ด้อมส้มเดือด! ปลุกโซเชียลขึงพืดศาลรัฐธรรมนูญ หลังรับคำร้องสั่ง "พิธา" หยุดปฏิบัติหน้าที่ปมหุ้นสื่อไอทีวี ป่วนหนักจุดพลุสีส้ม ปะทะ คฝ. พยายามบุกเข้าไปในสภา ชวนแต่งชุดดำไว้อาลัยทั่วประเทศถึงสิ้น ก.ค.
เมื่อวันพุธ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์รับคำร้องที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอให้วินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 82 ว่าสมาชิกภาพ ส.ส.ของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคก้าวไกล สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญมาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98 (3) หรือไม่ จากเหตุมีชื่อถือครองหุ้นบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) จำนวน 42,000 หุ้นไว้พิจารณาวินิจฉัย และมีมติ 7 ต่อ 2 สั่งให้นายพิธาหยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส. นับตั้งแต่วันนี้จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย
ทำให้ในโซเชียลมีเดีย #ศาลรัฐธรรมนูญ ขึ้นอันดับหนึ่งเทรนด์ทวิตเตอร์ ทันที โดยนอกจากจะการแชร์ข่าวมติศาลรัฐธรรมนูญแล้ว ก็ได้แสดงความไม่เห็นด้วยกับมติศาลที่ออกมาด้วยคำหยาบคาย อาทิ "ข้าแต่ศาลที่เคารพ เมื่อใดท่านจะเป็นศาลที่ควรเคารพได้จริงเสียที" #รอบแรกอ้าง 112 มารอบนี้เล่นเคส ITV สรรหาทุกวิถีทางเพื่อสกัดพิธาจริงๆ "พวกมึงไม่เห็นหัวพวกกูเลย" รวมทั้งมีการโพสต์ภาพตุลาการศาลรัฐธรรมนูญทั้ง 9 คน
นอกจากนี้ยังพบว่าหัวข้อเกี่ยวกับการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ได้รับความสนใจติดใน 5 อันดับเทรนด์ทวิตเตอร์ และมีการประกาศเชิญชวนทุกจังหวัดจัดกิจกรรมคู่ขนานใส่ชุดดำไว้อาลัยให้กับประเทศ
ขณะเดียวกัน ที่ศูนย์ราชการเกียกกาย กลุ่มกองเชียร์นายพิธา ซึ่งส่วนมากเป็นผู้สูงอายุ ประมาณ 50 คน ต่างรู้สึกโกรธและไม่พอใจคำวินิจฉัยของศาล บางคนถึงกับหลั่งน้ำตาร้องไห้ปล่อยโฮออกมาอย่างหนัก บางคนร้องไห้เป็นลมล้มพับกับที่ ต้องปฐมพยาบาลกันยกใหญ่ และได้ออกจากศูนย์ราชการเกียกกายมุ่งหน้ามาที่ประตูทางเข้ารัฐสภา ถนนทหาร เพื่อจะบุกเข้าไปในอาคารรัฐสภา แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รีบปิดประตูทันที ทำให้กองเชียร์ได้พยายามตะโกนด่าด้วยคำหยาบคาย บางรายพยายามจะนำก้อนอิฐปาเข้าไป ขณะที่การรักษาความปลอดภัย เจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่ด้านในได้เตรียมความพร้อมโดยตรึงกำลังบริเวณหน้าประตูทางเข้า
กระทั่งเวลา 13.20 น. กลุ่มโมกหลวงริมน้ำและกลุ่มทะลุแก๊ส ได้จัดกิจกรรมประท้วงไม่พอใจคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ก่อนจะมีการจุดพลุสีส้มเพื่อเป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์
พร้อมกันนี้ ได้มีการนำใบลาออกไปยื่นให้กับ ส.ว.ที่กำลังปฏิบัติอยู่หน้าที่อยู่ภายในอาคารรัฐสภา โดยมีการเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ออกมารับหนังสือ แต่ปรากฏว่าไม่มีใครมารับ ทำให้แกนนำไม่พอใจได้โยนใบลาออกข้ามรั้วประตูเข้าไปภายในอาคารรัฐสภา และโยนประทัดขนาดเล็กเข้าไปด้วย
ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจประกาศให้กลุ่มผู้ชุมนุมหยุดการกระทำ เพราะเป็นการฝ่าฝืนคำสั่งของกองบัญชาการตำรวจนครบาล ที่ห้ามชุมนุมบริเวณรอบอาคารรัฐสภา 50 เมตร ขอให้กลับไปอยู่ในพื้นที่ที่เจ้าหน้าที่จัดไว้ให้ จนกลุ่มผู้ชุมนุมถอยร่นกลับไปยังศูนย์ราชการเกียกกายแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานมาตรการในการรักษาความสงบว่า ตั้งแต่ช่วงดึกของคืนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้นำตู้คอนเทนเนอร์มาปิดล้อมบริเวณโดยรอบอาคารรัฐสภา และมีการปิดถนนสามเส้นหน้าอาคารรัฐสภาทั้งหมด สำหรับกำลังพลที่เจ้าหน้าที่จัดไว้ดูแลความสงบเรียบร้อย ใช้กำลังพลควบคุมฝูงชนจำนวน 16 กองร้อย 2,400 นาย ตรึงกำลังบริเวณรอบอาคารรัฐสภาทั้งภายในและภายนอก พร้อมรถฉีดน้ำแรงดันสูงและรถควบคุมผู้ต้องหาไว้รองรับหากเกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน
นอกจากนี้ ที่อาคารรัฐสภา ฝั่งตึกวุฒิสภา บริเวณท่าน้ำ เจ้าหน้าที่ได้มีการเสริมโป๊ะมาผูกติดกับท่าเรือเพิ่มเติม เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับ ส.ว.และ ส.ส.หากเกิดเหตุฉุกเฉิน โดยบริเวณท่าเรือมีเจ้าหน้าที่กองทัพเรือ เจ้าหน้าที่กรมเจ้าท่า และตำรวจน้ำ มาสังเกตการณ์และเตรียมความพร้อมประจำการ
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ในเวลา 18.30 น. ส.ส.พรรคก้าวไกลเริ่มทยอยออกมาจากสภา อาทิ "โตโต้" นายปิยรัฐ จงเทพ, “ลูกเกด” น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว แต่ปฏิเสธให้สัมภาษณ์ รีบไปขึ้นวิน จยย.ออกจากพื้นที่ อ้างว่าต้องรีบไปประชุม ทั้งนี้นายปิยรัฐกล่าวว่า อยากฝากถึงประชาชนในการให้กำลังใจพรรคก้าวไกลเช่นนี้ต่อไป แม้ว่าพรรคก้าวไกลจะไม่ได้ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ให้การเลือกตั้งครั้งหน้าได้จำนวน ส.ส.ถึง 300 เสียง
ส่วนที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ซึ่งเป็นจุดนัดหมายของมวลชนที่สนับสนุนพรรคก้าวไกล ตั้งเวลา 17.00 น.เป็นต้นไป ได้มีมวลชนทยอยเดินทางเข้าพื้นที่อย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้เวลาประมาณ 16.00 น. หยก เยาวชนอายุ 15 ปี และตะวัน หรือทานตะวัน ตัวตุลานนท์ กลุ่มทะลุวังบางส่วน ได้ปีนขึ้นไปบนส่วนของฐานอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย และชูสัญลักษณ์ 3 นิ้ว โบกธงของกลุ่ม นอกจากนี้ผู้ชุมนุมนำป้ายผ้าข้อความ "นายกพิธาฉันทามติประชาชน" ไปติดที่ตัวอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยด้วย โดยมีแกนนำเริ่มการปราศรัย
ทั้งนี้ นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข กล่าวปราศรัยตอนหนึ่งว่า จากนี้เราคงต้องต่อสู้กันต่อในทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการไปเคาะประตู หรือกดกระดิ่งบ้าน ส.ว.เพื่อให้สำนึกบุญคุณแผ่นดิน ให้เขากลับตัวกลับใจ การต่อสู้ต่อจากนี้จะไม่ใช่เป็นเรื่องของพรรคก้าวไกล แต่เป็นเรื่องของประชาชนที่ออกมาร่วมกันลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง ที่ต้องร่วมกันจัดการกับองค์กรอิสระและมือที่มองไม่เห็น การต่อสู้ทั้งแผ่นดินเริ่มขึ้นแล้วตั้งแต่วันนี้ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย
ต่อมาเวลา 17.40 น. เวทีปราศรัยได้ประกาศแจ้งว่า ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ขอเชิญชวนพี่น้องทุกคนใส่ชุดดำเพื่อไว้อาลัยให้กับ กกต., ส.ว. ตลอดทั้งเดือน หรือจนถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2566
วันเดียวกัน ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ นายอานนท์ กลิ่นแก้ว ประธานศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) เดินทางไปยื่นพยานหลักฐานร้องต่ออธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญากรุงเทพใต้ เพื่อพิจารณาเพิกถอนการประกันตัวของนายอานนท์ นำภา จำเลยในคดีความผิดเกี่ยวกับสถาบันฯ ป.อาญา ม.112 ตามหมายเลขคดีดำที่ 1671/2564 เนื่องจากหลายวันที่ผ่านมานายอานนท์ได้โพสต์ยุยงปลุกปั่นให้ประชาชนเกิดความเข้าใจผิดในเรื่องของสถานการณ์ทางการเมือง โดยเฉพาะในเรื่องการโหวตเลือกนายกฯ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ฉายาสภาเหลี่ยม(จน)ชิน
ถึงคิวสื่อสภา ตั้งฉายา สส. "เหลี่ยม (จน) ชิน" จากการพลิกขั้วรัฐบาลเขี่ย
ตอกฝาโลงกิตติรัตน์ ‘กฤษฎีกา’ชี้ขาดคุณสมบัติ เหตุมีส่วนกำหนดนโยบาย
"กฤษฎีกา" ชี้ชัดสมัย "นายกฯ เศรษฐา" ตั้ง "กิตติรัตน์" เป็นประธานที่ปรึกษาของนายกฯ
‘เท้งเต้ง’ไม่ทน! ชงแก้ข้อบังคับ รมต.ตอบกระทู้
ทนไม่ไหว! “หัวหน้าเท้ง” หารือประธานสภาฯ ขอให้แก้ข้อบังคับการประชุม
แม้วพบอันวาร์กลางทะเล เตือนเสือกทุกเรื่องทำพัง!
ปชน.จี้ถามรัฐบาล “ทักษิณ” มีอำนาจจริงปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์หรือไม่
ให้กำลังใจจนท.ดูแลปีใหม่ เข้มงวด‘ความปลอดภัย’
นายกฯ ให้กำลังใจตำรวจ-กรมทางหลวง ทำงานหนักช่วงปีใหม่
กฤษฎีกาเอกฉันท์โต้งหมดสิทธิ์
กฤษฎีกามติเอกฉันท์ "กิตติรัตน์" ขาดคุณสมบัติ หมดสิทธิ์นั่ง "ประธานบอร์ดแบงก์ชาติ"