เคาะโชว์วิสัยทัศน์7นาที! ‘เชาว์’เลิกนัดเอฟซีกดดัน

“ราเมศ” ยกประชาธิปัตย์เป็นสถาบันการเมือง แคนดิเดตชิงหัวหน้าพรรคต้องแสดงวิสัยทัศน์คนละ 7 นาที พร้อมเปิดสเปก กก.บห.พรรค “เชาว์” กลัวถูกครหาขนเอฟซีกดดัน ยกเลิกนัดชุมนุมหน้าลานพระแม่ธรณีฯ

เมื่อวันศุกร์ที่ 7 กรกฎาคม 2566  นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) แถลงการประชุมใหญ่วิสามัญเพื่อเลือกหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหาร (กก.บห.) พรรค ปชป.  ในวันอาทิตย์ที่ 9 ก.ค. ที่โรงแรมมิราเคิลแกรนด์ ว่าจะเริ่มประชุมตั้งแต่เวลา 08.30 น. โดยการประชุมเนื่องจากนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์   ในฐานะหัวหน้าพรรคได้ลาออกจากตำแหน่ง และตามข้อบังคับของพรรค มีการกำหนดให้มีการเรียกประชุมใหญ่วิสามัญเพื่อที่จะเลือกตั้งหัวหน้าพรรคและคณะ กก.บห.ภายใน 60 วัน ขณะนี้พรรคได้เตรียมขั้นตอนกระบวนการไว้   โดยมีคณะกรรมการ 2 ชุด ประกอบด้วยชุดคณะกรรมการจัดการประชุม ที่มีนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ เป็นประธาน และชุดที่ 2 มีคุณหญิงกัลยา โสภณพนิช, ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์ และตนเองเป็นกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.ปชป.)  เพื่อมาดูแลในส่วนของข้อบังคับ โดยทั้ง 2 คณะได้มีการประชุมและเตรียมการไว้แล้วอย่างครบถ้วน

นายราเมศกล่าวต่อว่า ยอดองค์ประชุมในปัจจุบันมีจำนวนลดลงเล็กน้อย ซึ่งเดิมมีกำหนดองค์ประชุมไว้ 19 กลุ่ม จากที่ได้แถลงไปก่อนหน้าคือจำนวน 374 คน แต่ปัจจุบันมียอดรวมทั้งหมด 367 คน เนื่องจากองค์ประชุมบางท่านไม่สะดวกเข้าร่วมประชุม จึงทำให้ยอดองค์ประชุมล่าสุดมี 367 คน ซึ่งตามกฎหมายพรรคการเมือง การกำหนดองค์ประชุมที่จะต้องมาให้ครบจำนวน 250 คน ขณะที่พรรค ปปช.ได้เตรียมการไว้ถึง 367 คน โดยระเบียบวาระที่สำคัญในการประชุมใหญ่วิสามัญมี 2 วาระ คือวาระของการเลือก กก.บห.พรรค ซึ่งจะมีทั้งสิ้น 11 ตำแหน่ง รวม 41 คน และในจำนวนนี้ได้รวมตำแหน่งหัวหน้าพรรค ปชป.ด้วย

“พรรค ปชป.เราเป็นสถาบันทางการเมือง ถ้าเกิดใครจะบอกว่าเรากีดกันไม่ให้มีใครมาลงสมัคร หรือว่ามีการบิดเบือนไม่กระทำการข้อบังคับ ผมในฐานะที่เป็นดูแลเรื่องกฎหมายอยู่ ขอยืนยันว่าเป็นไปไม่ได้ เราเปิดโอกาสให้กับทุกคนที่เป็นสมาชิกพรรคที่มีคุณสมบัติครบถ้วนตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง และมีคุณสมบัติครบถ้วนตามข้อบังคับพรรค”นายราเมศกล่าว

โฆษก ปชป.ยังกล่าวถึงบังคับข้อที่ 31 ที่ระบุถึงคุณสมบัติของสมาชิกที่จะได้รับการเลือกตั้งเป็น กก.บห. ว่าต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ และเป็นสมาชิกติดต่อกันไม่น้อยกว่า 5 ปีนับถึงวันเลือกตั้ง เว้นแต่สมาชิกที่มีคุณสมบัติดังต่อไปนี้ 1.เป็นหรือเคยเป็นกรรมการบริหารพรรค เช่น ตนเองเคยเป็นโฆษกพรรค เป็น กก.บห. ก็สามารถสมัครเป็น กก.บห.ชุดใหม่ได้ 2.เป็นหรือเคยเป็นคณะกรรมการสาขาพรรค กรณีนี้ไม่จำเป็นต้องเป็นสมาชิกมาครบ 5 ปี ก็สามารถใช้ข้อนี้สมัคร กก.บห.ได้ 3 เป็นหรือเคยเป็น ส.ส.ในนามพรรค 4.เป็นหรือเคยเป็นรัฐมนตรีในนามพรรค 5.เป็นหรือเคยเป็นสมาชิกสภาท้องถิ่น ผู้บริหารท้องถิ่น ที่ลงเลือกตั้งในนามพรรค และ 6.สมาชิกที่ที่ประชุมใหญ่มีมติด้วยคะแนนไม่น้อยกว่า 3 ใน 4 ของที่ประชุมใหญ่

นายราเมศยังชี้แจงกรณีข่าวจะมีสมาชิกกลุ่มหนึ่งขอใช้สิทธิ์ในการงดเว้นข้อบังคับ ในส่วนของน้ำหนักคะแนน 70:30 ไปใช้น้ำหนักคะแนนแบบ 1 สิทธิ์ 1 เสียงเท่ากัน ว่าเมื่อเราเป็นพรรคที่มีระบบประชาธิปไตย หากมีการระบุไว้ในข้อบังคับ ก็สามารถที่จะใช้สิทธิ์ได้ แต่หากมีผู้ใดขอใช้สิทธิ์ในกรณีการงดเว้นการใช้ข้อบังคับพรรคข้อใดข้อหนึ่งหรือหลายข้อ ตามข้อบังคับข้อ 137 ก็เป็นสิ่งที่ทำได้ ซึ่งไม่ได้พูดเพื่อเอาใจฝ่ายไหน แต่พูดตามหลักเกณฑ์ของข้อบังคับพรรคที่ระบุไว้ แต่ต้องมาดูว่าเมื่อจะใช้ข้อ 137 เพื่องดเว้นข้อบังคับว่าจะไม่ใช้น้ำหนักคะแนนแบบ 70:30 แล้ว น้ำหนักคะแนน ส.ส.ควรจะเท่ากันกับองค์ประชุมในการเลือกตำแหน่งอื่นๆ  ด้วย

“เรามีหลักมีเกณฑ์ ไม่ว่าจะมีการแข่งขัน ไม่ว่าจะมีการเสนอตัวมากี่ท่าน ทุกคนต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย ภายใต้ข้อบังคับ ไม่มีใครที่จะได้เปรียบเสียเปรียบ เพราะการเล่นตุกติกกับข้อบังคับของพรรค ปชป.นั้นเป็นสิ่งที่ไม่พึงกระทำ เราเป็นสถาบันทางการเมือง ถ้าเราไม่อยู่บนหลักของความถูกต้องเพื่อให้เป็นตัวอย่างในสังคม เราคงอยู่มาถึงวันนี้ไม่ได้หรอก” นายราเมศกล่าว และว่า กกต.ปชป.ได้กำหนดให้ผู้สมัครในตำแหน่งหัวหน้าพรรคได้แสดงวิสัยทัศน์ภายในกรอบเวลา 7 นาที เพื่อพูดถึงแนวนโยบายที่จะนำพาทุกองคาพยพของพรรคประชาธิปัตย์ให้ก้าวเดินต่อไปในวันข้างหน้า

ทั้งนี้ นายราเมศยังได้แสดงหน้าตาของบัตรเลือกตั้ง ซึ่งในส่วนของ ส.ส.ที่อยู่ในสัดส่วน 70% เป็นบัตรสีฟ้า ส่วนของบัตรสีชมพูจะเป็นบัตรขององค์ประชุมที่มีสัดส่วนคะแนนที่ 30%

ด้านนายเชาว์ มีขวด อดีตรองโฆษกพรรค ปชป. โพสต์เฟซบุ๊กเรื่อง ยกเลิกนัดวันที่ 8 ก.ค. ที่พรรค ปชป. มีเนื้อหาระบุว่า ตามที่ได้ประกาศนัดพบปะสมาชิกในวันเสาร์ที่ 8 ก.ค. ที่ลานพระแม่ธรณี พรรคประชาธิปัตย์ เพื่อพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันก่อนวันเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) เนื่องจากในวันดังกล่าว ได้ตรงกับการประชุมของ ส.ส.และ กก.บห.ด้วย จึงมีการวิพากษ์วิจารณ์และตั้งข้อครหาไปทำนองว่าเป็นการจัดม็อบเพื่อกดดันการประชุม ส.ส.และ กก.บห. ซึ่งไม่เป็นผลดีใดๆ ต่อพรรคในสถานการณ์เช่นนี้ ดังนั้นเพื่อหลีกเลี่ยงข้อครหาที่เกิดขึ้น และเพื่อลดบรรยากาศความตึงเครียดก่อนการเลือกตั้ง จึงขอยกเลิกนัดวันเสาร์ที่ 8 ก.ค. หากสมาชิกท่านใดประสงค์จะพบปะแลกเปลี่ยนความคิดเห็น หรือมีข้อเสนอเกี่ยวกับแนวทางการฟื้นฟูพรรค ปชป. ขอให้ไปในวันประชุมใหญ่วันที่ 9 ก.ค. ที่ รร.มิราเคิลแกรนด์

“ผมขอยืนยันอีกครั้งว่า ทุกความเคลื่อนไหวที่ได้ดำเนินการอยู่ในขณะนี้ เกิดจากความเป็นห่วงพรรค จากสัญญาณที่เห็นชัดว่าอาจมีการนำพาพรรคไปในทิศทางที่ไม่ถูกต้อง อันจะกระทบต่อพรรค ปชป.ในระยะยาวจนยากที่จะกอบกู้ได้ การเลือกหัวหน้าและผู้บริหารพรรคใหม่ เป็นประตูบานแรกที่จะสร้างความเชื่อมั่นกับประชาชนว่า พรรคยังคงเป็นสถาบันการเมืองที่ประชาชนเชื่อถือและพึ่งพาได้ ไม่ใช่พรรคการเมืองที่มุ่งแต่แสวงหาอำนาจเท่านั้น การตัดสินใจในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ จึงควรเปิดกว้างให้ทุกเสียงในที่ประชุมมีสิทธิเท่ากัน ด้วยการงดเว้นการใช้ข้อบังคับที่ให้น้ำหนัก ส.ส.เป็นสัดส่วนในองค์ประชุม 70% นี่เป็นข้อเสนอที่ผมคิดว่าจะเป็นทางออกที่ดี มีคำตอบชัดว่าเสียงส่วนใหญ่ของพรรคต้องการกำหนดอนาคตไปในทิศทางใด” นายเชาว์ระบุ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง