กรุงเทพฯ ๐ "ทักษิณ" เริ่มกระบวนการขอพระราชทานอภัยโทษแล้ว ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษฯ เผยครอบครัวขยับสอบถามข้อมูลบ้าง อยู่ในขั้นตอนตรวจสอบและรวบรวมเอกสาร 28 ส.ค.นี้ญาติเข้าเยี่ยมที่ รพ.ตำรวจ ลงชื่อไว้ 10 คน
เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2566 นายนัสที ทองปลาด ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงกรณีญาติที่จะเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 28 ส.ค.นี้ เนื่องจากกักตัวครบกำหนด 5 วันแล้วว่า ญาติสามารถเข้าเยี่ยมได้ที่โรงพยาบาลตำรวจ เนื่องจากตัวนายทักษิณรักษาตัวอยู่ที่นี่ ลักษณะการเข้าเยี่ยมจะขึ้นอยู่ตามสภาพที่ผู้ต้องขังอยู่ โดยจะมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลระหว่างการเข้าเยี่ยม ให้เว้นระยะการเยี่ยมอย่างเหมาะสม ซึ่งการเข้าเยี่ยมที่โรงพยาบาล เป็นกรณีปกติทั่วไปกับนักโทษรายอื่นๆ ที่รักษาตัวอยู่ ญาติสามารถเข้ามาเยี่ยมที่โรงพยาบาลได้
เขาบอกว่า การเข้าเยี่ยมขึ้นอยู่กับระเบียบของกรมราชทัณฑ์ โดยผู้เข้าเยี่ยมต้องเป็นญาติที่ลงทะเบียนไว้ไม่เกิน 10 คน หรือเป็นบุคคลที่ผู้ต้องขังประสงค์ให้เข้าเยี่ยม ตอนนี้ลงทะเบียนครบแล้ว 10 คน การเยี่ยมต้องจองผ่านระบบแอปพลิเคชัน จากนั้นเจ้าหน้าที่จะตรวจสอบตามคุณสมบัติตามที่ลงทะเบียนไว้ ก็จะออกบัตรอนุญาตให้กับผู้เยี่ยม จากนั้นจึงจะเข้าเยี่ยมได้
"ส่วนนี้ได้ประสานกับโรงพยาบาลตำรวจที่เป็นเจ้าของพื้นที่แล้ว ส่วนรายชื่อญาติที่จะเข้ามาเยี่ยมในวันที่ 28 สิงหาคมนี้ ไม่สามารถเปิดเผยได้ เนื่องจากเป็นสิทธิของญาติ"
นายนัสทีกล่าวถึง อาการของนายทักษิณช่วงนี้ยังอยู่ในการดูแลของแพทย์ ส่วนการส่งตัวกลับไปยังโรงพยาบาลกรมราชทัณฑ์นั้น ขึ้นอยู่กับโรงพยาบาล และกรมราชทัณฑ์จะปรึกษาหารือและประเมินอาการ ซึ่งตอนนี้อาการยังอยู่ในเกณฑ์ที่ต้องรักษากับโรงพยาบาลตำรวจ
สำหรับการตั้งข้อสังเกตว่าจะมีการส่งตัวนายทักษิณไปโรงพยาบาลอื่นๆ นั้น ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษฯ ยืนยันว่า ต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์การส่งต่อผู้ต้องขังนั้น เป็นไปตามหลักอยู่แล้ว ต้องมีการพิจารณาอาการเจ็บป่วย ตามระเบียบและอำนาจตามขั้นตอน ตนมีหน้าที่ดูให้เป็นไปตามกฎหมาย หากระเบียบและกฎหมายไม่ให้ ก็ไม่สามารถดำเนินการได้
นายนัสทียังเผยว่า ในเรื่องการขอพระราชทานอภัยโทษนั้น ขณะนี้ทางครอบครัวของนายทักษิณได้มีการติดต่อสอบถามข้อมูลมาบ้างแล้ว ในระหว่างนี้อยู่ในขั้นตอนตรวจสอบและรวบรวมเอกสารเพื่อขออภัยโทษ ซึ่งกรณีการขออภัยโทษนั้น ก็เป็นกรณีทั่วไปที่ผู้ต้องขังทุกรายสามารถขออภัยโทษได้เมื่อเข้าเรือนจำ
ด้านนายนรินท์พงศ์ จินาภักดิ์ นายกสมาคมทนายความแห่งประเทศไทย เเถลงการณ์สมาคมฯ ว่า ตามที่ได้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ กรณีอดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร ได้เดินทางกลับประเทศไทยเมื่อวันที่ 22 สิงหาคมที่ผ่านมาว่าเป็นการเลือกปฏิบัติ และอดีตนายกฯ ทักษิณมีอภิสิทธิ์มากกว่าผู้ถูกจับรายอื่นนั้น
ผมขอเสนอความเห็นทางกฎหมายที่บัญญัติคุ้มครองสิทธิของผู้ถูกจับไว้ ดังนี้
(1) การเดินทางกลับประเทศไทยครั้งนี้ อดีตนายกฯ ทักษิณตัดสินใจเดินทางกลับด้วยตนเอง จึงไม่มีเจตนาจะหลบหนี และมิได้ขัดขวางการจับกุม ดังนั้น การที่เจ้าหน้าที่ตำรวจมิได้ใช้เครื่องพันธนาการจึงเป็นไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 83 วรรคสาม ที่บัญญัติว่า "ถ้าบุคคลซึ่งจะถูกจับขัดขวางหรือพยายามจะหลบหนี ผู้ทำการจับมีอำนาจใช้วิธีหรือการป้องกันทั้งหลายเท่าที่เหมาะสมแก่พฤติการณ์แห่งการจับนั้น"
(2) การที่เจ้าหน้าที่ตำรวจอนุญาตให้อดีตนายกฯ ทักษิณได้พบปะกับญาติและประชาชนที่เดินทางมาต้อนรับ เป็นการปฏิบัติตามมาตรา 83 วรรคสอง ที่บัญญัติว่า "ถ้าผู้ถูกจับมีความประสงค์จะแจ้งให้ญาติหรือผู้ซึ่งตนไว้วางใจทราบถึงการจับกุม ซึ่งไม่เป็นการขัดขวางการจับหรือทำให้เกิดความไม่ปลอดภัย ก็ให้เจ้าพนักงานอนุญาตให้ผู้ถูกจับดำเนินการได้ตามสมควรแก่กรณี"
(3) ในการควบคุมตัวอดีตนายกทักษิณไปศาลและเรือนจำโดยมีขบวนรถยนต์คุ้มกันหลายคันนั้น เป็นไปตามมาตรา 83 วรรคแรก และมาตรการรักษาความปลอดภัย เนื่องจากอดีตนายกฯ ทักษิณเป็นนักการเมืองที่มีทั้งฝ่ายสนับสนุนและฝ่ายต่อต้าน อีกทั้งวันดังกล่าวมีผู้ไปต้อนรับเป็นจำนวนมาก การที่เจ้าหน้าที่ใช้ขบวนรถยนต์รักษาความปลอดภัยหลายคันจึงสมควรแก่กรณี
ดังนั้น การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจและผู้ที่เกี่ยวข้องในการจับอดีตนายกฯ ทักษิณ เพื่อนำตัวไปศาลและเรือนจำ จึงชอบด้วยวิธีการจับตามมาตรา 83 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาทุกประการ มิได้เป็นการเลือกปฏิบัติหรือให้สิทธิแก่อดีตนายกฯ เกินเลยจากที่กฎหมายบัญญัติไว้.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
พรรคส้ม-น้ำเงินโต้เดือด! ทุ่มร้อยล้านซื้อเสียงอบจ.
ปะทะเดือด! "ปชน." โวย สส.ค่ายน้ำเงินขู่กลางห้องประชุมสภาฯ อย่ายุ่งเลือกตั้ง อบจ. "มัลลิกา” ซัดกลับ “ประเสริฐพงษ์”
โปรยยาหอม‘ชายแดนใต้’ อิ๊งค์ประทับใจจะกลับมาอีก
นายกฯ บินชายแดนใต้ อุ่นใจ ผบ.ตร.-ผบ.ทบ.ร่วมวง พร้อมเซลฟีฉ่ำ
‘ผู้มีบารมี’นัดดีลลับกาสิโนที่ฮ่องกง
"นายกฯ" เปิดประชุม รมต.อาเซียนด้านดิจิทัลครั้งที่ 5 ชูนโยบายร่วมมือแก้ปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ ยกระดับเข้มปราบภัยออนไลน์-แก๊งคอลเซ็นเตอร์
การันตี27ม.ค. นัดโอนเงินหมื่น เช็กสิทธิทางรัฐ
“เผ่าภูมิ” การันตี 27 ม.ค. นัดโอนเงิน 10,000 บาท พร้อมกางไทม์ไลน์ 22 ม.ค.
กกพ.ลดค่าไฟฟ้า 17สตางค์/หน่วย คงเหลือ3.98บาท
กกพ.ยกแนวทางลดค่าไฟฟ้า 17 สตางค์ รีดไขมันจากกลุ่ม Adder และ FiT ให้เหลือเท่าอัตราผู้ผลิตไฟฟ้ารายเล็ก
รพ.ตร.ปกป้องแม้ว ส่งเวชระเบียนให้แพทยสภาแค่บางส่วน‘อมร’ย้ำต้องจบเร็ว
รพ.ตำรวจยังยึกยัก ส่งเวชระเบียนรักษา "นักโทษเทวดา" ให้กรรมการสอบแพทยสภา