รบ.ขยับ236เสียง ดีลเพิ่มอีก6พรรค/สส.เพื่อไทยฮือขวางผสมพันธุ์‘2ลุง’

"พท." ถกทิศทางตั้งรัฐบาล "สส." ขอไม่เอา "2 ลุง-ปชป."   หวั่นเจอกระแสพื้นที่ถล่ม ห่วงโดนสับขาหลอกโหวตนายกฯ "แกนนำ" ยันนายกฯ ต้องคนเพื่อไทย ย้ำดึงพรรค 2 ลุงทางเลือกสุดท้าย "อนุทิน" พร้อมหนุนแคนดิเดต พท.ทุกคน มั่นใจรวม สส.ได้เกิน 250 เสียง "พปชร." เป่าเค้กเบิร์ธเดย์ 78 ปีลุงป้อม "ธรรมนัส" ลั่นร่วม รบ.ต้องไปทั้งพรรค "จุรินทร์" ชี้จุดยืน ปชป.ยึดมติพรรคไร้แตกแถว "ชทพ." รอเทียบเชิญเข้าหอ "สุพิศาล" ชง "ก.ก." โหวตหนุนนายกฯ พท. หวังเพื่อนช่วยปิดสวิตช์ สว. "บิ๊กตู่" อารมณ์ดีขอทุกฝ่ายร่วมมือให้บ้านเมืองไปต่อ บอก “แล้วแต่” รทสช.ร่วมรัฐบาล

 ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) วันที่ 8 ส.ค.  เวลา 15.45 น. พรรคเพื่อไทย (พท.) ได้จัดประชุม สส.พรรค นำโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค, นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรค, นายประเสริฐ  จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค โดยมีแคนดิเดตนายกฯ พรรค พท. ประกอบด้วย นายชัยเกษม นิติสิริ, นายเศรษฐา ทวีสิน และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เข้าร่วมประชุมด้วย โดยใช้เวลาประชุมนานกว่า 2 ชั่วโมง

มีรายงานว่า ในที่ประชุมได้เปิดโอกาสให้ตัวแทนแต่ละภาคได้แสดงความคิดเห็น โดยนางมนพร เจริญศรี  สส.นครพนม ได้ลุกขึ้นแสดงความเห็นว่า คนอีสานเลือกตั้งมาเพื่อต้องการให้  สส.เป็นรัฐบาล ไม่ใช่มาเป็นฝ่ายค้าน ซึ่ง สส.ส่วนใหญ่ก็แสดงความเห็นไปในทิศทางเดียวกัน พร้อมทั้งได้มี สส.แสดงความเห็นหลากหลาย อาทิ นางฐิติมา ฉายแสง สส.ฉะเชิงเทรา แสดงความเป็นห่วงหากพรรคจับมือกับ 2 ลุง จะไม่สามารถตอบคำถามกับประชาชนในพื้นที่ได้ ซึ่ง สส.ในพื้นที่จะได้รับแรงเสียดทานในเรื่องนี้ นอกจากนี้ยังมี สส.บางส่วนระบุว่าไม่อยากให้พรรค พท.จับมือกับพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เพราะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์สลายการชุมนุมคนเสื้อแดงเมื่อปี 53 จนทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 99 ราย แต่ในส่วนของพรรคภูมิใจไทยที่จะมาร่วมรัฐบาลนั้น ไม่มีใครลุกขึ้นมาทักท้วง

อย่างไรก็ตาม ทีมเจรจาชี้แจงว่า ทั้ง 2 ลุงและพรรค ปชป.จะเป็นทางเลือกสุดท้าย หากจะมีเข้ามาจะไม่เป็นในรูปแบบของพรรค เพราะหาก สส.คนไหนจะยกมือสนับสนุนก็ถือเป็นเอกสิทธิ์

"สส.บางคนยังแสดงความเป็นห่วงถึงการจัดตั้งรัฐบาลครั้งนี้อาจจะถูกสับขาหลอกในวันโหวตเลือกนายกฯ ทำให้ตำแหน่งดังกล่าวไปตกอยู่ที่พรรคอื่น ซึ่งทางคณะเจรจาได้ยืนยันกับ สส.ว่าถึงอย่างไรนายกฯ ต้องมาจากแคนดิเดตพรรค พท. และทางพรรคก็ยังพูดคุยกับพรรคก้าวไกล (ก.ก.) อยู่ เพราะเขาพร้อมสนับสนุน ต้องการรัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตยฉบับประชาชนอย่างแท้จริง" แหล่งข่าวระบุ

นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีหากพรรคต้องร่วมงานกับพรรค 2 ลุงว่า ต้องดูเหตุการณ์ ต้องดูคำอธิบาย และขณะนี้คณะเจรจาเขาก็ทำงานกันอยู่ เมื่อถามว่ายังยืนยันว่ามีจุดยืนเดิมที่จะไม่ร่วมงานกับ 2 ลุงใช่หรือไม่ นายณัฐวุฒิตอบว่า “ผมยังมีจุดยืนเดิมอยู่”

ขณะที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงความมั่นใจจะได้ สส.เกิน 250 เสียง หลังแถลงจับมือระหว่างพรรค พท.จัดตั้งรัฐบาลหรือไม่ว่า ต้องให้พรรค พท.เป็นคนแถลง เพราะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล เราถูกเชิญให้ไปร่วมรัฐบาลหน้าที่ของความเป็นแกนนำต้องให้เกียรติเขา

เสี่ยหนูมั่นใจได้ สส.ถึง 250

ถามว่า ได้รับทราบข้อมูลจากพรรคพท.แล้วใช่หรือไม่ว่าถึง 250 เสียงแน่ นายอนุทินกล่าวว่า ใช่ มั่นใจว่าขณะนี้ได้เสียงพรรคร่วมรัฐบาลเกิน 250 เสียงแล้ว และไม่ต้องกังวล เพราะรัฐบาลเสียงข้างน้อยเกิดขึ้นไม่ได้อยู่แล้ว และเราก็ไม่พยายามตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย เพราะไม่ก่อประโยชน์อะไรให้เกิดขึ้นกับการทำงาน

"แผนจะดึงเสียง สส.และ สว.ให้ได้ถึง 375 เสียง เพื่อโหวตนายกฯ ทุกฝ่ายก็ต้องช่วยกันทำความมั่นใจให้แก่ สส.และ สว. ข้อกังวลต่างๆ ก็ค่อยๆ หายไป ครั้งที่แล้วกังวลเรื่องการแก้ไขมาตรา 112 แต่ครั้งนี้ไม่มีแล้ว ซึ่งเราก็ต้องช่วยกันทุกฝ่าย โดยเป็นการหารือกันทุกฝ่ายก็ต้องไปช่วยสร้างความมั่นใจให้กับผู้ที่สามารถลงมติเลือกนายกฯ ได้"  นายอนุทินกล่าว

ถามว่า พท.ได้ประสานให้ ภท.ช่วยดึงเสียงจากพรรค 2 ลุงมาหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า พท.ก็บอกแล้วว่าให้ช่วยหาวิธีดึงเสียง สส.และ สว.ให้ได้เสียงเกิดความมั่นคง เพราะผ่านมาเกือบ 3 เดือนแล้วยังเลือกนายกฯ ไม่ได้

ซักว่า การออกมาจับมือกับ พท.ไม่มีปัญหาอะไรกับพรรค 2 ลุงใช่หรือไม่ หัวหน้าพรรค ภท.กล่าวว่า ตนไม่ได้ออกมาจับมือกับพรรค พท. แต่พรรค พท.เขาเชิญพรรค ภท.มาหารือ เราก็มีแนวทางของพรรคว่ารับเงื่อนไขต่างๆ ของตัวเองได้ คือ 1.ไม่แก้ไขมาตรา 112 2.ไม่จัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย 3.ไม่มีพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ร่วมรัฐบาล ซึ่งเราก็พร้อมที่จะทำงานให้บ้านเมือง และ พท.ก็แถลงรับข้อเสนอของ ภท.แล้ว จากนี้ก็ต้องหาวิธีทำงานร่วมกันให้มีรัฐบาลที่มั่นคง และบริหารราชการแผ่นดินต่อไปได้

ถามถึงการชูแคนดิเดตนายกฯ ของพรรค พท. นายอนุทินกล่าวว่า พรรคที่เป็นแกนนำก็ต้องเป็นพรรคที่เสนอแคนดิเดตนายกฯ หากไปถึงจุดที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาลได้ก็ต้องเห็นด้วยกับพรรคแกนนำที่เสนอบุคคลขึ้นเป็นนายกฯ

เมื่อถามว่า หากนายเศรษฐาไม่ผ่านการโหวตจากสภา หลังมีคนตั้งข้อสังเกตเรื่องคุณสมบัติส่วนตัว จะทำอย่างไร นายอนุทินกล่าวว่า พรรค พท.ก็ยังมีแคนดิเดตนายกฯ อีก 2 คน

นายอนุทินยังกล่าวถึงกรณีกลุ่มทะลุวังขัดขวางการแถลงข่าวระหว่างพรรค พท.และพรรค ภท.ว่า ไม่ควรกระทำ ไม่พอใจอะไรกันก็ต้องพูดคุยด้วยเหตุและผล การใช้ถ้อยคำหยาบคายและไม่เหมาะสมกับผู้ที่อาวุโสกว่า ถือว่าขัดกับระบบประเพณีที่ดีงามของไทย ซึ่งสิ่งดีๆ เหล่านี้เราต้องรักษาไว้

"อยากฝาก ผบ.ตร. เหตุการณ์เมื่อวันที่ 7 ส.ค.ที่ผานมา ตํารวจยืนเฉยเลย เวลามีการคุกคามอะไรแบบนี้ คงไม่ต้องรอไปแจ้งความ เพราะเขาบอกว่ายังไม่มีคนไปแจ้งความ เป็นไปไม่ได้ เพราะเราออกไม่ได้ จะไปแจ้งความอย่างไร และเราก็ไม่ต้องการไปแจ้งความ แต่เราต้องการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจรักษาความสงบไม่ให้เกิดเหตุร้ายขึ้น" นายอนุทินกล่าว

ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เวลา 15.00 น. มีการจัดประชุมคณะกรรมการบริหาร (กก.บห.) กรรมการยุทธศาสตร์ และ สส.พปชร. เพื่อรับทราบรายงานการประชุมพรรค ครั้งที่ 2/2566 เรื่องการเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ เมื่อวันที่ 29 ก.ค.ที่ผ่านมา และพิจารณาระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎรวันที่ 9-10 ส.ค. รวมถึงกำหนดแนวทางการทำกิจกรรมของพรรค

ก่อนเริ่มการประชุม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร. ได้เป่าเค้กที่สมาชิกพรรคเตรียมไว้อวยพรคล้ายวันเกิดล่วงหน้าอายุครบ 78 ปี วันที่ 11 ส.ค.นี้ โดยมีนายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.การคลัง ในฐานะรองหัวหน้าพรรค, นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรค, ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา ในฐานะเลขาธิการพรรค, สส.และอดีตผู้สมัครสส.กทม. ร่วมร้องเพลงอวยพรวันเกิด

โดย พล.อ.ประวิตรยิ้มแย้มอย่างอารมณ์ดี พร้อมกล่าวว่า “ขอให้พรรครักกัน ทุกคนเป็นหนึ่งเดียว เพื่อทำให้พรรคเป็นสถาบันการเมืองต่อไป” ผู้สื่อข่าวถามถึงการตั้งรัฐบาล พล.อ.ประวิตรได้กล่าวตัดบทว่า “ไม่ต้องถามแล้วครับ” ก่อนเดินเลี่ยงขึ้นห้องประชุม สส. 

ย้ำ 'พปชร.' ไม่มีเสียงแตก

ร.อ.ธรรมนัสกล่าวถึงโอกาสและท่าทีในการร่วมรัฐบาลว่า ท่าทีของ พล.อ.ประวิตรตอนนี้ก็เหมือนเดิม คืออยู่นิ่งๆ อย่าให้ข่าวอะไรมาก เดี๋ยวจะผิดเพี้ยนไป หลังจากที่เราได้หารือที่พรรค พท.แล้วก็ยังไม่ได้รับการติดต่ออะไร

 "ถามว่าเรามีโอกาสหรือไม่ ก็อยู่ที่พรรค พท.เขาจะเชิญ เราก็ต้องอยู่นิ่งๆ ตามมารยาท เราไม่รู้ว่าหลังจากพรรค ภท.และพรรค พท.ได้ร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลแล้ว จากนี้จะมีพรรคอื่นๆ เพิ่มเติมหรือไม่ แต่ผมเชื่อว่าเขาคงประสานไปเบื้องต้นแล้ว" ร.อ.ธรรมนัสกล่าว

ถามว่า การจะร่วมรัฐบาลต้องไปทั้งพรรคใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า หัวหน้าให้ตนแจ้งกับสื่อมาโดยตลอดว่าพรรคเราเป็นสถาบันการเมือง เราต้องมีจุดยืนชัดเจนอย่างที่เคยประกาศไปแล้วทุกอย่างยังเหมือนเดิมทุกอย่าง

เมื่อถามว่า พรรค พท.แถลงการจัดตั้งรัฐบาลจะไม่มี 2 ลุงแน่นอน การที่มี สส.บางส่วนจะไปสมทบเป็นไปได้หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า หากเราจะทำอะไรต้องเป็นมติคณะกรรมการบริหารพรรคและ สส. ให้เป็นเอกฉันท์ว่าจะเดินไปในทิศทางใด ไม่ใช่กลุ่มไหนคิดจะไปก็ไป

พอถามว่า การที่พรรค พท.ไม่เอาลุง  พปชร.จะทำอย่างไร จะไม่ไปร่วมแน่นอนใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า เรื่องลุงตนว่าไม่ใช่เรื่องสาระสำคัญ   สาระสำคัญสำหรับ พปชร.คือเรื่องของบ้านเมือง ว่าเราจะร่วมแก้วิกฤตได้อย่างไร โดยเฉพาะเวลานี้ที่มีปัญหาสารพัด ทั้งเหนือ ใต้ ประชาชนต่างมีปัญหาประสบความเดือดร้อน สิ่งสำคัญที่สุดคือเร่งจัดตั้งรัฐบาลให้เร็วที่สุด ตนเชื่อว่านักการเมืองทุกคน โดยเฉพาะ สส.ทุกคน ต่างมีแนวคิดไปในทิศทางเดียวกัน

ต่อมาภายหลังการประชุมพรรค พล.อ.ประวิตรกล่าวถึงกรณีพรรค พท.และ ภท.จัดตั้งรัฐบาล โดยมีเงื่อนไขตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) เพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า ไม่มีความคิด ยังไม่ได้รับการแต่งตั้ง ยังไม่ได้รับการติดต่ออะไรเลย 

มีรายงานว่า ในการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค สส.พรรคและกรรมการยุทธศาสตร์พรรค พปชร. มีการแสดงความเห็นเรื่องตำแหน่งผู้ช่วยสส. ซึ่ง ร.อ.ธรรมนัสระบุว่า เรื่องผู้ช่วย สส.ให้รอก่อน เพราะเรายังไม่รู้ว่าจะเป็นฝ่ายค้านหรือฝ่ายรัฐบาล รวมทั้งได้เสนอให้หาบุคลากรมาช่วยหาข้อมูลให้ สส.ในการอภิปรายในสภา

พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรค ปชป. กล่าวถึงการถูกทาบทามให้ร่วมรัฐบาลว่า ยังไม่มี เมื่อถามถึงกระแสข่าว 21 สส.อยากร่วมรัฐบาล แต่อีก 4 สส.อยากเป็นฝ่ายค้าน จะยุติเรื่องนี้อย่างไร นายจุรินทร์กล่าวว่า สุดท้ายถ้าตัดสินใจต้องเป็นมติพรรค หากมีการตัดสินใจจัดตั้งรัฐบาล และตัดสินใจทางการเมืองสำคัญๆ ซึ่งทุกเรื่องจะยุติที่มติพรรค ที่ผ่านมาก็เป็นอย่างนั้นตลอด เพราะเราอาศัยมติพรรคเป็นหลัก

พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าพรรค ชทพ. เป็นประธานที่ประชุม สส.และสมาชิกพรรค ชทพ. ใช้เวลากว่า 1.30 ชม. และให้สัมภาษณ์ว่า ในที่ประชุมพรรคได้มีสมาชิกสอบถามถึงแนวทางการทำงานร่วมกับรัฐบาลของพรรค พท. ซึ่งก่อนที่จะตอบเรื่องนี้ได้คงต้องรอการส่งสัญญาณจากพรรค พท.มาก่อนว่าจะนัดหารือและแถลงข่าวอย่างไร

ก.ก.หนุนโหวตนายกฯ พท.

ด้านพรรคก้าวไกล (ก.ก.) พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ รองหัวหน้าพรรค ก.ก. กล่าวถึงการโหวตนายกฯ ว่า จะเสนอให้พรรค ก.ก.โหวตเห็นชอบแคนดิเดตนายกฯ จากพรรค พท. เนื่องจากต้องการโหวตเพื่อปิดสวิตช์ สว. ซึ่งก็เชื่อว่าพรรค พท.จะรับปากว่าจะไม่มีการดึงพรรค 2 ลุงเข้าร่วมรัฐบาล

"สิ่งที่เราอยากทำคือการปิดสวิตช์ สว. และได้สร้างระบบประชาธิปไตยสภาบนดีกว่าสภาล่าง และโหวตเพื่อให้มีรัฐบาลมาแก้วิกฤตของประเทศ หลังจากนี้จะต้องรับฟังความคิดเห็นจาก สส.ในที่ประชุมอีกครั้ง ส่วนพรรค พท.จะไปร่วมกับใคร ก็ถือเป็นอำนาจของพท. ขณะเดียวกันพรรค ก.ก.ก็เปิดประตูไว้ หาก พท.จะกลับมาหาก็ได้" พล.ต.ต.สุพิศาลกล่าว

ส่วนนางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล กรรมการบริหารพรรค ก.ก. กล่าวว่า ในวันที่ 9 ส.ค.ที่จะถึงนี้ นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล จะมีการพูดคุยในเรื่องการโหวตนายกรัฐมนตรีกับ สส.ของพรรคอีกครั้ง

ที่ทำเนียบรัฐบาล ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ได้ร่วมกิจกรรมต่างๆ ตามปกติ และเมื่อพบผู้สื่อข่าว นายกฯ ได้ทักอย่างอารมณ์ดีว่า มีหลายคนไปอยู่เวทีในทางการเมือง ขอให้ช่วยกันดูแลบ้านเมือง เพราะบ้านเมืองจะต้องไปต่อ ช่วยกันทำให้บ้านเมืองเดินหน้า จากนั้นนายกฯ ได้เข้าห้องสีเหลือง ตึกสันติไมตรี แล้วเปลี่ยนมาสวมเสื้อผ้าไทยสีฟ้า เพื่อร่วมกิจกรรมประชาสัมพันธ์การจัดงาน OTOP ศิลปาชีพ ประทีปไทย OTOP ก้าวไกลด้วยพระบารมี 

ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) จะไปร่วมรัฐบาลหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ยิ้มให้สื่อพร้อมกล่าวว่า  แล้วแต่ๆ

จากนั้นหลังการประชุม ครม. พล.อ.ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี พล.อ.ประวิตรมาปฏิบัติภารกิจที่ทำเนียบฯ แต่ไม่ร่วมประชุม ครม.ว่า "มีอะไรเล่า ไม่มีๆ ก็ขออย่าให้มันมีก็แล้วกัน ผมไม่มีอะไรกับท่าน และไม่แปลกหรอก หลายคนก็ลาประชุม ผมก็ไม่ได้ว่าอะไรอยู่แล้ว และก็มีคณะทำงานเข้าร่วมประชุมแทน วันนี้ก็ลาตั้งหลายคน"

ถามว่า มองเสถียรภาพการเมืองปัจจุบันหลังพรรค พท.และพรรค ภท.จับมือกันเพื่อจัดตั้งรัฐบาลอย่างไร  พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ไม่ทราบ ตนไม่มีความคิดเห็นตรงนี้ ตนบอกแล้วไงตนไม่เกี่ยวข้องอะไรเลยในเรื่องของการเมือง พรรคการเมืองก็ว่ากันไป ตามกลไกของรัฐธรรมนูญก็ว่ากันไป ต้องยอมรับกติกาตรงนี้มิใช่หรือ และที่ผ่านมาก็รัฐธรรมนูญฉบับนี้ และทุกคนก็รู้อยู่แล้ว เมื่อรู้กันแล้ว แล้ววันนี้จะมามีปัญหาอะไรนักหนากับรัฐธรรมนูญฉบับนี้

มีรายงานว่า ในการประชุม ครม. เป็นที่สังเกตได้ชัดว่า พล.อ.ประยุทธ์ค่อนข้างอารมณ์ดี ขณะที่บรรยากาศการประชุม ครม.เป็นไปอย่างเฮฮาสนุกสนาน มีการแซวกันไปมาระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์กับ ครม.เป็นระยะ โดยช่วงหนึ่งพล.อ.ประยุทธ์ได้พูดถึงวันคล้ายวันเกิดของ พล.อ.ประวิตร ในวันที่ 11 ส.ค. แต่พล.อ.ประวิตรได้ลาประชุมในครั้งนี้ว่า เดี๋ยวจะไปอวยพรเป็นการส่วนตัวอยู่แล้ว พร้อมกับทั้งถาม ครม.ว่า มีรัฐมนตรีคนใดเกิดในเดือน ส.ค.นี้อีกบ้าง ทำให้นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ที่มีวันคล้ายวันเกิดในวันที่ 5 ส.ค.ที่ผ่านมายกมือ เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์เห็นจึงยิ้มแล้วแซวนายพิพัฒน์ ที่เพิ่งเกิดเหตุการณ์เผชิญหน้ากับแกนนำกลุ่มทะลุวังที่พรรคเพื่อไทยเมื่อเย็นวันที่ 7 ส.ค.ว่า “ได้พรใหญ่กันเลย” ทำให้ทั้งห้องประชุม ครม.ต่างหัวเราะชอบใจ

นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ยังพูดด้วยว่า "ต้องอดทนนะครับ บ้านเมืองต้องใช้ความอดทน" อีกช่วงหนึ่งที่ พล.อ.ประยุทธ์พูดถึงเรื่องการเมืองว่า “เรื่องการเมืองก็เป็นเรื่องการเมืองไป สื่อถามเรื่องการเมืองผมก็ไม่ตอบคำถาม”  พร้อมทั้งแซวนายอนุทินด้วยว่า “จะได้รัฐบาลใหม่เมื่อไหร่อย่างไรผมก็ไม่รู้ ต้องถามพี่หนูเขาดู” ทำให้ที่ประชุม ครม.หัวเราะกันเป็นการใหญ่อีกครั้ง

อย่างไรก็ดี มีรายงานอีกว่า ในช่วงพักเบรกการประชุม ครม. รัฐมนตรีหลายคน นำโดยนายอนุทิน, นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน และรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ได้เข้าไปคุยกับ พล.อ.ประยุทธ์ในห้องรับรองด้วย

นายสุชาติยืนยันถึงกระแสข่าวมีชื่อว่าจะย้ายไปอยู่พรรคอื่นว่า ตนยังอยู่กับพรรค รทสช. เราทำงานการเมืองในนามพรรค รทสช. ตนเป็นทั้ง สส.และสมาชิกพรรค

ที่พรรค รทสช. มีการประชุมคณะกรรมการประสานงาน (วิป) และ สส.พรรค เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนการประชุมสภาในวันที่ 9 ส.ค. โดยมีนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค, นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค, ผู้บริหารพรรค และ สส.ของพรรค เข้าประชุมอย่างพร้อมเพรียง

นายวิทยา แก้วภราดัย สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรค รทสช. กล่าวถึงการโหวตนายกฯ ว่า ต้องรอศาลรัฐธรรมนูญก่อนว่าจะพิจารณาอย่างไรในวันที่ 16 ส.ค.นี้ ส่วนเรื่องการจัดตั้งรัฐบาล ก็เป็นเรื่องของพรรคที่เตรียมตัวจะเป็นรัฐบาล อย่างไรก็ตาม ตนคิดว่าในสัปดาห์หน้าก็น่าจะยังไม่สามารถทำอะไรได้ และจะต้องรอไปก่อน

"แนวทางการจัดตั้งรัฐบาลตอนนี้เห็นว่าเป็นไปได้หมดทุกทาง ไม่ว่าจะเป็นสลับขั้วหรือถอยกลับก็ทำได้หมด แต่คิดว่าช่วงนี้เว้นระยะไปก็จะเป็นการดี ทั้งให้ผู้ที่เตรียมตั้งรัฐบาลได้เตรียมตัว และประชาชนก็จะได้พักด้วย" นายวิทยากล่าว

ถามว่า มีข่าว สส.ของพรรคอาจจะแตกแถว รองหัวหน้าพรรค รทสช.กล่าวว่า พรรคมี 36 เสียง ไม่มีเสียงแตกเพราะทุกคนหวังว่าจะทำพรรคให้เป็นสถาบันพรรคการเมือง ถ้าจะไปไหนก็จะต้องไปทั้งพรรค

วันเดียวกัน นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านว่า แม้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค ก.ก. จะถูกหยุดปฏิบัติหน้าที่ แต่ยังไม่ถือว่าพรรค ก.ก.เป็นฝ่ายค้าน จึงยังแต่งตั้งไม่ได้ ตอนนี้ต้องรอให้รู้ก่อนว่าพรรคไหนเป็นพรรคร่วมรัฐบาลบ้าง เนื่องจากผู้นำฝ่ายค้านต้องมาจากพรรคที่ไม่ได้ร่วมรัฐบาล และต้องเป็นพรรคที่ใหญ่ที่สุดในฝ่ายค้าน

"ถ้าพรรค ก.ก.ต้องเป็นผู้นำฝ่ายค้านนายปดิพัทธ์ สันติภาดา สส.พิษณุโลกพรรค ก.ก. ที่เป็นรองประธานสภาฯ คนที่ 1 ก็ต้องลาออกจากตำแหน่งรองประธานสภาฯ" นายวิษณุกล่าว.