"จุรินทร์" สั่งตั้ง กก.สอบ 16 สส.งูเห่าแล้ว "เดชอิศม์" นำทีม 20 สส.พันธุ์ใหม่ แจงหนุน "เศรษฐา" เหตุไร้สีเสื้อ เมินรับมรดกความแค้นเก่า อ้างไม่มีมติพรรคปมโหวตนายกฯ "นายหัวชวน” กรีดดิ้นรนเสนอตัวอยากร่วมรัฐบาล บินเจรจาทักษิณแต่เขาไม่เอา ย้ำมติพรรคให้งดออกเสียง ซัด "เดชอิศม์" เคยอยู่พรรคเดียวกับ "ทักษิณ"
ที่รัฐสภา เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม เวลา 09.45 น. กลุ่ม สส.พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) จำนวน 20 คน นำโดยนายเดชอิศม์ ขาวทอง ส.ส.สงขลา และรักษาการรองหัวหน้าพรรค ดูแลภาคใต้ และนายชัยชนะ เดชเดโช ส.ส.นครศรีธรรมราช และรักษาการรองเลขาธิการพรรค แถลงข่าวกรณีโหวตเห็นชอบให้นายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งขัดกับมติพรรคที่ให้งดออกเสียง
นายเดชอิศม์กล่าวว่า ในที่ประชุม สส.พรรค 21 ส.ค. มีความเห็นกรณีการโหวตนายกฯ แบ่งออกเป็น 3 เรื่องคือ 1.ไม่เห็นชอบ โดยบอกว่าเนื่องจากความขัดแย้งในอดีต จึงมี สส.ใหม่โต้แย้งว่าอยากให้แยกหน้าที่ สส.ปัจจุบันกับความแค้นความโกรธออกจากกัน และมีผู้ใหญ่บางคนได้วอล์กเอาต์เดินออกจากองค์ประชุม 2.เห็นชอบ เนื่องจากประเทศมาถึงทางตัน ความเดือดร้อนของประชาชนมีทุกหย่อมหญ้า เกิดสุญญากาศทางการเมืองไม่ได้ และ 3.ในที่ประชุมส่วนมากบอกว่าควรงดออกเสียง เพราะตอนโหวตนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลเป็นนายกฯ พรรคประชาธิปัตย์ก็งดออกเสียง
“หลังจากนั้นหัวหน้าพรรค (จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์) ลุกขึ้นพูดในที่ประชุมว่าอย่าโหวตกันเลย เพราะจริงๆ แล้วเป็นเอกสิทธิ์ของ สส. นั่นคือคำพูดของท่าน และในการประชุมวันนั้นไม่มีการโหวต พวกเราจึงไม่รู้ว่าจะเป็นมติหรือไม่เป็นมติกันแน่ แล้วปิดประชุมไป แต่พอมาวันที่ 22 ส.ค. วันเลือกนายกฯ พวกเรามานั่งฟังการอภิปรายอยู่อีกห้องหนึ่ง ฟังในภาพรวมแล้วเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์รับได้ ซึ่งเรานั่งคุยกันกับ สส.พรรคประมาณ 20 คน เรานั่งดู 3 คนแรกที่โหวตคือ นายจุรินทร์งดออกเสียง นายบัญญัติ บรรทัดฐาน โหวตไม่เห็นชอบ นายชวน หลีกภัย ก็โหวตไม่เห็นชอบ นี่คือสามเสาหลักของประชาธิปัตย์ในเวลานี้ ลงคะแนนก็ไม่เหมือนกันแล้ว พวกเราจึงนั่งคุยกันว่านี่เป็นมติของพรรคหรือไม่ เพราะคำว่ามติพรรคจะขอยกเว้นไม่ได้ มติไปทางใดต้องไปทางนั้น พวกเราจึงมีความเห็นว่าอย่างนี้ก็ไม่ใช่มติพรรค เราจึงมาแยกพิจารณา” นายเดชอิศม์ระบุ
นายเดชอิศม์กล่าวว่า เราเป็นประชาธิปัตย์ยุคใหม่ทั้งหมด ไม่เคยใส่เสื้อเหลือง ไม่เคยใส่เสื้อแดง ไม่เคยมีความขัดแย้ง เราไม่ควรจะมารับมรดกความขัดแย้งต่อจากรุ่นเก่าๆ เราถามกันทุกคน ซึ่งทุกคนมีความเห็นว่าขอให้ชาติเดินไปข้างหน้าได้ เราควรสนับสนุนให้เขาเป็นนายกฯ แต่ตัวพวกเรายังเป็นฝ่ายค้าน นั่นคือเหตุผลที่เราโหวตให้นายเศรษฐา
เมื่อถามว่า แสดงว่าวันนี้ชัดเจนแล้วหรือไม่ว่า ปชป.เป็นฝ่ายค้าน นายเดชอิศม์กล่าวว่า วันนี้เราเป็นฝ่ายค้านเต็มตัว ทั้งตัว สส. และศักดิ์ศรีความเป็น ปชป. เราไม่กระเสือกกระสน กระเหี้ยนกระหือรืออยากไปเป็นรัฐบาล เพราะหลักการร่วมรัฐบาลของ ปชป.ยังเหมือนเดิม คือ 1.เขาต้องเทียบเชิญเรามาก่อน 2.ต้องประชุมร่วมระหว่างกรรมการบริหารพรรคชุดรักษาการกับ สส.และลงมติ
ส่วนที่ลงมติเห็นชอบนายเศรษฐา เป็นการสร้างความเสียหายให้กับพรรค และยังมีเรื่องการไปพบกับพรรคการเมืองอื่นด้วย ซึ่งพรรคอาจจะมีการตั้งกรรมการสอบ ถึงขั้นขับออกจากพรรคนั้น นายเดชอิศม์กล่าวว่า โทษในการไปพบกับใคร พวกตนเป็น สส.รุ่นใหม่ เราพบทุกพรรค เรามีเพื่อนทุกพรรค เพราะเราแยกระหว่างหน้าที่กับความรักความผูกพัน หน้าที่กับความโกรธแค้นชิงชังในอดีต เราแยกออกจากกันโดยเด็ดขาด ถ้าการไปพบทุกพรรคมีความผิด ตนน่าจะโดนประหารชีวิตไปตั้งนานแล้ว เพราะเป็นความผิดมาก เนื่องจากมีความสนิทกับหัวหน้าพรรคการเมืองทุกพรรค แต่พอเข้าในสภาก็อีกหน้าที่หนึ่ง ส่วนตัวก็อีกหน้าที่หนึ่ง
เมื่อถามว่า ต้องการให้พรรคขับออกเพื่อไปอยู่พรรคการเมืองใหม่หรือไม่ นายเดชอิศม์กล่าวว่า การขับออกจากพรรคต้องมี สส.ร่วมกับกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) และเป็นมติ 3 ใน 4 แต่ดูไปดูมา สส.และ กก.บห.ส่วนใหญ่อยู่ตรงนี้หมดแล้ว ไม่รู้ว่าจะขับใครกันแน่ เพราะเสียงส่วนใหญ่อยู่นี่เกือบทั้งหมด ดังนั้นจะขับกันอย่างไร ทั้งนี้ ไม่คิดจะขับใครออกจากพรรค เราพร้อมจะพูดคุยและเจรจา
เมื่อถามย้ำว่า หากเป็นเช่นนี้แล้วจะร่วมงานกันอย่างไร นายเดชอิศม์กล่าวว่า เรายินดีพูดคุยอยู่บนเหตุและผล และความเป็นไปได้ หากนโยบายใหม่ที่ดีๆ แล้วให้พวกเรารับต่อ เรายินดีพบปะกันตลอด แต่เขาไม่พูดคุยกับเรา "เราพร้อมที่จะออกจากความเป็น สส.ของพรรค พรุ่งนี้ มะรืนนี้ยังได้เลย หากเรามีความรู้สึกว่าเราทรยศประชาชน ฉะนั้นไม่ว่าคนใต้หรือคนทั้งประเทศ เราไม่เคยคิดทรยศ" ทั้งนี้พรรคต้องเริ่มต้นจากการประชุมวิสามัญ เพื่อเลือก กก.บห.ชุดใหม่ให้ได้ จึงอยากฝากไปถึงฝ่ายที่ทำให้องค์ประชุมล่มว่าจะทำอย่างไรให้องค์ประชุมครบ
เมื่อถามว่า พูดได้หรือไม่ว่าขณะนี้ปชป.แตกแล้ว นายเดชอิศม์กล่าวว่า ยังไม่ถึงกับแตกหัก อาจจะมีความเห็นยังไม่ตรงกัน ยังมีเวลา และคิดว่าต้องลดทิฐิต้องมารับฟังกัน
ทางด้านนายชวน หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อ และอดีตหัวหน้าพรรค ปชป. กล่าวผ่านรายการ “มุมการเมือง” ทางไทยพีบีเอส ถึงกรณี 16 สส.ปชป. โหวตสวนมติพรรค ด้วยการเห็นชอบนายเศรษฐา ว่า นายเดชอิศม์เป็นผู้ประกาศเองว่า ผู้ใดฝืนมติพรรคจะให้ลาออกจากพรรค ซึ่งเชื่อว่าเขามีเจตนามุ่งมาที่ตน เพราะตนไม่เห็นด้วยกับการให้ ปชป.ร่วมรัฐบาล ซึ่งแตกต่างกับจุดยืนของกลุ่ม 16 สส.ดังกล่าวที่ต้องการร่วมรัฐบาล และในการประชุมพรรคก่อนการโหวตนายกฯ พล.ต.ต.สุรินทร์ ปาลาเร่ สส.สงขลา หนึ่งในกลุ่ม 16 เป็นผู้แจ้งต่อที่ประชุมเองว่า ปชป.จะไม่เข้าร่วมรัฐบาล ก่อนจะมีมติพรรคให้งดออกเสียง แต่เมื่อถึงวันโหวต กลับมี สส.ปชป.ที่โหวตให้นายเศรษฐา ซึ่งไม่รู้ว่ามีการเจรจากันอย่างไร เนื่องจากเป็นการใช้สิทธิ์โหวตภายหลัง
“ความดิ้นรนอยากเป็นรัฐบาล ต้องผ่านพรรค เป็นมติพรรค ไม่ได้เป็นปัญหา อยากร่วมรัฐบาลก็ทำได้ ไม่ใช่แอบไปเจรจาแล้วเขาไม่รับ ในที่ประชุมพรรคผมพูดว่าไม่อายหรือที่ไปเสนอตัว เพราะนายเศรษฐาเคยประกาศแต่แรกว่าจะไม่เชิญปชป.เข้าร่วมรัฐบาล แต่ยังไปติดต่อด้วยตัวเอง ไปเจรจากับนายทักษิณ ชินวัตร ด้วยตัวเอง ซึ่งความดิ้นรนนี้ส่งผลให้ภาพลักษณ์ของพรรคเสียหาย เชื่อว่ามีการเจรจาโดยแกนนำกลุ่มไม่กี่คน ซึ่งมีความดิ้นรนอยากเป็นรัฐมนตรี และอยากเข้าร่วมรัฐบาล" นายชวนระบุ
ต่อมาช่วงค่ำ นายชวนให้สัมภาษณ์อีกครั้งโดยยืนยันว่า ในวันประชุมพรรคมีมติให้งดออกเสียง และไม่มีคน Walk Out แต่ที่ตนออกจากที่ประชุมก่อนเพราะต้องไปร่วมงานศพของนายเพชร โอสถานุเคราะห์ ส่วนข้อเสนอให้ขับ 16 สส. เสียงส่วนใหญ่ออกจากพรรคนั้น เป็นเรื่องของกก.บห.ที่จะต้องตรวจสอบต่อไป
"ต้องยอมรับว่าตอนที่เราสู้กับพรรคเพื่อไทยและนายทักษิณ ชินวัตร นายเดชอิศม์ก็อยู่ในพรรคนั้น เราเรียกร้องความเป็นธรรมว่าคนภาคใต้ถูกกลั่นแกล้ง ฉะนั้นความคิดจึงต่างกันตั้งแต่ต้น เราสู้เพื่อขอความเป็นธรรมให้ภาคใต้ที่ถูกเลือกปฏิบัติ ผมจึงขอทำหน้าที่ ไม่ทรยศต่อคนภาคใต้ "
เมื่อถามว่า พรรคยังไม่แตกใช่หรือไม่ นายชวนกล่าวว่า มันเหลือเท่าไหร่ก็ไม่รู้ ไม่เป็นไร มีกี่คนตนก็อยู่ เว้นแต่ตนถูกขับ อยู่มา 17 สมัย ไม่ใช่ใครทำได้ทุกคน ในการจะชนะด้วยระบบเลือกตั้ง ท่ามกลางการเมืองที่ผันผวนและอิทธิพลนอกรูปแบบ
ที่พรรค ปชป. กลุ่มตัวแทนสาขา สมาชิกพรรค ปชป.ภาคอีสาน เข้ายื่นหนังสือต่อนายจุรินทร์ เพื่อขอให้กรรมการบริหารพรรคมีมติขับกลุ่ม สส.ที่โหวตสวนมติพรรค ให้บุคคลกลุ่มนี้มีโอกาสไปอยู่กับพรรคใหม่ที่เป็นรัฐบาลได้ ซึ่งจะเป็นการจากกันด้วยดี โดยพวกเราซึ่งเป็นตัวแทนจากภาคอีสานกลุ่มหนึ่ง จะขอทำหน้าที่ช่วยกันฟื้นฟู เพื่อรักษาพรรคให้เป็นพรรคที่เป็นทางเลือกให้สังคมต่อไป
ต่อมาเวลา 16.00 น. นายจุรินทร์เปิดเผยว่า ขณะนี้มีผู้ร้องมาขอให้มีมติขับ สส.ที่โหวตสวน ต้องมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบไปตามข้อบังคับพรรค ซึ่งเป็นเรื่องภายใน หัวหน้าพรรคไม่สามารถทำเป็นอย่างอื่นได้ เมื่อมีสมาชิกร้องมา ส่วนกรณีที่นายเดชอิศม์ให้สัมภาษณ์นั้น ไม่ขอให้ความเห็น แต่ทุกอย่างเป็นไปตามที่โฆษกของที่ประชุม สส.ได้ออกมาแถลงหลังการประชุม ต่อไปเป็นหน้าที่ของกรรมการสอบสวนที่จะดำเนินการสอบสวนต่อไป.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
กฤษฎีกาเอกฉันท์โต้งหมดสิทธิ์
กฤษฎีกามติเอกฉันท์ "กิตติรัตน์" ขาดคุณสมบัติ หมดสิทธิ์นั่ง "ประธานบอร์ดแบงก์ชาติ"
อิ๊งค์สนอง‘พ่อแม้ว’ ลุยปราบแก๊งโกงล้างบางมาเฟีย/โต้สนธิปั่นMOU44ลงถนน
"นายกฯ อิ๊งค์" โชว์ภาพแฟ้มกองโตเต็มโต๊ะส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่
เปิดศูนย์ปีใหม่ 10วันอันตราย ดื่ม-ง่วงไม่ขับ
นายกฯ เรียก ผบ.ตร.หารือ ห่วงปีใหม่ ปชช.เดินทางกลับภูมิลำเนาปลอดภัย
30บาทรักษาทุกที่เฟส4 เริ่ม1ม.ค.ลดแออัดรพ.
นายกฯ คิกออฟ 30 บาทรักษาทุกที่ เฟส 4 ครอบคลุมทั่วไทย 1 ม.ค.68
ชงปลดล็อกโซลาร์รูฟท็อป มติกพช.ชะลอซื้อพลังงาน
นายกฯ มอบ "พีระพันธุ์" นั่งหัวโต๊ะถก คกก.นโยบายพลังงาน
กกต.ปลุก‘กปน.’ จับโกงเลือกอบจ. พท.ทุบพรรคส้ม
กกต.ติวเข้มวิทยากรเตรียมพร้อมเลือกตั้ง อบจ. กำชับ 3 ชั่วโมงสุดท้ายก่อนปิดหีบต้องทำให้เกิดความน่าเชื่อถือ