เพื่อไทยทิ้งก้าวไกล เปิดฉากล้างขั้ว!คุย‘อนุทิน-สุวัจน์-พีระพันธุ์’ตั้งรัฐบาล

พรรคเพื่อไทย ๐ เริ่มปฏิบัติการล้างขั้วแบบโจ๋งครึ่ม เพื่อไทยคุยรวดเดียว 3  พรรค เชิญภูมิใจไทย รวมไทยสร้างชาติ  ชาติพัฒนากล้า หารือแนวทางตั้งรัฐบาลชื่นมื่น ได้ข้อสรุปไม่เอาพรรคก้าวไกล ไม่เอาพรรคแก้ ม.112 "ชลน่าน" เผยจะนำผลหารือกับ "อนุทิน" ไปบอกกับก้าวไกลว่า 8 พรรค 312 บวก 71 เป็นไปไม่ได้    ก้าวไกลจะพิจารณาตัวเองหรือไม่ก็ขึ้นกับก้าวไกลเอง เผยเล็งคุยกับพลังประชารัฐต่อ

     เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 22  กรกฎาคม 2566 ที่พรรคเพื่อไทย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เปิดเผยถึงการพูดคุยกับพรรคภูมิใจไทยว่า ไม่ได้เตรียมพร้อมอะไรมาก การพูดคุยเป็นการทำงานต่อเนื่องหลังจากที่ประชุม 8 พรรคร่วมและมีการแถลงข่าวไปเมื่อวันที่ 21 ก.ค. ซึ่งมีทางเลือกให้ไปพูดคุยกับทาง ส.ว.และพรรคการเมืองเพื่อหาเสียงเพิ่มเติม แต่ไม่ใช่การตกลงกัน กติกาคือแค่พูดคุยมีแนวโน้มจะได้เสียงจาก ส.ว.เพิ่มเติมหรือไม่จากพรรคอื่นๆ หลังจากนั้นค่อยเอามาพูดคุยกับ 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล  เพราะที่ประชุมให้แนวทางเมื่อวาน ให้การบ้านไว้แบบนั้น

     ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีพรรคภูมิใจไทยจะมีโอกาสเข้าร่วมในการจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่ หรือเป็นเพียงแค่แนวทางหาเสียง ส.ว.เพิ่ม หัวหน้าพรรคเพื่อไทยตอบว่าหลักอยู่ที่เสียง ส.ว.ก่อน เพราะตั้งโจทย์ว่าทางออกที่มีพรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล และ 8 พรรคร่วมแล้วหาเสียง ส.ว.มาเพิ่ม หาพรรคอื่นๆ มาเพิ่ม จะได้เสียง ส.ว.เพิ่มได้หรือไม่ จะตอบรับหรือไม่ สำหรับพรรคภูมิใจไทย เดิมทีจะไปหาที่พรรคเอง ตามธรรมเนียมปฏิบัติที่ดีในฐานะแกนนำมักจะไปส่งเทียบเชิญเพื่อให้มาร่วมงาน พรรคอื่นๆ แต่พรรคภูมิใจไทยประกาศว่า   เมื่อเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล  พรรคภูมิใจไทยก็ยินดีเดินทางมาหาเอง   ซึ่งก็ต้องขอบคุณพรรคภูมิใจไทยด้วย

     นพ.ชลน่านเผยว่า การติดต่อไปทางพรรคภูมิใจไทยเกิดขึ้นหลังจากคุยกับ 8 พรรคร่วมแล้ว โดยนายภูมิธรรม เวชยชัย  รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และนายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย เป็นผู้ติดต่อไป และยังได้มีการติดต่อไปทางพรรคชาติไทยพัฒนาด้วย   ส่วนพรรคอื่นๆ ยังไม่ได้พูดคุย

     "เลือกติดต่อพรรคที่มีความเป็นไปได้ก่อน ไม่ติดต่อทั้งหมดพร้อมๆ กัน เพราะการที่จะเพิ่มพรรคที่ 9 และ 10 มีเงื่อนไข ในการพูดคุยระหว่าง 8 พรรคร่วม ต้องดูพรรคที่เราไปส่งเทียบเชิญด้วยว่าเขารับเราได้หรือไม่ เพราะฟังจากแถลงการณ์แล้วเขาไม่เอา ซึ่งต้องไปพูดคุยเหตุและผลอีกที เชื่อว่าถ้าเอาประชาชนและประเทศเป็นที่ตั้งก็คงมีความหวัง"

     เมื่อถามว่า ได้ติดต่อพรรคพลังประชารัฐด้วยหรือไม่ นพ.ชลน่านชี้แจงว่า ยังไม่ถึงขั้นนั้น ทั้งนี้ หลังจากที่วันนี้พูดคุยกับพรรคภูมิใจไทยแล้ว จะมีการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการอีกครั้ง

     ต่อมาเวลา 13.49 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย พร้อมด้วยนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองหัวหน้าพรรค, นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เลขาธิการพรรค, นายไชยชนก ชิดชอบ ส.ส.บุรีรัมย์ พรรคภูมิใจไทย ลูกชายนายเนวิน ชิดชอบ ครูใหญ่พรรคภูมิใจไทย เดินทางมายังที่ทำการพรรคเพื่อไทย โดยมีนายภูมิธรรมและนายประเสริฐให้การต้อนรับ ทั้งนี้ เพื่อร่วมพูดคุยแนวทางเข้าร่วมรัฐบาลที่พรรคเพื่อไทยจะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล

     ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่าการเจรจาเข้าร่วมรัฐบาลได้ข้อยุติเลยหรือไม่  นายอนุทินมีสีหน้ายิ้มแย้มก่อนกล่าวว่า  “วันนี้มาเยี่ยม และรู้สึกดี เพราะไม่ได้มาตึกนี้ (โอเอไอ ทาวเวอร์) หลายปี”

     เมื่อถามว่า จะมีข่าวดีหรือไม่ หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยไม่ตอบคำถามนี้ อย่างไรก็ตาม สำหรับคำถามที่ว่าการประกาศไม่ร่วมรัฐบาลกับพรรคก้าวไกล แต่หากพรรคก้าวไกลลดเงื่อนไข ม.112 จะพิจารณาอย่างไร นายอนุทินกล่าวว่า “ไม่มีคำว่าถ้า ไม่เช่นนั้นก็ไม่จบ”

     ด้านนายประเสริฐกล่าวว่า “วันนี้เรามาร่วมกันหาทางออกของประเทศ”

มีภูมิใจไทยต้องไม่มีก้าวไกล

     ถัดมาเวลา เวลา 14.35 น. แกนนำพรรคเพื่อไทยและพรรคภูมิใจไทยร่วมแถลงข่าวภายหลังการหารือ โดย นพ.ชลน่านกล่าวว่า ขอบคุณนายอนุทินและคณะ ให้เกียรติมาหารือถึงแนวทางร่วมมือเพื่อหาทางออกให้ประเทศในการจัดตั้งรัฐบาลให้ได้ เพราะติดเงื่อนกรณีที่พรรคก้าวไกลเป็นแกนนำไม่ได้รับโอกาสจากที่ประชุมรัฐสภา

     เมื่อถามว่า เงื่อนไขพรรคภูมิใจไทย ถ้ามีพรรคก้าวไกล จะนำพิจารณาและกำหนดกรอบเวลาอย่างไร หัวหน้าพรรคเพื่อไทยตอบว่า เป็นข้อตกลง 8 พรรคร่วมที่จะนำไปหารือกัน พรรคภูมิใจไทยตอบชัดเจนถึงข้อจำกัด ถ้ามีพรรคก้าวไกลหมายถึง 8 พรรค 312 บวก 71 เป็นไปไม่ได้ และเป็นสิทธิ์พรรคเพื่อไทยนำไปพูดคุย จากนี้ก็นำเข้าที่ประชุม 8 พรรคร่วมเพื่อพิจารณา โดยเราจะพยายามแสวงหาคำตอบจากทุกพรรคการเมือง เพื่อนำไปตอบคำถาม 8 พรรคร่วมว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป 

     ซักว่า เชิญพรรคการเมืองที่ไม่เอาพรรคก้าวไกลมาในวันนี้ ในทางการเมืองถือเป็นการบอกเลิกพรรคก้าวไกลทางอ้อมหรือไม่ นพ.ชลน่านแจงว่า ก็เป็นสมมติฐาน ไม่ได้คิดอย่างนั้น เพราะ 8 พรรคร่วมบอกให้เราดำเนินการ เราก็พยายามประสานกับทุกพรรค ถ้าจะไปตั้งสมมติฐานว่าเตรียมการเพื่อบอกเลิกก็คงเป็นการคิดเอง เพราะเพื่อไทยไม่ได้คิดอย่างนั้น

     ถามว่า จะเชิญทุกพรรคการเมืองหรือไม่ นพ.ชลน่านตอบว่า เราตั้งใจจะเชิญทุกพรรค ยกเว้นบางพรรคที่ไม่ได้อยู่ในเงื่อนไขที่ว่ามีเสียงพอเพียงแล้ว

     ผู้สื่อข่าวถามว่า อย่างพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ได้อยู่ในเงื่อนไขใช่หรือไม่ หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยตอบว่า ตอนนี้ยังครับ ส่วนพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กำลังดูว่ามีแนวทางที่จะพูดคุยกันได้หรือไม่

     ซักว่าเป็นการฉีกเอ็มโอยู 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่ นพ.ชลน่านชี้แจงว่า เราทำตาม 8 พรรคร่วมมอบหมายภารกิจให้เรามาทำ แล้วก็ไปแจ้ง 8 พรรค ดังนั้นต้องดูภายใต้เงื่อนไขตรงนั้นก่อน เรายังตอบไม่ได้ว่าจะฉีกหรือไม่ฉีกอย่างไร

     กรณีที่มีการเสนอว่าให้รัฐบาลรักษาการอยู่ไปอีก 10 เดือน จน ส.ว.พ้นวาระนั้น หัวหน้าพรรคเพื่อไทยบอกว่า ขอบคุณในข้อเสนอนั้น ถ้าเราเอาประเทศชาติและประชาชนมาเป็นตัวตั้ง ต้องถามว่าประเทศชาติและประชาชนเขายอมหรือไม่ 10 เดือน ที่จะมีรัฐบาลรักษาการยาวไปขนาดนั้น

'อนุทิน' ยันไม่เอาก้าวไกล

     ด้านนายอนุทินกล่าวเสริมว่า บทบาทของรัฐบาลรักษาการมีข้อจำกัดในการปฏิบัติหน้าที่เยอะมาก รอ 2-3 เดือนเพื่อให้สถานการณ์หลังเลือกตั้งเป็นไปอย่างเรียบร้อยนั้นได้ แต่ถ้าจะเป็น 10 เดือน ภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับนี้มีข้อจำกัดมากมาย และไม่เป็นผลดีกับบ้านเมือง

     ทั้งนี้ หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยกล่าว ขอบคุณพรรคเพื่อไทยที่ได้เชิญมาพบในวันนี้เพื่อแก้ไขปัญหาบ้านเมือง โดยมีบรรยากาศที่ดี พวกเราเคยอาศัยในอาคารนี้มาก่อน และดีใจคิดถึงบรรยากาศเก่าๆ กับมีความสัมพันธ์ที่ดีมาโดยตลอด วันนี้มารับทราบเจตนารมณ์และจุดประสงค์ของพรรค พท. ซึ่งก็ตรงกับพรรค ภท.ในการแก้ไขปัญหาทางการเมือง และประเทศไทยมีรัฐบาลเข้าบริหารราชการแผ่นดินให้เร็วที่สุด

     "เราไม่ได้อยู่เอ็มโอยู 8 พรรค และบอกเจตนารมณ์ไปแล้วตามที่แถลงการณ์พรรคภูมิใจไทยว่า ถ้าเราเข้ามามีส่วนร่วมคงไม่สามารถทำงานได้กับพรรคก้าวไกล ไม่ใช่เรื่องความขัดแย้ง แต่เป็นเรื่องการวิธีการทำงานและความคิด เชื่อว่าพรรคเพื่อไทยจะพิจารณาข้อกำจัดของเรา ถ้ามีอะไรที่ผ่านจุดที่เป็นอุปสรรคไปได้ พรรค ภูมิไทยก็พร้อมให้ความร่วมมือกับพรรคเพื่อไทยในฐานะที่เป็นพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาล"

     เมื่อถามว่า เงื่อนไขพรรคภูมิใจไทยที่ไม่เอาพรรคก้าวไกล แต่ถ้าพรรคก้าวไกลลดเพดาน ม.112 จะพิจารณาอีกครั้งหรือไม่ นายอนุทินยืนยันว่า ได้เรียนไปแล้วมันเกี่ยวกับวิธีการทำงานและแนวความคิด  อยู่ในสภาทำงานด้วยกันมาตลอดก็มีแตกต่างกันเยอะ

     ซักว่าพรรคภูมิใจไทยพร้อมโหวตให้แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทยแล้วหรือยัง หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยระบุว่า ในสภาต่างคนต่างมีบทบาท ถ้าเราไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของรัฐบาลก็จำเป็นต้องโหวตคนละฟากกัน อย่างไรก็ตาม ยังต้องมีการพูดคุยกันอีกหลายรอบหลายประเด็น แต่ถ้ามีความจำเป็นว่าทำแล้วประเทศเดินหน้า ไม่ให้ประเทศติด ไม่ให้ประเทศมีอุปสรรค เราก็จะพิจารณา

     จากนั้น นพ.ชลน่านพร้อมแกนนำพรรคเพื่อไทยได้พานายอนุทินและแกนนำพรรคภูมิใจไทยเข้าไปยัง ThinkLab creative space and cafe พร้อมนั่งพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน ก่อนจะร่วมรับประทาน “ช็อกโกแลตมินต์” ซึ่งเป็นเครื่องดื่มยอดฮิตประจำพรรคเพื่อไทย

     โดยนายอนุทินกล่าวชมว่า รสชาติอร่อยดี ให้คะแนน 11 เต็ม 10 ก่อนที่ นพ.ชลน่านจะพูดเสริมว่า 71 ซึ่งหมายถึงจำนวนเสียงของพรรคภูมิใจไทย

พรรคสุวัจน์ก็มา

     ผู้สื่อข่าวถามว่า รับหลักการมินต์ช็อกหรือไม่ นายอนุทินย้อนถามสื่อว่า “คืออะไร” ผู้สื่อข่าวจึงอธิบายว่า แปลว่าอร่อยหรือไม่ ก่อนที่นายอนุทินจะระบุว่า “ตามหัวหน้าชลน่าน อร่อย กินแล้วชื่นใจ” 

     เมื่อถามว่า มีโอกาสจะได้กลับมากินอีกหรือไม่ หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยบอกว่า   "แล้วแต่ว่าหัวหน้าชลน่านจะเชิญมาอีกหรือไม่" 

     จากนั้นแกนนำของทั้งสองพรรคได้ชนแก้วร่วมกัน โดยมีช่วงหนึ่งที่นายอนุทินได้ชูแก้วที่มีโลโก้ของ ThinkLab ก่อนจะเอานิ้วโป้งทั้งสองข้างปิดข้อความหัวและท้าย จนเหลือแค่คําว่า ink ก่อนจะโชว์ให้ผู้สื่อข่าวและ นพ.ชลน่านเห็น และให้สื่อมวลชนได้ถ่ายภาพ

     หลังจากหารือกับพรรคภูมิใจไทยเสร็จสิ้นแล้ว พรรคเพื่อไทยยังได้ส่งหนังสือเทียบเชิญพรรคชาติพัฒนากล้า นำโดย นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า และนายเทวัญ ลิปตพัลลภเวลา เลขาธิการพรรคชาติพัฒนากล้า  รวมทั้งพรรครวมไทยสร้างชาติ นำโดยนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ และนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ หารือหลังจากนั้นด้วย

     ทั้งนี้ ในช่วงเย็น นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า   (ชพก.), นายเทวัญ ลิปตพัลลภ อดีต รมว.ประจำสำนักนายกฯ, นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี แกนนำพรรค ชพก. และนายวัชรพล โตมรศักดิ์ รักษาหัวหน้าพรรค ชพก. เดินทางมายังที่ทำการพรรค พท. เพื่อหารือแนวทางแก้ไขปัญหาวิกฤตและทางออกของประเทศร่วมกัน โดยมีนายภูมิธรรมและนายประเสริฐให้การต้อนรับ    ใช้เวลาหารือเกือบ 1 ชั่วโมง

     จากนั้นเวลา 16.25 น. แกนนำทั้ง 2 พรรคร่วมแถลงข่าวภายหลังการหารือ โดย นพ.ชลน่านกล่าวว่า ขอบคุณพรรคชาติพัฒนากล้าที่ตอบรับคำเชิญของพรรคเพื่อไทยเพื่อหารือถึงการแก้ไขปัญหาให้กับประเทศกรณียังไม่สามารถตั้งรัฐบาลได้ โดยพรรคเพื่อไทยได้รับภารกิจจากพรรคก้าวไกลในการจัดตั้งรัฐบาล นำแนวทางจาก 8 พรรคร่วมมาแสวงหาเสียงในการจัดตั้งรัฐบาลให้ประชาชน ซึ่งเป็นสิ่งที่รอไม่ได้

     เมื่อถามว่า การแถลงข่าววันนี้พรรคก้าวไกลจะต้องพิจารณาตัวเองจาก 8 พรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ นพ.ชลน่านตอบว่า ต้องขึ้นอยู่กับพรรคก้าวไกล ไม่เกี่ยวกับการแถลงข่าววันนี้

ไม่เอาพรรคแก้ ม.112

     ด้านนายสุวัจน์กล่าวว่า ขอบคุณที่ได้ให้เกียรติพรรคชาติพัฒนากล้ามาหารือจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งพรรคยินดีให้การสนับสนุนจัดตั้งรัฐบาลให้ลุล่วง และไม่ให้เกิดสุญญากาศในการบริหารบ้านเมือง เพราะมีวิกฤตเศรษฐกิจที่ประชาชนรอการแก้ไข

     เขาบอกว่า พรรคชาติพัฒนากล้ามีจุดยืนประกาศกับประชาชน 4 เรื่อง ถือเป็นเงื่อนไขสำคัญในการร่วมรัฐบาล โดย 1.สนับสนับสนุนรัฐบาลเสียงข้างมาก ไม่เอารัฐบาลเสียงข้างน้อย เพื่อสร้างเสถียรภาพการเมืองและบริหารประเทศลุล่วง 2.สนับสนุนพรรคอันดับหนึ่งในการจัดตั้งรัฐบาลเมือง แต่เมื่อจัดตั้งไม่ได้ก็ให้พรรคอันดับ 2 ดำเนินการ 3.แก้ไขวิกฤตเศรษฐกิจสินค้าราคาแพง 4.จุดยืนขอคงไว้ ม.112 ไม่มีการแก้ไข

     “ประเด็นการแก้ไข ม.112 ที่เป็นแนวทางของพรรคก้าวไกล ซึ่งไม่ตรงกับแนวทางของพรรคชาติพัฒนากล้านั้น หากการแก้ไข ม.112 ยังอยู่ พรรคชาติพัฒนากล้า ก็ไม่ขอร่วมรัฐบาลภายใต้การจัดตั้งของพรรคเพื่อไทย เพราะถือเป็นการผิดสัญญากับประชาชน” นายสุวัจน์กล่าว

     ต่อมาเวลา 16.59 น. แกนนำพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) นำโดยนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค, นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พลังงาน ในฐานะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ, นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรค และ น.ส.พิชชารัตน์ เลาหพงศ์ชนะ ส.ส.บัญชีรายชื่อและรองเลขาธิการพรรค เดินทางร่วมหารือแนวทางแก้ไขปัญหาวิกฤตและทางออกของประเทศร่วมกัน ตามคำเชิญของเพื่อไทย

     โดยนายพีระพันธุ์ให้สัมภาษณ์ก่อนการหารือว่า รทสช.ยืนยันจุดเหมือนเดิมไม่เอาพรรคก้าวไกล ไม่เอาการแก้ไขมาตรา 112 และการหารือในครั้งนี้ ไม่จำเป็นต้องบอก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เนื่องจาก พล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้เกี่ยวข้องกับพรรคแล้ว

     ต่อมาเวลา 18.05 น. หลังจากพรรคเพื่อไทยและพรรครวมไทยสร้างชาติร่วมกันแถลงผลการหารือทางออกประเทศ   โดย นพ.ชลน่านนำนายพีระพันธุ์ดื่มมินต์ช็อกโกแลตที่คาเฟ่ของพรรคตามธรรมเนียมที่แขกของพรรคมาเยือน ซึ่งนายพีระพันธุ์กล่าวว่า หวานอร่อย ตนเองชอบกินรสนี้อยู่แล้ว และชอบกินไอติมละลายเป็นน้ำ ให้คะแนนเต็ม 10  หวานอร่อย ก่อนโชว์แก้วที่ดื่มหมดแล้ว พร้อมยกแก้วชนกันกับเพื่อไทย พร้อมระบุว่า ถ้าตนผ่านมาจะแวะมาดื่มอีก

     เมื่อถามถึงหลักการเรื่องชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ซึ่งสำคัญในการดูแลบ้านเมือง นพ.ชลน่านตอบว่า มันเป็นหน้าที่ของคนไทยทุกคนอยู่แล้ว และรัฐธรรมนูญก็ระบุไว้ว่าเป็นหน้าที่

     ด้านนายพีระพันธุ์กล่าวว่า ไม่ได้มาคุยเรื่องร่วมรัฐบาล เราไม่ได้ติดขัดแค่เรื่อง ม. 112 แต่แนวทางอุดมการณ์ต่างกันเยอะมาก ไม่สามารถให้เขามีอำนาจการเมืองมากไปกว่านี้ได้

     ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคเพื่อไทยว่า  สำหรับวันที่ 23 ก.ค. เวลา 14.00 น. จะมีพรรคชาติไทยพัฒนา นำโดยนายวราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา เดินทางเข้าหารือที่พรรคเพื่อไทย   ส่วนของพรรคพลังประชารัฐ อยู่ระหว่างการประสานงานกำหนดเข้ามายังพรรคเพื่อไทยวันใด โดยแกนนำพรรคพลังประชารัฐที่จะเข้าพรรคเพื่อไทย ประกอบด้วย นายสันติ พร้อมพัฒน์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ, ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานประสานงาน ส.ส.พลังประชารั​ฐ และนายไผ่ ลิกค์ ส.ส.กำแพงเพชร  พรรคพลังประชารัฐ.