‘พิธา’โวฝ่ายค้านเชิงรุก วิษณุแย้มไม่ต้องมีผู้นำ!

“ราเมศ” ยัน “ชวน” เป็นเสาหลักประชาธิปัตย์ที่ยึดมั่นความถูกต้อง ทำให้พรรคยั่งยืนถึงปัจจุบัน    “อนุทิน” ย้ำไม่มี 16 สส.ย้ายค่ายมาซบ  ชี้ ภท.นิ่งที่ 71 เสียง “พิธา” รับแล้วเป็นฝ่ายค้านเชิงรุก วิษณุชี้หาก ก.ก.ดื้อแพ่งเก้าอี้ผู้นำฝ่ายค้านตกเป็นของหัวหน้า ปชป. ที่ต้องเป็น สส.

เมื่อวันศุกร์ที่ 25 สิงหาคม ยังคงมีความเคลื่อนไหวของพรรคประชาธิปัตย์   (ปชป.) อย่างต่อเนื่อง หลังการโหวตนายกรัฐมนตรีที่มีความแตกต่างกัน โดยนายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรค ปชป. กล่าวถึงมติที่ประชุมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคว่า มีข้อเท็จจริงที่ไม่ตรงตามความเป็นจริงในหลายประเด็น โดยการประชุม สส.ของพรรคก่อนวันโหวตนายกฯ ในส่วนของนายชวน หลีกภัย ที่ได้แจ้งต่อที่ประชุมและได้บอกเหตุผลความจำเป็นต้องโหวตไม่เห็นชอบ ไม่มีผู้ใดขัดข้อง มติที่ประชุมเป็นไปตามที่โฆษกที่ประชุม สส.คือ น.ส.สุณัฐชา โล่สถาพรพิพิธ ได้ออกมาแถลงผลการประชุมคือ ที่ประชุมมีมติให้งดออกเสียง กรณีของนายชวน จึงไม่ใช่การฝ่าฝืนมติที่ประชุมแต่อย่างใด

“นายชวนอยู่พรรคมานาน เป็นบุคคลที่ยึดมั่นในหลักความถูกต้อง อะไรที่ไม่ถูกต้องนายชวนไม่ทำอยู่แล้ว และแนวคิดของนายชวนในการดำเนินกิจกรรมทางการเมืองของพรรคไทยรักไทย และพรรคเพื่อไทย ท่านได้ต่อสู้มาโดยตลอด ไม่ใช่ความเคียดแค้นส่วนตัว  แต่เป็นเรื่องความถูกผิด เป็นเรื่องของอุดมการณ์พรรค ประชาชนภาคใต้ยังจดจำการเลือกปฏิบัติกับพี่น้องในภาคใต้  การแก้ไขปัญหายาเสพติดที่ไม่ได้ยึดกฎหมายบ้านเมือง เหตุการณ์กรือเซะ  การทุจริตโครงการจำนำข้าว เป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้เห็นว่าอุดมการณ์ในทางการเมืองและความซื่อสัตย์สุจริตมันแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง” นายราเมศกล่าว

นายราเมศกล่าวอีกว่า นายชวนคือเสาหลักของพรรค ปชป. ถ้าไม่มีคนชื่อนายชวน ปชป.ไม่สามารถอยู่อย่างยั่งยืนได้ในวันนี้ และเชื่อว่าทุกคนในพรรคระลึกถึงบุญคุณของนายชวนที่ได้ทำประโยชน์ให้กับพรรคตลอดเวลาที่ผ่านมา คงไม่มีใครคิดขับนายชวนออกจากพรรค วันที่คนของพรรคเพื่อไทยแกล้งยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้ยุบพรรค ปชป. นายชวนคือคนที่ต่อสู้และต่อสู้ด้วยความยากลำบาก จนชนะคดีพรรคไม่ถูกยุบ แนวคิดประสบการณ์ในทางการเมืองคือสิ่งสำคัญที่คนรุ่นหลังจำเป็นต้องเรียนรู้ เพื่อนำหลักการที่ดีไปปรับประยุกต์ใช้นำพาพรรควันข้างหน้า  เชื่อว่าทุกคนยอมรับว่าการเมืองเปลี่ยนไปมาก แต่พรรคมีหลักคิดที่ดี มีสิ่งที่ดีอยู่แล้ว เราทุกคนจะทำอย่างไรที่จะซึมซับสิ่งเหล่านี้เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในวันข้างหน้า

“ขณะนี้ต้องแจ้งพี่น้องประชาชนว่า  พรรค ปชป.ขอประกาศตัวเป็นฝ่ายค้านอย่างเต็มรูปแบบ ทำหน้าที่ตรวจสอบการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาลอย่างตรงไปตรงมา ฝ่ายค้านคงไม่ใช่แค่การตรวจสอบอย่างเดียว แต่จะรวมถึงการทำงานในเชิงรุก คือใช้กลไกของฝ่ายนิติบัญญัติในการผลักดันแก้ปัญหาให้กับประชาชน รวมถึงการยกร่างและการแก้ไขกฎหมายเพื่อให้การขับเคลื่อนในการแก้ปัญหามีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ขณะเดียวกัน นายนราพัฒน์ แก้วทอง รักษาการรองหัวหน้าพรรค ปชป.ดูแลภาคเหนือ พร้อมด้วย น.ส.ผ่องศรี ธาราภูมิ รักษาการกรรมการบริหารพรรค ให้การต้อนรับผู้บริหารและสมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบล เจ้าหน้าที่ ผู้นำท้องถิ่น ต.สะเนียน อ.เมืองฯ  จ.น่าน ที่เดินทางมาเข้าเยี่ยมชมที่ทำการพรรค ปชป. โดยคณะได้เข้าพบและให้กำลังใจนายชวนให้สู้และยืนเคียงข้างประชาชนตลอดไป โดยนายชวนกล่าวขอขอบคุณที่มาเยี่ยมพรรค และได้มอบต้นศรีตรัง 1 ต้นเป็นที่ระลึก

ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ได้เข้าไปตอบคำถามเพจเฟซบุ๊กมณฑานี ตันติสุข นักเขียนและวิทยากรด้านการเงิน โหวตเตอร์พรรค ภท. ในกระแสข่าวเรื่อง 16 สส.พรรค ปชป.ที่โหวตสวนมติพรรค เตรียมเข้าสังกัด ภท.ว่า ขอขอบคุณคุณโจและผู้สนับสนุนพรรค ภท.ทุกท่าน พรรคเราไม่ได้รับการติดต่อใดๆ ในเรื่องนี้ และในช่วงนี้เราก็ได้ยืนยันเสียงของเราว่าเข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมอื่นๆ ด้วยเสียง 71 เสียงที่เรามีอยู่

“สถานการณ์ขณะนี้สำหรับพรรคภูมิใจไทยถือว่านิ่งแล้ว ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ จึงได้แต่ขอเป็นกำลังใจให้ทุกฝ่ายผ่านพ้นปัญหาต่างๆ ไปได้ ในอนาคตยินดีรับฟังความเห็นของทุกท่านในทุกๆ เรื่องเสมอ ขอบพระคุณอีกครั้งในความมั่นใจและกำลังใจที่มอบให้ทั้งผมและพรรคภูมิใจไทย”

จากนั้น โจ มณฑานี ได้โพสต์ตอบกลับว่า “พวกเราทุกคน!!! คุณอนุทิน ชาญวีรกูล มาตอบจดหมายน้อยของพวกเราแล้วค่ะ หัวใจระเบิดออกเป็นสีน้ำเงิน ไม่คาดฝันว่าคุณอนุทินจะอ่านจดหมายน้อย และให้คำตอบที่ชัดเจนมาก ขอบพระคุณจากหัวใจค่ะ และเชื่อว่าคอมเมนต์ เชื่อใจ และชื่นชมคุณอนุทิน จากเสียงบริสุทธิ์ของพวกเราในนี้ จะทำให้คุณอนุทินชื่นใจ มีพลังใจ สร้างพรรคที่ประชาชนภาคภูมิใจ”

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) กล่าวระหว่างลงพื้นที่ช่วยหาเสียงเลือกตั้งซ่อม สส.เขต 3 จ.ระยอง ว่า ถึงพรรคจะเป็นฝ่ายค้าน ก็เป็นฝ่ายค้านเชิงรุกที่ยังมีหลายนโยบายที่สามารถผลักดันได้เพื่อให้ผลประโยชน์อยู่กับประชาชน ยืนยันว่าการทำงานเป็นฝ่ายค้าน คอยตรวจสอบเพื่อให้รัฐบาลทำงานเป็นไปอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรม และปราบการคอร์รัปชันให้ได้มากที่สุด

ด้านนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ  กล่าวถึงกรณีพรรค ก.ก.ไม่ยอมลาออกจากตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 ตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านจะตกไปที่พรรค ปชป.หรือไม่ ว่าก็ต้องตกไปที่พรรค ปชป. เพราะถือว่าเป็นพรรคที่มีเสียงมากที่สุดในฝ่ายค้าน ซึ่งผู้นำฝ่ายค้านไม่ได้เอาเสียงมากอย่างเดียว แต่ต้องไม่มีตำแหน่งรองประธานสภาฯ ก็ถือว่าจะตกไปที่หัวหน้าพรรค ปชป.ไปโดยอัตโนมัติ และหัวหน้าพรรคต้องเป็น สส.

ผู้สื่อข่าวถามว่า รองประธานสภาฯ คนที่ 1 จากพรรคก้าวไกล จะต้องลาออกหรือไม่หากต้องการตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้าน นายวิษณุกล่าวว่า ความจริงตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านก็ไม่มีอำนาจบารมีเท่าไหร่ แต่มีความสำคัญอยู่บ้างในบางเรื่อง เช่น การขอเปิดอภิปรายอะไรบางอย่างที่จะได้พูดเป็นคนแรก ที่สำคัญคืออยู่ในองค์ประกอบสมการสรรหาองค์กรอิสระหลายองค์กร แต่ถ้าไม่มีผู้นำฝ่ายค้านก็ขาดไป 1 เสียง

เมื่อถามว่า หากหัวหน้าพรรค ปชป.ในอนาคตไม่ได้เป็น สส. จะทำอย่างไร นายวิษณุกล่าวว่า ก็เป็นผู้นำฝ่ายค้านไม่ได้ ดังนั้นก็ไม่ต้องมีผู้นำฝ่ายค้าน ไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตาย

เมื่อถามว่า หากไม่มีผู้นำฝ่ายค้านความร่วมมือทำงานของวิป 3 ฝ่ายจะทำอย่างไร นายวิษณุกล่าวว่า ก็ออกมาเป็นฝ่ายรัฐบาล และฝ่ายที่ไม่เป็นรัฐบาลก็คือฝ่ายค้าน และอีกฝ่ายคือ สว.