“สรรพสามิต” โยนพลังงานเข็นกองทุนน้ำมันรับหน้าเสื่ออุ้มดีเซลแทน หลังมาตรการลดภาษีจะหมดอายุ 20 ก.ค.นี้ แจงทำรายได้สูญแล้ว 1.58 แสนล้านบาท อ้าง “เวิลด์แบงก์-ทีดีอาร์ไอ” แนะดูแลฐานะการคลัง พร้อมชงรัฐบาลใหม่เคาะภาษีความเค็ม-บุหรี่ไฟฟ้า-ไบโอเจ็ต
เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2566 นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพสามิต ให้สัมภาษณ์ถึงมาตรการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล ที่จะหมดอายุในวันที่ 20 ก.ค.ว่า นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้มอบหมายให้กรมดูแลอย่างใกล้ชิด ซึ่งจากการพิจารณาสถานการณ์ปัจจุบัน ราคาน้ำมันในตลาดโลกปริ่มปรับลดลง เหลือเฉลี่ย 70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ทำให้แรงกดดันที่จะผลักภาระไปให้ผู้บริโภคน้อยลงจากราคาน้ำมันที่ลงแล้ว และการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลที่ลดลงมา 5 บาทต่อลิตร ก็ไม่ได้เป็นเครื่องมือเดียวในการรักษาเสถียรภาพราคาน้ำมันด้วย
นายเอกนิติระบุว่า ที่ผ่านมาในช่วงราคาน้ำมันแพง ขึ้นไปถึง 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล รัฐบาลใช้กลไกกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง จนกองทุนมีสถานะติดลบเยอะ จึงใช้กลไกการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันมาช่วยเติม ซึ่งจากการลดภาษีมาปีกว่า มีต้นทุนไปประมาณ 1.58 แสนล้านบาท ดังนั้นเรื่องนี้ต้องกลับไปคุยกับกระทรวงพลังงาน เพื่อหาแนวทางดูแลราคาน้ำมัน ไม่ได้กระทบประชาชน ซึ่งไม่ได้มีเครื่องมือภาษีอย่างเดียว ยังมีกองทุนน้ำมันฯ ที่เหมือนเป็นกระเป๋าซ้าย กระเป๋าขวา และขณะนี้ฐานะของกองทุนน้ำมันก็ดีขึ้นแล้ว
“ผลการศึกษาจากธนาคารโลก (เวิลด์แบงก์) และสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) มองว่าในสถานการณ์ปัจจุบันจำเป็นต้องรักษาความมั่นคงฐานะการคลังไว้ อาจต้องหันไปทำเป็นนโยบายเฉพาะกลุ่มดีกว่า ซึ่งกลไกการรักษาเสถียรภาพราคาน้ำมันดีเซล ไม่ได้ใช้แต่เครื่องมือจากภาษีสรรพสามิตเท่านั้น ยังมีกลไกที่เคยใช้คือกองทุนน้ำมันฯ ซึ่งสถานการณ์ปัจจุบันก็กำลังดูข้อจำกัดทางกฎหมายว่าจะลดภาษีได้หรือไม่ ซึ่งถ้าทำไม่ได้ ก็อาจต้องกลับไปใช้กลไกของกองทุนน้ำมันฯ” นายเอกนิติกล่าว
นายเอกนิติกล่าวอีกว่า การลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันต้องใช้อำนาจที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งขณะนี้เป็นรัฐบาลรักษาการ ก็ต้องไปดูข้อจำกัดทางกฎหมาย แต่อำนาจการใช้กองทุนน้ำมันฯ สามารถทำได้เลย โดยไม่ต้องเสนอเข้า ครม. นอกจากนี้ กรมจะมีการเสนอแพ็กเกจภาษีต่อรัฐบาลใหม่ เช่น ภาษีความเค็ม เพื่อดูแลสุขภาพประชาชน เชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อราคาสินค้า เช่นเดียวกับภาษีความหวานที่จัดเก็บแล้ว ราคาสินค้าลดลง และผู้ผลิตปรับสูตรสินค้า รวมทั้งภาษีบุหรี่ไฟฟ้าที่ยังติดขัดข้อกฎหมายกรมศุลกากรห้ามนำเข้า และกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค ซึ่งต้องรอดูนโยบายในภาพใหญ่ของกระทรวงสาธารณสุขก่อน หากเรื่องนี้รัฐบาลเห็นชอบ ก็พร้อมนำเข้าพิกัดภาษีสรรพสามิตทันที
อธิบดีกรมสรรพสามิตระบุว่า ยังจะเสนอให้มีการลดจัดเก็บภาษีแบตเตอรี่ ซึ่งปัจจุบันเก็บในอัตรา 8% แต่หากผู้ผลิตสามารถคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม และทำระบบติดตาม ก็จะลดภาษีให้ รวมทั้งภาษีสรรพสามิตน้ำมันสำหรับเครื่องบินไอพ่น (น้ำมันเจ็ต) ที่เริ่มกลับมาจัดเก็บอัตราเดิม ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. จากที่ลดภาษีให้ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ที่คนไม่เดินทาง แต่ตอนนี้กลับมาสถานการณ์ปกติแล้ว กรมคงไม่ลดภาษีน้ำมันเจ็ตทั่วไป แต่จะลดภาษีน้ำมันไบโอเจ็ตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยอยู่ระหว่างกำหนดเงื่อนไขปริมาณการใช้ ซึ่งจากข้อมูลองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ไอเคโอ) ระบุว่าบางสายการบินเริ่มใช้ไบโอเจ็ตในสัดส่วน 100% แล้ว.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ฉายาสภาเหลี่ยม(จน)ชิน
ถึงคิวสื่อสภา ตั้งฉายา สส. "เหลี่ยม (จน) ชิน" จากการพลิกขั้วรัฐบาลเขี่ย
ตอกฝาโลงกิตติรัตน์ ‘กฤษฎีกา’ชี้ขาดคุณสมบัติ เหตุมีส่วนกำหนดนโยบาย
"กฤษฎีกา" ชี้ชัดสมัย "นายกฯ เศรษฐา" ตั้ง "กิตติรัตน์" เป็นประธานที่ปรึกษาของนายกฯ
‘เท้งเต้ง’ไม่ทน! ชงแก้ข้อบังคับ รมต.ตอบกระทู้
ทนไม่ไหว! “หัวหน้าเท้ง” หารือประธานสภาฯ ขอให้แก้ข้อบังคับการประชุม
แม้วพบอันวาร์กลางทะเล เตือนเสือกทุกเรื่องทำพัง!
ปชน.จี้ถามรัฐบาล “ทักษิณ” มีอำนาจจริงปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์หรือไม่
ให้กำลังใจจนท.ดูแลปีใหม่ เข้มงวด‘ความปลอดภัย’
นายกฯ ให้กำลังใจตำรวจ-กรมทางหลวง ทำงานหนักช่วงปีใหม่
กฤษฎีกาเอกฉันท์โต้งหมดสิทธิ์
กฤษฎีกามติเอกฉันท์ "กิตติรัตน์" ขาดคุณสมบัติ หมดสิทธิ์นั่ง "ประธานบอร์ดแบงก์ชาติ"