ซัด‘ก.ก.’เล่นเกมทำสภาล่ม

“เศรษฐา” บอกสภาล่มไม่ควรเกิด “อดิศร” ว่าที่ ปธ.วิปรัฐบาลฉะ “ก้าวไกล” เล่นการเมืองสางแค้น-หวังผลเลือกตั้งซ่อม “สามารถ” แขวะอย่ามัวแต่แต่งกลอน “สนธิญา” ขู่ยื่น ป.ป.ช. สอยจริยธรรม สส.โดดร่ม-นั่งแต่ไม่แสดงตน

เมื่อวันที่ 1 ก.ย. นายเศรษฐา ทวีสิน  นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรล่ม เมื่อวันที่ 31 ส.ค.ว่า ความรับผิดชอบต่อสภาเป็นเรื่องสำคัญที่สุด และในการประชุม สส.สัปดาห์หน้า พรรคเพื่อไทยจะพูดคุยเรื่องนี้กัน เพราะเรื่องนี้ไม่ควรเกิด

นายอดิศร เพียงเกษ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ที่มีข่าวว่าจะนั่งเป็นประธานวิปรัฐบาล กล่าวผ่านรายการกรรมกรข่าวคุยนอกจอ ของนายสรยุทธ สุทัศนะจินดา โดยระบุว่า เมื่อวันที่ 30 ส.ค.ที่ผ่านมา ที่ประชุมสภาไม่ให้เลื่อนญัตติเรื่องประชามติของพรรคก้าวไกลขึ้นมา พรรคก้าวไกลก็เลยใช้วิธีนี้ (ขอนับองค์ประชุม) ในการประชุมสภาครั้งนี้หรือไม่ ซึ่งถือเป็นบทเรียนอย่างยิ่ง และอยากขอโอกาสการทำงานว่า ต่อไปจะไม่มีอย่างนี้เกิดขึ้นทั้งสองฝ่าย เพราะการประชุมสภาเมื่อวันที่ 31 ส.ค. พูดถึงเรื่องความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน เป็นประโยชน์กับประชาชนโดยแท้

“ก่อนที่พรรคก้าวไกลขอให้นับองค์ประชุม ก็ให้ความสำคัญกับญัตติ   กระทั่งมาขอใช้สิทธิ์นี้ ผมได้ยกมือพูดว่าถ้าจะขอให้นับองค์ประชุมลักษณะนี้ เราไม่สามารถร่วมประชุมนับองค์ประชุมได้ พวกผมเลยวอล์กเอาต์ก่อนที่จะมีการลงมติ ฉะนั้นจึงเหลือคะแนนอยู่ที่ 96-98 เป็นคะแนนของฝ่ายค้านดังที่ปรากฏ  ฝ่ายค้านเองก็มาไม่ครบ” นายอดิศร ระบุ

วันเดียวกัน นายอดิศรยังตอบคำถามผู้สื่อข่าวถึงเกมของพรรคก้าวไกลที่พยายามตีรวนว่า ไม่ควรทำ เพราะเป็นความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน ตามประเพณีไม่มีใครมานั่งนับองค์ประชุม คุณใช้จังหวะที่คุณกล่าวตลอดเวลา เอื้อประโยชน์ทางการเมืองของคุณเองเพื่อผลการเลือกตั้งใน จ.ระยองหรือไม่ ไม่ควรจะทำ

เมื่อถามว่า ในอนาคตจะแก้เกมปัญหาองค์ประชุมล่มอย่างไร นายอดิศรกล่าวว่า รอนายกฯ แถลงนโยบายให้มันครบถ้วน และมีวิปรัฐบาลและวิปฝ่ายค้านให้ถูกต้องก่อนตามกฎหมายก่อน เพื่อจับมือและปรึกษาหารือให้สภามันเดินต่อไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ถามต่อว่า ใครจะเป็นประธานวิปรัฐบาล นายอดิศรกล่าวว่า “ใครจะเป็นประธานวิปรัฐบาลนั้น คือผมเอง นายอดิศร เพียงเกษ นี่แหละ”

ทั้งนี้ มีรายงานข่าวแจ้งว่า ภายหลังตรวจสอบดูภาพรวมการแสดงตน และไม่แสดงตน จากการรายงานของกลุ่มงานรายงานการประชุม สำนักงานรายงานการประชุมและชวเลข สำนักงานเลขาธิการสภาฯ ในวันดังกล่าว พบว่า พรรคเพื่อไทย แสดงตน 49 คน ไม่แสดงตน 92 คน, พรรคภูมิใจไทย แสดงตน 9 คน ไม่แสดงตน 62 คน, พรรคพลังประชารัฐ แสดงตน 10 คน ไม่แสดงตน 30 คน, พรรครวมไทยสร้างชาติ แสดงตน 3 คน ไม่แสดงตน 33 คน, พรรคประชาธิปัตย์ แสดงตน 7 คน ไม่แสดงตน 18 คน, พรรคชาติไทยพัฒนา แสดงตน 2 คน ไม่แสดงตน 8 คน, พรรคประชาชาติ แสดงตน 7 คน ไม่แสดงตน 2 คน

พรรคไทยสร้างไทย แสดงตน 2 คน ไม่แสดงตน 4 คน, พรรคชาติพัฒนากล้า ซึ่งมี สส. 2 คน ไม่มาแสดงตนทั้ง 2 คน ขณะที่บรรดาพรรคเล็กที่มี สส.พรรคละ 1 คน มีเพียงพรรคครูไทยเพื่อประชาชน พลังสังคมใหม่ และพรรคใหม่ ที่แสดงตน นอกนั้นไม่แสดงตน

ขณะที่ สส.พรรคก้าวไกล ซึ่งเป็นคนเดินเกมนับองค์ประชุม มี สส.แสดงตนเพียง 4 คน จากจำนวน สส.ทั้งพรรค 149 คน เมื่อดูจากภาพการถ่ายทอดสดการประชุมสภาเมื่อวันที่ 31 ส.ค. พบว่า  สส.พรรคก้าวไกลนั่งกันอยู่หนาตาภายในห้องประชุมสภา โดยตั้งใจไม่แสดงตนเป็นองค์ประชุม มีอาทิ นายปิยรัฐ คงเทพ สส.กทม. ในฐานะผู้ขอเสนอญัตตินับองค์ประชุม, นายวิโรจน์ ลักขณาอดิสร ส.ส.บัญชีรายชื่อ

 นอกจากนี้ ยังพบว่ามี สส.ที่มีชื่อติดโผเป็นรัฐมนตรีของ ครม.เศรษฐา 1 ไม่แสดงตนหลายราย อาทิ นายสุทิน คลังแสง สส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย,   นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว สส.น่าน อดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย, นายไชยา พรหมา สส.หนองบัวลำภู พรรคเพื่อไทย, นายสมศักดิ์ เทพสุทิน สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย, นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย, นายเกรียง กัลป์ตินันท์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย, นายอนุทิน ชาญวีรกูล สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย, นายทรงศักดิ์ ทองศรี สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย, นายชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย, นายอนุชา นาคาศัย สส.ชัยนาท พรรครวมไทยสร้างชาติ, นายวราวุธ ศิลปอาชา สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคพรรคชาติไทยพัฒนา

ด้านนายสามารถ แก้วมีชัย อดีตรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า วันนี้สภาล่ม ไม่ครบองค์ประชุม องค์ประชุมเป็นความรับผิดชอบของฝ่ายรัฐบาล ว่าที่ประธานวิปรัฐบาลคงต้องทำหน้าที่ได้แล้ว อย่ามัวแต่แต่งกลอน

ขณะที่นายสนธิญา สวัสดี ได้ยื่นหนังสือถึงนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ผ่านช่องทางธุรการ โดยขอให้มีการกวดขันการทำงานของ สส. พร้อมกับเปิดเผยว่า จะนำกรณีรายชื่อ สส.ที่ไม่เข้าร่วมประชุมไปรวมกับเรื่องที่เคยยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ไว้ก่อนหน้านี้ ให้ตรวจสอบกรณีสภาล่ม สส.ไม่เข้าร่วมประชุม ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาของ ป.ป.ช. เพราะถือเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ หรือกระทำการผิดจริยธรรมอย่างร้ายแรงของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ทำให้สภาล่ม

นายสนธิญาระบุอีกว่า ส่วนคนที่อยู่ในห้องประชุม แต่ไม่แสดงตน คือแสดงเจตนากระทำผิดละเว้นการปฏิบัติหน้าที่  ซึ่งในประเด็นนี้ตนได้ร้องให้มีการตรวจสอบแล้ว เรื่องนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของ ป.ป.ช. และหากเกิดการประชุมล่มขึ้นอีกครั้ง ตนจะนำรายชื่อ สส.ที่ไม่เข้าร่วมประชุม หรือไม่แสดงตนเป็นองค์ประชุม ส่งไปยัง ป.ป.ช.ให้ตรวจสอบเช่นกัน.