"อัยการธนกฤต" ยกจุดชี้ขาดศาลรัฐธรรมนูญอาจไม่รับคำร้องผู้ตรวจการแผ่นดินปมชะลอโหวตนายกฯ เหตุไม่ถูกกระทบสิทธิโดยตรง "พิธา" ไม่ได้ร้องเรียนด้วยตนเอง เช่นเดียวกับคำวินิจฉัยไม่รับคำร้อง "หมอระวี" ยื่นตีความแก้ไข รธน.
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม ดร.ธนกฤต วรธนัชชากุล อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด และอาจารย์ผู้บรรยายวิชากฎหมายวิธีพิจารณาความและกฎหมายพยานหลักฐาน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, มหาวิทยาลัยรามคำแหง, สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า)และมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ได้ให้ความเห็นทางกฎหมายผ่านเฟซบุ๊กว่า จุดชี้ขาดศาลรัฐธรรมนูญรับหรือไม่รับคำร้องผู้ตรวจการแผ่นดินตามที่ศาลรัฐธรรมนูญจะมีการพิจารณาว่า จะรับคำร้องของผู้ตรวจการแผ่นดินไว้พิจารณาวินิจฉัยหรือไม่ ในวันที่ 3 สิงหาคม 2566 นั้น ขอให้ความเห็นทางวิชาการด้านกฎหมาย โดยไม่มีวัตถุประสงค์หรือจุดมุ่งหมายทางการเมืองที่จะสนับสนุนพรรคการเมืองหรือขั้วการเมืองฝ่ายใดทั้งสิ้น
ดร.ธนกฤตระบุว่า จุดชี้ขาดสำคัญที่ศาลรัฐธรรมนูญจะรับหรือไม่รับคำร้องของผู้ตรวจการแผ่นดินในกรณีนี้ เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ มาตรา 213 และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2561 มาตรา 46 โดยพิจารณาจากผู้ร้องเรียนต่อผู้ตรวจการแผ่นดินซึ่งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและประชาชนว่า เป็นผู้ถูกละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญโดยตรงหรือไม่ จากการกระทำของรัฐสภาที่ลงมติว่าการเสนอชื่อบุคคลให้รัฐสภาเห็นชอบเพื่อแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ถือเป็นญัตติ ซึ่งต้องปฏิบัติตามข้อบังคับการประชุมรัฐสภา พ.ศ.2563 ข้อ 41
สำหรับกรณีนี้ หากพิจารณาข้อกล่าวอ้างในประเด็นเรื่องบุคคลที่ถูกละเมิดสิทธิตามรัฐธรรมนูญโดยตรงจากการลงมติของรัฐสภา ถ้าหากจะมีเกิดขึ้น ที่เห็นได้ชัดเจนน่าจะเป็นคุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ซึ่งถูกละเมิดสิทธิในการได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีตามกระบวนการที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ แต่คุณพิธาไม่ได้ร้องเรียนต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน แต่กลับเป็น สส.และประชาชนจำนวนหนึ่งเป็นผู้ร้องเรียน
"ดังนั้น หากศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาแล้วเห็นว่า สส.และประชาชนผู้ร้องเรียน ไม่ได้เป็นบุคคลซึ่งถูกละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญโดยตรงจากการกระทำของรัฐสภาที่ลงมติดังกล่าว ศาลรัฐธรรมนูญก็อาจมีคำสั่งไม่รับคำร้องของผู้ตรวจการแผ่นดินไว้พิจารณาวินิจฉัย และเมื่อมีคำสั่งไม่รับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัยแล้ว คำขอให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งยุติการเลือกนายกรัฐมนตรีไว้ก่อนจนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย ย่อมเป็นอันตกไปด้วย"
ดร.ธนกฤตระบุอีกว่า นอกจากนี้ หากพิจารณาแนวคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ผ่านๆ มา ศาลรัฐธรรมนูญได้วางแนวคำวินิจฉัยมาโดยตลอดว่า ผู้ร้องต้องเป็นบุคคลซึ่งถูกละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญโดยตรงจากการกระทำของผู้ถูกร้อง
ดังตัวอย่าง คำสั่งศาลรัฐธรรมนูญที่ 18/2565 ที่วินิจฉัยว่า ตามที่นายระวี มาศฉมาดล สส.พรรคพลังธรรมใหม่ ยื่นคำร้องว่า การลงมติของรัฐสภาที่ให้ความเห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม โดยแก้ไขให้มีจำนวน สส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง 400 คน และ สส.แบบบัญชีรายชื่อ 100 คน และกำหนดให้ใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ เป็นการละเมิดสิทธิและเสรีภาพของผู้ร้องในฐานะ สส. ทำให้เกิดความไม่เท่าเทียมกันตามรัฐธรรมนูญ ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ
"ศาลรัฐธรรมนูญเห็นว่า การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญเป็นการกระทำโดยที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภา ซึ่งเป็นการกระทำทางนิติบัญญัติตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่รัฐธรรมนูญกำหนด ไม่ปรากฏว่าผู้ร้องเป็นบุคคลซึ่งถูกละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญโดยตรง เป็นเพียงการแสดงความคิดเห็นของผู้ร้องในฐานะหัวหน้าพรรคการเมืองที่ไม่เห็นด้วยกับการกระทำของรัฐสภาที่ลงมติเห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมเท่านั้น จึงมีคำสั่งไม่รับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัย" ดร.ธนกฤตระบุ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ทลายบุหรี่ไฟฟ้า เจ้าใหญ่สุดปท. มูลค่า130ล้าน
"นายกฯ อิ๊งค์" โชว์ทลายโกดังบุหรี่ไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุด ส่งขาย 100 เครือข่ายทั่วประเทศ ยึดของกลาง 2.6 แสนชิ้น
นายกฯปัด‘พ่อ’ครอบงำ คลังสนองไอเดียซื้อหนี้
"อิ๊งค์" รีบแก้เกี้ยว "พ่อ" หวังดีกับประเทศผุดไอเดียซื้อหนี้ประชาชน ปัดครอบงำ
จีนประณามUSข่มเหงไทย โชว์อุยกูร์อยู่บ้านดีกว่าคุก
"จีน" ออกโรงประณาม "สหรัฐ" ข่มเหงรังแกไทย ทำตัวสองมาตรฐาน
ห้ามป่วย-ตายช่วยอิ๊งค์
"นายกฯ อิ๊งค์" รับตื่นเต้นศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งแรก 24-26 มี.ค.
น้ำเงินคว่ำกระดาน! ถล่ม112‘สิริพรรณ’ไม่เห็นชอบ‘ชาตรี’หึ่งเปิดทางสายมท.
สภาน้ำเงินคว่ำกระดานเลือกตุลาการศาล รธน.ร่วงทั้งคู่! โหวตไม่เห็นชอบ “สิริพรรณ” 136 เสียงต่อ 43 เสียง
อิ๊งค์ฟุ้งผลงาน ทลายแก๊งคอล บิ๊กอ้วนจ่อแจง
นายกฯ ฟุ้งผลงานปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ลั่นมาถูกทาง มาตรการ “ตัดน้ำ-ไฟ-อินเทอร์เน็ต”