ปฏิบัติเฉพาะสิ่งที่ควร พระราชดำรัสเสด็จออกมหาสมาคม

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จออกมหาสมาคม ในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม 2566 พระราชทานพระราชดำรัส ขอให้ทุกฝ่ายตั้งใจให้มั่นคงที่จะประพฤติปฏิบัติเฉพาะสิ่งที่ควรพิจารณาแล้ว ด้วยสติปัญญาและวิจารณญาณว่าเป็นสิ่งที่ดีที่ถูกต้อง เป็นประโยชน์แท้ทั้งแก่ตนเองและส่วนรวม "นายกฯ" เป็นประธานพิธีทำบุญตักบาตร-ถวายสัตย์ปฏิญาณเป็นข้าราชการที่ดีและพลังของแผ่นดิน "พสกนิกร" ทั่วประเทศจัดกิจกรรมถวายพระพรอย่างพร้อมเพรียง

เมื่อวันที่ 28 ก.ค.2566 เวลา 10.26  น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี  เสด็จพระราชดำเนินไปยังพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย พระบรมมหาราชวัง ในการเสด็จออกมหาสมาคม พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้พระบรมวงศานุวงศ์ นายกรัฐมนตรี ประธานรัฐสภา และประธานศาลฎีกา เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายพระพรชัยมงคล ในการพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา พุทธศักราช 2566

ในโอกาสนี้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ  เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา โดยเสด็จในการนี้ด้วย ในการนี้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร  มหาวชิราลงกรณวรราชภักดี สิริกิจการิณีพีรยพัฒน รัฐสีมาคุณากรปิยชาติ  สยามบรมราชกุมารี และสมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ

 เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว   เสด็จขึ้นประทับบนพระที่นั่งพุดตานกาญจนสิงหาสน์ ภายใต้

พระนพปฎลมหาเศวตฉัตรแล้ว เจ้าพนักงานรัวกรับและเปิดพระวิสูตร ชาวพนักงานประโคมกระทั่ง แตร มโหระทึก  ทหารกองเกียรติยศถวายความเคารพ  วงดุริยางค์บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี ทหารบก ทหารเรือ ทหารอากาศ  ยิงปืนใหญ่เฉลิมพระเกียรติ ฝ่ายละ 21  นัด

จากนั้น สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า  กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ  สยามบรมราชกุมารี กราบบังคมทูลพระกรุณาถวายพระพรชัยมงคล แทนพระบรมวงศานุวงศ์ องคมนตรี และข้าราชบริพารในพระองค์ จบแล้ว พล.อ. ประยุทธ์  จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี  กราบบังคมทูลพระกรุณาถวายพระพรชัยมงคล แทนคณะรัฐมนตรี ข้าราชการทหาร ตำรวจ พลเรือน และราษฎรทุกหมู่เหล่า นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา  ประธานรัฐสภา กราบบังคมทูลพระกรุณาถวายพระพรชัยมงคล แทนสมาชิกรัฐสภา นายโชติวัฒน์ เหลืองประเสริฐ ประธานศาลฎีกา กราบบังคมทูลพระกรุณาถวายพระพรชัยมงคล แทนข้าราชการตุลาการ ตามลำดับ

ในโอกาสนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระราชดำรัสว่า  "ข้าพเจ้ามีความชื่นชมเป็นอย่างยิ่ง ในไมตรีของท่านทั้งหลาย ที่ได้พร้อมกันมาอวยพรวันเกิดแก่ข้าพเจ้าในวาระนี้ ขอขอบพระทัยพระบรมวงศานุวงศ์ และขอบใจนายกรัฐมนตรี ประธานรัฐสภา  ประธานศาลฎีกา ทั้งขอสนองพรและไมตรีของทุกท่าน ด้วยใจจริงเช่นนี้ การสร้างสรรค์จรรโลงความผาสุกมั่นคงของชาติบ้านเมือง ถือว่าเป็นกรณียกิจอันสำคัญสูงสุด นอกจากต้องอาศัยการบริหารประเทศที่ฉลาดสามารถ และสุจริตเป็นธรรมแล้ว ยังต้องอาศัยความร่วมมือสนับสนุนจากประชาชนทั้งประเทศด้วย จึงขอให้ท่านทั้งหลายในมหาสมาคมนี้ ซึ่งล้วนแต่มีตำแหน่งหน้าที่สำคัญอยู่ในสถาบันอันเป็นหลักของประเทศ รวมทั้งประชาชนทุกหมู่เหล่า ได้ตั้งตัวตั้งใจให้มั่นคงที่จะประพฤติปฏิบัติ เฉพาะสิ่งที่ควรพิจารณาแล้วด้วยสติปัญญาและวิจารณญาณ ว่าเป็นสิ่งที่ดีที่ถูกต้อง   เป็นประโยชน์แท้ทั้งแก่ตนเองและส่วนรวม ผลจากการประพฤติปฏิบัติของทุกคนทุกฝ่าย ก็จะประสานส่งเสริมกัน  เป็นความเจริญมั่นคงของประเทศชาติ   และความร่มเย็นเป็นสุขของประชาชน กรณียกิจสำคัญที่เราทุกคนร่วมแรงร่วมใจกันปฏิบัติ ก็จะสำเร็จผลสมบูรณ์ดังที่มุ่งหมาย ขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัย  และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวไทยทุกหมู่เหล่าเคารพบูชา จงคุ้มครอง รักษาท่าน ให้ปราศจากทุกข์ ปราศจากภัย และอำนวยสุขสิริสวัสดิ์พิพัฒนมงคล ให้สัมฤทธิ์แก่ท่านทุกเมื่อไป"

จากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จลงจากพระที่นั่งพุดตานกาญจนสิงหาสน์ ภายใต้

พระนพปฎลมหาเศวตฉัตร แล้วเสด็จขึ้นพระที่นั่งไพศาลทักษิณ พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี  นารีรัตนราชกัญญา ทางพระทวารเทวราชมเหศวร เสด็จลงท้องพระโรงหน้าพระที่นั่งจักรพรรดิพิมานด้านตะวันตก  แล้วเสด็จพระราชดำเนินไปประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินกลับ

วันเดียวกัน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่ง พร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา จากพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ไปยังพระบรมมหาราชวัง เมื่อรถยนต์พระที่นั่งเทียบที่ประตูเกยหลังวัดพระศรีรัตศาสดาราม เสด็จฯ ไปยังพระอุโบสถ เสด็จขึ้นชานหน้าพระอุโบสถ ทรงรับการถวายพระพรของบรรพชิตญวนและจีน เสด็จเข้าพระอุโบสถ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ประทับยืนหน้าพระราชอาสน์ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี  นารีรัตนราชกัญญา ประทับยืนหน้าพระเก้าอี้ที่ประทับ

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงจุดเทียนพระมหามงคล 1 คู่ ตั้งอยู่บนธรรมาสน์ศิลา เทียนเท่าพระองค์ในตู้ข้างธรรมาสน์ศิลา ด้านพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกย์ เทียนเท่าพระองค์ในตู้ข้างธรรมาสน์ศิลา ด้านพระพุทธเลิศหล้านภาไลย ธูปเทียนท้ายที่นั่งบูชา พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกย์ พระพุทธเลิศหล้านภาไลย  

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการทองใหญ่ที่หน้าธรรมาสน์ศิลา ทรงกราบ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จฯ ไปทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการทองทิศ ทรงกราบ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ประทับยืนหน้าพระราชอาสน์ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี  นารีรัตนราชกัญญา ประทับยืนหน้าพระเก้าอี้ที่ประทับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ ไปทรงจุดเทียนที่โต๊ะหน้าอาสน์สงฆ์ พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์นวัคคหายุสมธัมม์ และทรงจุดเทียนที่บัตรเทวดานพเคราะห์บนแท่น ซึ่งตั้งอยู่ตรงพระทวารกลาง

จากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี  และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา เสด็จลงชานหน้าพระอุโบสถ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานราชสังคหวัตถุแก่ข้าทูลละอองธุลีพระบาท ผู้สูงอายุฝ่ายหน้า-ฝ่ายใน จำนวน 34  คน               

เสด็จฯ ไปยังพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย รถยนต์พระที่นั่งเทียบที่หน้าพระทวารเทเวศรรักษา เสด็จเข้าพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ทรงรับการถวายความเคารพของผู้มาเฝ้าฯ ประทับพระราชอาสน์ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ อาลักษณ์อ่านประกาศพระบรมราชโองการสถาปนาสมณศักดิ์พระราชาคณะเจ้าคณะรอง

 เสด็จฯ ไปทรงประเคนหิรัญบัฏ พัดยศ ผ้าไตร เครื่องประกอบสมณศักดิ์แด่พระราชาคณะเจ้าคณะรอง จำนวน 6 รูป และทรงประเคนสัญญาบัตร พัดยศ แด่พระสงฆ์ที่ได้ทรงตั้งสมณศักดิ์ใหม่ จำนวน 95 รูป ตามลำดับ พระสงฆ์ 10  รูปเจริญชัยมงคลคาถา ชาวพนักงานประโคมฆ้องชัย แตร ดุริยางค์  พระสงฆ์ที่ได้รับสมณศักดิ์ใหม่ กลับมานั่งยังอาสน์สงฆ์พร้อมแล้ว หยุดประโคม ประทับพระราชอาสน์ ทรงหลั่งทักษิโณทก พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา  ถวายอดิเรก ออกจากพระที่นั่งแล้ว เจ้าพนักงานนิมนต์พระสงฆ์ที่จะเจริญพระพุทธมนต์การพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา 72 รูป ขึ้นนั่งยังอาสน์สงฆ์  พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ ไปทรงจุดเทียนพระมหามงคลที่พระแท่นพระนพปฎลมหาเศวตฉัตรเล่มที่ตั้งอยู่ด้านพระราชอาสน์ เทียนเท่าพระองค์ในตู้ข้างพระแท่นพระนพปฎลมหาเศวตฉัตร ด้านพระราชอาสน์ ธูปเทียนบูชาพระพุทธรูป เทวรูปเทวดานพเคราะห์ที่โต๊ะหมู่ ด้านพระราชอาสน์

 แล้วเสด็จฯ ไปทรงจุดเทียนพระมหามงคลที่พระแท่นพระนพปฎลมหาเศวตฉัตรเล่มที่ตั้งอยู่ด้านพระบรมวงศ์เฝ้าฯ เทียนเท่าพระองค์ในตู้ข้างพระแท่นพระนพปฎลมหาเศวตฉัตร ด้านพระบรมวงศ์เฝ้าฯ ธูปเทียนบูชาพระพุทธรูป เทวรูปเทวดานพเคราะห์ที่โต๊ะหมู่ ด้านพระบรมวงศ์เฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการพานทองสองชั้น บูชาพระพุทธปฏิมาชัยวัฒน์ รัชกาลที่ 9  และพระพุทธรูปประจำพระชนมวาร รัชกาลที่ 9 ที่หน้าพระแท่นพระนพปฎลมหาเศวตฉัตร ทรงกราบ ประทับพระราชอาสน์ ทรงศีล สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ถวายศีล จบ เจ้าหน้าที่กรมการศาสนาอาราธนาพระปริตร  พระสงฆ์ 72 รูปเจริญพระพุทธมนต์การพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา เมื่อพระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ถึงบททำน้ำพระพุทธมนต์ ทรงจุดเทียนที่ฝาพระครอบพระกริ่งปวเรศ เจ้าพนักงานเชิญไปตั้งที่โต๊ะหน้าสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เสด็จฯ ไปทรงประเคนพระครอบพระกริ่งปวเรศแด่สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก

จากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จขึ้นพระที่นั่งไพศาลทักษิณ ทางพระทวารเทวราชมเหศวร ทรงจุดธูปเทียนบูชาพระสยามเทวาธิราช แล้วเสด็จลงพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัยทางพระทวารเทวราชมเหศวร ประทับพระราชอาสน์ เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จขึ้นพระที่นั่งไพศาลทักษิณ มีราชองครักษ์และหัวหน้าฝ่ายที่ประทับ ตามเสด็จ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ประทับยืนหน้าพระราชอาสน์ พร้อมทั้งผู้ร่วมพิธียืน เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวผ่านพระทวารเทวราชมเหศวรไปแล้ว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ประทับพระราชอาสน์พร้อมทั้งผู้ร่วมพิธีนั่ง จนกว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะเสด็จลงพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย จะประทับยืนรับเสด็จพร้อมผู้ร่วมพิธียืน เมื่อพระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์การพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา จบ ถวายอดิเรก ถวายพระพรลา ออกจากพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จ ฯ ไปทรงกราบที่หน้าเครื่องนมัสการหน้าพระแท่นพระนพปฎลมหาเศวตฉัตร ทรงรับการถวายความเคารพของผู้มาเฝ้าฯ  พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา เสด็จพระราชดำเนินกลับพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต

ก่อนนั้น เวลา 07.54 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานองคมนตรี เป็นผู้แทนพระองค์ ไปในการบำเพ็ญพระราชกุศลปล่อยโค นก และปลา เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว วันที่ 28 ก.ค.2566 ณ ท่าว่าสุกรี เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร

ในการนี้ ประธานองคมนตรีปล่อยโค จำนวน 1 คู่ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานแก่ครอบครัว นายชูชาติ ศรีเวียง เกษตรกรอาศัยอยู่ที่บ้านเลขที่ 61 หมู่ที่ 7 ต.ละเวี้ย อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ เพื่อนำไปเลี้ยงขยายพันธุ์เพิ่มผลผลิตกับปล่อยนกเขาชวาจำนวน 72 ตัว กลับคืนสู่ธรรมชาติ และปล่อยพันธุ์ปลาน้ำจืดจำนวน 1,000,000 ตัว ซึ่งกรมประมงน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวาย ประกอบด้วย ปลาตะเพียนขาว ปลาตะเพียนทอง ปลายี่สกไทย ปลาแก้มช้ำ ปลาสร้อยขาว ปลากระแห ปลาโพง ปลาเทโพและปลาชะโอน ลงแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อให้เจริญเติบโตรักษาความสมดุลตามระบบนิเวศ และเพาะขยายพันธุ์ตามธรรมชาติต่อไป

3 เหล่าทัพยิงสลุตหลวง

ที่มณฑลบริเวณท้องสนามหลวง เวลา 07.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม พร้อมด้วยนางนราพร จันทร์โอชา ภริยา  เป็นประธานในพิธีเจริญพระพุทธมนต์และพิธีทำบุญตักบาตร ถวายพระราชกุศลเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประจำปีพุทธศักราช 2566 โดยมีคณะองคมนตรีและภริยา ประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกา ประธานวุฒิสภา ประธานองค์กรตามรัฐธรรมนูญและภริยา คณะรัฐมนตรีและคู่สมรส เลขาธิการนายกรัฐมนตรี หน่วยราชการในพระองค์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ผู้บัญชาการเหล่าทัพ/ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติพร้อมภริยา หัวหน้าส่วนราชการระดับปลัดกระทรวงหรือเทียบเท่า ปลัดกรุงเทพมหานคร ร่วมพิธีทำบุญตักบาตรในครั้งนี้ด้วย

 เมื่อนายกรัฐมนตรีและภริยาเดินทางถึงบริเวณท้องสนามหลวง สมเด็จพระราชาคณะ พระราชาคณะ จำนวน 10 รูป ขึ้นนั่งอาสน์สงฆ์ นายกรัฐมนตรีจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย ถวายธูปเทียนแพหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เจ้าหน้าที่อาราธนาศีล สมเด็จพระราชาคณะ พระราชาคณะ จำนวน 10 รูป ให้ศีล พระสงฆ์สวดพระพุทธมนต์ จากนั้น นายกฯและภริยา ประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกา ประธานวุฒิสภา ประธานองค์กรตามรัฐธรรมนูญ และส่วนราชการในพระองค์ ถวายเครื่องไทยธรรมแด่พระสงฆ์ จำนวน 10 รูป นายกรัฐมนตรีถวายผ้าไตร จำนวน 10 ไตร กรวดน้ำรับพร กราบลาพระรัตนตรัย และถวายความเคารพหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ต่อมานายกฯ และภริยา นำผู้ร่วมพิธีร่วมตักบาตรพระสงฆ์ จำนวน 172 รูป เป็นอันเสร็จพิธี 

จากนั้นเวลา 07.45 น. พล.อ.ประยุทธ์เป็นประธานในพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณเพื่อเป็นข้าราชการที่ดีและพลังของแผ่นดิน เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยมีประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกา ประธานวุฒิสภา ประธานองค์กรอิสระ คณะรัฐมนตรี เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร หัวหน้าส่วนราชการระดับปลัดกระทรวงหรือเทียบเท่า ปลัดกรุงเทพมหานคร ผู้บัญชาการเหล่าทัพ และตำรวจ หัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่า และระดับกรมหรือเทียบเท่า ผู้บริหารหน่วยงานของรัฐ ข้าราชการพลเรือน ทหาร ตำรวจ เจ้าหน้าที่ของรัฐ มหาวิทยาลัยของรัฐ (ในส่วนกลาง) รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน จำนวนกว่า 1,700 คน เข้าร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียงกัน

ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ได้ถวายความเคารพหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แล้วถวายธูปเทียนแพ หน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จากนั้นนายกฯ กล่าวถวายพระพรชัยมงคล และกล่าวนำถวายสัตย์ปฏิญาณเพื่อเป็นข้าราชการที่ดีและพลังของแผ่นดิน หน้าพระบรมฉายาลักษณ์ฯ เมื่อเสร็จนายกฯ และผู้ร่วมพิธีต่างร่วมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี และร่วมร้องเพลงสดุดีจอมราชา เป็นอันเสร็จพิธี

ต่อมาเวลา 08.30 น. พล.อ.ประยุทธ์พร้อมภริยา เดินทางไปที่ห้องแดง อาคารหน่วยราชการในพระองค์ 904 ในพระบรมมหาราชวัง ลงนามถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ประจำปีพุทธศักราช 2566

ขณะที่กองทัพบก โดยกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 1 กรมทหารปืนใหญ่ที่ 1 รักษาพระองค์ ได้ยิงสลุต 21 นัด เฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว บริเวณท้องสนามหลวง ส่วนกองทัพเรือ โดยกองพันทหารราบที่ 1 รักษาพระองค์ กรมทหารราบที่ 1 กองพลนาวิกโยธิน หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน ได้ยิงสลุตหลวง 21 นัด เฉลิมพระเกียรติฯ ณ ป้อมวิไชยประสิทธิ์ กองบัญชาการกองทัพเรือ พระราชวังเดิม เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพฯ รวมทั้งกองทัพอากาศ โดยกรมทหารต่อสู้อากาศยานรักษาพระองค์ หน่วยบัญชาการอากาศโยธิน ทำการยิงปืนใหญ่เฉลิมพระเกียรติ จำนวน 21 นัด บริเวณลานอเนกประสงค์ โรงเรียนนายเรืออากาศนวมินทกษัตริยาธิราช (ดอนเมือง)

รบ.จัดสโมสรสันติบาต

ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้จัดงานสโมสรสันนิบาตเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา ในวันเสาร์ที่ 29 ก.ค. เวลา 19.00 น. ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล โดยจะมีการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย และสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย ในวันและเวลาดังกล่าวให้ประชาชนทุกหมู่เหล่าได้รับชมและรับฟังพร้อมกันด้วย

 ในการนี้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า  กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร มหาวชิราลงกรณวรราชภักดี สิริกิจการิณีพีรยพัฒน รัฐสีมาคุณากรปิยชาติ สยามบรมราชกุมารี สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี เสด็จไปในงานด้วย

สำหรับการจัดงานครั้งนี้ รัฐบาลได้เชิญผู้ร่วมงานทั้งฝ่ายไทยและฝ่ายต่างประเทศเช่นที่เคยเชิญในงานสโมสรสันนิบาตเฉลิมพระเกียรติฯ โดยเชิญผู้ได้รับเชิญพร้อมคู่สมรส จำนวนผู้ได้รับเชิญทั้งหมดประมาณ 1,888 คู่

 “รัฐบาลขอเชิญชวนพสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่า ได้ร่วมกันเฉลิมพระเกียรติและถวายพระพรชัยมงคลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษาโดยพร้อมเพรียงกัน” รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าว

ด้านพสกนิกรทั่วประเทศต่างจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ ถวายเป็นพระราชกุศลและแสดงออกถึงความจงรักภักดี เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

จ.ชลบุรี นายกัมพล ตันสัจจา ประธานสวนนงนุชพัทยา พร้อมคณะผู้บริหาร ได้ร่วมจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติฯ พร้อมนำช้างแสนรู้ 2 เชือก ประกอบด้วย พลายซันเด อายุ 11 ปี พลายตะวันฉาย อายุ 9 ปี ซึ่งถือเป็นสัตว์คู่บ้านคู่เมือง ร่วมมอบพวงมาลัยถวายพระพร พร้อมจัดให้มีขบวนแห่เฉลิมพระชนมพรรษา และการแสดงเทิดพระเกียรติชุด “อศิรวาทพระราชธิบดีจักรีวงศ์” ขึ้นอย่างสวยสดงดงามยิ่งใหญ่

จ.เชียงใหม่ บริเวณศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา จังหวัดเชียงใหม่ นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าฯ จังหวัดเชียงใหม่ นำพสกนิกรร่วมพิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ จำนวน 72 รูป เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล และนำข้าราชการร่วมถวายสัตย์ปฏิญาณตนเพื่อเป็นข้าราชการที่ดีและพลังของแผ่นดิน ร่วมลงนามถวายพระพร

จ.นครราชสีมา บริเวณอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าฯจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ ทหาร ตำรวจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาครัฐ ภาคเอกชน นักเรียน นักศึกษา จิตอาสา และประชาชนกว่า 1,000 คน ร่วมในพิธีพร้อมสวมใส่เสื้อสีเหลือง สตรีสวมใส่ชุดผ้าไหมสีเหลือง นุ่งผ้าไทย ใส่ผ้าซิ่น ประกอบพิธีทำบุญตักบาตร ข้าวสารอาหารแห้งแด่พระสงฆ์ จำนวน 72 รูป เพื่อเฉลิมพระเกียรติฯ

จ.ภูเก็ต บริเวณลานอเนกประสงค์ ศาลากลางจังหวัด นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าฯ จังหวัดภูเก็ต นำหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และพสกนิกรในจังหวัดภูเก็ตทุกหมู่เหล่า ประกอบพิธีทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งแด่พระสงฆ์ 50 รูป เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล โดยมีพระครูพรหมประภัสสร รองเจ้าคณะจังหวัดภูเก็ต เจ้าอาวาสวัดเทพวนาราม (วัดม่าหนิก)  เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ นำพระภิกษุสงฆ์รับบิณฑบาต

จ.ยะลา ที่เรือนจำอำเภอเบตง นายเอก ยังอภัย ณ สงขลา นายอำเภอเบตง นำหัวหน้าส่วนราชการ จิตอาสาพระราชทาน จิตอาสา 904 และประชาชนจิตอาสา ร่วมกันเลี้ยงอาหารแก่ผู้ต้องขัง ในกิจกรรมจิตอาสาเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมตระหนักถึงความเสียสละและการทำความดีโดยไม่หวังผลตอบแทน ตลอดจนถึงเป็นการแสดงความจงรักภักดี และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ทรงห่วงใยและทรงคำนึงถึงความอยู่ดีมีสุขของประชาชนชาวไทย โดยบรรยากาศสร้างความปลื้มปีติแก่ผู้ต้องขังทั้งชายและหญิงเป็นอย่างมาก.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

กกต.หายห่วง! ชูเลือกตั้งอบจ. รู้สึก ‘ปลอดภัย’

"แสวง" ปลุกเจ้าหน้าที่ กกต.! ยันไม่ได้รู้สึกถึงความไม่ปลอดภัยหลังจากที่ได้ลงตรวจเยี่ยมการสมัครรับเลือกตั้งที่ปราจีนบุรี ไม่คิดว่าผู้สมัครนายก อบจ.คนไหนจะสร้างความรุนแรง

ประเดิม 10 วันอตร. ตาย 52

ประเดิม 10 วันอันตราย เกิดอุบัติเหตุ 322 ครั้ง ผู้บาดเจ็บ 318 คน ผู้เสียชีวิตแล้ว 52 ราย สาเหตุส่วนใหญ่ขับรถเร็ว

เปิดของขวัญปีใหม่ แพทองโพยแจกยับ

รัฐบาลคืนความสุขให้ประชาชน หลังเครียดกับเศรษฐกิจและการเมือง ขุดของเก่ารวมของใหม่ เหมารวมเป็นของขวัญปีใหม่แต่ละกระทรวง ลดแลกแจกแถมไม่อั้น

ไม่กลัวรัฐประหาร ‘ภูมิธรรม’ ลั่น! จัดการได้รัฐบาลอยู่ครบเทอมแน่

“ภูมิธรรม” โวยเอ็มโอยู 44 ถูกปลุกปั่นไปไกล แทบจะออกนอกอวกาศอยู่แล้ว ไม่กังวลใจกับคำถามที่ว่าในปี 2568 สถานการณ์การเมืองจะวุ่นวายและโดนรัฐประหาร