ทนายทักษิณนั่งไม่ติด โร่แจงยิบไร้ชื่อ “พิชิต ทนายถุงขนม” ต่อแถวครอบครัวชินวัตรเข้าเยี่ยม อ้างตัวเองเข้าใจผิด ยันไร้คนนอก มีเพียงลูกหลานและทนาย เผยทำตามระเบียบเคร่งครัดไร้อุปกรณ์สื่อสาร ขณะที่ “วิษณุ” ชี้การขอพระราชทานอภัยโทษยังมาไม่ถึงรัฐบาล ติดแหง็กแปลเอกสารหลักฐานการแพทย์อยู่ที่กระทรวงยุติธรรม ด้าน “ศรีสุวรรณ” ร้องเอาผิดเจ้าหน้าที่รัฐระนาว เลือกปฏิบัตินักโทษ ดูแลเหมือนเทวดา
เมื่อวันพุธ นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความประจำตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เผยถึงกรณีที่มีรายงานข่าวว่า 1 ใน 10 รายชื่อบุคคลที่เข้าเยี่ยมนายทักษิณ ซึ่งได้ถูกแจ้งไว้กับกรมราชทัณฑ์ มีชื่อของ ดร.พิชิต ชื่นบาน บุคคลผู้มีชื่อดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในคณะรัฐมนตรีของนายเศรษฐา ทวีสิน อยู่ด้วย ว่าใน 10 รายชื่อยืนยันว่าไม่มีชื่อของ ดร.พิชิต ชื่นบาน และต้องขออภัยสำนักข่าวหลายสำนักที่เคยได้ให้ข่าวก่อนหน้านี้ว่ามีชื่อของ ดร.พิชิตอยู่ด้วย ซึ่งเกิดจากความเข้าใจผิดของตัวเอง เนื่องจากเห็น ดร.พิชิตได้เดินทางไปรับนายทักษิณที่สนามบินดอนเมือง จึงเข้าใจว่า ดร.พิชิตอยู่ใน 10 รายชื่อดังกล่าว แต่จากการตรวจสอบแล้วไม่พบชื่อแต่อย่างใด
ทนายวิญญัติกล่าวด้วยว่า ขอชี้แจงข้อเท็จจริงเรื่อง 10 บุคคลที่ลงชื่อเข้าเยี่ยมนายทักษิณกับทางกรมราชทัณฑ์ว่า แท้จริงแล้วในจำนวน 10 คนนี้เป็นญาติของนายทักษิณทั้งหมด แบ่งเป็น ลูกของนายทักษิณและคู่สมรส รวม 6 คน ส่วนอีก 4 คนที่เหลือเป็นบรรดาหลานๆ ของนายทักษิณ ซึ่งไม่สามารถเปิดเผยชื่อได้ เนื่องจากยังเป็นเยาวชน ส่วนทนายความนั้นตามระเบียบแล้วไม่จัดรวมอยู่ในจำนวน 10 รายชื่อที่ต้องส่งให้กรมราชทัณฑ์ แต่นายทักษิณได้แต่งตั้งให้ตนและนายนรวิชญ์ หล้าแหล่ง ทนายความอีกคนเป็นที่ปรึกษากฎหมายของนายทักษิณ ดังนั้น รวมทนายความ 2 คนที่สามารถเข้าพบนายทักษิณได้ตามสิทธิ์ของผู้ต้องขัง จึงกล่าวได้ว่าตอนนี้บุคคลที่เข้าเยี่ยมนายทักษิณรวมทั้งสิ้น 12 คน
นายวิญญัติระบุด้วยว่า ขณะนี้นายทักษิณยังคงอยู่ระหว่างการนอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ หากญาติใน 10 รายชื่อคนใดประสงค์เดินทางมาเยี่ยม ก็สามารถเดินทางมาที่โรงพยาบาลได้เลย ไม่ต้องเดินทางไปที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ และเมื่อมาถึงก็ให้ดำเนินการลงชื่อในสมุดเข้าเยี่ยมนายทักษิณที่เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จัดไว้หน้าห้อง จากนั้นเจ้าหน้าที่จะขอทำการตรวจยึดโทรศัพท์และอุปกรณ์สื่อสารทุกชนิดบรรจุไว้ในซองพลาสติกใสก่อนการเข้าเยี่ยมทุกครั้ง นอกจากนี้ในการเข้าเยี่ยมนั้น จะเข้าได้ครั้งละ 1 คน คนละไม่เกิน 30 นาที และ 1 คนสามารถเข้าเยี่ยมได้วันละครั้งเท่านั้น
สำหรับเรื่องการขอพระราชทานอภัยโทษ เป็นไปตามกฎหมายที่ได้ให้สิทธิ์ไว้ ส่วนจะดำเนินการอย่างไรนั้น เป็นเรื่องเฉพาะตัวของนายทักษิณ แต่ในขณะนี้การดำเนินการขอพระราชทานอภัยโทษนั้น เท่าที่ตนเองทราบ อยู่ในระหว่างขั้นตอนที่นายทักษิณกำลังเตรียมการและร่างหนังสือกราบบังคมทูล ส่วนจะมีเนื้อหาในหนังสืออย่างไร หรือจะมีการยื่นหนังสือกราบบังคมทูลขอพระราชทานอภัยโทษเมื่อไร ตนไม่ทราบได้ เป็นดุลพินิจส่วนตัวของนายทักษิณเอง
“ส่วนเรื่องเอกสารประกอบหนังสือกราบบังคมทูลขอพระราชทานอภัยโทษ คงไม่ถึงขนาดเหมือนการเสนอคำฟ้องในชั้นศาลที่ต้องใช้เอกสารจำนวนมาก เพราะตามกฎหมายแล้ว ไม่ได้กำหนดเอกสารอื่นใดเพิ่มเติม แต่โดยหลักคือ ต้องมีหนังสือระบุประเด็นข้อเท็จจริงเพื่อกราบบังคมทูลการขอพระราชทานอภัยโทษและเอกสารระบุตัวตนทางราชการ ส่วนเอกสารอื่นๆ เช่น คำพิพากษา หากกล่าวถึงในหนังสือกราบบังคมทูล ก็ควรจะต้องนำมาแนบประกอบด้วย” นายวิญญัติระบุ ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการยื่นขอพระราชทานอภัยโทษของนายทักษิณว่า ตอนนี้เรื่องยังมาไม่ถึงตนเอง เขาอาจจะยื่นแล้วก็ได้ แต่ยังมาไม่ถึงรัฐบาล ตนเองก็เห็นใจว่าถ้ายื่นแล้ว กระทรวงยุติธรรมก็ต้องตรวจสอบอะไรหลายๆ อย่าง โดยเฉพาะหลักฐานทางการแพทย์ ซึ่งตอนนี้เอกสารที่มีอยู่หนาเป็นปึกเลย และเป็นภาษาอังกฤษทั้งนั้น ก็ต้องไปเดือดร้อนที่จะต้องแปลกันอีก ดังนั้นต้องให้เวลาเขาหน่อย ทั้งนี้ กระทรวงจะต้องแนบเอกสารทางการแพทย์เหล่านี้ โดยเมื่อกระทรวงยุติธรรมพิจารณาเสร็จแล้วจึงจะส่งมาที่รัฐบาล
วันเดียวกัน ที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน ยื่นหนังสือต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน ผ่านนายวทัญญู ทิพยมณฑา รองเลขาธิการผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อขอให้ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้อง ตั้งแต่การรับตัวนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีกลับประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 22 ส.ค.ที่ผ่านมา ว่าปฏิบัติตามระเบียบในการควบคุมผู้ต้องหาหรือไม่ หรือมีการละเว้นเพื่อเอื้อผลประโยชน์ให้แก่ตัวผู้ต้องหา
"การที่นายทักษิณเดินทางกลับยังประเทศไทย และยังเป็นผู้ต้องขังในคดีอาญา ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ทั้งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมราชทัณฑ์ และโรงพยาบาลตำรวจ เป็นต้น ที่มีการปฏิบัติหน้าที่กับนายทักษิณ ตั้งแต่สนามบินนั้น ไม่เหมือนผู้ต้องหาคดีอาญา ทั้งมีการให้นายทักษิณออกมาเดินทักทาย โชว์ตัวกลุ่มคนที่มาให้กำลังใจและทักทายสมาชิกพรรคเพื่อไทย อีกทั้งยังไม่มีการใส่เครื่องพันธนาการร่างกายและควบคุมตัวตามนักโทษทั่วไป และยังอำนวยความสะดวกการเดินทางไปตามสถานที่ต่างๆ ซึ่งผิดวิสัยของการดูแลนักโทษ อีกทั้งยังปฏิบัติเปรียบเสมอเทวดา” นายศรีสุวรรณระบุ
นายศรีสุวรรณกล่าวอีกว่า เมื่อนายทักษิณที่ถูกย้ายตัวจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ของกรมราชทัณฑ์ ไม่ได้ปฏิบัติกับนายทักษิณเหมือนนักโทษคนอื่น ไม่มีการตัดผมหรือสวมใส่เสื้อแบบนักโทษคนอื่น และอยู่ภายในเรือนจำเพียงไม่กี่ชั่วโมง นายทักษิณก็มีอาการป่วยหลายโรคอย่างกะทันหัน และมีการออกมาชี้แจงว่าศักยภาพของโรงพยาบาลราชทัณฑ์ไม่สามารถรักษาได้ จึงต้องส่งตัวรักษายังโรงพยาบาลตำรวจ และยังจัดให้อยู่ในห้องพิเศษ ในชั้น 14 ซึ่งดูเกินสถานะของนักโทษคดีอาญา
นายศรีสุวรรณระบุว่า อีกทั้งยังตั้งข้อสังเกตว่า ที่ผ่านมา น.ส.แพทองธาร ลูกสาวและคนรอบข้าง มีการโพสต์ภาพนายทักษิณว่ามีสุขภาพที่แข็งแรง ขณะที่อยู่ต่างประเทศ แต่เหตุใดทำไมเมื่อกลับมายังประเทศไทยถึงมีอาการป่วยรุนแรง คล้ายกับชายแก่อมโรค ซึ่งเป็นที่เคลือบแคลงใจของสังคม
“การที่มาร้องผู้ตรวจการแผ่นดิน เพราะเป็นหน่วยงานอิสระที่จะสามารถตรวจสอบและหาข้อเท็จจริงจากหน่วยงานดังกล่าวในข้างต้น ว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือหน่วยงานของรัฐมีการปฏิบัติหรือไม่ปฏิบัติเป็นไปตามกฎหมายที่กำหนดไว้หรือไม่ โดยหากผู้ตรวจการแผ่นดิน พบว่าหน่วยงานไม่ปฏิบัติ ขอให้ทำคำเสนอแนะไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ระงับการปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรมหรือเลือกปฏิบัติโดยเร็ว หากหน่วยงานดังกล่าวยังไม่ปฏิบัติตาม ก็ขอให้เสนอไปยังนายกรัฐมนตรีให้รับทราบถึงการปฏิบัติของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง” นายศรีสุวรรณระบุ
นายศรีสุวรรณยังระบุว่า เรื่องดังกล่าวได้ร้องเรียนไปที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้ไต่สวนและวินิจฉัยแล้วว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐทำผิดต่อหน้าที่หรือไม่ ซึ่งเป็นคนละส่วนที่มายื่นกับสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินวันนี้ เนื่องจากการที่ยื่นให้สำนักงาน ป.ป.ช. เพื่อต้องการให้ดำเนินคดีอาญากับเจ้าหน้าที่ของรัฐ ส่วนของผู้ตรวจการแผ่นดิน ต้องการให้ตรวจสอบการปฏิบัตินอกเหนืออำนาจหน้าที่ตามกฎหมายหรือไม่
ด้านนายวทัญญู ทิพยมณฑา รองเลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินที่ออกมารับเรื่องร้องเรียนระบุสั้นๆ ว่า จะนำเรื่องดังกล่าวไปตรวจสอบตามคำร้อง และจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และจะเชิญผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดมาชี้แจงเพื่อข้อเท็จจริง แต่ยังไม่สามารถระบุกรอบเวลาได้ แต่คาดว่าคงไม่ช้า.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ชูศักดิ์ยอมนิกร พรบ.ประชามติ ไม่ใช่กม.การเงิน
“ชูศักดิ์” ลั่นเพื่อไทยเอาแน่ ค้าความปิดปากเอาคืน “ธีรยุทธ” แต่ไม่รู้เมื่อไหร่
ไฟเขียวไร่ละ1พัน10ไร่ ตรึงค่าไฟฟ้าราคาน้ำมัน
ชาวนาเฮ! นบข.ไฟเขียวช่วยไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกิน 10 ไร่ จ่อชงเข้า ครม.สัญจรเชียงใหม่ 29 พ.ย.นี้
อวยทักษิณชนะนายกอบจ.
"ภูมิธรรม" โว พท.ชนะนายก อบจ.อุดรฯ เป็นเรื่องธรรมดา เหตุ ปชช.ยังรัก “ทักษิณ” ชอบผลงานที่ทำมา
กรมที่ดินท้ารฟท.พิสูจน์เขากระโดง
กรมที่ดินยืนยัน ไม่เพิกถอนโฉนดเขากระโดง ยึดตาม กก.สอบสวน มาตรา 61
ตร.เชียงรายรวบ‘สามารถ’ ‘เมีย-ลูก’หมอบุญนอนคุก
"ผบ.ตร." นั่งไม่ติดตั้ง "พล.ต.อ.ธนา" คุมสอบสวนคดี "หมอบุญ"
ม็อบเสื้อเหลืองคืนชีพ ‘สนธิ’นัดบุกทำเนียบฯ2ธค. ‘อ้วน’หวั่นซํ้ารอยปิดเมือง
"ภูมิธรรม" ไม่กังวล "สนธิ" ปลุกม็อบลงถนน เป็นสิทธิตาม รธน.