คลิปแก้ม.112มัดคอ‘เศรษฐา’

แก้ ม.112 หลอน "เศรษฐา" หลังเพื่อไทยเสนอชิงนายกฯ “จตุพร” งัดคลิปมัดพูดหาเสียงแก้ ม.112 เหมือน “พิธา” ทวงมาตรฐาน สว.-ฝ่าย 188 เสียงให้ยึดมั่นหลักไม่รับรองคนแก้ 112 เป็นนายกฯ ลั่นถ้าโหวตเศรษฐาแต่ปัดตกพิธาถือเป็นมาตรฐานเฮงซวย  "สว.เสรี" ติดใจคลิปหาเสียงเศรษฐาจะแก้ ม.112 เหมือนกัน ขอฟังจากปากก่อนตัดสินใจ "กิตติศักดิ์" หวั่น "เพื่อไทย" ตลบหลังโหวตนายกฯ เสร็จดึง "ก้าวไกล" ร่วมรัฐบาล "วันชัย" ย้ำโหวตให้พรรคที่รวบรวมเสียงข้างมากได้ เชื่อได้เสียง สว.มากกว่าเดิมหากลดเงื่อนไขลง

เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน ได้เฟซบุ๊กไลฟ์รายการประเทศไทยต้องมาก่อน ตอน "ตามคาด?" โดยประเมินถึงการโหวตนายกฯ วันที่ 4 ส.ค.นี้ว่า คาดสภาไม่มีการโหวตอีก เหตุเพราะนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯ เพื่อไทย เคยประกาศแก้ ม.112 เมื่อช่วงหาเสียงเลือกตั้ง ซึ่งขัดกับหลักการของ สว.และฝ่าย 188 เสียง

นายจตุพรกล่าวว่า เมื่อการแก้ ม.112 เป็นหลักยึดมั่นของ สว.และฝ่ายข้างน้อย 188 เสียงอ้างเป็นเหตุไม่ลงมติรับรองนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นนายกฯ ดังนั้นต้องไม่โหวตผ่านนายเศรษฐาเช่นกัน เพราะมีเจตนาแก้ ม.112 เหมือนกัน พรรคเพื่อไทยประกาศเสนอตัวนายเศรษฐาโหวตเป็นนายกฯ ในวันที่ 4 ส.ค.นี้ และในทางการเมืองช่วงหาเสียงเลือกตั้ง นายเศรษฐาก็เป็นอีกคนหนึ่งที่ยืนยันแก้ ม.112 ซึ่งไม่แตกต่างอะไรไปจากที่นายพิธาได้พูดเอาไว้เช่นกัน โดยมีคลิปเสียงยืนยันได้ชัดเจนและแพร่สะพัดในโซเชียลมีเดีย ซึ่งหาฟังไม่ยากเลย

นอกจากนี้ นายจตุพรยังได้ทวงมาตรฐานจาก สว.ว่า ถ้า สว.อ้างแก้ ม.112 เป็นเหตุไม่อาจรับรองให้เป็นนายกฯ ได้แล้ว ดังนั้นเมื่อมีมาตรฐานกับพรรคก้าวไกลอย่างไร ก็ต้องปฏิบัติต่อนายเศรษฐาอย่างนั้นเช่นกัน อีกทั้งฝ่าย 188 เสียงต้องยืนยันมาตรฐานคนแก้ ม.112 เป็นนายกฯ ไม่ได้ด้วย

 “หากยังโหวตให้คุณเศรษฐาได้ แต่ไม่รับรองคุณพิธา ในกรณีแก้ ม.112 เช่นกัน แสดงว่าบ้านเมืองนี้มันเฮงซวยจริงๆ แล้ว ทำไมคุณเศรษฐาพูดแก้ ม.112 ได้ แล้วทำไมคุณพิธาจึงพูดแก้ ม.112 ไม่ได้ ทั้งที่เป็นประมวลกฎหมายอาญาเท่านั้น ดังนั้นจึงควรเป็นมาตรฐานเดียวกัน แล้วเพื่อไทยจะอธิบายเรื่องนี้อย่างไร และพรรคร่วม 188 เสียงตลอดจน สว.คุณจะเอาอย่างไร"

นายจตุพรกล่าวอีกว่า เมื่อพรรคเพื่อไทยข้ามขั้วตั้งรัฐบาลกับฝ่าย 188 เสียงแล้ว นายเศรษฐามีความกล้าจะเป็นนายกฯ จริงหรือ เพราะถ้าข้ามขั้ววันไหนก็จะพังก่อนตั้งรัฐบาลอีก แล้วยังจะจบไม่สวย อีกอย่างช่วงก่อนวันที่ 4 ส.ค. เมื่อปรากฏเสนอชื่อนายเศรษฐาโหวตนายกฯ แล้ว ข้อมูลกรณีซื้อที่ดินที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ เตรียมไว้ก็จะหลุดออกมา ขณะที่คลิปหาเสียงประกาศแก้ ม.112 ก็มีคนนำมาแถลงอย่างเป็นทางการด้วย ดังนั้นจึงเชื่อได้ว่า 4 ส.ค.คงไม่ได้นายกฯ อีก

นายจตุพรย้ำว่า หนทางที่ดีท่ามกลางสถานการณ์ขัดแย้งนี้ 8 พรรค MOU โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทยกับก้าวไกลต้องจับมือกันให้เหนียวแน่น ไม่แตกแยกข้ามขั้วไปร่วมมือกับฝ่าย 188 เสียงเพียงแค่ต้องการเป็นรัฐบาลหาประโยชน์เท่านั้น

 “8 พรรค MOU จับมือกันให้มั่นคง คือทางออกที่เป็นจริงตามสถานการณ์ที่ สว.ยังมีอิทธิพลชี้ขาดนายกฯ ได้ หากยังจะข้ามขั้วตั้งรัฐบาลแล้ว บ้านเมืองจะเผชิญวิกฤตฉิบหาย ประชาชนจะออกมาต่อต้านเต็มถนน ประเทศย่อมพัง และพรรคทรยศประชาชนจะวอดวายด้วย" นายจตุพรกล่าว

ด้านนายเสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) กล่าวถึงกระแสข่าวทิศทางการโหวตนายกรัฐมนตรีในวันที่ 4 ส.ค.นี้ ที่พรรคเพื่อไทยสามารถรวบรวมเสียงพรรคภูมิใจไทยและพรรคชาติไทยพัฒนามาร่วมสนับสนุนได้ และพรรคก้าวไกลก็ยินดีโหวตสนับสนุนให้พรรคเพื่อไทย แต่จะไม่ขอเป็นพรรคร่วมรัฐบาลว่า เคยได้ยินสูตรนี้มาเช่นกัน ถ้าทำได้จริงก็ไม่ต้องพึ่งเสียง สว.ช่วยโหวตนายกฯ เพราะใช้เสียง สส.อย่างเดียวก็เกิน 376 เสียงแล้ว ขึ้นอยู่กับพรรคภูมิใจไทยจะโหวตสนับสนุนให้จริงหรือไม่ หรือสุดท้ายแล้วหากพรรคเพื่อไทยได้เป็นนายกฯ แล้วไปเอาพรรคก้าวไกลมาร่วมรัฐบาลด้วย ก็ต้องรับผิดชอบที่รับปากแล้ว แต่เปลี่ยนใจภายหลัง

นายเสรีกล่าวว่า ส่วนจุดยืนการโหวตนายกฯ ของ สว.นั้น ยืนยันไม่โหวตสนับสนุนพรรคที่คิดจะแก้มาตรา 112 ล่าสุดเพิ่งเห็นคลิปนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย ที่เคยพูดถึงแนวทางการแก้ไขมาตรา 112 ตอนหาเสียงเลือกตั้ง จึงขอนำคลิปดังกล่าวมาประกอบการพิจารณาโหวตเลือกนายกฯ ก่อน "ยังไม่สามารถให้คำตอบได้จะโหวตเลือกนายเศรษฐาหรือไม่ แม้ในเอ็มโอยู 8 พรรคร่วมรัฐบาลไม่ได้ระบุเรื่องการแก้ไขมาตรา 112 และพรรคเพื่อไทยมีจุดยืนไม่แก้มาตรา 112 แต่ติดอยู่ที่นายเศรษฐาเคยพูดตอนหาเสียงจะแก้มาตรา 112 จึงอยากได้ยินคำตอบที่ชัดเจนจากปากนายเศรษฐา ว่ามีความคิดจะแก้มาตรา 112 จริงหรือไม่ เพื่อประกอบการตัดสินใจโหวตนายกฯ" นายเสรีกล่าว

นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ สว. กล่าวว่า กระแสข่าวสูตรโหวตนายกฯ วันที่ 4 ส.ค.ที่จะดึงพรรคภูมิใจไทย พรรคชาติไทยพัฒนามาร่วมสนับสนุนพรรคเพื่อไทย โดยมีพรรคก้าวไกลร่วมโหวตให้ด้วย แต่พรรคก้าวไกลจะไม่ขอเป็นรัฐบาลนั้น ตนมีข้อสงสัยว่าจะแน่ใจได้อย่างไรว่าจะไม่มีการตั้งพรรคก้าวไกลมาเป็นรัฐบาลภายหลังโหวตนายกฯไปแล้ว เป็นสูตรที่ดูแล้วไม่ค่อยสบายใจ น่าสงสัย เพราะคลุมเครือไม่ชัดเจน

"สูตรนี้แม้เป็นไปได้แต่ไม่ควรทำ ถ้าหลวมตัวโหวตหนุนไปแล้ว พรรคเพื่อไทยไปจับมือพรรคก้าวไกลภายหลัง จะยิ่งเกิดความวุ่นวายระดับแผ่นดินไหวรุนแรง อยากให้พรรคเพื่อไทยประกาศให้ชัดเจนก่อนวันโหวตนายกฯ ว่า จะมีพรรคใดร่วมจัดตั้งรัฐบาลบ้าง ถ้ามีความชัดเจนว่าไม่มีพรรคก้าวไกลร่วมด้วย สว.ก็พร้อมโหวตให้พรรคเพื่อไทยเป็นนายกฯ" นายกิตติศักดิ์กล่าว

นายวันชัย สอนศิริ สว. 1 ใน 13 คนที่โหวตเห็นชอบนายพิธาเป็นนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงทิศทางการลงมติเลือกนายกฯ ครั้งที่ 3 ในวันที่ 4 ส.ค.ว่า ยังคงยึดในหลักการเดิมคือ พร้อมสนับสนุนพรรคการเมืองที่สามารถรวบรวมเสียงข้างมากได้ และหากพรรคเพื่อไทยจะเสนอชื่อนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯ ของพรรคให้ที่ประชุมรัฐสภาพิจารณา ตนก็พร้อมลงมติให้ความเห็นชอบ ทั้งนี้มั่นใจด้วยว่า หากการจัดตั้งรัฐบาลของพรรคเพื่อไทย ไม่มีพรรคก้าวไกลร่วมรัฐบาลอยู่ด้วย จะยิ่งทำให้การจัดตั้งรัฐบาลประสบผลสำเร็จ เพราะจะได้เสียงสนับสนุนจาก สว.จำนวนมาก

ส่วนหากพรรคก้าวไกลยังคงอยู่ร่วมรัฐบาลด้วย แต่ลดเงื่อนไขการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 จะได้รับเสียงสนับสนุนจาก สว.อยู่หรือไม่นั้น นายวันชัย  เชื่อว่า การลงมติของ สว.จะเปลี่ยนแปลงไป แต่ไม่สามารถยืนยันได้ว่าจะสำเร็จได้ตามเป้าหมายหรือไม่ เพราะแค่การเปลี่ยนแปลงพรรคแกนนำก็ถือว่าได้เปลี่ยนแปลงไปมากแล้ว และเห็นว่าพรรคเพื่อไทยมีศักยภาพมากกว่าพรรคก้าวไกล ทั้งการประสานติดต่อพรรคการเมืองและ สว. จึงเชื่อว่าจะทำให้มีพรรคพวกที่ให้ความร่วมมือมากกว่า

"มั่นใจว่าในการลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีในวันที่ 4 สิงหาคมนี้ จะได้รับเสียงสนับสนุนจาก สว.มากกว่า 13 เสียง และหากลดเงื่อนไขต่างๆ ลงด้วยก็จะยิ่งได้รับเสียงสนับสนุนมากขึ้น เพราะจากพรรคพวกและจากผลการประชุมครั้งที่ผ่านมา สะท้อนชัดเจนว่าถ้าไม่มีพรรคก้าวไกลร่วมรัฐบาลด้วย สว.ก็ไม่น่าจะมีปัญหากับนายเศรษฐา" นายวันชัยกล่าว

พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา สว. ที่เคยลงมติให้ความเห็นชอบนายพิธาเป็นนายกฯ เช่นกัน เปิดเผยถึงทิศทางการลงมติเพื่อเลือกนายกรัฐมนตรีครั้งที่ 3 ในวันที่ 4 สิงหาคมนี้ว่า แม้พรรคเพื่อไทยจะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ก็ยังไม่แน่ชัดว่าจะเสนอชื่อนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯ ของพรรคในที่ประชุมรัฐสภาเพื่อพิจารณาหรือไม่

"จึงยังขอรอฟังวิสัยทัศน์นายเศรษฐาในวันที่ 4 สิงหานี้ดูก่อน และยังไม่สามารถให้คำตอบได้ในขณะนี้" พ.ต.อ.จรุงวิทย์กล่าวและระบุด้วยว่า ยังไม่เคยได้รับการติดต่อใดๆ จากพรรคเพื่อไทย หลังก่อนหน้านี้มีคณะเจรจาจากพรรคเพื่อไทยมาพูดคุยกับ สว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง