‘อิ๊งค์’ขอขมา‘พิธา’ เคลียร์ใจก้าวไกล/พท.ชื่นมื่นสลายขั้วตั้งรัฐบาล

"เพื่อไทย" แถลงรวมเสียงอีก 6 พรรคตั้งรัฐบาล "ชลน่าน" ฟุ้งได้เสียง สส.เกินครึ่ง "สุวัจน์" ย้ำช่วยกันแก้ปัญหาประเทศ "ทวี" ดักคอนายกฯ ต้องจบที่พรรคอันดับ 2 หลุดจากนี้ไม่ใช่หลักประชาธิปไตย "ภูมิธรรม” ชี้ตั้ง รบ.พิเศษ

คิดแบบเดิมไม่ได้ แบะท่าวันนี้มาได้ทั้งแบบบุคคล-กลุ่ม "อุ๊งอิ๊ง" นำทีมแกนนำเคลียร์ใจ "ก้าวไกล" ไร้คำตอบช่วยหนุนแคนดิเดตนายกฯ หรือไม่ "พิธา" บอกแค่รับฟังอย่างมีวุฒิภาวะ "อนุทิน" ไม่หวั่นสองพรรคอี๋อ๋อหากอยู่ในข้อตกลง ย้ำปม "เสี่ยนิด" หาเสียงพาดพิงจบแล้ว "ชทพ." ตอบรับถก "พท." 10 ส.ค. "ลุงตู่" ปัดตอบการเมือง บอกสื่อฟังเพลงคนไม่สำคัญ

ที่รัฐสภา วันที่ 9 ส.ค. เวลา 12.35 น.   พรรคเพื่อไทย (พท.) นำโดย นพ.ชลน่าน  ศรีแก้ว สส.น่าน และหัวหน้าพรรค พท.    และนายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรค พท. แถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลร่วมกับตัวแทน 6 พรรคการเมือง ประกอบด้วย นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า, พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ,  พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย, นายวรเชษฐ เชิดชู  สส.พรรคเพื่อไทรวมพลัง, นายเชาวฤทธิ์ ขจรพงศ์กีรติ หัวหน้าพรรคพลังสังคมใหม่ และนายบัญชา เดชเจริญศิริกุล  พรรคท้องที่ไทย

นพ.ชลน่านอ่านคำแถลงการณ์จัดตั้งรัฐบาลว่า วันนี้พรรค พท.ได้รวบรวมเสียงเพิ่มเติม และได้รับการสนับสนุนจาก 6 พรรคการเมืองแล้ว ขณะนี้เรารวบรวมเสียงทั้งหมดได้มากกว่ากึ่งหนึ่งของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ทั้งนี้คาดหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะสลายขั้วการเมือง และเดินหน้าขอความร่วมมือจากทุกพรรคการเมืองและเสียงจากวุฒิสภา (สว.) เพื่อเลือกนายกรัฐมนตรีและจัดตั้งรัฐบาลให้สามารถบริหารประเทศ เร่งแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนได้โดยเร็ว ซึ่งขณะนี้กำลังเผชิญความเดือดร้อนอย่างรุนแรง การดึงเวลาออกไปจะทำให้เกิดความเสียหายมากยิ่งขึ้น

"เราจะทำการเมืองอย่างสร้างสรรค์  โดยเฉพาะเหตุการณ์ทางการเมืองที่มีความพิเศษท่ามกลางวิกฤตรัฐธรรมนูญ  ขอวิงวอนให้พี่น้องมั่นใจในพรรค พท.และพรรคร่วมรัฐบาลในครั้งนี้ ขอให้ประชาชนสนับสนุนและช่วยกันฝ่าวิกฤตเพื่อให้ประเทศชาติเดินหน้าต่อไป และเกิดประโยชน์สูงสุดกับพี่น้องประชาชน”  นพ.ชลน่านกล่าว

จากนั้นนายสุวัจน์กล่าวว่า วันนี้พรรคยินดีตอบรับคำเชิญในการเข้าร่วมในการดำเนินการจัดตั้งรัฐบาลที่มีพรรค พท.เป็นแกนนำในการจัดตั้ง เหตุผลที่ตอบรับคำเชิญมี 5 ข้อ 1.พท.ถือเป็นพรรคที่มีความชอบธรรมเป็นพรรคอันดับ 2 เมื่ออันดับ 1 ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ 2.พท.ยืนยันกับทุกพรรคการเมืองขณะนี้รวบรวมเสียงของ สส.เกินกึ่งหนึ่งอย่างแน่นอน 3.ที่ประชุมได้มีการพูดถึงอย่างชัดเจนจะไม่มีนโยบายใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไข ม.112 และ 4.พท.มีความแน่วแน่ในการแก้ไขปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจ ดังนั้นในข้อ 1-4 ตรงกับนโยบายของพรรคชาติพัฒนากล้า รวมทั้ง 5.ที่เป็นเหตุผลสำคัญที่สุดคือเกือบ 3 เดือน หลังเลือกตั้งเรามีรัฐบาลรักษาการ แต่มีขีดจำกัดในการบริหารประเทศ ซึ่งวิกฤตเศรษฐกิจรออยู่ไม่ได้ จึงมีความจำเป็นต้องมีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับต่างประเทศ

ส่วน พ.ต.อ.ทวีกล่าวว่า เราตกลง 8 พรรคเดิมจะเลือกพรรค พท.เป็นนายกฯ  เราตระหนักว่าพรรคอันดับ 1 และอันดับ 2 มีความชอบธรรม ดังนั้นภารกิจขณะนี้จึงต้องช่วยกันส่งเสริมสนับสนุนพรรค  พท.เป็นแกนนำในการรวบรวมเสียงให้ได้ 375 ขึ้นไป เพื่อให้ได้นายกฯ ซึ่งจะนำไปสู่กระบวนการสรรหาผู้มาเป็นรัฐมนตรีและแก้ปัญหาประเทศ พรรคประชาชาติขอให้เดินทางไปถึงแค่พรรคอันดับ 2 คือพรรค พท.เท่านั้นที่จะเป็นนายกฯ หากออกจากหลักการนี้ไม่ใช่หลักประชาธิปไตย

พท.มั่นใจเสียง สส.เกินครึ่ง

ผู้สื่อข่าวถามว่า เสียง สส.ที่ระบุมีเกินกึ่งหนึ่งแล้ว แต่ที่มีการตอบตกลงร่วมรัฐบาลแล้วมีเพียง 238 เสียง เสียงที่เหลือจะเป็นของพรรคใด และจะดึงพรรค 2 ลุงร่วมรัฐบาลหรือไม่ นพ.ชลน่านกล่าวว่า วันที่ 10 ส.ค. จะมีพรรคการเมืองเข้ามาเพิ่มเติม ส่วนจะเป็นพรรคใดนั้น ขอให้รอติดตามการแถลงข่าว คาดว่าภายในสัปดาห์นี้จะจบทั้งหมด

"ส่วนจะมีพรรคลุงเข้าร่วมหรือไม่นั้น  พรรค พท.ออกแถลงการณ์ไปแล้วว่าขอความร่วมมือจากทุกพรรคเพื่อสลายขั้ว แก้วิกฤต ขอเสียงสนับสนุน" นพ.ชลน่านกล่าว

ถามว่า สส.พรรคประชาธิปัตย์ พลังประชารัฐ รวมไทยสร้างชาติ จะมาร่วมรัฐบาลเป็นรายบุคคลใช่หรือไม่ และหากพรรคก้าวไกล (ก.ก.) มาร่วมโหวตนายกฯ ให้พรรค พท. จะทำให้ สว.ไม่สบายใจหรือไม่ นพ.ชลน่านกล่าวว่า เราแสวงหาความร่วมมือจากทุกพรรคทุกบุคคล ทั้งแง่องค์กร ตัวบุคคล แต่การโหวตนายกฯ เป็นเอกสิทธิ์ที่สามารถตัดสินใจได้

นพ.ชลน่านกล่าวว่า ส่วนพรรค ก.ก.ก็มีความชัดเจนว่าเรามีข้อจำกัดที่มีการตั้งรัฐบาลร่วมกัน เพราะเสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯ ไปสองครั้ง ก็ไม่ได้รับความเห็นชอบ แต่เราเคารพเอกสิทธิ์ของพรรค ก.ก.ว่าจะโหวตให้ พท.หรือไม่ แต่เราปรารถนาเสียงจากทุกพรรค เพื่อทำให้สถานการณ์การเมืองขณะนี้ก้าวสู่ความเรียบร้อย ปิดวิกฤตรัฐธรรมนูญ เรายินดีถ้าพรรค ก.ก.มาร่วมโหวตให้ และสิ่งที่เราดำเนินการจะไม่ทำให้ สว.กังวล เพราะไม่ได้ตั้งรัฐบาลกับพรรค ก.ก. และไม่ได้แก้มาตรา 112 และทำให้ชัดเจนว่า สว.จะไว้ใจและสนับสนุนเรา

ซักถึงกระแสข่าว สส.เพื่อไทยไม่เห็นด้วยหากตั้งรัฐบาลข้ามขั้วถึงขั้นขู่ย้ายพรรค นพ.ชลน่านกล่าวว่า ในที่ประชุมสส.พรรคเพื่อไทยเมื่อวันที่ 8 ส.ค. ไม่มีสส.คนใดแสดงแนวคิดไม่เห็นด้วยในเรื่องดังกล่าว มีแค่การแสดงความห่วงใยที่เกิดขึ้นจริง แต่ถึงขั้นจะย้ายพรรคไม่มี พรรค พท.มีเอกภาพ ทุกคนรับสภาพที่เป็นอยู่ และพร้อมชี้แจงประชาชน

 ถามอีกว่า แคนดิเดตนายกฯ ของพรรค พท.ที่จะเสนอรัฐบาลคือนายเศรษฐา ทวีสิน ใช่หรือไม่ หากชื่อนายเศรษฐาไม่ผ่าน จะเสนอชื่อ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภาต่อหรือไม่ นพ.ชลน่านกล่าวว่า แคนดิเดตนายกฯ ของพรรคที่จะเสนอต่อรัฐสภายืนยันคือชื่อนายเศรษฐา ส่วนที่ตั้งคำถามว่าหากชื่อนายเศรษฐาไม่ผ่านความเห็นชอบนั้น บอกได้เลยไม่มีคำว่าถ้า ต้องผ่านเท่านั้น

ด้านนายภูมิธรรมกล่าวเสริมว่า  ประเด็นข้อสังเกตเกี่ยวกับนายเศรษฐานั้น ยืนยันพรรค พท.ตรวจสอบหมดแล้ว ไม่มีปัญหาตามที่มีผู้ออกมาท้วงติงแต่อย่างใด

"เราเอาวาระประชาชนและวาระประเทศเป็นที่ตั้ง เราเจรจากับพรรคต่างๆ โดยวันที่ 10 ส.ค. จะมีพรรคชาติไทยพัฒนามาเข้าร่วมรัฐบาล ยืนยันว่าเรามีเสียงเกินครึ่งแล้ว โดยจะให้ทุกพรรค ทุกฝ่าย ทุกกลุ่ม เข้าร่วมเป็นรัฐบาลพิเศษ แก้วิฤต 3 ด้านคือ ด้านวิกฤตรัฐธรรมนูญ วิกฤตความขัดแย้ง  และวิกฤตด้านเศรษฐกิจ โดยรัฐบาลที่จะเกิดขึ้นถือเป็นการเริ่มนับหนึ่ง หลังมีปัญหาความขัดแย้งกว่า 20 ปี เราต้องคิดกระดานใหม่ ไม่เช่นนั้นเราจะพ้นวิกฤตไม่ได้ เป้าหมายเราต้องมีเสียงเกิน 375 เสียง เพื่อโหวตนายกฯ ให้ได้" นายภูมิธรรมกล่าว

รองหัวหน้าพรรค พท.กล่าวว่า  นโยบายใดแม้อยู่ฝ่ายค้านถ้ามีประโยชน์เราก็พร้อมดำเนินการ แต่ข้อเสนอที่กระทบสถาบันหรือมาตรา 112 เราไม่สนับสนุน เราแบ่งแยกหน้าที่กันทำงาน แต่ไม่ได้รวมกันเป็นรัฐบาล เราเชื่อมั่นในวาระประเทศ อย่างไรก็ตาม  วันนี้เรามุ่งหน้าตั้งรัฐบาลพิเศษ เราแสวงหาความร่วมมือจากทุกพรรค ทุกฝ่าย ทุกคน สิ่งที่เราต้องการคือการสนับสนุนให้เพื่อไทยเป็นแกนนำ และมีนายกฯ จากพรรคเพื่อไทย ถ้าทำสำเร็จเราก็จะตั้งรัฐบาลได้

'อิ๊งค์' นำทีมเคลียร์ใจ ก.ก.

ถามว่า การตั้งรัฐบาลหากเสียงสนับสนุนของพรรค 2 ลุงไม่มาในรูปแบบพรรค จะตั้งรัฐบาลสำเร็จได้อย่างไร  นายภูมิธรรมกล่าวว่า รัฐบาลชุดนี้ไม่สามารถคิดแบบเดิมเหมือนในอดีตได้ ที่แค่ไม่กี่พรรคจับมือกันตั้งรัฐบาลได้ แต่วันนี้จะต้องใช้ความพยายามจากทุกพรรคในการตั้งรัฐบาล บางส่วนอาจมาเป็นกลุ่มหรือเป็นรายบุคคลก็มาได้ วันนี้ถ้าให้พูดชัดเจนคงยังไม่ได้ แต่ที่พูดกับเราข้างหลังมันเกินไปแล้ว และเราต้องการรัฐบาลที่มีเสถียรภาพ เรามีความต้องการรัฐบาลที่มีความเข้มแข็งสามารถผลักดันนโยบายได้

"ฉะนั้นหากคิดมิติใหม่ อยากให้ทุกฝ่ายช่วยกันแก้วิกฤตประเทศช่วงนี้ อยากให้ สส.และ สว.ที่มีเอกสิทธิ์ใช้เอกสิทธิ์มามีส่วนร่วมในการแก้ไขวิกฤตประเทศ และจากข้อจำกัดในหลักการนี้ จะไม่มีข้อจำกัด ถ้าจะมองว่าพรรคนั้นจะมา พรรคนี้จะมา อาจไม่ถูกต้องนัก  อาจมีบางกลุ่มบางคนมา" นายภูมิธรรมกล่าว

ก่อนหน้านี้ ช่วงเช้านายภูมิธรรมให้สัมภาษณ์กรณีพรรค พท.จะขอหารือกับพรรค ก.ก. เพื่อให้ช่วยโหวตแคนดิเดตนายกฯ พรรค พท.ว่า การจัดตั้งรัฐบาลขณะนี้ตนเสนอว่าให้จัดตั้งรัฐบาลแบบพิเศษ เพื่อแก้ปัญหาประเทศ ไม่ใช่การเปลี่ยนขั้ว แต่เป็นการสลายขั้วทั้งหมด อยากให้ทุกคนร่วมกันหาทางออก เพราะนี่คือโอกาสในการทำให้ความขัดแย้งต่างๆ ที่มีอยู่ 20 กว่าปีสลายไป และเป็นโอกาสที่เราจะแก้ไขวิกฤตรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นกลไกสำคัญที่ทำให้ประเทศขยับไม่ได้ รวมถึงแก้ไขปัญหาของพี่น้องประชาชน การที่จะสำเร็จได้  สิ่งสำคัญคือเราควรต้องดึงทุกพรรคทุกฝ่ายมา   

"สำหรับพรรค ก.ก. ไม่ว่าอะไรที่เคยเป็นปัญหาที่อาจจะมีส่วนกับพรรค พท.หรือกับผม เรายินดีที่จะไปขอโทษ ขอขมา และยินดีที่จะไปแสดงความต้องการความคิดเห็นที่เกี่ยวข้องกับทางออกวิกฤตของประเทศชาติ หรือจะให้ไปที่พรรค ก.ก.เราก็ยินดี วันนี้เรายินดีไปทุกพรรคถ้าคิดว่าคือทางออกของประเทศ" นายภูมิธรรมกล่าว

กระทั่งเวลา 15.00 น. แกนนำพรรค พท. ประกอบด้วย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรค พท., นพ.ชลน่าน, นายภูมิธรรม, นายประเสริฐ จันทรรวงทอง สส.บัญชีรายชื่อและเลขาธิการพรรค และนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ สส.บัญชีรายชื่อ เดินออกจากตึกโอเอไอ ที่ทำการพรรค พท. ข้ามฝั่งถนนไปยังตึกไทยซัมมิท ที่ทำการพรรคก้าวไกล เพื่อร่วมหารือกับแกนนำพรรค ก.ก. ประกอบด้วย นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค, น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรค, นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ รองหัวหน้าพรรค และนายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรค ใช้เวลาหารือประมาณ 1.30 ชั่วโมง

จากนั้น น.ส.แพทองธารให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้เราได้มารับฟังความเห็นซึ่งกันและกัน มาคุยกันว่าเราอยู่ในสถานการณ์ไหนบ้าง เพื่อขอทำความเข้าใจกับทั้ง 2 ฝ่ายว่าเราทำงานกันถึงขั้นไหนแล้ว ส่วนที่พรรค ก.ก.จะโหวตให้แคนดิเดตนายกฯ จากพรรค พท.หรือไม่นั้น ในเรื่องคำตอบที่ต้องการ ตนคิดว่ารออีกนิด วันนี้ยังไม่พร้อมตอบคำถามใดๆ เพราะยังไม่มีคำตอบใดๆ ซึ่งจริงๆเวลาที่คุยกันเราจะพูดกันเสมอว่าบางครั้งกองเชียร์ของเราทั้ง 2 พรรคทะเลาะกัน แต่เราไม่เคยทะเลาะกัน เราคุยกันด้วยเหตุผลเสมอ วันนี้ไม่มีอะไรมาก 

ถามว่า ออกมาแฮปปี้ทั้งสองฝ่ายหรือไม่ น.ส.แพทองธารกล่าวว่า เราคุยกันว่าเงื่อนไขต่างๆ ในการจัดตั้งรัฐบาล  พรรค พท.มีความตั้งใจอย่างมากที่จะจัดตั้งรัฐบาลให้สำเร็จ โดยมีเสียงสนับสนุนทั้ง สส.และ สว. อย่างที่ตนหาเสียงไปว่า พท.หาเสียงแบบแลนด์สไลด์เพื่อจะให้ทุกอย่างกลับมาเป็นระบบเหมือนเดิม แต่ในเมื่อเราแลนด์สไลด์ไม่สำเร็จ  พรรค ก.ก.ได้เป็นพรรคอันดับหนึ่ง ลองจัดตั้งรัฐบาลแล้วทำไม่สำเร็จ และได้ส่งไม้ต่อมาให้พรรค พท. สิ่งที่เราทำตอนนี้ไม่ใช่เกมการเมือง

 “เรากำลังฟอร์มรัฐบาลที่แข็งแรงให้ได้ เพื่อแก้ปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนต่อไป ยังมีสิ่งที่สำคัญรออยู่ข้างหน้าอีกมากมาย ยังมีประเทศและประชาชนที่เดือดร้อน ยังมีต่างชาติที่รอเข้ามาลงทุนกับเรา ยังมีเศรษฐกิจภาพใหญ่ที่เราต้องช่วยกันผลักดันนโยบายเพื่อให้ประเทศไปต่อ นี่คือสิ่งที่เราพยายามโฟกัสมากที่สุด และกำลังจัดตั้งรัฐบาลของประชาชนให้แข็งแรงที่สุด” น.ส.แพทองธารกล่าว

ถามว่า นายพิธาได้ฝากอะไรหรือไม่ น.ส.แพทองธารกล่าวว่า นายพิธารับฟังและเข้าใจซึ่งกันและกันในหลายจุด   ฉะนั้นหากถามเรื่องความสัมพันธ์ให้ไปถามทางพรรค ก.ก.ด้วยได้ เพราะเราไม่มีปัญหากัน และตนคิดว่าในขณะนี้เราทำงานกันอย่างผู้ใหญ่ เราพูดกันแบบผู้ใหญ่ที่คุยกันว่าเราจะทำอย่างไรให้ประเทศเดินต่อ ซึ่งเป็นสิ่งที่เราต้องการทั้งสองฝ่าย ซักว่าหากเสนอชื่อนายเศรษฐาไม่ผ่านพร้อมเป็นคนต่อไปหรือไม่ น.ส.แพทองธารกล่าวว่า เราต้องพยายามเต็มที่ให้ผ่าน

ถามว่า ในการพูดคุยกันได้ขอโทษพรรค ก.ก.หรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า ตนแจ้งไปว่าได้ขอโทษต่อสาธารณะแล้ว อะไรที่คิดว่าทำให้เกิดการผิดพลาด ตนก็พร้อมขอโทษ เพื่อให้ประเทศเดินหน้า  ทุกอย่างได้พูดคุยและทุกคนไปช่วยกันคิดต่อ เมื่อถามว่าหลังจากนี้จะมีโอกาสกลับไปจับมือกับพรรค ก.ก.อีกครั้งหรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า อีกสักครู่ ไม่นานคงได้ทราบ และการได้พูดคุยถือเป็นเรื่องที่ดี

'หนู' จบปมเสี่ยนิดพาดพิง

อย่างไรก็ตาม ก่อนที่ น.ส.แพทองธารจะนำคณะเดินทางไปที่พรรค ก.ก. ระหว่างที่ น.ส.แพทองธารเดินทางเข้าที่ทำการพรรค พท. เพื่อร่วมประชุมอัปเดตงาน ได้เดินมาที่บริเวณชั้น 1 เพื่อซื้อเครื่องดื่มร้าน ThinkLab และได้เจอกับบรรดาแฟนคลับพรรคเพื่อไทยที่เข้ามารอให้กำลังใจและขอถ่ายภาพขอลายเซ็น

ช่วงหนึ่งบรรดาแฟนคลับพรรคเพื่อไทยได้ถาม น.ส.แพทองธาร ถึงความคืบหน้าการรวมเสียงจัดตั้งรัฐบาล ก่อนมีเสียงสนับสนุนให้ดึงพรรค 2 ลุงมาช่วยเพิ่มเสียง รวมถึงยังบอกว่า “เราสู้กันมา เราต้องเป็นรัฐบาล เราจะยอมเป็นฝ่ายค้านเพื่ออะไร” โดย น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ก็รู้ว่าบรรดาแฟนคลับหลายคนเข้าใจ ส่วนคนที่ไม่เข้าใจก็ยังคงมีอารมณ์อยู่ แต่หวังได้อธิบายกันด้วยเหตุผล ไม่ต้องสู้กันด้วยความรุนแรง

จากนั้น น.ส.แพทองธารได้เดินเข้าร้าน ThinkLab เพื่อซื้อเครื่องดื่มเมนู “แดงโซดามะนาว” พร้อมกล่าวติดตลกสั้นๆ ว่า เติมความแดง ยังแดงไม่พอต้องเติมอีก ก่อนเดินออกมาแจกลายเซ็นให้กับบรรดาแฟนคลับที่มารอพบอย่างเป็นกันเอง

นอกจากนี้ น.ส.แพทองธารให้สัมภาษณ์กรณีโพสต์ภาพในอินสตาแกรมส่วนตัวที่พาลูกชายและลูกสาวไปฉีดวัคซีน เพื่อเตรียมตัวจะเดินทางไปหานายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีใช่หรือไม่ว่า “นั่นน่ะสิ” พร้อมกล่าวว่า จะเดินทางอยู่ในเร็วๆ นี้

ถามต่อว่า รู้สึกตื่นเต้นหรือไม่ที่จะพาลูกชายไปเจอคุณตา น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ยังมีเรื่องตื่นเต้นอีกเยอะ ขอให้รอดู ซักถึงการเดินทางกลับไทยของนายทักษิณครั้งต่อไปจะเป็นคนแจ้งเองหรือไม่นั้น น.ส.แพทองธารกล่าวว่า ให้นักข่าวรอดู เพราะยังมีอีกหลายเรื่องที่จะทำให้นักข่าวตื่นเต้น

ขณะที่นายพิธาให้สัมภาษณ์ถึงการหารือกับแกนนำพรรค พท.ว่า ก็รับฟังซึ่งกันและกัน แต่คงต้องคอยสื่อสารกันเรื่อยๆ อยู่ ยังไม่มีบทสรุปอะไร ก็รับฟังกันอย่างมืออาชีพ เมื่อถามว่ามีแนวโน้มจะโหวตให้กับ พท.หรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า วันนี้รับฟังอย่างเดียวก่อน เมื่อถามต่อว่าจะต้องไปหารือกับ สส.ก่อนหรือไม่ นายพิธากล่าวว่า ยังไม่มีแผนต่อ  วันนี้ขอแค่รับฟังกันอย่างเข้าใจและมีวุฒิภาวะ

ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงกรณีพรรค พท.ไปขอขมาพรรคก.ก. กังวลหรือไม่ว่า 2 พรรคจะกลับมาจับมือกันอีก รวมทั้ง ก.ก.อาจช่วยโหวตแคนดิเดตนายกฯ พท.ว่า พท.และ ภท.มีการแถลงข่าวรวมกันแล้ว มีจำนวน 212 เสียง เงื่อนไขต่างๆ ก็แถลงชัดเจนแล้ว ก็เป็นไปตามนั้น จึงไม่กังวล ทั้งนี้ พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ต้องมีความเชื่อถือสูงอยู่แล้ว ไม่เช่นนั้นจะนำพรรคอื่นได้อย่างไร จึงอย่าไปกังวล ประชาชนก็ไม่ควรกังวล พอได้แถลงชัดเจนแล้วว่าไม่มีเอ็มโอยู 8 พรรค และพรรค พท.ก็ได้เชิญพรรคภูมิใจไทยไปจัดตั้งรัฐบาล ทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดี

ถามว่า ยังติดใจนายเศรษฐาที่ก่อนเลือกตั้งมีการหาเสียงพาดพิงนโยบายกัญชาและกระทรวงสาธารณสุขหรือไม่  นายอนุทินกล่าวว่า ตอนที่กล่าวหาอะไรมาก็ได้ตอบโต้ไปแล้ว ก็เป็นอันจบกัน และถ้าพูดถึงนายเศรษฐากับตน ก็ไม่ใช่เพิ่งรู้จักกันตอนมาทำการเมือง แต่รู้จักกันมา 20-30 ปีแล้ว เพื่อนฝูงซ้ำกันไม่รู้กี่สิบกี่ร้อยคน ลูกๆ ก็รู้จักกัน เราได้เคลียร์ใจกันไปพอสมควรแล้ว

ตู่ชวนฟังเพลงคนไม่สำคัญ

ส่วนนายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) กล่าวถึงการร่วมรัฐบาลพรรคพท.ว่า พรรค พท.นัดหารือร่วมกันถึงแนวทางทำงานร่วมกันที่รัฐสภา วันที่ 10 ส.ค. เวลา 09.30 น. และจากนั้นจะมีแถลงข่าวร่วมกันในเวลา 10.00 น. ซึ่งตนยังตอบไม่ได้ว่าจะตอบรับการร่วมเป็นรัฐบาลหรือไม่ เพราะต้องขอคุยในแนวทางที่เกี่ยวข้องร่วมกันอีกครั้ง

ขณะที่นายธนกร วังบุญคงชนะ รมต.ประจำสำนักนายกฯ ในฐานะรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวว่า ในส่วนของพรรค รทสช.ยังไม่ได้มีการพูดคุยถึงการเข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาลพรรค พท. แต่หากจะรวมก็ไปในนามพรรค ซึ่งจากการประชุมพรรคเมื่อวันที่ 8 ส.ค. มีความเห็นกันแบบนี้

ถามถึงกรณีที่มีข่าวว่าตนเองและนายอนุชา นาคาศัย รองหัวหน้าพรรครทสช.ได้ประสานกับนายสมศักดิ์ เทพสุทิน สส.บัญชีรายชื่อพรรค พท. จะเข้าร่วมงานด้วย นายธนกรกล่าวว่า ตนกับนายสมศักดิ์ยังมีความสนิทสนมกันเหมือนเดิม แต่ไม่ได้มีการคุยกันเรื่องนี้ เป็นการคุยกันแล้ววิเคราะห์เรื่องทางการเมืองมากกว่า โดยท่านไม่ได้ชวนหรือประสานมาทางตนหรือนายอนุชาว่าทำอย่างไร แต่ยอมรับว่ามีการแลกเปลี่ยนกันมากกว่า

วันเดียวกัน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม  ให้สัมภาษณ์ภายหลังการลงพื้นที่ติดตามงานตามนโยบายของรัฐบาลที่ จ.ระยอง ว่าวันนี้อย่าถามเรื่องเก่าๆ ในอดีต จะไม่ตอบหรอก วันนี้ต้องพูดถึงอนาคตแล้ว เมื่อถามว่า แต่ปัจจุบันคืออนาคต พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ปัจจุบันคืออะไร การเมืองเหรอ ปัดโธ่

ถามว่า นายกฯ ให้นโยบายในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้แต่ละกระทรวงเตรียมข้อมูลส่งมอบงานให้กับรัฐบาลใหม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ก็ใช่สิ ก็ต้องส่งเขาไง นี่คือคำว่าส่งต่อเราจะทำแบบนี้ ให้ทุกกระทรวงนำผลงานมาเป็นแผนงานว่าที่ผ่านมาได้ทำอะไรไปบ้าง เพื่อใครอย่างไร เสร็จแล้วสรุปออกมา ส่วนโครงการของกระทรวงพลังงานที่ค้างอยู่หลายเรื่อง เป็นโครงการระยะที่ 3 เราทำมาถึงระยะที่ 2 ก็ต้องมีคนต่อในระยะที่ 3 หรือเปล่า ถ้าถึง 3 ผลประโยชน์ของประเทศชาติก็จะกลับมา 100% ถ้าไม่ทำก็ได้แค่ 70-60 % เท่านี้

เมื่อถามว่า พรรค พท.ประกาศจะสลายขั้ว ถือเป็นนิมิตหมายที่ดีหรือไม่  พล.อ.ประยุทธ์ย้อนถามว่า ขั้วอะไรเหรอ เมื่อผู้สื่อข่าวตอบว่า ขั้วการเมือง จะสลายเป็นรัฐบาลพิเศษ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า มีที่ไหน มีเหรอ เมื่อถามว่าเป็นการชูนโยบายตั้งรัฐบาลพิเศษ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า เหรอ เออ ไม่รู้สิ เมื่อถามว่าจะถือว่าเป็นนิมิตหมายที่ดีของประเทศไทยหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็แล้วแต่ ก็นึกถึงประเทศชาติโดยรวมด้วยก็แล้วกัน จะทำอะไรก็ทำได้ทั้งหมดนั่นแหละ

ถามว่า นายกฯ ถือเป็นบุคคลสำคัญในช่วงเวลานี้ พล.อ.ประยุทธ์หัวเราะพร้อมกับกล่าวว่า โอ๊ย อย่าคิด ฉันเป็นคนสำคัญ ขอให้ฟังเพลงดู เพลงคนไม่สำคัญ อย่าคิด ฉันเป็นคนสำคัญ

เมื่อถามว่า แฟนคลับยังเห็นว่านายกฯ เป็นคนสำคัญ พล.อ.ประยุทธ์ เอามือป้องปาก และกล่าวว่า เหรอ ทีตอนนี้เห็นว่าสำคัญขึ้นมาเชียวล่ะ จากนั้นได้ก้าวขึ้นไปนั่งบนรถ และกล่าวอีกว่า วันนี้มาทั้งวันไม่เหนื่อย แต่เหนื่อยกับคำถามสื่อที่ถามกันนี่แหละ จากนั้นได้ยิ้มอย่างอารมณ์ดีและส่งมือสัญลักษณ์ไอเลิฟยูและมินิฮาร์ต.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ตอกยํ้าดีลฮ่องกง ลิ่วล้อแจงแทนนาย ‘พรรคส้ม’ ยากเป็นรัฐบาล

ตอกย้ำดีลฮ่องกงเหลว! "ณัฐวุฒิ" ขยายความ "ทักษิณ" คุย "ธนาธร" แค่เล่าชะตากรรม ไม่มีการพาดพิง ม.112 กับก้าวไกล เผยตั้งแต่โหวต "พิธา"

‘อิ๊งค์’ โชว์30บ. เวทีผู้นำเอเปก

นายกฯ อิ๊งค์โชว์ผลงาน 30 บาทรักษาทุกที่ บนเวทีผู้นำภาคเอกชนเอเปก พร้อมชวนลงทุนด้านธุรกิจดูแลสุขภาพในไทย มั่นใจหลังให้นโยบาย “บีโอไอ”