ผสมพันธุ์พรรค2ลุง ‘อิ๊งค์’แจ้ง‘พิธา’ดึงพปชร.ร่วม ‘สมศักดิ์’ดีลรทสช.มายกก๊วน

"เพื่อไทย" ชื่นมื่น แถลงจับมือ "ชทพ." ร่วมตั้งรัฐบาลอีกพรรค ย้ำช่วยกันฝ่าวิกฤตประเทศ "ภูมิธรรม" ย้ำคุยก้าวไกลไม่เกี่ยวร่วม รบ. "สมศักดิ์" รับคุย "ธนกร-อนุชา" แต่ไม่ได้ชวนเป็นงูเห่า แค่ช่วยดีลพรรคร่วมยกมือ สะพัด! "อุ๊งอิ๊ง" เคลียร์ใจ "พิธา" แจ้งดึง "พปชร." เสริมองคาพยพ ดัน "เศรษฐา" นายกฯ "ไผ่" รับสัญญาณ "บิ๊กป้อม" โหวตนายกฯ พท.อ้างช่วยชาติไม่เกี่ยวเป็นรัฐบาล "ปิยบุตร" จี้ "ก.ก." ประกาศเป็นฝ่ายค้าน บอกเขารวมหัวไม่เอา ยื้อไปก็ไม่มีประโยชน์ "สว.วันชัย" เชื่อโหวตนายกฯ รอบนี้ผ่านฉลุย

ที่รัฐสภา วันที่ 10 ส.ค. เวลา 10.00 น. พรรคเพื่อไทย (พท.) นำโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว สส.น่าน และหัวหน้าพรรค, นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรค, นายประเสริฐ จันทรรวงทอง สส.บัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรค พร้อมด้วยนายวราวุธ ศิลปอาชา สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) แถลงข่าวร่วมกันจัดตั้งรัฐบาล

นพ.ชลน่านอ่านแถลงการณ์ว่า พรรค พท.ได้รวบรวมเสียงในการจัดตั้งรัฐบาลเพิ่มเติมในวันนี้ โดยได้รับการสนับสนุนจากพรรค ชทพ.ที่ตอบรับคำเชิญ ทั้งนี้ สถานการณ์ของประเทศวันนี้มี 3 วิกฤตสำคัญคือ วิกฤตรัฐธรรมนูญ, วิกฤตเศรษฐกิจปัญหาปากท้องของประชาชน และวิกฤตความขัดแย้งในสังคม พท.และ ชทพ.จะจับมือกันคลี่คลายปัญหาของประเทศในครั้งนี้ โดยดึงการมีส่วนร่วมของทุกคน ทุกกลุ่ม ทุกพรรค ทุกฝ่าย ทั้ง สส.จากพรรคการเมืองต่างๆ และ สว.เพื่อเลือกนายกรัฐมนตรีและจัดตั้งรัฐบาลให้สำเร็จ สามารถบริหารประเทศนำไปสู่การเร่งแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนได้โดยเร็ว การประวิงเวลาออกไปยิ่งทำให้เกิดความเสียหายยิ่งขึ้น การจัดตั้งรัฐบาลได้เร็วเท่าไร จะยิ่งแก้ไขปัญหาได้รวดเร็วมากขึ้นเท่านั้น

 “เรายืนยันจะทำงานการเมืองอย่างสร้างสรรค์ โดยเฉพาะในสถานการณ์ทางการเมืองที่มีความพิเศษ ดังนั้นการที่จะแก้วิกฤตครั้งนี้ได้ จำเป็นต้องสลายขั้วการเมือง ดึงความร่วมมือจากทุกพรรคทุกฝ่ายเพื่อนำรัฐธรรมนูญออกจากวิกฤต นำประชาชนให้พ้นทุกข์ สร้างความสามัคคี สมานฉันท์ โดยถือเป็นวาระประเทศ ที่สำคัญอย่างสูงสุดเราอยากขอวิงวอนให้พี่น้องประชาชนมั่นใจในพรรค พท. และพรรคการเมืองที่ให้การสนับสนุนในครั้งนี้ เราจะช่วยกันฝ่าวิกฤตเพื่อให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้" นพ.ชลน่านกล่าว

ส่วนนายวราวุธกล่าวว่า เรายินดีที่จะตอบรับการเชื้อเชิญของพรรค พท.ในการเข้าร่วมทำงานในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล รวมถึงเชื่อมั่นในศักยภาพของพรรค พท.ในการสร้างความมั่นคงที่จะทำนโยบายให้ก้าวไปข้างหน้า

"ที่พรรค พท.ไปคุยกับพรรคก้าวไกล (ก.ก.) เพื่อหาเสียงโหวตนายกฯ ถือเป็นหน้าที่ของทุกพรรคการเมืองที่ต้องช่วยกันหาเสียง เป็นสิทธิของพรรค พท.หรือแม้แต่พรรค ชทพ.ที่ตอบรับมาร่วมรัฐบาลนั้น ก็ต้องมาช่วยหาคะแนน เพื่อให้สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้เร็วที่สุด เชื่อว่าจะไม่มีปัญหาใดๆ" หัวหน้าพรรค ชทพ.กล่าว

ถามถึงกรณี สว.ตั้งข้อสังเกตการไปขอคะแนนพรรค ก.ก.ในการโหวตนายกฯ อาจจะมีการดึงพรรค ก.ก.มาร่วมรัฐบาลภายหลัง นพ.ชลน่านกล่าวว่า เราประกาศไปแล้วว่าไม่มีพรรค ก.ก. การที่เราไปคุยมีเจตจำนงเพื่อสอบถามว่าเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหนที่จะมาปลดล็อกรัฐธรรมนูญ ยืนยันไม่ได้มีการเชิญมาร่วมรัฐบาลหลังจากนี้ และเราสามารถตอบความกังวลของ สว.ได้

ด้านนายภูมิธรรมกล่าวเสริมว่า เราชัดเจนอยู่แล้วว่าตั้งแต่เราแยกกันในเอ็มโอยู พรรค ก.ก.ไปเป็นฝ่ายค้าน พรรคเรามาเป็นรัฐบาล การที่เราไปเมื่อวานนี้คือการรับฟังความเห็นเพื่อให้การตั้งรัฐบาลครั้งนี้เป็นมิติการเมืองใหม่

ถามว่าหากเสียงไม่พอจะต้องเชิญอีก 3 พรรคคือ ประชาธิปัตย์ (ปชป.),  พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสซ.) มาร่วมรัฐบาลด้วยหรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า เราไม่ได้ไปเชิญใครมาร่วมรัฐบาลอย่างชัดเจนทุกอย่าง แต่สิ่งที่เป็นปัญหาคือเชิญมาโหวตให้ความไว้วางใจให้พรรค พท.และแคนดิเดตนายกฯ ของพรรค แต่ทุกพรรคเราไปพบมาหมดแล้ว แต่กระบวนการที่จะมาสู่ขั้นตอนการสรุปคงต้องให้เป็นไปตามกระบวนการ กรอบเวลา เราจะไม่หยุดสิ่งที่เราคิดและดำเนินการ

เปิดทางดึงพรรค 2 ลุง

"จากนี้พรรคใดพร้อมเราก็พร้อมที่จะเปิด แต่พรรคใดที่ยังไม่พร้อมเราก็จะไม่ไปคาดคั้น แต่ให้พิสูจน์ให้เราเห็นในวันที่มีการโหวตเลือกนายกฯ เรายืนยันเสียงเกินกึ่งหนึ่งมาตลอด และก่อนโหวตนายกฯ เราจะได้เสียงเพียงพอแน่นอน เราจะพิสูจน์ให้เห็นว่าการเลือกนายกฯ จะเป็นแบบม้วนเดียวจบ" นายภูมิธรรมกล่าว

ซักว่า หากพรรค ปชป.และพรรคของ 2 ลุงโหวตนายกฯ ให้พรรค พท.จะดึง 3 พรรคนี้มาร่วมรัฐบาลด้วยหรือไม่ นพ.ชลน่านกล่าวว่า การตั้งรัฐบาลจะมีเสถียรภาพต้องมีเสียงข้างมาก ขณะนี้เรามั่นใจว่าเรามีเสียงข้างมากเกินกึ่งหนึ่ง แต่จะเด็ดขาดถึงขั้น 280-300 เสียงหรือไม่ อยู่ในขั้นตอนปฏิบัติ เรามีข้อจำกัดในทางเลือกมาก แต่ก็พยายามหาทางเลือกที่ดีที่สุดบนพื้นฐานความเป็นไปได้ แต่หากเป็นไปไม่ได้ทางเลือกต่อมาเราก็ต้องเลือก เพราะเชื่อว่าหากทำทางเลือกนี้ได้ ไม่ใช่แค่เพื่อเรา เราจะทำเพื่อประเทศชาติบ้านเมือง

เมื่อถามว่า มองอย่างไรที่ถูกวิจารณ์ว่าเป็นเพื่อไทยการละคร นพ.ชลน่านกล่าวว่า ขอบคุณเสียงของพี่น้องประชาชน เราเป็นผู้แทนประชาชน เป็นองค์กรทางการเมืองที่อาสามารับใช้ประชาชน ทุกคำวิพากษ์วิจารณ์เรารับฟัง ส่วนจะถูกใจหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับวิธีคิดและฐานจิตของแต่ละคน

นายภูมิธรรมกล่าวเสริมว่า เราปฏิเสธความคิดของคนที่เห็นแตกต่างกันไม่ได้ สิ่งที่วันนี้พรรค พท.ยืนยันและจะได้รับการมองให้เห็นว่าเป็นสิ่งที่เราตั้งใจที่จะสลายความขัดแย้งจริงๆ ตนคิดว่าเรามีหน้าที่ที่จะทำงานและพิสูจน์ความจริงใจในการที่จะบริหารประเทศ และความตั้งใจของพรรค พท.จะเป็นบทสรุปในอนาคต

ขณะที่ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน สส.บัญชีรายชื่อพรรค พท. ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวชวน สส.คนอื่นร่วมพรรคว่า    ตนไม่เคยชวน สส.เข้าพรรค ในขณะนี้ สส.เวลาที่จะย้ายพรรคก็มีกรรมวิธี เขาต้องถูกขับหรือไม่ก็ต้องลาออกไปเลือกใหม่ ตอนนี้ย้ายพรรคไม่ได้ แล้วชวนกันไปเป็นรัฐบาลหรืออะไรต่างๆ เหล่านั้นก็อาจจะช่วยกันเชียร์บ้างอะไรบ้างก็อาจจะมีบ้าง แต่ชวนไปเป็นงูเห่าหรืออะไรต่างๆ ไม่มี

ซักว่างูเห่าในที่นี้หมายถึงการชวนเป็นรายคนใช่หรือไม่ ส่วนหากชวนแบบทั้งพรรคยังคงมีอยู่ใช่หรือไม่ นายสมศักดิ์กล่าวว่า ก็เป็นการสื่อสารด้วยความคุ้นเคยกัน ก็พยายาม ก็รู้ว่า สส.ส่วนใหญ่เขาก็อยากเป็นรัฐบาล แล้วพรรคก็ยังไม่ได้มีการติดต่อกัน เราก็ค่อยๆ พยายามขยับตัวเข้าหากันจะได้สมหวัง ก็เพียงเท่านี้ พอถามว่ามีพรรคใดบ้าง นายสมศักดิ์กล่าวว่า ก็ทุกพรรค  ตนรู้จักทุกพรรค ก็พูดกลางๆ กับทุกพรรค มีความเป็นไปได้ทั้งหมด เพราะเสียงของรัฐบาลก็คงอยากได้เสถียรภาพ

เมื่อถามว่า ตอนนี้ถ้าไม่มีพรรค 2 ลุง มองว่าน่าจะไม่ได้เสถียรภาพแน่นอนใช่หรือไม่ นายสมศักดิ์กล่าวว่า ก็ดูตัวเลข  เราดูคณิตศาสตร์ เพราะว่าครึ่งหนึ่งหรือกึ่งหนึ่งมันก็ต้อง 250 เสียง ถ้าหากว่าเกินไปนิดหน่อยเสถียรภาพรัฐบาลโดยทั่วไปที่เคยมีมามันจะยุ่งยากมากเวลามีญัตติสำคัญ เพราะเวลาโหวตบางทีความพอใจไม่พอใจของ สส.ที่เป็นรัฐบาลอยู่ในเรื่องเดียวกันอาจไม่เป็นไปในแนวทางเดียวกันทั้งหมด เขาก็เลยคิดว่าต้องมีเสถียรภาพ 300 เสียงขึ้นไป คนเป็นนายกฯ จะได้ไม่ต้องพะวงกับองค์ประชุมมากนัก

ถามว่า กรณีที่ไปเจอกับนายธนกร วังบุญคงชนะ รองหัวหน้าพรรค รทสช.ได้พูดคุยกันบ้างหรือไม่ นายสมศักดิ์กล่าวว่า ก็คุยกันบ่อย ว่างๆ ก็เล่นฟุตบอลด้วยกันเป็นพี่น้องกัน ก็คุยกันบ่อยทั้งนายธนกรและนายอนุชา นาคาศัย สส.ชัยนาท พรรค รทสช. 

"ไม่ได้แนะนำให้เขาเป็นงูเห่า แนะนำเขาถ้ามาก็ต้องพยายามสื่อสารกันไป ต้องมาเป็นพรรคมาทั้งหมด ถึงจะสมศักดิ์ศรีของการเป็น สส.และการเป็นพรรคการเมือง ผมไม่มีสิทธิ์ไปชวน หมายความว่าผมพูดคุยกับพี่ๆ น้องๆ ในฐานะที่เป็นคนรักใคร่ชอบพอกันเคยอยู่ด้วยกันมาก็อยากจะให้สมหวัง” นายสมศักดิ์กล่าว

พปชร.โหวตนายกฯ พท.

มีรายงานว่า กรณีที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรค พท. พร้อมแกนนำ ไปหารือกับนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค ก.ก.ที่พรรค ก.ก.นั้น น.ส.แพทองธารไม่ได้ไปขอคะแนนเสียง 150 เสียงจากพรรค ก.ก.ในการโหวตสนับสนุนนายเศรษฐา แต่เป็นการพูดถึงสถานการณ์การเมืองและการรวบรวมเสียงของ พท.ในการจัดตั้งรัฐบาล รวมถึงการพูดคุยกับ สว.ที่มีจุดยืนต้องไม่มีพรรค ก.ก.ร่วมรัฐบาล

"มีการคุยถึงความจำเป็นต้องจัดตั้งรัฐบาลโดยเร็ว เพราะล่าช้ามา 4 เดือนแล้ว จึงมาแจ้งให้ทุกคนได้ทราบว่า พท.มีความจำเป็นที่จะต้องเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาลให้ได้ โดยอาศัยเสียงของพรรค พปชร.ที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นหัวหน้าพรรค ดังนั้น น.ส.แพทองธารจึงต้องมาชี้แจงด้วยตัวเอง" แหล่งข่าวระบุ

ต่อมาเวลา 15.00 น. นายไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชร พรรค พปชร. ให้สัมภาษณ์ถึงจุดยืนพรรคในการโหวตนายกฯ ว่า ตั้งแต่พรรค พปชร.ไปคุยที่พรรค พท. จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้มีการทาบทาม แต่ในกลุ่มของเราคุยกันแล้วเห็นว่าประเทศจำเป็นต้องมีรัฐบาลเร่งด่วน เพราะปัญหาหลายเรื่องในประเทศ เป็นปัญหาที่ต้องได้รับการแก้ไขเร่งด่วนจึงควรต้องมีรัฐบาล เราจะสนับสนุนพรรค พท. โดยที่พรรค พปชร.จะไม่ขาดแม้แต่คนเดียว และหากมาก็มาทั้งหมด

ถามว่าได้ปรึกษา พล.อ.ประวิตรแล้วหรือไม่ นายไผ่กล่าวว่า จากการไปคุยกันคร่าวๆ เกี่ยวกับนโยบายที่อยากผลักดันร่วมกัน อาทิ ที่ดิน ส.ป.ก. ภัยแล้ง การเพิ่มเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ และบัตรประชารัฐ ก็ได้รับการสนับสนุน ที่สำคัญเราเคยทำงานกับพรรค พท.มาก่อน ตนเคยเป็นเด็กเก่า พท. จึงเชื่อว่าจะทำให้ผ่าวิกฤตทางการเมืองและเศรษฐกิจทั้งหมดได้

ซักว่า พปชร.จะเข้าร่วมรัฐบาลกับ พท.ด้วยหรือไม่ นายไผ่กล่าวว่า ไม่มีการพูดคุยเรื่องนี้ แต่คิดว่าเป็นเรื่องเล็ก เราคิดว่าทำให้ผ่านตรงนี้ไปก่อนค่อยว่ากัน  ถ้าพรรค พท.ทำได้ดีอย่างที่พูด ถ้าเรามีโอกาสก็พร้อมทำเต็มที่ แต่ถ้าไม่มีโอกาสก็พร้อมตรวจสอบเต็มที่เช่นกัน  ยืนยันเรายังไม่ได้มีการพูดคุยเรื่องรัฐบาล คุยแต่นโยบาย ซึ่งจุดยืนของเรามีลุงไม่มีแล้ง

ถามอีกว่า พล.อ.ประวิตรยังอยู่ใช่หรือไม่ นายไผ่กล่าวว่า “ลุงอยู่สิครับ”  ถามต่อว่ามีเงื่อนไขอะไรหรือไม่ นายไผ่ กล่าวว่า ไม่ได้มีการตกลงร่วมรัฐบาลกัน  แต่เราสนับสุนนให้จัดตั้งรัฐบาลได้ก่อน พอซักว่าถือเป็นมติพรรคหรือไม่ นายไผ่ กล่าวว่า วันนี้เป็นจุดยืน ถ้าเป็นมติมันเป็นทางการที่ต้องมาแถลง แต่วันนี้เราคุยกันแล้วว่าจะสนับสนุนให้จัดตั้งรัฐบาลให้ได้ เผลอๆ จะไปหาเสียงให้ด้วย

ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงกรณี น.ส.แพทองธารยกทีมแกนนำ พท.ไปขอขมาพรรค ก.ก.ว่า ไม่ทราบ พท.ไปพูดอะไรกับ ก.ก.บ้าง ซึ่งพท.เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล การดำเนินการหรือจัดการให้มีเสียงมากพอในการเสนอนายกฯ คิดว่า พท.ก็ต้องทำตามที่ผู้บริหารพรรคเห็นว่าเหมาะสม

"เราบรรลุข้อตกลงระหว่างพรรค พท.ไปแล้ว ซึ่งมีกรอบเงื่อนไขอยู่ตรงนั้นแล้ว  ถ้ายังอยู่ในกรอบนั้นโดยธรรมชาติเราก็ไม่สามารถไปให้ความเห็นอะไรได้" นายอนุทินกล่าว

ถามว่า หากเปรียบสถานการณ์ทางการเมืองในการจัดตั้งรัฐบาลตอนนี้จะมีมอตโตอะไร หรือจะเปรียบแบบไหน นายอนุทินกล่าวว่า อยู่ให้เป็น เย็นให้พอ  รอให้ได้

จี้ ก.ก.ประกาศเป็นฝ่ายค้าน

ด้านนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรค ก.ก. กล่าวถึงการพูดคุยกับ น.ส.แพทองธารและแกนนำพรรค พท. ว่าเรารับฟังในสิ่งที่พรรค พท.เสนอ เราตั้งใจฟัง ถ้าฟังแล้วมีคำถามเกิดขึ้นก็จะถามทาง น.ส.แพทองธารกลับไปว่ามีหมายความอย่างไร  เชื่อว่าในสัปดาห์นี้เป็นการรับฟังมากกว่า มีปัจจัยที่ต้องคิดให้รอบคอบหลายเรื่อง โดยยึดหลักการเป็นสำคัญ ยึดในคำสัญญาที่เคยหาเสียง ซึ่งจะอธิบายได้ว่าเรามีหลักประกอบการพิจารณาอย่างไรบ้าง

ถามว่า พท.ดูมีความมั่นใจมากว่าการโหวตนายกฯ ในครั้งที่จะถึงนี้จบในม้วนเดียวหรือไม่ นายพิธากล่าวว่า เป็นกำลังใจให้พรรค พท.

ส่วนนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรค ก.ก. โพสต์เฟซบุ๊กในหัวข้อ “เราจะโหวตตามเสียงหัวใจของประชาชน ผู้เป็นเจ้าของพรรค และจะไม่ยอมเปิดประตูให้เผด็จการได้เข้ามาร่วมรัฐบาลสืบทอดอำนาจอย่างแน่นอน”  ระบุว่า ยังไงก็แล้วแต่ การโหวตของ ก.ก.จะต้องเป็นการโหวตที่ตรงกับเสียงหัวใจของประชาชนอย่างแน่นอนครับ

"การโหวตของ ก.ก. ผมคิดว่า พท.ไม่จำเป็นต้องมาขอขมาอะไรเลยครับ เป็นเพื่อนกันแค่มาพูดคุยกันด้วยความจริงใจก็ดีใจแล้ว แต่ผมคิดว่าคนที่ พท.ควรจะคุยด้วยมากที่สุดในตอนนี้คือประชาชน โดยเฉพาะคนเสื้อแดง ที่เป็นเพื่อนแท้ที่สู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับ พท.มาเกือบ 20 ปี" นายวิโรจน์กล่าว

เขาบอกว่า ขอยืนยันให้ทุกท่านสบายใจว่าการโหวตของ ก.ก.จะต้องไม่เป็นการเปิดประตูให้เผด็จการฉวยเป็นโอกาสเข้ามาร่วมรัฐบาล เพื่อสืบทอดอำนาจอย่างแน่นอนครับ การโหวตของ ก.ก.เราจะรับฟังเสียงของประชาชนอย่างรอบคอบ รอบด้านแน่ๆ

 เช่นเดียวกับ นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า โพสต์เฟซบุ๊กตอนหนึ่งระบุว่า สถานการณ์ชัดเจนขนาดนี้ทำไมพรรค ก.ก.ยังไม่ประกาศจุดยืนเป็นฝ่ายค้าน อย่างทะนงองอาจ

นายปิยบุตรกล่าวด้วยว่า การแสดงออกของพรรคเพื่อไทย พรรคภูมิใจไทย พรรคพลังประชารัฐ พรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคประชาธิปัตย์ พรรคชาติไทยพัฒนา และพรรคอื่นๆ ก็ชัดเจนอยู่แล้วว่าไม่มีก้าวไกล ประชาชนผู้ทรงอำนาจสูงสุดของประเทศ ทั้งฝ่ายสนับสนุนพรรคก้าวไกล และฝ่ายไม่สนับสนุนพรรคก้าวไกล ต่างก็มองออกว่า พรรคก้าวไกลโดนรุมจากทุกสารทิศจนหมดหนทางได้เป็นรัฐบาลแล้ว

"เมื่อเป็นเช่นนี้ ทำไมพรรคก้าวไกลจึงไม่แถลงแสดงจุดยืนเสียทีว่า บัดนี้พรรคก้าวไกลต้องเป็นฝ่ายค้าน และจะทำหน้าที่ฝ่ายค้านอย่างดีที่สุด ใช้เสียง 151 เสียง ใช้เสียง 14.4 ล้าน ผลักดันการทำงานในสภาตามแนวนโยบายที่หาเสียง เพื่อประโยชน์สูงสุดของประเทศชาติและประชาชน ไม่ต้องรับคำร้องขอ ไม่ต้องรับคำเจรจา ไม่ต้องหวังว่าจะมีแสงริบหรี่รำไรให้ได้กลับมาร่วมรัฐบาลอีก ไม่ต้องเล่นเกมชักเย่อชิงไหวชิงพริบกับพรรคอื่นๆ ตั้งใจเดินหน้าทำงานในสภาอย่างเต็มที่" นายปิยบุตรกล่าว

วันเดียวกัน นายเสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) กล่าวถึงกรณี น.ส.แพทองธารหารือกับแกนนำพรรคพท.ว่า เป็นเรื่องการแสดงออกทางการเมืองที่ พท.พยายามจะหาแนวร่วมให้ได้มากที่สุด ซึ่งส่วนตัวต้องดูต่อไปว่าจะรวมเสียงกันได้มากน้อยเพียงใด การที่แต่ละพรรคการเมืองจะตั้งนายกฯ ได้เราก็ต้องได้รับความร่วมมือจากหลายฝ่าย อยู่ที่ว่าแต่ละฝ่ายที่มีในแต่ละพรรคจะยืนอยู่บนหลักการของตนเองได้มากน้อยเพียงใด

 “ข้อเสนอและการตัดสินใจมีการเปลี่ยนไปมาตลอด ในตอนนี้ สว.เราก็คงต้องคอยดูว่าพรรคการเมืองแต่ละพรรครวมเสียงการเมืองให้ได้มากที่สุด ถ้ามันสามารถที่จะรวมเสียงของ ก.ก.ได้ด้วย มันก็ไม่ต้องมาพึ่งพาอาศัยเสียงของ สว. ก็ขึ้นอยู่กับแต่ละพรรคจะยืนหยัดในหลักการในจุดยืนของตัวเองอย่างไร” นายเสรีกล่าว

ถามว่าฝั่ง สว.ไม่ติดเลยใช่หรือไม่ หากจะมีการรวมเสียง ก.ก.มาให้ พท.โหวตแคนดิเดตนายกฯ นายเสรีกล่าวว่า   ไม่ขัดข้อง เพราะเป็นเรื่องที่แต่ละพรรคสามารถตกลงกันได้อยู่แล้ว และขึ้นอยู่กับว่าแต่ละพรรคจะแสดงออกกับประชาชน ไปบอกประชาชน ยืนในหลักการ และจะให้เหตุผลกับประชาชนว่าอย่างไร

ส่วนนายวันชัย สอนศิริ สว. โพสต์ข้อความสั้นๆ ผ่านเฟซบุ๊ก ทนายวันชัย สอนศิริ เรื่อง สว.ส่วนใหญ่จะเลือกแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทยอย่างแน่นอนว่า หมดเรื่อง 112 และก้าวไกลไปแล้ว สว.เห็นว่าประเทศไทยต้องเดินหน้าจะชักช้าไม่ได้

"เป็นที่ชัดเจนและเสียงดังฟังชัดในหมู่เพื่อน สว.ส่วนใหญ่ว่าใครรวมเสียงส่วนใหญ่ได้ จะเลือกคนนั้นพรรคนั้นเป็นนายกฯ สัญญาณครั้งนี้จากทุกสายชัดยิ่งกว่าชัด โหวตนายกฯ ครั้งหน้าจากเพื่อไทยผ่านฉลุยเต็มคาราเบล" สว.วันชัยระบุ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง