ไม่สนปัญหาปากท้อง! "ก้าวไกล" ฟิตจัด! ชงเปลี่ยนวาระประชุม เลื่อนญัตติถกคำถามประชามติแก้ รธน.พิจารณาก่อน แต่ฝั่งรัฐบาลค้านแหลก ใช้เสียงข้างมากตีตก ด้าน "ไอลอว์" ทำงานคู่ขนาน ยื่น 2 แสนรายชื่อทำประชามติร่าง รธน.ฉบับใหม่ต่อ กกต.
เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2566 เวลา 09.00 น. ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ เป็นประธานที่ประชุม หลังเปิดให้สมาชิกหารือปัญหาความเดือดร้อนแล้ว นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เสนอที่ประชุมให้เปลี่ยนระเบียบวาระ โดยนำญัตติขอให้สภาพิจารณาเห็นชอบและแจ้งให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) ดำเนินการให้มีการออกเสียงประชามติเพื่อสอบถามความเห็นของประชาชนต่อการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซึ่งถูกบรรจุในเรื่องที่ค้างพิจารณาลำดับที่ 33 ขึ้นมาพิจารณาก่อน ซึ่งจะไม่มีผลกระทบต่อการพิจารณาวาระอื่นๆ ที่กำหนดไว้ในระเบียบวาระ
นายพริษฐ์กล่าวว่า มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่สภาต้องทำให้เกิดความชัดเจน หลังจากที่สังคมถกเถียงในประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งอาจจะใช้เวลาดำเนินการจากวันนี้จนถึงมีรัฐธรรมนูญใหม่ และมีผลบังคับใช้นั้น อาจจะต้องใช้เวลายาวนานอย่างน้อย 2 ปี ซึ่งการเสนอคำถามประชามติเดียวกันที่หลายพรรคการเมืองเคยลงมติเห็นชอบแล้วในสภาชุดที่ผ่านมาเมื่อวันที่ 3 พ.ย. 65 ดังนั้นการเสนอของตนเพื่อยืนยันหลักการของสภาที่เคยลงมติมาแล้วในรอบที่ผ่านมา
“มีความจำเป็นต้องทำให้เกิดความชัดเจน โดยใช้เวทีของสภา เพราะ ครม.ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะทำได้โดยเร็วหรือไม่ แม้จะระบุว่าจะทำเรื่องในนัดแรกที่มีการประชุม และไม่ว่า ครม.จะได้ข้อสรุปตามนั้นจริงหรือไม่ คิดว่าการถกเถียงกันในสภามีความจำเป็น และหากครม.มีความเสี่ยงว่าจะไม่ได้ข้อสรุปโดยเร็วในการประชุมนัดแรก ยิ่งเป็นเหตุผลที่จะใช้สภาในการเดินคู่ขนานและสามารถดำเนินการได้เร็วกว่า ในเมื่อ พ.ร.บ.ประชามติ ปี 2564 มีการอนุญาตให้ทำประชามติได้ แต่หาก ครม.เดินหน้าได้ข้อสรุปโดยเร็วว่าจะจัดทำประชามติหรือไม่ อย่างไร หากเป็นเช่นนั้น เราต้องยิ่งถกในสภาที่มีทุกพรรค ต้องถกเถียงให้ตรงกัน ว่าควรจะทำประชามติ แต่ปีศาจอยู่ในรายละเอียด และรายละเอียดมีความสำคัญมากในการกำหนดชะตากรรมของรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ คือคำถามประชามติที่ควรออกแบบให้ดี” นายพริษฐ์กล่าว
ทั้งนี้ นายอรรถกร ศิริลัทธยากร สส.ฉะเชิงเทรา พรรคพลังประชารัฐ อภิปรายคัดค้านว่า เรื่องที่บรรจุในวาระพิจารณาลำดับก่อนหน้านั้นมีความสำคัญและเร่งด่วนต่อการแก้ปัญหาให้เกษตรกร เช่น ผู้เลี้ยงกุ้ง ซึ่งตนเสนอและบรรจุไว้ในลำดับที่ 3 อย่างไรก็ตาม การเลื่อนระเบียบวาระตนไม่ขัดข้อง หากทุกพรรคการเมืองเห็นพ้องต้องกัน แต่ตนไม่เห็นด้วย และต้องการให้คงระเบียบวาระไว้เช่นเดิม
ขณะที่นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายเพื่อหาทางออกว่า ในวันที่ 31 ส.ค. ทราบว่าจะมีการเสนอข้อหารือเพื่อปรึกษาปัญหาของประชาชนในประเด็นเรื่องสินค้าและผลผลิตทางการเกษตรตกต่ำ ดังนั้น อาจใช้โอกาสเพื่อหารือถึงประเด็นกุ้งร่วมด้วยได้ หากนายอรรถกรรับปากว่าในวันพรุ่งนี้ (31 ส.ค.) จะพิจารณาญัตติเรื่องคำถามประชามติ พรรคก้าวไกลพร้อมถอนญัตติของนายพริษฐ์เพื่อเปลี่ยนระเบียบวาระ
ทำให้นายอรรถกรตอบโต้ว่า ตนไม่สามารถให้คำสัญญาได้ เพราะตัดสินใจเองไม่ได้ หากจะเปลี่ยนวาระ ต้องหารือกัน ส่วนจะสำเร็จหรือไม่ ตนไม่รับรอง และขณะนี้มี สส.หลายคนที่ยื่นญัตติไว้ ดังนั้นอย่าแซงดีกว่า
ทั้งนี้ มี สส.จากพรรคประชาธิปัตย์และพรรคภูมิใจไทยสนับสนุนนายอรรถกร โดยขอให้พิจารณาไปตามระเบียบวาระ ทำให้ต้องใช้การลงมติตัดสิน แม้นายวันมูหะมัดนอร์กดสัญญาณให้แสดงตนแล้ว แต่ยังมีการอภิปรายพาดพิงไปมาระหว่างพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทย รวมถึงพรรครวมไทยสร้างชาติด้วย ซึ่งพรรคก้าวไกลย้ำว่าได้เดินคุยกับพรรคก้าวไกลและพรรครวมไทยสร้างชาติแล้ว ไม่มีใครขัดข้อง
ส่วนนายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม สส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย ขอใช้สิทธิพาดพิงว่า วันนี้อย่าไปคิดว่าพรรคเพื่อไทยไม่ทำอะไร และนายกฯ แจ้งว่าอีก 1-2 สัปดาห์ ครม.จะมีการประชุมนัดแรกแล้วก็จะมาคุยกันเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญ แต่เรื่องความเดือดร้อนของประชาชนสำคัญกว่าการถกเถียง ดังนั้นไม่อยากให้หารือซ้ำซาก และอย่ามาพาดพิงพรรคเพื่อไทย พรรคท่านที่เป็นผู้เจริญแล้วจะทำอะไรก็ทำ แต่ขอนิมนต์อย่ามายุ่งกับเขา”
จากนั้นได้มีการลงมติ โดยผลการลงมติ เสียงข้างมาก 262 เสียง ไม่เห็นด้วยกับการเลื่อนระเบียบวาระ ต่อ 143 เสียง ไม่ลงคะแนน 1 เสียง ทั้งนี้ นายวันมูหะมัดนอร์กล่าวว่า เห็นด้วยกับการเลื่อนหรือไม่เลื่อนระเบียบวาระ แต่ขณะนี้ยังไม่มีคณะกรรมการประสานงาน (วิป) ทำให้ไม่มีการหารือร่วมกัน ทั้งนี้การหารือในห้องประชุมถือว่าทำได้ แต่การใช้เวทีวิปจะทำให้ไม่เสียเวลาที่ประชุม
ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน หรือ iLaw พร้อมด้วยเครือข่าย นำโดยนายยิ่งชีพ อัชฌานนท์ ผู้จัดการ iLaw, น.ส.ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล แกนนำกลุ่มราษฎร และเครือข่ายกลุ่มประชาชนตั้งรัฐธรรมนูญนำรายชื่อประชาชน 212,139 คน ที่ร่วมลงชื่อเสนอคำถามทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่มายื่นต่อ กกต.
โดยตัวแทนเครือข่ายกล่าวว่า เราคาดหวังว่าหลังจากที่ได้ส่งรายชื่อให้ กกต.แล้ว กกต.จะทำงานอย่างรวดเร็วและส่งให้กับ ครม. และเราจะได้ทำประชามติตามคำถามที่เราได้ออกแบบมา นอกจากนี้เรายังเห็นว่าการร่วมลงชื่อครั้งนี้เป็นการแสดงพลังของประชาชนอย่างมหาศาล ตอนแรกเราคิดว่าเป็นไปไม่ได้เลยที่จะได้ 50,000 รายชื่อ ใช้การลงชื่อผ่านระบบออนไลน์ได้ แต่ประชาชนได้แสดงพลังให้เห็นแล้วว่าไม่ได้หายไปไหน คนที่ต้องการประชาธิปไตยยังมีอีกมาก และได้แสดงให้เห็นแล้วผ่านการลงชื่อในครั้งนี้ เราจึงคาดหวังที่จะส่งไม้ต่อให้กับ กกต. ให้ กกต.ร่วมเป็นอีกหนึ่งบทบาทสำคัญเพื่อนำไปสู่ประชาธิปไตยและการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
ด้านนายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. เผยว่า มีเงื่อนเวลาให้ตรวจสอบภายใน 30 วัน แต่เมื่อเป็นความต้องการเราก็จะเร่งดำเนินการตรวจสอบให้เร็วที่สุด ถ้าเอกสารเรียบร้อยก็ไม่นาน ขอให้เอกสารหลักฐานต่างๆ การเข้าชื่อที่ส่งมาให้เรียบร้อย การตรวจสอบไม่ได้นานแม้จะมีถึง 200,000 รายชื่อ ซึ่งต้องตรวจสอบทั้งหมด ไม่เฉพาะแค่ 50,000 รายชื่อตามกฎหมาย โดยการตรวจสอบใช้เลขบัตรประชาชนก็เพียงพอแล้ว และจะพยายามทำให้อยู่ตามกรอบเวลาที่กำหนด.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
กังขาเก็บ‘MOU44’ไว้หาประโยชน์
"สนธิญา" บุกทำเนียบฯ จี้ "นายกฯ-ครม." ยกเลิก MOU 44
สนอง‘พ่อนายกฯ’ คลังแจกเงินหมื่น คนอายุ60ปีขึ้นไป
รมว.คลังรับลูก "ทักษิณ" แจกเงินหมื่นคนอายุ 60 ปีขึ้นไป เผยใช้งบไม่มาก
รฟท.จี้กรมที่ดินทบทวนมติ มท.โบ้ยต้องไปยื่นศาลแพ่ง
"อนุทิน" ลั่นปัญหาเขากระโดงจบในกรม อย่าโยง รมว.มหาดไทย
ตร.รอคำสั่งศาล จ่อตั้งรองผบ.ตร. สอบวินัยบิ๊กโจ๊ก
“บิ๊กต่าย” ขอไม่ก้าวล่วงคำวินิจฉัยศาลปกครองสูงสุด แจงไม่ว่าคำวินิจฉัยจะเป็นอย่างไรพร้อมปฏิบัติตาม
‘แม้ว’โทษม.112 ชงแก้การบังคับใช้
"ทักษิณ" เผยธาตุแท้ อ้างพรรคร่วมรัฐบาลลงสัตยาบันไม่แตะ ม.112 แต่ ม.112
จวกทักษิณลวงโลก! ลืมสัจจะวาจาไม่ยุ่งการเมืองจะกลับมาเลี้ยงหลาน
ฮึกเหิม! "สทร." บอกเห็นมวลชนมาเยอะหัวใจพองโต ซัดพวกอิจฉาหาครอบงำ