‘ชูวิทย์’มัด‘เสี่ยนิด’เลี่ยงภาษี521ล.

"เพื่อไทย" เดินหน้ารวมเสียงตั้งรัฐบาล "ภูมิธรรม" แทงกั๊กดีลพรรค 2 ลุงร่วม รบ. ขอฟังฉันทามติพรรคอื่นก่อน "อนุทิน" ย้ำหน้าที่ "พท." รวมให้ได้ 375 เสียง ลั่นไม่มีสัญญาใจ "พปชร.-รทสช." ต้องมาด้วยกัน "ปชป." อ้าแขนพร้อมคุยเพื่อไทยได้ "ชูวิทย์" โชว์หลักฐานมัด "เศรษฐา" ทำนิติกรรมอำพราง เลี่ยงภาษี 521 ล้าน แฉสมรู้ร่วมคิดขายที่ดินย่านสารสิน แย้มวิธีโอนแยก 12 คน  12 วัน ทำรัฐเสียหาย ถาม สว.จะโหวตเป็นนายกฯ หรือ "บ.แสนสิริ" ออกเอกสารแจงทำถูก กม. ยัน "เสี่ยนิด" ไม่เกี่ยวข้อง

เมื่อวันที่ 3 ส.ค. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.)  กล่าวถึงความคืบหน้าการจัดตั้งรัฐบาลภายใต้การนำของพรรค พท.ว่า รออีกหน่อยก็ดี ตอนนี้เรารวบรวมเสียงทั้งจากขั้ว 8 พรรคเดิมจำนวนหนึ่ง และมีเสียงจากขั้ว 188 เสียงอีกจำนวนหนึ่ง รวมถึงต้องมีเสียงของ สว.อีก วันนี้เราอยู่ใต้วิกฤตการณ์ของรัฐธรรมนูญปัจจุบัน ซึ่งกำหนดเงื่อนไขไว้ว่าเราต้องได้เสียงเกิน 375 เสียง ซึ่งขณะนี้เราต้องรวบรวมให้ได้ 375 เสียง

"เราอยากได้เสียงของ สส.ให้มั่นคงที่สุด เพราะการได้เสียง สส.ที่มั่นคงจะทำให้เกิดรัฐบาลที่มั่นคง มีประสิทธิภาพ สามารถบริหารทิศทางการทำงานได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น ซึ่งต้องบวกกับเสียงสว.อีกจำนวนหนึ่ง เราก็ยิ่งอยากได้ให้มากขึ้น เพื่อจะทำให้เห็นว่าเราเป็นรัฐบาลที่มาจากภาวะที่สามารถกู้วิกฤตได้ โดยความร่วมมือของทุกฝ่าย และจะทำให้การคลี่คลายความขัดแย้ง สามารถลดลงได้” นายภูมิธรรมกล่าว

ถามถึงกรณีมีกระแสข่าวจะไม่มีพรรคของ 2 ลุงเข้ามาร่วมรัฐบาล นายภูมิธรรมกล่าวว่า รอให้การตัดสินใจชัดเจนว่าอะไรเป็นอะไร แต่วันนี้เราก็พยายามที่จะแสวงหาความร่วมมือต่างๆ และเราก็รู้ว่ามีข้อจำกัดต่างๆ และมีข้อที่เป็นปัญหาประชาชนอยู่ ซึ่งเราต้องคำนึงสิ่งเหล่านี้ด้วย

"ขอให้รอวันที่เราจะแถลง ซึ่งวันนั้นจะทราบรายละเอียดทั้งหมด วันนี้เราแค่แสวงหาเสียงสนับสนุน คนละเรื่องกับการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งการแสวงหาจุดร่วมที่ชัดเจนมากขึ้น จะแสดงให้เห็นถึงฉันทามติของการเข้ามาร่วมกันตั้งรัฐบาล" นายภูมิธรรมกล่าว

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ สส.บัญชีรายชื่อ พรรค พท. กล่าวถึงสูตรจัดตั้งรัฐบาลว่า เรื่องนี้ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค พท., นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค และนายภูมิธรรม  เป็นผู้จัดการในเรื่องนี้ ซึ่งเสียงที่พรรคพท.และพรรคที่จะมาร่วมจัดตั้งรัฐบาลนั้น ประเทศชาติขาดรัฐบาลนานไม่ได้  ต้องมีการจัดตั้งรัฐบาลโดยเร็ว ภาคเศรษฐกิจก็เรียกร้องการเร่งจัดตั้งรัฐบาลเพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ข้อมูลเหล่านี้ สว.ก็รับทราบ ก็หวังว่า สว.จะช่วยโหวตให้

ส่วนนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงการถูกทาบทามร่วมรัฐบาลจากพรรค พท.อย่างเป็นทางการว่า เรามีการนัดพูดคุยกัน แต่ยังไม่ได้ทราบว่าจะคุยแล้วผลลัพธ์ออกมาเป็นอย่างไร แต่เมื่อมีการเลื่อนโหวตนายกฯ ที่นัดเอาไว้วันนี้จึงมีการยกเลิกนัดแล้วเลื่อนออกไปก่อน โดยทาง พท.ได้โทรศัพท์ประสานงานเพื่อแจ้งว่าที่นัดกันไว้นั้นขอเลื่อนออกไปก่อน

"ทุกคนอยากให้มีความชัดเจน พอมีการยื่นไปที่ศาลรัฐธรรมนูญตีความในเรื่องต่างๆ เพื่อความชัดเจน เขาจึงอยากให้มีการชี้ขาดออกมาเสียก่อนที่จะดำเนินการใดๆ ต่อไป ซึ่งจะถือว่าดีไม่ได้ เพราะรัฐบาลใหม่ควรจะได้รับการจัดตั้งโดยเร็ว เลือกตั้งมาจะครบ 3 เดือนอยู่แล้ว และรัฐบาลรักษาการก็ทำอะไรไม่ได้ ถึงแม้ว่าจะมีอำนาจเต็ม ดังนั้นจึงอยากให้มีรัฐบาลอย่างเป็นทางการได้เข้ามาทำงานให้เร็วที่สุด" นายอนุทินกล่าว

หนูลั่นไม่มีสัญญาใจ 2 ลุง

ถามว่า ทาง ภท.ยังมีคำถามและสงสัยอะไรในตัวนายเศรษฐาอยู่หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ภท.ได้แจ้งพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาลไปแล้วว่าเรามีแนวทางอย่างไร เป็นไปตามที่ ภท.มีแถลงการณ์ไปแล้ว คือต้องไม่แตะต้องไม่แก้ไขมาตรา 112 ไม่จัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย และไม่สามารถทำงานร่วมกับพรรค ก.ก.ได้ ส่วนเรื่องของพรรคอื่นเราไปยุ่ง หรือไปก้าวล่วงอะไรไม่ได้  ภท.มีกรอบอยู่แค่นี้ ถ้าเขายังอยู่ในกรอบ ก็ต้องเป็นเรื่องของพรรคใครพรรคมัน

ซักว่า ขณะนี้มีการเผยแพร่คลิปที่นายเศรษฐาเคยระบุตอนหาเสียงว่าจะแก้ไขมาตรา 112 ออกมา นายอนุทินกล่าวว่า คงต้องฟังนายเศรษฐาและ พท.ชี้แจง สิ่งนี้ตนไม่อยากให้ผู้สื่อข่าวไปจี้ไปไชอะไรมากนัก เพราะเวลาหาเสียง บางทีการพูดอะไรก็เป็นไปตามสถานการณ์ในห้วงเวลานั้นๆ 

เมื่อถามว่า ภท.มีเงื่อนไขหรือไม่ว่าก่อนจะตกลงเข้าร่วมรัฐบาลกับใครแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคนั้นๆ จะต้องมีหลักประกันว่าได้เสียงถึง 375 เสียง นายอนุทินกล่าวว่า ตรงนั้นเป็นหลักประกันไม่ได้ ใครจะมาประกันได้ ทุกคนต้องช่วยๆ กัน ภท.มีเงื่อนไขหลักตามที่แถลงการณ์ของพรรคไปแล้ว

พอถามว่า หากการร่วมรัฐบาลกับ พท.โดยไม่มีพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กับพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ทาง ภท.ยอมรับได้หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ข้อจำกัดมีแค่ในแถลงการณ์ของ ภท. เรื่องการจัดตั้งรัฐบาลเราจะต้องไม่ไปก้าวก่ายพรรคแกนนำ

ถามย้ำว่า แสดงว่าไม่มีสัญญาใจกับพรรค 2 ลุงใช่หรือไม่ว่าถ้าจะไปไหนต้องไปด้วยกัน นายอนุทินกล่าวว่า การแพ็กกับขั้วเดิมตอนนี้มันเป็นเสียงข้างน้อย ซึ่ง ภท.บอกแล้วว่าเราไม่จัดรัฐบาลเสียงข้างน้อย เพราะอยากให้รัฐบาลมีความมั่นคง ซึ่งรัฐบาลที่มีความมั่นคงคือรัฐบาลเสียงข้างมาก เมื่อถามอีกว่า ถ้าจะไปคือไปทั้ง 3 พรรค ทั้ง ภท., รทสช. และ พปชร.ใช่หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า อย่างนั้นคงไม่ได้ แต่ละพรรคต้องมีแนวทางของตัวเอง จูงมือกันไปก็คงไม่ได้ เพราะไม่เคยเห็นว่าพรรคใหญ่ๆ มีใครเขาทำกัน 

ถามว่า มีเสียงวิจารณ์ถ้าไม่มี รทสช.และ พปชร.ก็จะฝ่าด่าน สว.ได้ยาก นายอนุทินกล่าวว่า เป็นสิทธิของพรรคที่เป็นแกนนำที่จะต้องไปเคลียร์ และไปทำความเข้าใจ ซึ่ง สว.บอกมาเหมือนกันว่าคราวที่แล้วที่ สว.ไม่สามารถโหวตให้ได้เพราะอะไร รวมถึงเหตุผลที่เป็นกังวลของ สว.ได้ถูกแก้ไขแล้ว ดังนั้นก็ต้องเชื่อว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร

ผู้สื่อข่าวถามว่า ในฐานะที่ ภท.เป็นพรรคอันดับ 3 หากเกิดปัญหาขึ้นจริง  พร้อมหรือไม่ที่จะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล นายอนุทินกล่าวปนหัวเราะว่า อย่าให้มีปัญหาดีกว่า เราเป็นพรรคอันดับ 3 ถ้าเราสนับสนุนให้มีรัฐบาลโดยเร็วได้โดยไม่ขัดกับแนวทางหรือนโยบายของ ภท. เราก็พร้อมให้การสนับสนุน เพราะประเทศต้องมีรัฐบาล

ที่พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) จัดพิธีทำบุญครบรอบ 1 ปี โดยช่วงเช้ามีพิธีทางศาสนาอิสลามและพิธีทำบุญตามศาสนาพุทธ มีบรรดาแกนนำและส.ส.ของพรรคทยอยเดินทางเข้าร่วม รวมทั้งมีแฟนคลับบางส่วนมาร่วมแสดงความยินดี ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม อดีตแคนดิเดตนายกฯ ของพรรค ไม่ได้เดินทางมาร่วม แต่ได้ส่งนายประทีป กีรติเรขา รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี  มาร่วมแสดงความยินดี

นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค รทสช. กล่าวถึงการร่วมรัฐบาลกับพรรค พท.ว่า ขณะนี้ รทสช.ยังไม่ได้รับการติดต่อจากพรรค พท. ผู้สื่อข่าวถามว่าไม่ปิดประตูที่จะทำงานร่วมกับพรรคพท.ใช่หรือไม่ นายพีระพันธุ์กล่าวว่า ตอนนี้ประตูเปิดอยู่ พร้อมทั้งชี้มาที่ประตูทางเข้าพรรค รทสช.

"พรรคยังมีจุดยืนเหมือนเดิม ในฐานะเป็นพรรคการเมือง อยากให้ประเทศชาติเดินหน้าได้ ในขณะเดียวกันต้องดูตัวบุคคลที่จะมานำประเทศด้วยว่าบุคคลนั้น รวมถึงนโยบายของพรรคต่างๆ เหล่านั้นจะทำให้บ้านเมืองสงบสุข เดินหน้า และสถาบัน 3 เสาหลัก มีความมั่นคงจริงหรือไม่" นายพีระพันธุ์กล่าว

ปชป.อ้าแขนคุยพท.ได้

ที่รัฐสภา พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.)มีประชุม สส.ของพรรค โดยมีนายประมวล พงศ์ถาวราเดช สส.ประจวบคีรีขันธ์ และประธาน สส. เป็นประธานการประชุม เพื่อพิจารณาการโหวตนายกรัฐมนตรี

ภายหลังการประชุม น.ส.สุณัฐชา โล่สถาพรพิพิธ สส.ตรัง พรรค ปชป. แถลงผลการประชุมว่า ยังไม่ได้พิจารณาการโหวตนายกฯ ในวันที่ 4 ส.ค.นี้ เพราะเห็นว่ายังพอมีเวลา และไม่แน่ใจว่าจะมีการโหวตนายกฯ หรือไม่ เนื่องจากต้องรอมติของศาลรัฐธรรมนูญว่าสามารถเสนอชื่อคนเดิมได้หรือไม่ ประกอบกับรอดูความชัดเจนของพรรค พท.ก่อน

"การประชุม สส.พรรคถึงทิศทางการโหวตนายกฯ อีกที ก็ต่อเมื่อมีความชัดเจนจากศาลรัฐธรรมนูญ" น.ส.สุณัฐชากล่าว

นายชวน หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อ พรรค ปชป. ปฏิเสธที่จะตอบคำถามกรณีพรรคจะเข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคพท.หรือไม่ โดยกล่าวเพียงสั้นๆ ว่า ขอให้ฟังโฆษกแถลง และศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาอย่างไร

ถามว่า หาก ปชป.ไปร่วมรัฐบาลกับพท. นายชวนจะใช้เอกสิทธิ์ความเป็นสส.ในการโหวตนายกฯ หรือไม่ ซึ่งนายชวนปฏิเสธคำถามเช่นเดิม และกล่าวย้ำว่า ให้รอโฆษกที่ประชุม สส.พรรค

ส่วนนายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช พรรค ปชป. กล่าวถึงการร่วมรัฐบาลกับพรรค พท.ว่า จุดยืนของพรรค ปชป.คือ 1.เราไม่สนับสนุนพรรคการเมืองที่แก้ไขมาตรา 112 และ 2.ไม่มีพรรค ก.ก. 3.ไม่มีรัฐบาลเสียงข้างน้อย รวมทั้ง 4.พรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาลมีแนวทางอย่างไร

ถามว่า พท.จะเข้าเงื่อนไขของ ปชป.ทุกข้อ นายชัยชนะกล่าวว่า ดูการแถลงข่าวของ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค พท. ก็เป็นเงื่อนไขที่พอคุยกันได้

ด้านนายเดชอิศม์ ขาวทอง รองหัวหน้าพรรค และ ส.ส.สงขลา พรรค ปชป.กล่าวถึงข่าวเดินทางไปพบนายทักษิณที่ฮ่องกงว่า สัปดาห์ที่ผ่านมาตนเดินทางไปแก้บนหลายประเทศ รวมทั้งในประเทศไทย เนื่องจากได้บนไว้ให้ภรรยาชนะการเลือกตั้ง จึงเดินทางไปทั่ว ได้เจอคนจำนวนมาก ส่วนได้ไปพบนายทักษิณหรือไม่ ไม่ขอพูดดีกว่า

"จริงๆ แล้วผมมีพรรคพวกทุกพรรค เจอคนเยอะมาก ไปหลายประเทศทั้งเวียดนามและพื้นที่ที่มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และยอมรับว่าที่ฮ่องกงก็มีการไปแก้บนด้วย" นายเดชอิศม์กล่าว

วันเดียวกัน นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมืองดัง จัดแถลงข่าว "แฉเพื่อชาติ EP.1" เปิดข้อมูลการทำนิติกรรมอำพรางของแคนดิเดตนายกฯตัวสูงจากพรรคเพื่อไทย ระบุว่า ในโฉนดหมายเลขเดียวกัน 16515 เนื้อที่ 1 ไร่ หรือ 399.7 วา ตั้งอยู่ใน ถ.สารสิน ตารางวาละ 4,000,000 บาท ถือว่าเป็นราคาที่ดินแพงที่สุดในไทย เดิมเป็นที่ดินของนายพจน์ สารสิน โอนให้ทายาทและต่อมาขายให้ท่านผู้หญิงนงเยาว์ ต่อมา ขายให้นางประไพ เมื่อปี 2507 และได้โอนที่แปลงนี้ให้บริษัทประไพทรัพย์ ปี 2527

นายชูวิทย์กล่าวว่า โฉนดที่ดินแปลงเดียวที่มีชื่ออยู่ 12 คน คือ นางประไพ และลูกหลาน เรียกว่าเป็นคณะบุคคล หรือห้างหุ้นส่วนสามัญ จ่ายภาษีที่กรมที่ดิน 59.2 ล้านบาท แต่ไม่ได้จ่ายภาษีสรรพสามิต อัตราก้าวหน้า 35% จำนวน 521 ล้านบาท 12 คน แยกโอน 12 วันติดต่อกัน หรือ 1 วันต่อ 1 คน ไม่เข้าคณะบุคคล แต่เป็นบุคคลธรรมดา จ่ายภาษีที่กรมที่ดินรวม 59.2 ล้าน ถือเป็นนิติกรรมอำพราง

"นิติกรรมอำพรางแบ่งขาย 12 คน 12 วัน จ่ายเฉพาะกรมที่ดิน 59.2 ล้านบาท ทำให้รัฐไม่ได้ภาษี 521 ล้านบาท ในขณะที่นายพิธาถือหุ้นไอทีวี 4 หมื่นหุ้น ยังไม่ได้ทำความเสียหายให้รัฐแม้แต่บาทเดียว แต่นายเศรษฐาร่วมกระทำความผิดโดยการหลีกเลี่ยงภาษีให้ผู้ขาย 521 ล้านบาท ทำให้รัฐไม่ได้เงิน ซึ่งจะปฏิเสธไม่ได้ว่า ผู้ซื้อในนามบริษัทแสนสิริไม่รู้เรื่อง เพราะผู้ขายเสนอวิธีการขายแบบเลี่ยงภาษี แต่ผู้ซื้อก็ยังซื้อที่ดินนี้ในปี 2562 ในราคาตารางวาละ 4,000,000 บาท ถือเป็นการสมรู้ร่วมคิด เพราะราคาประเมินในเวลานั้น 1,000,000 ต่อตารางวา แต่ไม่มีทางขายได้ถึง 4,000,000 บาท" นายชูวิทย์กล่าว

'ชูวิทย์' ลุยถล่ม 'เศรษฐา'

นายชูวิทย์ระบุว่า นายเศรษฐาคือนายทุนในวันที่เป็นกรรมการผู้จัดการ บมจ.แสนสิริ ซื้อที่ดินทั่วประเทศ จะบอกว่าไม่รู้ว่าเขาโอนวิธีนี้ แต่ตัวเองกลับทำรายการประชุมมีลายเซ็นรับรองสำเนาถูกต้อง ทำรายงานการประชุมวันเดียว ฉบับเดียว แต่แตกออกเป็น 12 วัน 12 คน บริษัทในตลาดหลักทรัพย์ทำแบบนี้ ธรรมาภิบาลไม่มีอยู่แล้ว พฤติการณ์ของนายเศรษฐา แสดงให้เห็นว่าร่วมมือกับคนขายเพื่อหลีกเลี่ยงภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา

นอกจากนี้ นายชูวิทย์ยังโชว์หลักฐานเอกสารที่พบลายเซ็นรับรองการประชุมของนายเศรษฐา เมื่อวันที่ 14 ส.ค.2562 แสดงให้เห็นว่าร่วมกับคนขายเพื่อหลีกเลี่ยงภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ในฐานะห้างหุ้นส่วนสามัญไม่จดทะเบียน เป็นคำวินิจฉัยของกรมสรรพากร

"ส่วนตัวมองว่าแค่เรื่องการซื้อขายที่ดินยังจงใจเลี่ยงภาษี แล้วถ้าได้เป็นนายกฯ จะไม่ช่วยนายทุน เขาเลี่ยงภาษีหรือ เพราะฉะนั้น นายเศรษฐาไม่มีความบริสุทธิ์ ถ้าได้เป็นนายกฯ รับรองประเทศพังแน่นอน" นายชูวิทย์กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า ถ้านายเศรษฐาไม่เหมาะสมจะเป็นนายกฯ แล้วยังเหลือแคนดิเดตนายกฯ คนไหนอีกบ้างที่น่าจะเป็นไปได้ นายชูวิทย์ตอบว่า ที่เหลืออยู่ก็น่าจะคุณชัยเกษม เพราะเขาเป็นนักกฎหมาย อาจจะพอเป็นไปได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก่อนหน้านี้นายเศรษฐาลงทุนถึงขนาดไปกราบเท้าทักษิณกับคุณหญิงพจมานมาแล้ว จากคำแนะนำของอดีตนายกฯ ปู โดยยอมที่จะทำตามทุกอย่างเพื่อขอให้ได้เป็นนายกฯ ก็อาจจะต้องเป็นเขา

ถามถึงการเดินทางกลับประเทศไทยของนายทักษิณ นายชูวิทย์กล่าวว่า ก็เป็นไปตามแผนที่เขาวางไว้ ซึ่งล่าสุดได้มีการเลื่อนโหวตนายกฯ เพราะฉะนั้นนายทักษิณก็ต้องเลื่อนอยู่แล้ว หรือพูดง่ายๆ คือเขาจะมาก็ต่อเมื่อโหวตนายกฯแล้ว

ต่อมา บริษัท แสนสิริฯ ได้ออกหนังสือแถลงการณ์ชี้แจงกรณีดังกล่าวว่า สัญญาจะซื้อจะขายที่ดินแปลงดังกล่าวระหว่างแสนสิริกับผู้ขาย กำหนดให้ผู้ขายเป็นผู้รับผิดชอบภาษีอากร ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ทั้งหมดประกอบกับเป็นหน้าที่ตามกฎหมายของผู้ขายในการเสียภาษีอากรข้างต้นด้วย แสนสิริมีหน้าที่ชำระราคาให้ครบถ้วนตามที่ตกลงกัน และรับโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินเท่านั้น แสนสิริไม่ได้รับรู้หรือเกี่ยวข้องในวิธีการหรือการดำเนินการใดๆ ทางภาษีอากรของผู้ขายตามที่ได้มีการกล่าวอ้างดังกล่าว และไม่ได้รับประโยชน์ใดๆ จากการประหยัดภาษีและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ของผู้ขาย

"ในการซื้อขายที่ดินของแสนสิรินั้น นายเศรษฐาขณะที่เป็นผู้บริหารสูงสูดและกรรมการของแสนสิริ จะมีส่วนร่วมเฉพาะในขั้นตอนการอนุมัติจัดซื้อที่ดิน โดยพิจารณาจากตัวเลข และข้อมูลที่ทีมสรรหาที่ดินของแสนสิริได้จัดทำ และนำเสนอ ให้ที่ประชุมผู้บริหารเพื่อพิจารณาและนำเสนอคณะกรรมการของบริษัทเพื่ออนุมัติการซื้อที่ดินและการลงทุนตามลำดับ นายเศรษฐาอนุมัติเพียงแค่ราคาและมูลค่าเงินลงทุนเท่านั้น ส่วนการทำสัญญาจะซื้อจะขายที่ดิน การชำระราคา และการโอนกรรมสิทธิ์จะเป็นหน้าที่ของทีมสรรหาที่ดินที่จะเป็นผู้รับผิดชอบในการจัดการและประสานงานทั้งหมด" แถลงการณ์ระบุ

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกระแสข่าวว่านายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เลื่อนกำหนดการกลับประเทศไทยว่า ยังไม่ทราบอะไร ยังยืนยันอยู่เหมือนเดิม เมื่อถามย้ำว่า ณ ตอนนี้ยังไม่เลื่อนกำหนดการใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ทุกอย่างยังเหมือนเดิม

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ตอบคำถามสื่อมวลชนถึงการเดินทางกลับประเทศไทยของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายรัฐมนตรี ที่เดิมทีระบุเดินทางกลับวันที่ 10 ส.ค.นี้ แต่มีกระแสถึงการเลื่อนเดินทางกลับประเทศออกไปจนกว่าจะมีการตั้งรัฐบาลเสร็จว่า เจ้าหน้าที่ได้มีการเตรียมแผนไว้แล้ว ส่วนอดีตนายกฯ จะเลื่อนการเดินทางหรือไม่ก็ดำเนินการตามแผนนั้นอยู่เหมือนเดิม เมื่อถามว่ามีใครประสานทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมายัง ผบ.ตร.ตอบว่ายัง.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง