พร้อมโหวตไม่มีก.ก. ‘ภูมิธรรม’เช็กเสียงสว.-สส.เคาะประชุม8พรรค2ส.ค.

“ภูมิธรรม” เคาะประชุม 8 พรรค 2 ส.ค.นี้ ย้ำสภาพปัญหาทุกฝ่ายพร้อมโหวตนายกฯ ให้ แต่ต้องไม่มีชื่อพรรคก้าวไกลร่วมรัฐบาล “นพดล” ปัดทิ้งแนวคิดทอดเวลา 10 เดือน บอกประเทศรอไม่ได้ “เด็กก้าวไกล” ทวงบุญคุณเพื่อไทย บอกพรรคอันดับหนึ่งส่งไม้ต่อให้จัดตั้งรัฐบาล อย่ามาลักหลับหรือเล่นเกมใต้ดิน “ชูวิทย์” ปูดมีลุงไม่มีเราย้อนศร ก.ก. เชื่อ 4 ส.ค.พรรค 151 เสียงเป็นฝ่ายค้าน

เมื่อวันจันทร์ที่ 31 กรกฎาคม 2566 ยังคงมีความคืบหน้าในการจัดตั้งรัฐบาลของ 8 พรรคร่วม โดยนายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าว่า เบื้องต้นจะนัดประชุม 8 พรรคร่วมในวันที่ 2 ส.ค.ที่พรรค พท. ซึ่งจากการพูดคุยกับทั้ง สว.และ สส.จากพรรคการเมืองต่างๆ จนถึงขณะนี้ทั้ง สส.และ สว.ยังแสดงความเห็นตรงกัน ว่าพร้อมยกมือสนับสนุนแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรค พท. แต่ต้องไม่มีพรรคก้าวไกล (ก.ก.) อยู่ร่วมจัดตั้งรัฐบาล เพราะหากยังมีพรรค ก.ก.ร่วมอยู่ พวกเขาก็ยังยืนยันว่าจะไม่ให้เสียงสนับสนุน นี่คือสภาพปัญหาที่เรายังเผชิญอยู่ในขณะนี้ ซึ่งก็คงต้องนำไปหารือกันในที่ประชุมพรรคร่วมต่อไป จากนั้นพรรค พท.จะนัดประชุม สส.ในวันที่ 3 ส.ค.ที่รัฐสภา ก่อนโหวตผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกฯ ในวันที่ 4 ส.ค.

นายนพดล ปัทมะ สส.บัญชีรายชื่อ พรรค พท.กล่าวว่า ในการเลือกนายกฯ วันที่ 4 ส.ค. เชื่อว่าพรรคจะเสนอชื่อนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯ พรรค พท.ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง และมั่นใจว่าวันที่ 4 ส.ค.จะสามารถเลือกนายกฯ ได้สำเร็จ เนื่องจากการเลือกตั้งผ่านมากว่า 2 เดือนแล้ว ประเทศจำเป็นต้องมีรัฐบาลใหม่ไปแก้ปัญหาเศรษฐกิจ และจัดทำงบประมาณตามที่ฝ่ายต่างๆ ออกมาเรียกร้อง ถ้าการตั้งรัฐบาลช้าออกไปประเทศจะเสียประโยชน์

“แนวคิดที่จะให้รอเลือกนายกฯ ไป 10 เดือนเพื่อให้ สว.หมดอำนาจคงเป็นไปได้ยาก เพราะประชาชนเขารอรัฐบาลอยู่ ส่วนสมการรัฐบาลใหม่เป็นสิ่งที่พรรคเพื่อไทยต้องตัดสินใจ ข้อมูลข้อเท็จจริงแต่ละพรรคชัดเจนหมดแล้ว เวลานี้ไม่ใช่เวลาหาข้อมูล แต่เป็นเวลาตัดสินใจบนข้อมูลและท่าทีทางการเมืองของแต่ละพรรคเท่าที่มี ส่วนองค์ประกอบของรัฐบาลคงต้องรอฟังคณะเจรจาของพรรคที่จะมาแจ้ง สส.ในการประชุมพรรควันที่ 3 ส.ค.ว่าสุดท้ายจะเป็นตามที่มีการวิเคราะห์หรือไม่ ส่วนจะเป็นอย่างไรเชื่อว่าพรรคเพื่อไทยต้องตัดสินใจอย่างรอบคอบ และดีที่สุดในสมการการเมืองและตัวเลือกที่มี โดยเคารพเจตจำนงของประชาชนและเคารพประชาธิปไตย และได้รัฐบาลที่มีเสถียรภาพทางการเมืองเพื่อเร่งแก้ไขปัญหาของประเทศต่อไป” นายนพดลกล่าว

ขณะที่นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม. รองเลขาธิการพรรค ก.ก. กล่าวถึงกระแสข่าว 151 เสียงของพรรคจะหลุดไปเป็นฝ่ายค้าน แต่พร้อมยกมือโหวตให้แคนดิเดตนายกฯ จากพรรค พท.ว่า ในนามพรรค ก.ก.อย่างไรไม่ทราบ แต่ส่วนตัวมองว่าเป็นข่าวปล่อยที่สกปรกมาก วิธีการทำแบบนี้คือ ไม่ยอมประชุมพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล 8 พรรคว่าจะเอาอย่างไรแน่ และสุดท้ายกลับมีการปล่อยข่าวออกมาจากพรรคเพื่อไทย ว่าอย่างไรพรรค ก.ก.จะโหวตให้อยู่แล้ว ซึ่งขณะนี้ไม่มีความชัดเจนว่าจะเอาพรรคใดมาอยู่ในรัฐบาลบ้าง มีออกข่าวว่าไปคุยกับคนโน้นคนนี้ โดยไม่ได้แจ้งผลสรุปของการพูดคุย อีกทั้งเกมที่บอกว่าไม่มีลุงแน่ อย่างไรเสียพรรค ก.ก.ก็โหวตให้นั้น พรรค ก.ก.ไม่ได้โง่ขนาดนั้น คือไม่มีลุงในที่นี้ แต่เอาพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) และพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) มาเฉพาะบางกลุ่มบางก้อน แล้วก็มาบีบให้เราโหวตให้ ซึ่งการที่พรรค ก.ก.ส่งไม้ต่อให้พรรค พท.เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล เพราะอยากเห็นรัฐบาลประชาธิปไตยที่พี่น้องประชาชนคาดหวัง ไม่ได้อยากเห็นใครขึ้นมาสู่อำนาจโดยลักไก่ลักหลับกันแบบนี้

ก้าวไกลทวงบุญคุณ พท.

นายณัฐชากล่าวต่อว่า การที่เราโหวตนายกฯ เสร็จครั้งแรก แล้วส่งไม้ต่อให้พรรค พท. เพราะหวังว่าเพื่อนของเราจะสง่างามในการจัดตั้งรัฐบาลมากกว่านี้ ไม่ใช่ปล่อยข่าวโดยไม่เปิดประชุม 8 พรรคร่วมสักที แต่ก็พยายามออกข่าวกดดันให้เราโหวตให้ ตอนนี้แม้พรรค ก.ก.จะยังไม่มีความชัดเจน แต่ส่วนตัวเห็นว่าไม่ควรอย่างยิ่ง และพรรค ก.ก.ไม่ควรถลำลึก ไม่ได้ว่าใครจะโดนเขาหลอกมาอย่างไร แต่เราไม่ควรเป็นส่วนหนึ่งที่จะทำให้ประชาชนต้องทนทุกข์ทรมานอีก 4 ปีข้างหน้า  ต้องเอาให้ชัดเจนไปเจรจามาได้ผลสรุปอย่างไรบ้าง จะโหวตนายกฯ อีกครั้งกันวันที่ 4 ส.ค.นี้อยู่แล้ว จะมาลักไก่ประชุมกันวันที่ 3 ส.ค. แล้วบีบให้วันที่ 4 ส.ค.โหวตนายกฯ กันเลย มันดูน่าเกลียดไปหน่อย

“ฝากบอกพรรคเพื่อไทยว่าพรรคอันดับหนึ่งของประเทศ ส่งไม้ต่อให้พรรคเพื่อไทยไป ก็เพราะอยากเห็นรัฐบาล 8 พรรคร่วม ถ้ามีความพยายามอย่างหนึ่งอย่างใด ไม่ว่าจะเกมสกปรก เกมบนโต๊ะ หรือเกมใต้โต๊ะ บีบให้โหวตให้แบบที่ไม่รู้รายละเอียด เชื่อว่าประชาชนก็จะเข้าใจพรรคก้าวไกล ถ้าเกิดต้องไม่โหวตให้พรรคเพื่อไทย”

นายณัฐชากล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาไม่มีการพูดคุยแต่ปล่อยให้เกิดสถานการณ์มึนงง และต้องไปโหวตผ่านให้โดยที่ไม่รู้รายละเอียด สมาชิกพรรค ก.ก.ต้องขอทราบรายละเอียดก่อนเท่านั้น ส่วนรายละเอียดแบบคลุมเครือๆ ไม่มีลุงแน่ แต่ว่าเอาคนของลุงมาทั้งหมด อย่างนี้เราก็ไม่โหวตให้ และเชื่อว่าไม่ใช่แค่ตนคนเดียว สมาชิกพรรคหลายๆ คนก็ต้องการความชัดเจน ไม่ต้องการความชุลมุนคลุมเครือแบบนี้ เช่นมาประชุมกันวันที่ 3 ส.ค. แล้ววันที่ 4 ส.ค.โหวตเลย แบบนี้ไม่เห็นด้วย

เมื่อถามว่า ไม่กลัวว่าถ้าพรรค พท.และพรรค ก.ก.จัดรัฐบาลไม่สำเร็จ จะถูกพรรคอันดับ 3 หรือพรรคลุงขึ้นมาเสียบหรือ นายณัฐชากล่าวว่า นี่เป็นเกมขู่ชัดเจน ถ้าพรรค พท.กับพรรค ก.ก.จับมือกันแน่น ยังไงก็ไม่มีใครตั้งรัฐบาลได้ เพราะเสียงเกินครึ่งของสภาไปแล้ว ฉะนั้นอย่าพยายามสร้างผีตัวใหม่มาหลอกลวงประชาชน วันนี้ถ้าฝ่ายประชาธิปไตยจับมือกันแน่น ไม่มีใครในโลกนี้จัดตั้งรัฐบาลได้ ต่อให้จัดตั้งรัฐบาลได้ก็เจ็บช้ำกันอยู่แค่ไม่กี่เดือน แต่หากเอาผีตัวใหม่มาหลอกลวงกันแบบนี้จะเจ็บช้ำกันอีก 4 ปีต่อไป

               ด้านนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง โพสต์เฟซบุ๊กระบุในหัวข้อ “มีลุง ไม่มีเรา ปิดสวิตช์ก้าวไกล” ระบุว่า ขณะนี้การเจรจาใต้ดินได้สูตรจัดรัฐบาลแล้วคือ เพื่อไทย, ภูมิใจไทย, พลังประชารัฐ, รวมไทยสร้างชาติ, ชาติไทยพัฒนา, ประชาชาติ และพรรคเล็กอื่นๆ รวมเสียงได้ 315 เสียง เป็นสูตรมีลุง ไม่มีเรา เหมือนตอนหาเสียง ที่พรรคก้าวไกลรณรงค์จนได้คะแนนอันดับหนึ่ง แต่กลับย้อนศรตอนจัดรัฐบาลเที่ยวนี้ เพราะมีลุงเป็นรัฐบาลจึงไม่มีเรา ต้องไปเป็นฝ่ายค้าน

“ในที่สุดพรรคเพื่อไทยก็โดดข้ามขั้วประชาชนหมดความหมาย จับตาเปิดเกมเร็วหลังหยุดยาวต้นเดือนวันที่ 4 ส.ค.รีบชิงโหวตนายกฯ ตัวสูงๆ สว.โหวตให้เต็มสภา เมื่อก้าวไกลเป็นฝ่ายค้าน ได้เสียงรวมไปถึง 500 กว่า ลุ้นเกมระทึก วันที่ 4 เดือนหน้า” นายชูวิทย์ระบุ

ขณะที่นายไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชร และกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงทิศทางการโหวตเลือกนายกฯ ในวันที่ 4 ส.ค.ว่า พรรคยังไม่มติเรื่องนี้ เพราะยังไม่ทราบว่าจะมีการเสนอชื่อใครเป็นนายกฯ หรือมีองค์ประกอบอะไรบ้าง ต้องดูก่อนถึงจะตัดสินใจได้ ถ้าเป็นแคนดิเดตจากพรรค พท.ก็ต้องมีข้อแม้ว่ามีพรรค ก.ก.หรือไม่ คงต้องมีการพูดคุยในวันนั้น

พปชร.เชื่อโหวต 4 ส.ค.จบแน่

ผู้สื่อข่าวถามว่า คิดว่าการโหวตในวันที่ 4 ส.ค.จะจบหรือไม่ นายไผ่กล่าวว่า เชื่อว่าถ้ามีการเสนอชื่อในวันนั้นก็จบ เพราะพรรค พท.มีประสบการณ์ในการจัดตั้งรัฐบาล เขาคงพร้อม ไม่เช่นนั้นก็ต้องเสียแคนดิเดตนายกฯ ไปหนึ่งคน ซึ่งคงเป็นแบบนั้นไม่ได้

เมื่อถามถึงกระแสข่าวว่า พรรค พท.ดีลตั้งรัฐบาลกับพรรค พปชร.แล้ว นายไผ่กล่าวว่า ไม่มี ถ้าดีลกันเรียบร้อยจริงคงต้องแถลงข่าว คิดว่าข่าวที่ออกมาเป็นการคิด หรือวิเคราะห์ตามความน่าจะเป็นมากกว่า คุยกับผู้ใหญ่ในพรรคหลายคนก็ยังไม่มีความชัดเจน

ด้านนายธนกร วังบุญคงชนะ รมต.ประจำสำนักนายกฯ ในฐานะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวว่า ในวันที่ 2 ส.ค. เวลา 16.00 น. นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค รทสช.พร้อมแกนนำพรรคได้นัดหมาย สส.พรรคประชุมเพื่อกำหนดทิศทางการโหวตเลือกนายกฯ ในวันที่ 4 ส.ค.ให้ไปในแนวทางเดียวกัน และในวันที่ 3 ส.ค.จะเตรียมจัดพิธีทำบุญเนื่องในโอกาสครบรอบ 1 ปีของการก่อตั้งพรรค

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรค ก.ก.ยังเดินสายพบปะประชาชนต่างจังหวัดอย่างต่อเนื่อง เพื่อปลุกมวลชนจัดชุมนุมกดดันพรรคการเมืองที่กำลังจัดตั้งรัฐบาล นายธนกรกล่าวว่า นายพิธาและพรรค ก.ก.ควรใช้เวลานี้ตรวจสอบข้อกฎหมายและหาทางช่วย สส.ที่จะถูกดำเนินคดี มากกว่าใช้เวลาไปเดินสายพบมวลชน สะท้อนให้เห็นว่านายพิธาไม่ได้ห้ามปราม แต่กลับเห็นด้วยในการเคลื่อนไหวครั้งนี้ของแฟนคลับกลุ่มผู้สนับสนุน

 “ทุกพรรคการเมืองเขาเดินหน้าตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขในระบบรัฐสภากันทั้งนั้น แต่อาจไม่ได้ถูกใจพรรคก้าวไกล หลังจากดูทิศทางการเมืองแล้วกลัวตัวเองจะถูกผลักไปเป็นฝ่ายค้านใช่หรือไม่ จึงออกมาขู่ต่างๆ นานา รวมถึงใช้มวลชนมากดดันซึ่งเป็นภาพที่ไม่เหมาะสม แบบนี้เป็นการมองแค่พรรคของตัวเอง มากกว่าที่จะมองประโยชน์ของประเทศชาติ เพราะการจัดการชุมนุมกระทบต่อภาพลักษณ์และเศรษฐกิจของประเทศ จึงอยากให้พรรคก้าวไกลคิดให้ดี” นายธนกรระบุ

เด็กก้าวไกลอัด ‘ธนกร’

ด้าน น.ส.ภคมน หนุนอนันต์ สส.บัญชีรายชื่อ และรองโฆษกพรรค ก.ก. โพสต์เฟซบุ๊กตอบโต้นายธนกรว่า เป็นตรรกะวิบัติ การออกไปรับฟังปัญหาประชาชน คือจิตสำนึกพื้นฐานของนักการเมือง รทสช.เองก็ควรเอาอย่างบ้าง จะได้เรียนรู้ที่จะรับฟังเสียงประชาชน และขอสื่อสารกลับไปยังนายธนกร 3 ข้อ 1.เหตุใดจึงไร้จิตสำนึกในฐานะนักการเมือง ที่บอกว่าการเดินสายไปรับฟังปัญหาประชาชน ในวันที่ว่างจากการทำงานสภา เป็นการทำให้ประเทศเกิดความเสียหาย อย่าเอาแบบอย่างจากนายกฯ รักษาการมาเป็นบรรทัดฐาน 2.นายธนกร หรือแคนดิเดตนายกฯ ของพรรค รทสช.ออกไปรับฟังเสียงของประชาชนบ้าง ว่าตอนนี้คนทั้งประเทศเขาอยากได้อะไร อยากให้ประเทศเดินหน้าไปแบบไหน เผื่อว่าอาจเกิดความละอายแก่ใจในการขัดขวางผลการเลือกตั้ง ที่มาจากประชาชนทั่วประเทศ และเลิกดูถูกเสียงของประชาชน

3.ที่งงที่สุดคือตรรกะวิบัติ ที่บอกว่าการออกมาส่งเสียงของประชาชนให้เคารพผลการเลือกตั้งเป็นสิ่งที่จะทำให้ภาพลักษณ์ประเทศเสียหาย เพราะภาพลักษณ์ประเทศเสียหายไปแล้ว ตั้งแต่วันที่ สว.ร่วมกับพรรคการเมืองของกลุ่มอำนาจเก่าขัดขวางเสียงข้างมากในระบอบประชาธิปไตย ขัดขวางการจัดตั้งรัฐบาลประชาธิปไตยที่มีเสียงถึง 312 เสียงในสภาผู้แทนราษฎร แล้วพยายามสร้างเดดล็อกทางการเมืองผ่านสูตรการจัดตั้งรัฐบาลแบบพิสดาร คิดว่าไม่มีประเทศประชาธิปไตยไหนในโลกที่ยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นนี้

"หวังว่าคุณธนกรซึ่งปัจจุบันเป็น สส.ด้วย จะลดเวลาให้ความเห็นแปลกๆ กับสื่อมวลชนลงสักนิด แล้วเอาเวลาไปรับฟังสิ่งที่ประชาชนต้องการให้มากๆ เชื่อว่านายธนกรและพรรครวมไทยสร้างชาติ ก็จะเกิดสติปัญญามากขึ้นในการร่วมกันปิดสวิตช์ ส.ว. เพื่อเดินหน้าประเทศไปสู่อนาคต” น.ส.ภคมนโพสต์

ดร.เสรี วงษ์มณฑา นักวิชาการด้านการตลาดและการสื่อสาร โพสต์เฟซบุ๊กว่า "นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ออกมายืนยันแล้วว่า ถ้าสูตรรัฐบาลผสมยังมีพรรคก้าวไกล ภท.ไม่มีวันเข้าไปร่วมด้วยอย่างแน่นอน เป็นการตอบคำถามที่ถามด้วยความห่วงใยประเทศชาติ ขอขอบคุณด้วยใจจริงใจ ที่ยังยึดมั่นในความจงรักภักดี หาก สว.มั่นคง 188 เสียงมั่นคง เพื่อไทยกล้าหาญ ตัดสินใจจัดตั้งรัฐบาลเพื่อประเทศชาติ ยอมฉีก MOU ประเทศไทยเดินหน้าได้แน่ มองไปข้างหน้า ได้เวลาปรองดองเพื่อชาติ"

วันเดียวกัน นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.แบบบัญชีรายชื่อ  พรรค ก.ก. กล่าวถึงการเสนอร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขมาตรา 272 ตัดอำนาจ สว.โหวตเลือกนายกฯ หรือร่างปิดสวิตช์ สว.ว่า ยังมีความคาดหวังว่าจะได้รับเสียงสนับสนุนจากสมาชิกรัฐสภาเพียงพอ ซึ่งรู้ว่าเป็นภารกิจที่ท้าทาย เพราะเคยเสนอร่างเข้าไปแล้ว 3-4 ครั้งที่ผ่านมา และมี สว.ให้การสนับสนุนรวมกัน 63 คน จึงจำเป็นต้องหาเสียง สว.มาสนับสนุนเพิ่มเรื่อยๆ ให้ครบ 84 คน หรือครบ 1 ใน 3 ของ สว.ทั้งหมด เพื่อให้การเห็นชอบวาระ 1 ตามที่กฎหมายกำหนดไว้

 “เรื่องนี้ต้องมีการหารือกับทุกพรรคการเมือง ทั้งฝ่าย 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล หรือพรรคการเมืองฝ่ายอื่น เพราะที่ผ่านมาหลายพรรคการเมืองเคยแสดงจุดยืนเห็นชอบกับการตัดอำนาจโหวตนายกฯ ของ สว.มาแล้ว อย่างพรรคภูมิใจไทย พรรคประชาธิปัตย์เองก็เคยลงมติเห็นชอบกับร่างแก้ไขมาตรา 272 ในสภามาแล้ว” นายพริษฐ์ระบุ

ทั้งนี้ นายพริษฐ์กล่าวเพิ่มเติมว่า วันนี้เดินทางเข้ามาที่พรรคเพื่อเตรียมร่างกฎหมายที่ได้ยื่นต่อสภาฯ หลายร่างแล้ว ซึ่งพรรคก้าวไกลได้ยื่นไปแล้ว 2 ชุด คือร่างกฎหมายการปฏิรูปกองทัพ ที่มีทั้งหมด 5 ร่าง หนึ่งในนั้นคือการยกเลิกบังคับเกณฑ์ทหาร และอีกชุดการแก้ไขปัญหาเรื่องทุนผูกขาด สุราก้าวหน้า และ พ.ร.บ.การแข่งขันทางการค้า เพื่อผลักดันเข้าสภาฯ ต่อไป.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ช่วยนักโทษติดคุกหมด เสรีพิศุทธ์ถอนตัวงัดหลักฐานมัดแก๊งชั้น14/ปชป.มีมติร่วมรบ.

"นายกฯ อิ๊งค์" อารมณ์ดีนัดสื่อให้สัมภาษณ์เรื่องการเมือง 30 ส.ค. "ภูมิธรรม" มั่นใจเสถียรภาพรัฐบาล หลังดึง

'แม่ยก' ตรอมใจ! ทักษิณ ทำลายประชาธิปัตย์พังคามือ

นางกาญจนี วัลยะเสวี หรือ ติ๊งต่าง เจ้าของฉายาไฮโซสปอร์ตคลับและแกนนำกลุ่ม ชาวไทยหัวใจรักสงบ อดีตแม่ยกพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊ก ว่า#วันนี้เจ็บจี๊ดเข้าไปในหัวใจ