เอกชนขานรับ "เศรษฐา" นายกฯ คนที่ 30 ขอเลือกคนเก่ง-ดีนั่งขุนพลเศรษฐกิจ ทำงานร่วมกันเป็นทีม มั่นใจรัฐบาลใหม่ดันจีดีพีโตเกิน 3% พร้อมชง 3 ประเด็นเร่งด่วนดำเนินการทันทีในช่วง 100 วันแรก ชี้ “ทักษิณ” กลับไทยก้าวสำคัญเรื่องปรองดอง
เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยภายหลังรัฐสภามีมติเห็นชอบให้ นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ว่า เป็นเรื่องน่ายินดีที่การเลือกนายกฯ ดำเนินการสำเร็จจนเป็นที่เรียบร้อย เป็นไปตามความต้องการของหลายฝ่ายที่ต้องการให้ประเทศไทยมีรัฐบาลชุดใหม่เร็วที่สุด เพื่อเข้าสู่โหมดการเดินหน้าเศรษฐกิจและแก้ไขปัญหาต่างๆ โดยหลังจากนี้คงเป็นไปตามกระบวนการทางการเมืองภายใต้รัฐธรรมนูญที่จะต้องมีการฟอร์มคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่ ซึ่งต้องติดตามว่าจะมีบุคคลใดมาประกอบเป็น ครม. โดยภาคเอกชนหวังว่าผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีและตำแหน่งต่างๆ จะมีการพิจารณาบุคคลที่มีความรู้ ความสามารถ เป็นผู้เชี่ยวชาญและเหมาะสมในแต่ละด้านอย่างแท้จริง
สำหรับประเด็นข้อเร่งด่วนที่หอการค้าฯ ต้องการส่งสัญญาณถึงรัฐบาลใหม่เพื่อให้เร่งดำเนินการทันทีในช่วง 100 วันแรกของการรับตำแหน่ง ได้แก่ 1.การแก้ไขปัญหาปากท้องของประชาชน ผ่านนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ นโยบายลดค่าครองชีพให้แก่ประชาชน และลดต้นทุนภาคเอกชน ทั้งค่าน้ำมันเชื้อเพลิง ค่าไฟฟ้า ที่ยังอยู่ในระดับสูง และปัญหาที่กระทบต่อการแข่งขันและการส่งออกของไทย รวมทั้งการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของผู้ประกอบการ 2.เร่งเสริมความโดดเด่นภาคการท่องเที่ยวที่เป็นเครื่องยนต์หลักของเศรษฐกิจไทยในไตรมาสสุดท้าย และถือเป็นช่วงฤดูท่องเที่ยว 3.เร่งเบิกจ่ายงบประมาณที่ยังค้างท่ออยู่ และจัดทำงบประมาณรายจ่าย 2567 ให้เกิดความต่อเนื่องในการขับเคลื่อนแผนงานต่างๆ ทั่วประเทศ ตลอดจนเร่งสร้างความเชื่อมั่นนักลงทุน ทั้งนี้ หอการค้าไทยได้มีการหารือกับคณะกรรมการและสมาชิกถึง 3 ประเด็นข้างต้น เพื่อนำเสนอรัฐบาลชุดใหม่พิจารณาดำเนินการทันที
นอกจากนี้ หอการค้าไทยมั่นใจว่าหากรัฐบาลชุดใหม่เข้ามาบริหารประเทศ จะมีการเน้นนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างจริงจังและตรงจุด รวมถึงดำเนินการตาม 3 ประเด็นเร่งด่วนตามข้อเสนอของหอการค้าไทย ซึ่งจะช่วยให้เศรษฐกิจไทยภาพรวมสามารถเติบโตตามเป้าหมายได้เกิน 3.0%
ด้านนายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า การเสนอชื่อนายเศรษฐาเป็นนายกฯ เป็นเรื่้องพรรคการเมืองมีมติร่วมกัน สมการดังกล่าวเหล่านี้เป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย รวมถึง สว. ซึ่งจะทำให้เกิดการจัดตั้งรัฐบาลขึ้นมาได้ ภาคเอกชนต้องการฝากไปว่า ให้ช่วยพิจารณากระทรวงหลักทางเศรษฐกิจ รองนายกรัฐมนตรีทางด้านเศรษฐกิจที่จะต้องทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดในรูปแบบทีมเดียวกัน ไม่ใช่คนละทีม หรือต่างคนต่างทำ ต้องเลือกทั้งคนเก่ง คนดีที่สังคมยอมรับในฝีมือ ยิ่งหากมีประสบการณ์ดีด้วยยิ่งจะดีมาก รวมถึงทำงานกันได้อย่างเข้าขา และสร้างความเชื่อมั่น เมื่อประกาศออกมาเป็นที่พอใจของประชาชน โดยเมื่อความมั่นใจกลับมาจะเป็นจุดเริ่มต้นของการฟื้นฟู และพัฒนาประเทศในทุกระดับร่วมกัน
นายเกรียงไกรยังกล่าวถึงการกลับมาประเทศไทยของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีว่า การกลับมาของนายทักษิณถือเป็นสัญลักษณ์ หรือก้าวที่สำคัญของความปรองดองที่พูดกันมาตลอด เนื่องจากไทยอยู่บนท่ามกลางความขัดแย้งและการแบ่งพรรคแบ่งขั้วมานานหลายสิบปี ภาคเอกชนเองมีความยินดีที่ได้เห็นความปรองดองเกิดขึ้น โดยมุ่งหวังให้เกิดการช่วยกันขับเคลื่อนประเทศ เดินหน้าเศรษฐกิจ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
กฤษฎีกาเอกฉันท์โต้งหมดสิทธิ์
กฤษฎีกามติเอกฉันท์ "กิตติรัตน์" ขาดคุณสมบัติ หมดสิทธิ์นั่ง "ประธานบอร์ดแบงก์ชาติ"
อิ๊งค์สนอง‘พ่อแม้ว’ ลุยปราบแก๊งโกงล้างบางมาเฟีย/โต้สนธิปั่นMOU44ลงถนน
"นายกฯ อิ๊งค์" โชว์ภาพแฟ้มกองโตเต็มโต๊ะส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่
เปิดศูนย์ปีใหม่ 10วันอันตราย ดื่ม-ง่วงไม่ขับ
นายกฯ เรียก ผบ.ตร.หารือ ห่วงปีใหม่ ปชช.เดินทางกลับภูมิลำเนาปลอดภัย
30บาทรักษาทุกที่เฟส4 เริ่ม1ม.ค.ลดแออัดรพ.
นายกฯ คิกออฟ 30 บาทรักษาทุกที่ เฟส 4 ครอบคลุมทั่วไทย 1 ม.ค.68
ชงปลดล็อกโซลาร์รูฟท็อป มติกพช.ชะลอซื้อพลังงาน
นายกฯ มอบ "พีระพันธุ์" นั่งหัวโต๊ะถก คกก.นโยบายพลังงาน
กกต.ปลุก‘กปน.’ จับโกงเลือกอบจ. พท.ทุบพรรคส้ม
กกต.ติวเข้มวิทยากรเตรียมพร้อมเลือกตั้ง อบจ. กำชับ 3 ชั่วโมงสุดท้ายก่อนปิดหีบต้องทำให้เกิดความน่าเชื่อถือ