พี่ศรีตามขยี้ว่าที่ขุนคลัง ก.ก.สวนทีบิ๊กตู่ปิดปาก!

“ศรีสุวรรณ” ยื่น ป.ป.ช.ฟันจริยธรรม “ศิริกัญญา” ไม่ปฏิญาณตน ยังเป็น ส.ส.ไม่สมบูรณ์ เจ้าตัวโร่แจง แค่ผิดคิว ไม่กลัวโดนตรวจสอบ พร้อมท้า ทำให้ครบ 498 คน ด้านเลขาฯ ก้าวไกลได้ทีแขวะกลับ ที “บิ๊กตู่” ปฏิญาณไม่ตรง เรื่องใหญ่กว่า

เมื่อวันที่ 7 ก.ค. ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จ.นนทบุรี   นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน ยื่นหนังสือต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ขอให้ตรวจสอบจริยธรรม น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กรณีการกล่าวถวายคำปฏิญาณตนก่อนการเข้าปฏิบัติหน้าที่ ส.ส. ในระหว่างการเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎรครั้งแรกเมื่อวันที่ 4 ก.ค. ซึ่งตามรัฐธรรมนูญมาตรา 115  กำหนดไว้ชัดเจน ก่อนเข้าปฏิบัติหน้าที่ ส.ส.ทุกคนจะต้องกล่าวคำปฏิญาณตน  โดยในระหว่างนั้นประธานการประชุมชั่วคราวแจ้งต่อสมาชิกให้กล่าวคำปฏิญาณตน ซึ่งคำกล่าวปฏิญาณตนวางอยู่ด้านหน้าของ ส.ส. มีการถ่ายภาพผ่านสื่อต่างๆ ปรากฏภาพ น.ส.ศิริกัญญาที่ดูจากลักษณะท่าทางและริมฝีปากหันมายิ้มกับนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล ในระหว่างที่ ส.ส.กำลังกล่าวคำปฏิญาณตน ชี้ให้เห็นว่าไม่ได้กล่าวคำปฏิญาณตนให้ชัดเจน

จึงขอให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบรายละเอียดข้อมูลและพยานหลักฐาน ประกอบการพิจารณา หากหลักฐานยังไม่ชัดเจน สามารถเรียกภาพจากทีวีรัฐสภามาตรวจสอบได้ เพราะเรื่องนี้ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ เนื่องจากรัฐธรรมนูญกำหนดไว้ชัดเจนว่า ก่อนเข้าปฏิบัติหน้าที่สมาชิกจะต้องกล่าวคำปฏิญาณตนก่อนว่าจะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต และจะปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญทุกประการ

นายศรีสุวรรณกล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ ไม่ใช่เรื่องเล็กที่จะมาเล่นหรือหัวเราะต่อกระซิกในระหว่างการกล่าวคำปฏิญาณตน อีกทั้งการปฏิญาณตนถือเป็นการนับหนึ่งของการปฏิบัติหน้าที่ หากไม่ปฏิญาณตนถือว่าการปฏิบัติหน้าที่ไม่มีความสมบูรณ์ และอาจจะถือเป็นโมฆะ จึงจำเป็นต้องให้ ป.ป.ช.ซึ่งมีหน้าที่โดยตรงในการตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ในการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายตามรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะการฝ่าฝืนจริยธรรม เรื่องนี้ถือว่าเกิดการวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมเป็นอย่างมากว่าในการปฏิบัติหน้าที่อาจจะส่งผลกระทบต่อตำแหน่งหน้าที่ ส.ส.ได้

ผู้สื่อข่าวถามว่า น.ส.ศิริกัญญาชี้แจงว่าที่หันไปสะกิดนายพิธาเพราะเห็นว่าเจ้าหน้าที่รัฐสภาส่งสัญญาณให้สมาชิกจะต้องให้ประธานสภาฯ นำสมาชิกกล่าวคำปฏิญาณ นายศรีสุวรรณตอบว่า เป็นเรื่องที่ น.ส.ศิริกัญญาจะต้องมาอธิบายต่อ ป.ป.ช. เพราะรูปภาพที่ปรากฏผ่านสื่อชี้ให้เห็นว่า น.ส.ศิริกัญญาไม่ได้เอ่ยคำพูดปฏิญาณในขณะที่สมาชิกคนอื่นกล่าวคำปฏิญาณ เมื่อกล่าวเสร็จแล้วสมาชิกนั่งลงพร้อมกัน

เมื่อถามว่า กรณีนี้เหมือนกับกรณีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในการถวายสัตย์ฯ เข้ารับตำแหน่งหน้าที่นายกรัฐมนตรีหรือไม่ นายศรีสุวรรณระบุว่า  พล.อ.ประยุทธ์ไปถวายสัตย์ปฏิญาณต่อหน้าพระพักตร์ แต่ครั้งนี้เป็นการถวายสัตย์ปฏิญาณในห้องประชุมรัฐสภาต่อหน้าพระบรมสาทิสลักษณ์ อาจจะมีความใกล้เคียงกัน แต่ไม่เหมือนกัน เป็นหน้าที่ ป.ป.ช.ต้องตรวจสอบ หากไม่ได้กล่าวจริงๆ ต้องไปกล่าวคำปฏิญาณต่อหน้าประธานสภาผู้แทนราษฎรเพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด  ไม่เช่นนั้นจะเกิดปัญหาในเรื่องของนิติกรรมหลังจากนี้อาจจะไม่ชอบด้วยกฎหมาย

"ในรัฐธรรมนูญเขียนไว้ชัดเจน มาตรา 115 ว่าก่อนปฏิบัติหน้าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือสมาชิกวุฒิสภา ต้องกล่าวคำปฏิญาณตน แล้วคำปฏิญาณตนต้องกล่าวตามข้อความที่รัฐธรรมนูญเขียนไว้เป๊ะๆ จะขาดจะเกิน หรือจะมากกว่าจะน้อยกว่าไม่ได้เลย จึงเป็นเรื่องใหญ่ เป็นเรื่องสำคัญ เพราะรัฐธรรมนูญเป็นแม่บทของชาติ เป็นกฎหมายที่สูงสุดของชาติ ทุกคนต้องปฏิบัติตาม ส.ส.ไม่มีคำว่ายกเว้น  นักการเมืองไม่มีข้อยกเว้นใดๆ ทั้งสิ้น" นายศรีสุวรรณระบุ

นายศรีสุวรรณยังได้กล่าวแสดงความยินดีกับ ส.ส.ใหม่ทั้ง 500 คนว่า  เชื่อมั่นว่ามีวุฒิภาวะพอที่จะเข้ามาทำหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติในการปรับปรุงหรือเสนอกฎหมายใหม่ ซึ่งกฎหมายเก่าหลายฉบับมีความล้าหลัง ยังไม่ได้นำไปสู่การแก้ไขในยุคที่มีการเปลี่ยนแปลงไปไกลมากแล้ว แม้ ส.ส.จะเป็น ส.ส.รุ่นใหม่ แต่ผสมกับ ส.ส.รุ่นเก่า น่าจะประยุกต์ความรู้สึกนึกคิด ทัศนคติ และประสบการณ์ทำให้ประเทศชาติ

เมื่อถามว่า จะยื่นตรวจสอบ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ที่นั่งหลับในห้องประชุมหรือไม่ นายศรีสุวรรณกล่าวว่า  ใครยืนยันได้ว่าลุงป้อมหลับในห้องประชุม ซึ่งเจ้าตัวออกมาปฏิเสธว่าไม่ได้นั่งหลับ

เมื่อถามถึงการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีในวันที่ 13 ก.ค. ที่จะมีประชาชนมาให้กำลังใจ นายศรีสุวรรณ ตอบว่า ขอให้ปฏิบัติตามกฎหมาย หากไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ตนอาจจะไปร้องเรียน สน.บางโพ ดำเนินคดีต่อแกนนำผู้ชุมนุม

ด้าน น.ส.ศิริกัญญาออกมาชี้แจงเรื่องนี้ว่า เป็นสิทธิ์ของนายศรีสุวรรณ  แต่จริยธรรมไม่ได้ถูกพูดถึงในเรื่องการปฏิญาณตน แต่เป็นการประพฤติตนหลังจากนั้น แต่ยังดีที่ให้มีการตรวจสอบว่าเกิดอะไรขึ้นในวันนั้น เนื่องจากเวลาที่ ส.ส.จะปฏิญาณตน ตามข้อบังคับจะกำหนดไว้ว่า ต้องให้ประธานสภาฯ เป็นผู้กล่าวนำ และ ส.ส.ต้องพูดตามทีละวรรค เมื่อเกิดการผิดคิวกันนั้นเลยเกิดอาการตกใจขึ้นมา เพราะเมื่อตนเงยหน้าขึ้นมาก็เห็นเจ้าหน้าที่สภาทำท่ายกมือเป็นสัญญาณให้หยุด จึงหันไปหานายพิธาว่าต้องรอให้ประธานสภาฯ พูดก่อน แต่เนื่องจาก ส.ส.ได้พูดกันไปแล้ว จึงไม่มีใครได้ยินอะไร และพูดตามไปเรื่อยๆ จนจบ และทวนมาอีกครั้งหนึ่งในช่วงที่ขานเรียบร้อย ถือว่าได้ปฏิญาณตนครบถ้วนสมบูรณ์ แต่ถ้าจะมีการตรวจสอบ ก็ยินดีให้ตรวจสอบ แต่การจะตรวจสอบ ส.ส.ทั้ง 498 คนว่าปฏิญาณครบหรือไม่ เป็นเรื่องที่ค่อนข้างจะลำบาก เพราะกล้องของสภาไม่ได้ถ่ายทุกคนตลอดเวลา 

น.ส.ศิริกัญญากล่าวอีกว่า ไม่คิดว่าเรื่องนี้เป็นปัญหา ตนสามารถอธิบายได้ เพราะมีพยานที่ทราบว่าวันนั้นได้ปฏิญาณตนเรียบร้อยแล้ว ทั้งนายพิธาที่อยู่ขวามือ และฝั่งซ้ายมือเป็นนายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาฯ คนที่ 1 สามารถตรวจสอบได้ เรื่องนี้เป็นเรื่องเล็กน้อยมาก เห็นใจ ป.ป.ช. ถ้าจำเป็นที่จะต้องตรวจสอบเรื่องแบบนี้ โดยเป็นสิทธิ์ของการตรวจสอบ ซึ่งยินดีให้ตรวจสอบ และเรื่องนี้ไม่มีผลกระทบต่อพรรค เพราะในวันนี้เรากำลังจะเสนอตัวเข้ามาเป็นฝ่ายบริหาร การตรวจสอบจะเข้มข้นกว่าการเป็นฝ่ายค้านแน่นอน จึงไม่ได้กังวลใจ เพราะคิดว่าเป็นไปตามกระบวนการ ต้องปรับตัวในการถูกตรวจสอบทุกอิริยาบถที่แสดงออกไป ถ้าจะต้องมีการตรวจสอบว่า ส.ส.คนไหนปฏิญาณตนครบหรือไม่ ต้องตรวจสอบทุกคน ไม่ใช่ตรวจสอบแค่คนเดียว ไม่คิดว่าการถ่ายทอดสดของทางสภาจะมีการจับสีหน้าทุกคนว่าปฏิญาณครบหรือไม่

นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวว่า ในวันดังกล่าวตนยืนอยู่แถวเดียวกับ น.ส.ศิริกัญญา ซึ่ง น.ส.ศิริกัญญามีการปฏิญาณตนตามปกติ แต่อาจมีบางช่วงที่หันไปคุยกับนายพิธา ตนมองว่าไม่น่าจะเป็นสาระอะไร แต่การปฏิญาณตนไม่ตรงตามรัฐธรรมนูญสำคัญกว่าและเรื่องใหญ่กว่า แต่ไม่ทราบว่านักร้องหายไปไหน ซึ่งหากจำกันได้เมื่อปี 62 มีการปฏิญาณตนไม่ตรงตามรัฐธรรมนูญชัดเจนมาก

เมื่อถามว่า เรื่องนี้จะเป็นอุปสรรคต่อการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีหรือไม่ นายชัยธวัชบอกว่า กระบวนการปฏิญาณตนในสภาผู้แทนราษฎรไม่เกี่ยวกับสถาบัน เป็นการปฏิญาณตนของ ส.ส.ต่อสภา และรัฐธรรมนูญ ย้ำ น.ส.ศิริกัญญาได้ปฏิญาณตนเรียบร้อยแล้ว เพราะยืนข้างกัน แต่เรื่องที่จะเป็นประเด็นยังไม่ได้มีการสอบถาม น.ส.ศิริกัญญา เพราะคิดว่าไม่ได้เป็นสาระสำคัญ แต่เข้าใจว่าขณะนั้นสมาชิกต้องพูดตามประธานทีละประโยค แต่ไม่ทราบว่าเกิดอะไร เมื่อพูดชื่อเสร็จก็มีการปฏิญาณตนต่อโดยไม่รอประธาน ทำให้ น.ส.ศิริกัญญาหันไปคุยกับนายพิธาว่าเหตุใดไม่รอประธาน

นายชัยธวัชยังแสดงความมั่นใจว่า เรื่องนี้จะไม่เป็นประเด็นทางข้อกฎหมาย เพราะได้ปฏิญาณตนเรียบร้อย กรณี พล.อ.ประยุทธ์ไม่ปฏิญาณตน ไม่ใช้ข้อความตามรัฐธรรมนูญ ที่เรื่องใหญ่กว่าก็ยังปล่อยผ่านกันได้.