ประชาชนคนธรรมดา นอกจากนี้ ยังทำให้ประชาชนลดข้อครหาที่มีต่อรัฐบาลเศรษฐา และพรรคเพื่อไทยในประเด็นเกี่ยวกับบ่อเกิดของการตั้งรัฐบาลชุดนี้ได้อีกด้วย" นายปิยบุตรระบุ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ชูศักดิ์ยอมนิกร พรบ.ประชามติ ไม่ใช่กม.การเงิน
“ชูศักดิ์” ลั่นเพื่อไทยเอาแน่ ค้าความปิดปากเอาคืน “ธีรยุทธ” แต่ไม่รู้เมื่อไหร่
ไฟเขียวไร่ละ1พัน10ไร่ ตรึงค่าไฟฟ้าราคาน้ำมัน
ชาวนาเฮ! นบข.ไฟเขียวช่วยไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกิน 10 ไร่ จ่อชงเข้า ครม.สัญจรเชียงใหม่ 29 พ.ย.นี้
อวยทักษิณชนะนายกอบจ.
"ภูมิธรรม" โว พท.ชนะนายก อบจ.อุดรฯ เป็นเรื่องธรรมดา เหตุ ปชช.ยังรัก “ทักษิณ” ชอบผลงานที่ทำมา
กรมที่ดินท้ารฟท.พิสูจน์เขากระโดง
กรมที่ดินยืนยัน ไม่เพิกถอนโฉนดเขากระโดง ยึดตาม กก.สอบสวน มาตรา 61
ตร.เชียงรายรวบ‘สามารถ’ ‘เมีย-ลูก’หมอบุญนอนคุก
"ผบ.ตร." นั่งไม่ติดตั้ง "พล.ต.อ.ธนา" คุมสอบสวนคดี "หมอบุญ"
ม็อบเสื้อเหลืองคืนชีพ ‘สนธิ’นัดบุกทำเนียบฯ2ธค. ‘อ้วน’หวั่นซํ้ารอยปิดเมือง
"ภูมิธรรม" ไม่กังวล "สนธิ" ปลุกม็อบลงถนน เป็นสิทธิตาม รธน.