ปลุกปชช.ร่วมชำเรารธน. สว.แฉจ้องให้สส.ล้วงงบฯ

ยังไม่ทันได้เป็นรัฐบาล เพื่อไทยรีบปลุกประชาชนเตรียมตัว ร่วมกันชำเรารัฐธรรมนูญ 60 เชิญชวนทำประชามติ อ้างตั้ง ส.ส.ร.จัดทำ "รัฐธรรมนูญฉบับประชาชน" ปิดฉากเครื่องมือสืบทอดอำนาจ คสช. ขณะที่ "สว.สมชาย" แฉเหตุใดบางคนอยากแก้ไขหรือยกเลิกมาตรา 144 หวังให้ สส.ล้วงงบประมาณแผ่นดิน

เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2566 นางสาวตรีชฎา ศรีธาดา รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ประชาชนคนไทยทั้งประเทศที่มีสิทธิเลือกตั้งเตรียมตัวไปใช้สิทธิออกเสียงประชามติ ว่าจะให้ความเห็นชอบหรือไม่กับการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) เพื่อใช้แทนฉบับปัจจุบันที่ใช้บังคับมาตั้งแต่วันที่ 6 เมษายน 2560 ซึ่งมั่นใจว่าเสียงส่วนใหญ่จะเห็นชอบ ทั้งนี้ พรรคเพื่่อไทยได้ออกแถลงการณ์เมื่อวันที่ 2 และ 6 สิงหาคมที่ผ่านมาว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ครั้งแรก ซึ่งพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจะมีมติ ครม.ให้ทำประชามติโดยกระบวนการจัดตั้ง ส.ส.ร. พรรคเพื่อไทยจะไม่บิดพลิ้วโอ้เอ้ประวิงเวลา เพราะตระหนักดีว่าคนไทยที่รักประชาธิปไตยกำลังรอคอยอยู่ 

เธอบอกว่า สภาสมัยที่ผ่านมา แม้พรรคเพื่อไทยและพรรคต่างๆ จะพยายามผลักดันให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2560 เพื่อปิดสวิตช์ สว.แต่ก็ไม่สำเร็จ พยายามจะให้มี ส.ส.ร.มาจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ก็ไม่สำเร็จเช่นกัน เมื่อย้อนหลังกลับไปจะพบว่า พรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกลได้เสนอญัตติให้ลงประชามติเพื่อนำไปสู่การมี ส.ส.ร.มาทำรัฐธรรมนูญใหม่ สภาผู้แทนราษฎรมีมติเห็นชอบ แต่เมื่อไปถึงวุฒิสภา วุฒิสภาได้ตั้่งคณะกรรมาธิการไปศึกษาก่อน เวลาผ่านไปโดยเปล่าประโยชน์ เพราะเมื่อศึกษาเสร็จ วุฒิสภาได้ลงมติไม่เห็นชอบให้ทำประชามติ กระบวนการจึงถูกตัดตอนไปไม่ถึง ครม.ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่จะมีมติเห็นชอบให้ดำเนินการจัดทำประชามติ อีกทั้งศาลรัฐธรรมนูญก็มีคำวินิจฉัยให้ออกเสียงประชามติ 2 ครั้ง หากจะแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญในลักษณะจัดทำฉบับใหม่ คือครั้งแรกก่อนจะมี ส.ส.ร.มาจัดทำ กับเมื่อ ส.ส.ร.จัดทำเสร็จแล้วให้ลงประชามติอีกครั้ง หากเสียงส่วนใหญ่ของประชาชนเห็นชอบถึงจะนำร่างรัฐธรรมนูญขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายพระมหากษัตริย์เพื่อทรงลงพระปรมาภิไธยและประกาศใช้

 รองโฆษกพรรคเพื่อไทยกล่าวว่า ด่านสำคัญที่พรรคเพื่อไทยจะต้องฝ่าข้ามไปให้ได้ คือการประสานและร่วมมือกับทุกพรรคทุกฝ่าย โดยเฉพาะกับวุฒิสภาในการแก้ไขรัฐธรรมนููญ มาตรา 256 เพื่อให้กำเนิด ส.ส.ร. จะมีที่มาอย่างไร จะให้มาจากการเลือกตั้งของประชาชนทั้่งหมดหรือไม่ องค์ประกอบ คุณสมบัติ จำนวน อำนาจหน้าที่ ระยะเวลาการจัดทำรัฐธรรมนูญ และเรื่องอื่นๆ อาจจะดูง่ายดาย แต่เอาเข้าจจริงอาจไม่ง่ายดังที่คิด เพราะการเมืองและอำนาจระยะเปลี่ยนผ่านกรณีการโหวตนายกฯ และการฟอร์มรัฐบาล ก็เป็นที่ประจักษ์แล้วว่ามีความยากลำบากอย่างยิ่ง อีกทั้่งรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์เคยกำหนดไว้เป็นโนบายเร่งด่วนว่าจะแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตย แต่ผ่านไป 4 ปีก็ไม่ขับเคลื่อนให้เป็นจริง ทั้งๆ ที่มีการเคลื่อนไหวกดดันของหลายฝ่ายก็ไม่เป็นผล ดังนั้นการจะทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ให้สำเร็จ พรรคเพื่อไทยจะต้องพยายามเต็มที่ โดยจะส่งเสริมให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม เพื่อมิให้มีกลไกอำนาจใดมาเป็นอุปสรรคขัดขวาง

นางสาวตรีชฎากล่าวว่า รัฐธรรมนูญฉบับ 2540 ที่ร่างโดย ส.ส.ร.เป็นแบบอย่างในหลายๆ เรื่อง โดยเฉพาะการมีส่วนร่วมของประชาชนในกระบวนการร่างบทบัญญัติต่างๆ ก็เป็นที่ยอมรับ จัดเป็นรัฐธรรมนูญที่ดีที่สุดฉบับหนึ่ง แต่ใช้ได้เพียง 8 ปี 11 เดือนก็ถูกฉีกโดยการรัฐประหารเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 ต่อมาประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับ 2550 หลังจากใช้มาได้ 6 ปี 9 เดือน ก็ถูก คสช.ฉีกทิ้งในการก่อรัฐประหารเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 ปัจจุบันรัฐธรรมนูญฉบับ 2560 จัดทำโดยคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ นายมีชัย ฤชุพันธุ์ เป็นประธาน ประกาศใช้วันที่ 6 เมษายน 2560 ถึงวันนี้เป็นเวลา 6 ปี 5 เดือน นับว่านานพอสมควรแล้ว ดังนั้นจะต้องเร่งให้การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เสร็จสิ้นโดยไม่ชักช้า 

 “พรรคเพื่อไทยจะไม่ทำให้ผิดหวัง ขอยืนยันเจตนารมณ์อย่างแน่วแน่ตามแถลงการณ์และการหาเสียง ซึ่งกำหนดเป็นนโยบายพรรคไว้ชัดเจน ที่ประกาศว่าจะแก้รัฐธรรมนูญ ผลักดันให้ประเทศเป็นประชาธิปไตย ขจัดการสืบทอดอำนาจเผด็จการ สร้างความเป็นธรรมให้ประชาชน การสืบทอดอำนาจจะต้องถูกปิดฉากลงเสียที ขอเชิญชวนทุกพรรคทุกฝ่ายมาร่วมกันสร้างประวัติศาสตร์การเมืองหน้าใหม่เพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศร่วมกัน” รองโฆษกพรรคเพื่อไทยกล่าวย้ำ

ด้านนายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) โพสต์เฟซบุ๊กหัวข้อ "รัฐธรรมนูญปราบโกงที่ใครบางคนอยากล้มแล้วร่างใหม่?” ระบุว่า EP.1 มาตรา 144 พ.ร.บ.งบประมาณที่มีข้อจำกัดห้าม สส. สว. มีส่วนได้เสีย  มาตรา 144 ถือเป็นหนึ่งในมาตราหลักในรัฐธรรมนูญ 2560 ที่มีหลายฝ่ายอาจอยากแก้ไขมานาน แต่ด้วยเกรงถูกกล่าวหาว่าเป็นการแก้ไขเพื่อประโยชน์ส่วนตน และถูกกล่าวหาดำเนินคดีได้ จึงเป็นอุปสรรคกับบางพวกบางฝ่ายจนถึงวันนี้ เพราะมีมาตราควบคุมงบประมาณแผ่นดินที่ทำให้ชัดเจนเข้มข้นและมีบทลงโทษที่รุนแรง สมดังฉายา "รัฐธรรมนูญปราบโกง” มีที่มาจากคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ เขียนปรับปรุงขึ้นจากรัฐธรรมนูญ 2540 และ 2550 ปรากฏบันทึกไว้ในความมุ่งหมายและคำอธิบายประกอบรัฐธรรมนูญ  

ขอสรุปว่าทำไมบางคนจึงอยากแก้ไขหรือยกเลิกมาตรา 144 เพื่อความเข้าใจง่ายๆ ดังนี้ 1.เพื่อห้ามไม่ให้ สส. สว. หรือ กมธ.แปรญัตติหรือมีส่วนในการใช้งบประมาณไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม ป้องกันการก้าวก่ายหน้าที่ฝ่ายบริหาร ควบคุมการใช้จ่ายงบให้คุ้มค่า มีประสิทธิภาพและตรงตามความจำเป็นของประชาชน ป้องกันการแปรญัตติงบไปเพื่อหาเสียงหรืออาจเกิดทุจริตเหมือนในอดีต 2.กำหนดให้ศาลรัฐธรรมนูญเป็นผู้วินิจฉัยการกระทำดังกล่าวให้แล้วเสร็จภายใน 15 วัน โดยให้ สส. สว. 1 ใน 10 ของแต่ละสภาตรวจสอบกันเอง ด้วยการยื่นร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญได้ 4.กำหนดให้ ป.ป.ช.มีอำนาจสอบสวนในทางลับ ปกปิดผู้แจ้งเบาะแส และหากมีมูลให้ ป.ป.ช.ยื่นร้องส่งศาลรัฐธรรมนูญ 5.กำหนดบทลงโทษ สส. สว.ที่กระทำผิดให้สิ้นสุดสมาชิกภาพ และเพิกถอนสิทธิรับสมัครเลือกตั้งนับแต่วันที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัย 6.กำหนดบทลงโทษคณะรัฐมนตรี ให้พ้นตำแหน่งทั้งคณะหรือบางส่วน ถ้าเป็นผู้กระทำการหรืออนุมัติให้กระทำการ หรือมิได้ห้ามการกระทำนั้น 7.เพิ่มบทคุ้มกันเจ้าหน้าที่รัฐผู้จัดทำโครงการที่สุจริตไม่ต้องรับผิด ถ้าได้แจ้งหนังสือต่อ ป.ป.ช.หรือบันทึกโต้แย้งไว้ 8.กำหนดอายุความ 20 ปีในการเรียกคืนเงินชดใช้ พร้อมดอกเบี้ยนับแต่วันที่จัดสรรงบประมาณนั้น

เหตุผลและข้อมูลประกอบนี้คงเพียงพอที่ประชาชนไทยจะได้ช่วยกันพิจารณาว่า “จะคงความในมาตรา 144 เพื่อป้องกันการรั่วไหล พ.ร.บ.งบประมาณแผ่นดินนี้ไว้ หรือจะปล่อยให้เขาเร่งทำประชามติให้ ส.ส.ร.ไปร่างรัฐธรรมนูญกันใหม่”

ขณะที่ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า “ผมไม่สบายใจ ที่เห็นไอลอว์ และ NGO ซึ่งรับเงินต่างชาติ มาวุ่นวายกับการแก้รัฐธรรมนูญไทย แก้ได้ทุกหมวด ทุกมาตรา ทั้งฉบับ”.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'เศรษฐา' อย่าสับสน! โพลวัดผลงาน ไม่ใช่เรตติ้งนายกฯ

นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า อย่าสับสน !!! ระหว่างผลงาน กับการเลือกนายกฯ คนต่อไป