สว.เสียงแตกโหวต‘นิด’

สว.ส่งสัญญาณไฟเขียว โหวต "เศรษฐา" เป็นนายกฯ "เสรี" คาด "ศาล รธน." ยกคำร้อง "ผู้ตรวจฯ" เดินหน้าโหวตนายกฯ 4 ส.ค. "วันชัย" แก้ให้เอง เพื่อไทยไม่มีนโยบายแก้ ม.112 "สมชาย" แซวเจ็บ   วันเข้าพรรษา ดูละครโกหกการเมือง ฉีก  MOU

เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2566 นายเสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) กล่าวถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญเตรียมพิจารณาคำร้องของผู้ตรวจการแผ่นดิน  กรณีมติของรัฐสภา วันที่ 19 ก.ค. ห้ามเสนอชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นนายกฯ ซ้ำรอบสองนั้น ขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญหรือไม่ ว่า ประเมินว่าศาลรัฐธรรมนูญน่าจะยกคำร้อง เพราะประเด็นที่ผู้ตรวจการแผ่นดินยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญนั้นไม่ใช่การกระทบสิทธิเสรีภาพส่วนบุคคลหรือกระทบโดยตรง แต่เป็นเหตุผลทางการเมือง ขณะที่การพิจารณาวินิจฉัยของรัฐสภาเมื่อ 19 ก.ค.นั้น เป็นเอกสิทธิ์ และเป็นไปตามอำนาจอธิปไตยของฝ่ายนิติบัญญัติ ดังนั้นศาลไม่สามารถก้าวก่ายเรื่องดังกล่าวด้วย คิดว่าโดยรวมแล้วจะยกคำร้อง

นายเสรีกล่าวถึงการแถลงข่าวของพรรคเพื่อไทยที่จะมีการจัดตั้งรัฐบาลโดยไม่มีพรรคก้าวไกลว่า ทราบข่าวก็รู้สึกว่าดีขึ้น ชัดเจนขึ้น แต่ยังขอความชัดเจนจากพรรคเพื่อไทยอีกส่วนหนึ่งคือ การที่แถลงว่าไม่แก้มาตรา 112 ไม่ใช่เฉพาะเรื่องที่ต้องการให้ สว.ลงคะแนนให้ แต่ควรเป็นเหตุผลสำคัญที่จะไม่แก้มาตรา 112 คือปกป้องคุ้มครองสถาบันพระมหากษัตริย์ ไม่ให้ผู้ใดละเมิดจาบจ้วงดูหมิ่นสถาบันฯ     ส่วนที่ระบุจะให้มีการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ อยากให้มีความชัดเจนว่าจะต้องไม่แก้หมวด 1 หมวด 2 ในส่วนของสถาบันฯ ไม่เช่นนั้นจะเป็นเรื่องใหญ่หนักกว่าการแก้ไขมาตรา 112

ส่วนพรรคที่จะร่วมจัดตั้งรัฐบาลนั้น สำหรับตนไม่มีส่วนที่จะนำมาเป็นเหตุผลในการตัดสินใจโหวตเลือกนายกฯ ถ้าพรรคนั้นไม่กระทบกับสถาบันฯ ทั้งนี้ อยากให้นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทย เข้าห้องประชุมรัฐสภาในวันที่ 4 ส.ค.ด้วย ซึ่งน่าจะขออนุญาตประธานรัฐสภาเข้าได้ จะได้ตอบข้อซักถามของสมาชิกรัฐสภาให้เข้าใจ หากเข้าใจผิดจะกลายเป็นปัญหาอีก และจะได้แสดงวิสัยทัศน์หรือแถลงนโยบายที่จะไปทำหน้าที่ต่อในฐานะนายกฯ

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีมีการติดใบปลิวเรียกร้องให้ สว.ลาออกนั้น นายเสรีกล่าวว่า ได้มีการพูดคุยกับ สว.คนอื่นแล้วบ้าง  แต่ส่วนตัวเมื่อมีคนทำผิดกฎหมาย ได้แจ้งความดำเนินคดีคนที่เข้ามาบุกรุกและติดป้ายหมิ่นประมาทในพื้นที่ของตลาดเสรี 2  ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นนี้จะไม่ส่งผลกระทบกับการโหวตเลือกนายกฯ แต่จะส่งผลกับฝ่ายการเมืองที่ไม่ได้ตามที่ตัวเองต้องการ อาจจะมีการสร้างมวลชนขึ้นมาเพื่อก่อให้เกิดความวุ่นวาย ละเมิดสิทธิคนอื่น ที่เป็นห่วงคือห่วงที่คนเหล่านี้จะไปแสดงออกสร้างความเดือดร้อนให้กับคนอื่นมากกว่า

ขณะที่นายวันชัย สอนศิริ สมาชิกวุฒิสภา กล่าวถึงกรณีที่รัฐสภาเตรียมนัดประชุมเพื่อโหวตนายกฯ รอบที่ 3 ในวันที่ 4 ส.ค.นี้ว่า เชื่อศักยภาพของพรรคเพื่อไทยจะทำให้การเลือกนายกฯ จบได้ และพรรคเพื่อไทยสามารถตั้งรัฐบาลได้แน่นอน ขอให้พรรคเพื่อไทยกล้าดำเนินการโดยยึดการแก้ปัญหาให้ประชาชนเป็นตั้ง ส่วนกรณีที่มี สว.แสดงจุดยืนปิดสวิตช์ตัวเองโดยไม่ใช้อำนาจโหวตนายกฯ นั้น ตนมองว่าเป็นไปตามสถานการณ์นั้นๆ แต่เมื่อสถานการณ์เปลี่ยน เชื่อว่า สว.ที่ประกาศปิดสวิตช์ตัวเองจะเปลี่ยนใจและสนับสนุนให้การจัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ

"ผมขอสื่อสารไปถึงเพื่อไทยให้เร่งจัดตั้งรัฐบาลให้ได้ และรีบทำงานโดยเร็ว เพราะประชาชนวิตกกังวล รอการแก้ปัญหาจากรัฐบาล อย่าวิตกกังวลเรื่องขั้วอำนาจ เพราะหากพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลแล้วประชาชนนิยมชมชอบ การเลือกตั้งครั้งหน้าประชาชนจะยังเลือกพรรคเพื่อไทย แต่ถ้าเป็นรัฐบาลแล้วไม่มีผลงาน ประชาชนก็จะไม่นิยม พรรคเพื่อไทยก็จะแพ้ทุกพรรคการเมือง และแพ้ภัยตัวเองด้วย" นายวันชัยกล่าว

เมื่อถามว่า ยังมี สว.ไม่ยอมรับพรรคก้าวไกล นายวันชัยตอบว่า ส่วนหนึ่งเป็นเพราะนโยบายแก้ไขมาตรา 112 ที่กระทบต่อสถาบันหลักของชาติ ความมั่นคงของประเทศ ดังนั้นพรรคเพื่อไทยน่าจะทราบปัญหาดี และหากลดปัญหาดังกล่าวได้เชื่อว่าจะไม่มีปัญหาจาก สว.

ถามถึงกรณีที่มีคลิปของนายเศรษฐา  ระบุสนับสนุนแก้ไขมาตรา 112 นั้น นายวันชัยกล่าวว่า ประเด็นดังกล่าวไม่มีอยู่ในนโยบายของพรรคเพื่อไทย และพรรคเพื่อไทยไม่คิดจะแก้มาตรา 112 หากพรรคเพื่อไทยยืนยันที่จะดำเนินนโยบายดังกล่าวก็จะเกิดปัญหา

ส่วนกรณีที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ นักเคลื่อนไหวทางการเมือง เตรียมเปิดโปงปัญหาการหลบเลี่ยงภาษีของนายเศรษฐานั้น ส.ว.ผู้นี้ให้ความเห็นว่า สว.แต่ละคนจะมีเหตุผลส่วนตัว แต่ข้อร้องเรียนของนายชูวิทย์นั้นยังไม่ได้ถึงชั้นการพิจารณาของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) รวมถึงศาลรัฐธรรมนูญ แตกต่างจากกรณีของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ที่เรื่องถึง กกต.และศาลรัฐธรรมนูญแล้ว

ด้านนายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า "2 ส.ค. วันเข้าพรรษา ดูละครโกหกการเมือง ฉีก MOU อ้างสปิริตช่วยโหวตปิดสวิตช์ สว. ตบตาเป็นฝ่ายค้าน (เทียม) ถอยรอจังหวะปรับ ครม. แก้ 112 ล้ม รธน. ล้มคดี #ดีลลับฮ่องกง".