“ทักษิณ” กลับไทยลงเครื่องที่สนามบินดอนเมือง ก้มกราบถวายบังคมพระบรมฉายาลักษณ์ ในหลวง-พระราชินี สวมกอดบุตรทั้ง 3 คน ทักทายขอบคุณแกนนำ พท.-คนเสื้อแดงที่มาต้อนรับ ก่อนถูกนำตัวส่งศาลฎีกาฯ บังคับโทษ 3 คดี นับโทษรวมติดคุก 8 ปี "ราชทัณฑ์" เผย "ทักษิณ" เข้าเรือนจำวันแรกไม่วิตกกังวล พบโรคเพียบ เข้าข่ายเป็นกลุ่มเปราะบางต้องอยู่ในพื้นที่เฝ้าระวัง แยกขังเดี่ยวแดน 7 ชี้ช่องขออภัยโทษได้ทันที ขณะที่แกนนำ พท.รับนายใหญ่กลับจะเป็นกำลังใจในการทำงาน
เมื่อช่วงเช้าวันที่ 22 สิงหาคม นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีหนีคดีทุจริต เดินทางกลับประเทศไทยแล้วด้วยเครื่องบินเจ็ตส่วนตัว ที่ท่าอากาศยานดอนเมือง ก่อนเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และถูกนำไปคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุุงเทพมหานคร
สำหรับบรรยากาศที่ท่าอากาศยานดอนเมือง เวลา 06.30 น. สื่อมวลชนทั้งภายในและต่างประเทศรอทำข่าวจำนวนมาก และระหว่างทางที่ตรงไปยังอาคารที่นายทักษิณลงเครื่องบินเจ็ตส่วนตัว มีกลุ่มเสื้อแดงจำนวนมากซึ่งได้เดินทางมาตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว พร้อมถือป้ายไวนิลระบุว่า “17 ปี ที่รอคอย ยินดีต้อนรับ ดร.ทักษิณ ชินวัตร กลับสู่มาตุภูมิ”, “วันที่รอคอย”, “ยินดีต้อนรับนายกในดวงใจ”
ขณะเดียวกัน เวลา 07.20 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ หนีคดีทุจริตโครงการจำนำข้าว ได้โพสต์ข้อความถึงนายทักษิณ ระบุว่า และแล้ววันที่พี่รอคอยก็มาถึง ตลอดเวลา 17 ปี พี่คงจะรู้สึกโดดเดี่ยว เหงา ทุกข์ และคิดถึงบ้านมาก แต่พี่ก็ต้องอดทน และน้องเชื่อว่าพี่ก็คงใช้เวลาคิดตัดสินใจอยู่นาน แต่สุดท้ายด้วยความคิดถึงครอบครัวและอยากใช้ชีวิตที่ประเทศบ้านเกิดของเรา น้องก็เคารพในการตัดสินใจที่เด็ดเดี่ยวของพี่ครั้งนี้ น้องขอให้พี่โชคดี เดินทางกลับอย่างปลอดภัย ทุกอย่างราบรื่น "พี่ไม่ต้องห่วงน้องนะ น้องจะเข้มแข็ง อดทน และจะดูแลตัวเองแม้อยู่ในต่างที่ ต่างบ้านต่างเมืองคนเดียว เพราะตลอด 6 ปีที่น้องจากบ้านเกิดมา น้องมีพี่คอยดูแลเป็นอย่างดี แต่ก็อดใจหายไม่ได้ เพราะนี้คือครั้งแรกที่เราไม่ได้เดินทางไปด้วยกัน" พร้อมลงภาพคู่กับนายทักษิณ โดยนายทักษิณมีสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส
ต่อมา เวลา 09.24 น. นายทักษิณ พร้อมลูกทั้ง 3 คนได้เดินออกมาบริเวณด้านหน้าอาคารเอ็มเจ็ต โดยไม่มีหลานหลานทั้ง 7 คนออกมาด้วย เพราะต้องรออยู่ภายในอาคาร เนื่องจากยังเป็นเด็กและเยาวชน เมื่อเดินออกมาถึงนายทักษิณได้โค้งคำนับต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี จากนั้นได้นำพวงมาลัยที่ น.ส.พินทองทา ชินวัตร บุตรสาว เป็นผู้ถือถวายบนพาน ก่อนก้มกราบ ด้วยสำนึกพระมหากรุณาธิคุณ
หลังจากนั้น นายทักษิณได้ลุกขึ้นยกมือไหว้มายังกลุ่มแกนนำและสมาชิก พท.ที่มาให้การต้อนรับ พร้อมโบกมือให้มวลชนคนเสื้อแดงที่มารอต้อนรับบริเวณด้านหน้าและด้านข้างอาคารเอ็มเจ็ท และยกมือไหว้สวัสดีทักทายช่างภาพสื่อมวลชนพร้อมกับบุตรทั้งสามคน พร้อมกล่าวว่า “สวัสดี ขอบคุณทุกๆ คน” ก่อนที่จะเดินกลับไปยังมุมที่แกนนำและสมาชิก พท. และไปจับมือทักทายนายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค, นายสมศักดิ์ เทพสุทิน, นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ, นายภูมิธรรม เวชญชัย ก่อนจะโบกมือทักทายมวลชนอีกครั้ง เนื่องจากอยู่ระยะไกล ทำให้กลุ่มมวลชนส่งเสียงโห่ร้องแสดงความยินดีที่ได้เห็นภาพนายทักษิณตัวเป็นๆ กลับมาแล้ว ก่อนที่นายทักษิณจะกลับเข้าไปในอาคารเอ็มเจ็ทเพื่อเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมต่อไป โดยใช้เวลาเพียงประมาณ 2 นาที
ทักษิณกลับเป็นกำลังใจให้ พท.
ด้านนายภูมิธรรมกล่าวว่า นายทักษิณเข้ามาจับมือทักทายและมองคนที่มาต้อนรับ เพราะมีความผูกพัน แต่ไม่ได้พูดอะไรพิเศษ เพราะขณะนี้อยู่ในกระบวนการยุติธรรม พวกเราก็ดีใจ กอดได้กอดไปแล้ว เพราะไม่คิดว่าจะมีวันนี้ พวกเราเป็นห่วงและคิดถึงท่านตลอด พอวันนี้มาถึงก็สุดที่จะกล่าวได้ ตื้นตันใจ
"ท่านก็ต้องเข้าสู่กระบวนการตามกฏหมาย และเชื่อว่าจากความบริสุทธิ์ใจของนายทักษิณในการทำงานที่ผ่านมา ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ทุกคนยังรอคอย และนายทักษิณเป็นทรัพยากรที่มีประโยชน์กับประเทศมาก และสามารถคืนอะไรหลายๆ อย่างให้กับสังคมไทยได้ ทุกอย่างจะไปได้ราบรื่น"
เมื่อถามว่า การที่นายทักษิณกลับมาจะส่งผลอะไรกับ พท.หรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า ที่ส่งผลแน่คือเป็นกำลังใจการทำงานให้กับพวกเราทุกคนเพราะนายทักษิณเป็นบุคลากรที่มีคุณภาพของประเทศไทย เมื่อท่านกลับมาเราก็รู้สึกว่าคนที่มีคุณค่ากับสังคมไม่มีวันตาย วันนี้ถือเป็นวันที่ดีมากๆ ของคนไทยและนักการเมืองทุกฝ่าย เพื่อที่จะเดินหน้าต่อไปเพื่อให้ประเทศผ่านวิกฤตและความขัดแย้งต่างๆ ไปได้ด้วยดี แต่ทั้งนี้คงไม่ได้มีผลอะไรกับการโหวตนายกฯ ส่วนจะสามารถดึงมวลชนที่หันหลังให้เรากลับมาได้หรือไม่นั้น สิ่งที่ พท.ทำวันนี้จะปรากฏชัดให้ประชาชนได้เห็นในอนาคตได้ทราบและเข้าใจ อยากให้สถานการณ์คลี่คลายด้วยตัวมันเอง
ด้านนายสมศักดิ์ เทพสุทิน สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า นายทักษิณมีความรู้ความสามารถ โดยเฉพาะในแง่เศรษฐกิจที่ประเทศกำลังประสบปัญหา เชื่อว่าการกลับมาครั้งนี้จะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อย แต่ด้วยข้อจำกัดที่ต้องอยู่ในสถานที่จองจำ ก็ไม่ทราบว่าจะสามารถจะปรึกษาหารือได้มากน้อยเพียงใด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่นายทักษิณเดินทางมาถึงดอนเมืองด้วยเครื่องบินส่วนตัวแล้ว ได้เข้าพิธีการตรวจคนเข้าเมือง โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองเพื่อถ่ายรูป หลังจากนั้นพิมพ์ลายนิ้วมือ ก่อนที่จะอนุญาตให้เข้าเมือง จากนั้นทางตำรวจสืบสวนตรวจคนเข้าเมืองท่าอากาศยานกรุงเทพฯ ได้อ่านหมายจับ จากนั้นนำตัวส่งให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการตำรวจนครบาล 2 เพื่อนำตัวไปศาลต่อไป
ต่อมาเวลา 10.40 น. ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ต.อ.คมวุฒิ จองบุญวัฒนา ผู้กำกับการด่านตรวจคนเข้าเมือง ท่าอากาศยานกรุงเทพ กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 2 ได้นำบุคคลตามหมายจับมาส่งต่อศาล ผู้รับมอบอำนาจโจทก์ทั้ง 3 คดียืนยันว่า บุคคลที่อยู่ต่อหน้าศาลเป็นจำเลยหรือจำเลยที่ 1 ในคดีทั้งสามคดี โดยจำเลยที่ 1 รับว่าเป็นจำเลยในคดีทั้งสาม
ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตรวจสอบบุคคลที่อยู่ต่อหน้าศาลแล้ว เป็นจำเลยหรือจำเลยที่ 1 ในคดีทั้งสามคดี ดังนี้ 1.คดีหมายเลขดำที่ อม. 3/2551 คดีหมายเลขแดงที่ อม. 4/2551 ระหว่างคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) โดยคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ผู้เข้าเป็นคู่ความแทน โจทก์ นายทักษิณ ชินวัตร จำเลย 2.คดีหมายเลขดำที่ อม. 1/2551 คดีหมายเลขแดงที่ อม. 10/2552 ระหว่าง คตส. โดยคณะกรรมการ ป.ป.ช. ผู้เข้าเป็นคู่ความแทน โจทก์ นายทักษิณ ชินวัตร ที่ 1 กับพวกรวม 47 คน 3.คดีหมายเลขดำที่ อม. 9/2551 คดีหมายเลขแดงที่ อม. 5/2551 ของศาลนี้ ระหว่างอัยการสูงสุด โจทก์ นายทักษิณ ชินวัตร จำเลย
ศาลฎีกานับโทษ 3 คดี 8 ปี
จึงรับตัวจำเลยหรือจำเลยที่ 1 ในคดีทั้งสามคดีดังกล่าวไว้ และศาลได้แจ้งให้จำเลยหรือจำเลยที่ 1 ทราบคำพิพากษาแล้ว โดยคดีหมายเลขดำที่ อม. 3/2551 คดีหมายเลขแดงที่ อม. 4/2551 ลงโทษจำคุก 3 ปี คดีหมายเลขดำที่ อม. 1/2551 คดีหมายเลขแดงที่ อม. 10/2552 ลงโทษจำคุก 2 ปี คำพิพากษาคดีหมายเลขดำที่ อม. 9/2551 คดีหมายเลขแดงที่ อม. 5/2551 ลงโทษจำคุกรวม 5 ปี นับโทษจำคุกของจำเลยต่อจากโทษจำคุกของจำเลยในคดีหมายเลขแดงที่ อม. 4/2551 และต่อจากโทษจำคุกของจำเลยที่ 1 ในคดีหมายเลขแดงที่ อม. 10/2552
ศาลออกหมายจำคุกเมื่อคดีถึงที่สุดในแต่ละคดีแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการนับโทษต่อคดีหมายเลขแดงที่ อม. 4/2551 เเละคดีหมายเลขแดงที่ อม. 10/2552 ศาลฎีกาฯนักการเมืองไม่ได้ให้นับโทษต่อ (คดีที่ 1 = 3 ปี , คดีที่ 2 = 2 ปี นับโทษซ้อนกัน) เเต่ให้นับโทษต่อคดีหมายเลขดำที่ อม. 9/2551 จึงรวมแล้ว จำคุก 3 คดี เป็นระยะเวลา 8 ปี 3+5
เวลา 11.00 น. บรรยากาศบริเวณด้านหน้าประตูเรือนจำกลางคลองเปรม เจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาล สน.ประชาชื่น สน.ทุ่งสองห้อง ได้นำแผงกั้นเหล็กมาขึงเป็นแนวยาวตลอดฝั่งถนนด้านหน้าเรือนจำประมาณ 1 กม. และลวดหนามหีบเพลงติดบริเวณรั้วเรือนจำ และปิดทางเข้า-ออกทุกประตู ไม่อนุญาตให้ผู้เกี่ยวข้องเข้าภายในพื้นที่
ขณะที่กลุ่มมวลชนคนเสื้อแดงเริ่มทยอยอย่างต่อเนื่องเข้ามาสมทบหลังออกจากท่าอากาศยานดอนเมือง เพื่อมารอให้กำลังใจนายทักษิณ พร้อมนำป้ายข้อความต้อนรับท่านทักษิณ ชินวัตร กลับบ้าน
ต่อมาเวลา 11.25 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งแถวรอรับตัวนายทักษิณ โดยมีรถจักรยานยนต์นำขบวน รถจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รถหุ้มเกราะ รถพยาบาล ประมาณ 13-14 คัน ก่อนเลี้ยวเข้าไปภายในเรือนจำ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ปิดประตูรั้วทันที โดยมีมวลชนคนเสื้อแดงให้กำลังใจเป็นจำนวนมาก
หลังจากนั้น เวลา 13.00 น. ที่หน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม, นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์, นายสิทธิ สุธีวงศ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์, นายนัสที ทองปลาด ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร และ นพ.วัฒน์ชัย มิ่งบรรเจิดสุข ผู้อำนวยการทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ร่วมแถลงข่าวผลการรับตัวนายทักษิณ ชินวัตร
โดยนายอายุตม์กล่าวว่า ขั้นตอนหลังจากรับตัวนายทักษิณจากศาลฎีกา กรมราชทัณฑ์ได้ดำเนินการตามนโยบาย 3 ประการ 1.ดูแลเรื่องความปลอดภัยของนายทักษิณ เนื่องจากภายในเรือนจำมีผู้ต้องขังจำนวนมาก 2.การเยี่ยมญาติ เนื่องจากเป็นบุคคลสำคัญ ซึ่งจะจัดเตรียมสถานที่ให้เหมาะสม 3.เนื่องจากนายทักษิณเป็นผู้สูงอายุ ต้องดูแลเรื่องสุขภาพอนามัยเป็นหลัก เพื่อไม่ให้มีการเจ็บป่วย ระหว่างถูกคุมขัง
ด้านนายสิทธิกล่าวว่า สำหรับขั้นตอนการรับตัวผู้ต้องขังใหม่ พิมพ์ลายนิ้วมือ ตรวจสุขภาพ เบื้องต้นพบว่าเป็นกลุ่มเปราะบางอายุเกิน 70 ปี ดูจากประวัติการรักษาพบว่ามีโรคประจำตัวต้องเฝ้าระวังและรักษาอย่างต่อเนื่อง และเบื้องต้นได้แยกขังเดี่ยวอยู่แดน 7 ซึ่งเป็นสถานพยาบาลเฝ้าระวัง 24 ชม. หลังจากกักตัวครบ 10 วันแล้วจะต้องประเมินอาการอีกครั้ง ขึ้นอยู่กับ ผบ.เรือนจำเป็นผู้พิจารณา โดยช่วง 5 วันแรกจะกักขังแบบเข้มข้น เข้าพบได้เพียงทนายความและญาติ ส่วนช่วง 5 วันหลังองค์กรหรือผู้แทนต่างๆ สามารถเข้าเยี่ยมได้
ทั้งนี้ หลังนายทักษิณก้าวสู่เรือนจำได้ใส่เสื้อสีขาว กางเกงสีกรมท่าเข้ม เดินไปจุดทำประวัติ พบอาการยังเป็นปกติ ไม่มีสีหน้ากังวล ส่วนการตัดผมเป็นตามระเบียบ แต่ไม่ถึงต้องกล้อนผม เพราะนายทักษิณเป็นผู้สูงอายุ
ขออภัยโทษได้ทันที
นพ.วัฒน์ชัยกล่าวว่า จากการตรวจสุขภาพพบประวัติ 4 โรค 1.โรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด ต้องทานยาละลายลิ่มเลือด 2.โรคปอด ซึ่งพบว่าเคยเป็นโรคหัวใจอักเสบรุนแรง จากการเคยเป็นโรคโควิด-19 แม้รักษาหายแล้วแต่เป็นผังผืด 3.ความดันโลหิตสูง ต้องรักษาโดยการรับประทานยา 4.ภาวะเสื่อมตามอายุ ซึ่งปัจจุบันนายทักษิณมีอายุ 74 ปี มีภาวะกระดูกสันหลังเสื่อม และมีการกดทับเส้นประสาท ทำให้การเดินทรงตัวผิดปกติ แต่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ จึงเข้าข่ายเป็นกลุ่มเปราะบางจำเป็นต้องอยู่ในพื้นที่เฝ้าระวัง
ด้านนายนัสทีกล่าวว่า กลุ่มเปราะบางจะต้องมีมาตรการตามระเบียบกรมราชทัณฑ์ ต้องมีแดนเพื่อรักษาความปลอดภัย และทำกิจกรรมอื่นๆ ก็เช่นเดียวกับผู้ต้องขังคนอื่น สำหรับขั้นตอนการทำเรื่องอภัยโทษ สามารถยื่นเรื่องได้ทันทีภายหลังเข้าเรือนจำ โดยนายทักษิณหรือญาติยื่นเอกสารให้ทางเรือนจำ จากนั้นคณะกรรมการพิจารณาส่งเรื่องไปยังกรมราชทัณฑ์ และจะพิจารณาก่อนส่งไปยังกระทรวงยุติธรรมเพื่อส่งไปยังนายกรัฐมนตรีลงนามและยื่นถึงสำนักองค์มนตรี โดยยื่นขออภัยโทษเป็นการเฉพาะรายกระบวนการจะเสร็จสิ้นไม่เกิน 2 เดือน
ขณะเดียวกัน นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ และรักษาราชการแทน รมว.ยุติธรรม เดินทางเข้าเรือนจำพิเศษฯ ไปพบกับผู้บัญชาการเรือนจำฯ ก่อนออกมาให้สัมภาษณ์ว่า เข้าไปในเรือนจำวันนี้ในฐานะ รมว.ยุติธรรม และรับรายงานจากเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ไม่ได้เข้าไปพบตัวนายทักษิณ ไม่ได้ย้ำหรือสั่งการอะไรเป็นพิเศษ ส่วนการยื่นขอพระราชทานอภัยโทษ ผู้ต้องขังต้องยื่นเรื่องผ่านพัศดีเรือนจำ ก่อนจะส่งไปกรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม ก่อนส่งให้นายกรัฐมนตรี และสำนักองคมนตรี ซึ่งจะช้าหรือเร็วขึ้นอยู่กับพระบรมราชวินิจฉัย ซึ่งผู้ต้องขังสามารถยื่นเรื่องได้ทันทีที่ได้รับโทษจำคุก"
นายวิษณุยืนยันว่า กระบวนการนี้ไม่มีการช่วยเหลือหรืออำนวยความสะดวกให้กับนายทักษิณ เพราะที่ผ่านมาก็มีผู้ต้องขังยื่นขอพระราชทานอภัยโทษตั้งแต่วันแรกที่เข้าเรือนจำก็มีจำนวนมาก แต่หากการยื่นขอพระราชทานอภัยโทษเร็วไป ก็อาจจะมีผลเสียเรื่องการพรรณนาเหตุผลในการขอพระราชทานอภัยโทษ การเดินทางเข้ามาในเรือนจำในวันนี้เป็นเรื่องปกติ แต่เนื่องจากนายทักษิณเป็นบุคคลสำคัญที่มีความเสี่ยงหลายประการ โดยเฉพาะเรื่องความปลอดภัย จึงต้องเข้ามากำชับด้วยตัวเอง
ขณะที่ "อุ๊งอิ๊ง" น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ลูกสาวของนายทักษิณ โพสต์รูปภาพมวลชนเสื้อแดงที่มารอต้อนรับการกลับมาของอดีตนายกฯ ทักษิณ พร้อมข้อความผ่านอินสตาแกรมส่วนตัว ระบุว่า “ขอขอบคุณทุกๆ คนสำหรับความอบอุ่นที่มอบให้กับคุณพ่อในวันนี้ค่ะ คุณพ่อและพวกเราซาบซึ้งมากค่ะ และคุณพ่อฝากขออภัยที่ไม่ได้ไปเดินทักทายพี่น้องประชาชนใกล้ๆ นะคะ เพราะจะลำบากต่อการจัดการเรื่องความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ค่ะ”
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกฯ กล่าวว่า ตนกับคุณทักษิณอายุเท่ากัน เกิดปีเดียวกัน เดือนเดียวกัน ห่างกัน 19 วัน เราก็ทำงานการเมืองเช่นเดียวกัน เพียงแต่ตนเคารพในระบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เคารพในอำนาจตุลาการ เคารพในระบบศาลยุติธรรม คุณทักษิณคิดถูกแล้วที่ตัดสินใจกลับมาประเทศไทย และเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ตนไม่มีความโกรธเคืองชิงชังเป็นการส่วนตัว
"เราเห็นสถานการณ์ของประเทศในช่วงนี้ มองว่าทุกฝ่ายพยายามมองโลกในแง่ดี มองสถานการณ์ตามความเป็นจริง ส่วนความเป็นจริงอะไรจะเกิดขึ้นเป็นหน้าที่ของพวกเราคนไทยที่ต้องแก้ไข ถ้าคุณทักษิณมาแล้วระบอบทักษิณฟื้นคืนชีพขึ้นมาอีก คงจะมีประชาชนที่ออกมาทำหน้าที่ เหมือนที่ผมทำก่อนหน้านี้" นายสุเทพกล่าว.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
แฉระบบเด็กฝาก ทำลายองค์กรตร. ดับฝัน‘ดาวฤกษ์’
เช็ก 41 รายชื่อแต่งตั้งนายพลสีกากี ระดับรอง ผบ.ตร.-ผบช.
ยธ.เมินแจงกมธ. ปมนักโทษเทวดา รพ.ตำรวจชั้น14
ชั้น 14 น่าพิศวง "โรม" กวักมือเรียก “ทักษิณ” ไปสภา เข้าแจง กมธ.มั่นคงฯ
แจกเฟส2เอื้อเลือกอบจ. เตือนร้องถอดถอนครม.
นายกฯ โชว์วิชั่น Forbes ยันไทยสงบ สันติ หวังแม้รัฐบาลเปลี่ยน
ฟ้อง9บิ๊กมท.ทุจริตที่เขากระโดง
เรื่องถึงศาล "ณฐพร" ฟ้องกราวรูด "บิ๊ก ขรก.มหาดไทย"
ลุ้นศาลรับคดีล้มล้าง ตุลาการถก6ประเด็น‘ทักษิณ-พท.’/ดันแก้ประชามติไม่รอ180วัน
"ทักษิณ-พท." ระทึก! 9 ตุลาการศาล รธน.ยืนยันนัดประชุมวาระพิเศษ 22 พ.ย.นี้
'เทพไท' วิเคราะห์ชัดๆ 'ทักษิณ-อุ๊งอิ๊งค์' ใครคือนายกฯตัวจริง
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช