ก.ก.ยึดประธานสภา ‘ชัยธวัช’ยํ้าจุดยืน/ศาลให้อสส.แจงปมพิธา112

จับตาสภาแตก หัวหน้าก้าวไกลขนทัพส้มรายงานตัว ขณะที่ "โรม" เบรกเอี๊ยดกระแสเปลี่ยนวันชาติ ยืดอกแค่ความเห็นส่วนตัว หวังสลัดให้พรรคหลุดร่างแหอันตราย ด้าน "พิธา" ด่านเคราะห์ยังอื้อ “เรืองไกร” เกาะติดหลังบี้ขายที่ดิน พ่วงด้วยศาล รธน.ขีดเส้น อสส. 15 วันแจงรับ-ไม่รับระงับนโยบายยกเลิก ม.112 จับตา 28 มิ.ย.ปิดเกมประธานสภาฯ ด้าน “พรเพชร” เชื่อไม่เลื่อนวันโหวต 4 ก.ค. “อนุทิน” เดือดปุดๆ มีแต่ควายจ่ายร้อยล้านงูเห่า

เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภาถึงภาพรวมการรายงานตัวของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ชุดที่ 26 เป็นวันที่ 7 ที่บริเวณห้องสัมมนาชั้น บี 1 ตั้งแต่เวลา 08.30-16.30 น. โดยตั้งแต่ช่วงเช้าจนถึงช่วงบ่าย ส่วนใหญ่เป็นพรรคภูมิใจไทยที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้นำ ส.ส.ของพรรคมารายงานตัว และสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำรัฐสภาเพื่อความเป็นสิริมงคลก่อนเข้ารายงานตัวอีกด้วย

โดยสรุปยอด ส.ส.มารายงานตัวตลอดทั้งวันรวมทั้งสิ้น  65 คน แบ่งเป็นพรรคเพื่อไทย 5 คน พรรคภูมิใจไทย 58 คน พรรครวมไทยสร้างชาติ 1 คน พรรคประชาธิปัตย์ 1 คน ทั้งนี้รวม 7 วัน (20-26 มิ.ย.) มี ส.ส.มารายงานตัวแล้วรวมทั้งสิ้น 336 คน ยังคงเหลือ ส.ส.ที่ยังไม่มารายงานตัวอีก 164 คน อย่างไรก็ตาม ในวันพรุ่งนี้ (27 มิ.ย.) เวลา 09.30 น. พรรคก้าวไกลที่นำโดยนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าและแคนดิเดตนายกฯ พรรคก้าวไกล จะนำ ส.ส.ของพรรคอีก 150 คนเข้ารายงานตัวต่อสำนักงานเลขาฯ สภาผู้แทนราษฎร

ที่พรรคก้าวไกล นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรค ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการหารือเรื่องตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร ระหว่างพรรคเพื่อไทย (พท.) และพรรคก้าวไกลว่า พรรคก้าวไกลจะพูดคุยกับพรรคเพื่อไทยในวันที่ 28 มิ.ย. หลังจากวันที่ 27 มิ.ย. พรรค พท.จะมีการประชุมส.ส.ในพรรค คาดว่าในวันที่ 28 นี้จะได้ข้อสรุปอย่างเป็นทางการ ซึ่งจะนำไปเสนอต่อที่ประชุม 8 พรรคร่วมในวันที่ 29 มิ.ย.นี้ ส่วนแนวทางที่จะเสนอให้พรรคก้าวไกลเป็นประธานสภาผู้แทนราษฎร เรายังเสนอเช่นนั้นอยู่ ซึ่งหลักการทั่วไปแล้วควรจะเป็นของพรรคอันดับที่ 1 ซึ่งคงต้องให้เวลาพรรค พท.ได้พูดคุยกันและหาข้อสรุป ซึ่งเป็นกระบวนการภายในพรรค

เมื่อถามถึงความคืบหน้าในการเจรจากับ ส.ว. นายชัยธวัชกล่าวว่า ส.ว.ส่วนใหญ่จะรอดูขั้นแรก คือการเลือกประธานสภาฯ เราเชื่อว่า ส.ว.ยังมีมาตรฐานเหมือนเดิมอย่างในปี 2562 ว่าถ้าพรรคการเมืองใดสามารถรวบรวมเสียงส่วนใหญ่ในรัฐสภาได้ ก็สมควรที่จะได้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ดังนั้นการเลือกประธานสภาฯ ก็จะสะท้อนว่า การจับมือร่วมกันของ 8 พันธมิตรที่มีก้าวไกลเป็นแกนนำมีความเหนียวแน่นเหมือนเดิม หากผ่านเรื่องนี้แล้วก็จะทำให้ ส.ว.จำนวนมากมีความเชื่อมั่นว่า พรรคก้าวไกลยังเป็นแกนนำในการรวบรวมเสียงส่วนใหญ่ในสภาผู้แทนราษฎรได้

 นายชัยธวัชระบุว่า ส่วนการที่ ส.ว.ขอให้ก้าวไกลลดเพดานมาตรา 112 ตนคิดว่าทางด้านนโยบายและความเหมาะสมของแคนดิเดตนายกฯ แต่ละพรรค ทุกคนที่เป็นคนไทยได้แสดงออก ตัดสินใจไปแล้วพร้อมกันผ่านการเลือกตั้ง ในฐานะประชาชนที่มี 1 สิทธิ์ 1 เสียง เพราะฉะนั้นขั้นตอนการเลือกนายกฯ ในสภา เรายังหวังว่าทุกฝ่ายที่ปรารถนาดีกับบ้านเมืองจะยึดมั่นว่า ถ้าพรรคการเมืองไหนรวบรวมเสียงส่วนใหญ่ได้ก็ควรเป็นนายกฯ ซึ่งเป็นกระบวนการที่ควรจะเป็นในระบบรัฐสภา ตนหวังว่า ส.ว.จำนวนมากจะยึดตามหลักการนี้เช่นกัน

ก.ก.มัดมือ พท.ไม่ทิ้งกัน

เมื่อถามว่า หากเกมพลิกพรรค พท.ได้ตำแหน่งนายกฯ พรรคก้าวไกลจะยังสามารถร่วมทำงานกับพรรค พท.ได้หรือไม่ นายชัยธวัชกล่าวว่า ตนยังเชื่อว่าพรรค พท.มีความมุ่งมั่น จริงใจ ที่จะจัดตั้งรัฐบาลร่วมกับพรรคก้าวไกล เราได้ผ่านการต่อสู้เพื่อทำให้ประเทศไทยกลับมาเป็นประชาธิปไตยมาแล้ว เราเคยไม่เห็นด้วยกับการจัดตั้งรัฐบาลในค่ายทหาร เราก็ไม่เห็นด้วยในปี 2562 ที่พรรคที่ไม่ได้ชนะการเลือกตั้ง แต่ใช้เงื่อนไขพิเศษไปรวบรวมเสียงข้างมากขึ้นมาเป็นรัฐบาลแทน ดังนั้นตนยังเชื่อมั่นว่า พรรคเพื่อไทยยังมุ่งมั่นที่จะฟื้นฟูประชาธิปไตยร่วมกับก้าวไกล    

 “ส่วนที่มีกระแสข่าวว่า กกต.จะเรียกให้ไปชี้แจงปมหุ้นไอทีวีก็รออยู่ อันที่จริงนอกจากจะเรียกนายพิธาให้ไปชี้แจงแล้ว ก็อยากให้เรียกทางไอทีวีเข้าไปเช่นกัน ว่ากระบวนการที่ผ่านมาในเรื่องการประชุมที่เกิดข้อสงสัย ว่ารายงานไม่ตรงกับข้อเท็จจริงหรือข้อพิรุธต่างๆ ในเรื่องงบการเงินเป็นอย่างไร และไอทีวียังยืนยันหรือไม่ว่ายังเป็นบริษัทสื่อ ก็จะเป็นความสมบูรณ์ในเรื่องดังกล่าว ซึ่งต้องใช้ระยะเวลา” นายชัยธวัชระบุ

นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ระบุถึงกรณีจะมีการเสนอให้เปลี่ยนวันชาติเป็นวันที่ 24 มิ.ย.ว่า  จริงๆ เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่อะไร พอเรื่องนี้เป็นประเด็นช่วงนี้จึงกลายเป็นการมุ่งหมายทางการเมือง ที่ต้องการใช้ทุกเรื่องสร้างประเด็นหรือด้อยค่าพรรคก้าวไกล หวังให้กระบวนการดังกล่าวทำให้พรรคก้าวไกลไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้

“ในเรื่องวันชาติเป็นประเด็นที่หากเราศึกษาประวัติศาสตร์ดีๆ วันชาติก็คือวันที่ 24 มิ.ย. หลังจากนั้นก็มีการรัฐประหารขึ้นและมีการเปลี่ยนวันชาติ สิ่งที่ผมกล่าวก็ไม่ได้แตกต่างจากหลายคนที่เป็นนักประวัติศาสตร์พูด แต่แน่นอนว่าเป็นกระบวนการที่ต้องใช้เวลาในการพูดคุย และจะทำได้จริงหรือไม่ต้องมีการพูดคุยกันในสังคม ไม่ใช่วาระที่ต้องพูดคุยกันในเร็วๆ นี้” นายรังสิมันต์ระบุ

เมื่อถามว่า ประเด็นดังกล่าวเป็นความเห็นส่วนตัวหรือความเห็นพรรค นายรังสิมันต์กล่าวว่า ยังไม่มีการคุยกันในพรรค การพูดของตนในงานเสวนาเป็นการพูดในเรื่องของประวัติศาสตร์และข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในอดีต แน่นอนว่าเป็นมุมมองส่วนตัว

ที่พรรคเพื่อไทย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสชื่อนายสุชาติ ตันเจริญ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย จะชิงตำแหน่งประธานสภาฯ ว่า ตนคิดว่าหลังจากที่พรรคเพื่อไทยได้คุยกับพรรคก้าวไกลแล้ว เราจึงจะเริ่มพิจารณารายชื่อ ซึ่งเพื่อไทยได้มีการนัดหมายพูดคุยถึงเรื่องดังกล่าวในวันพรุ่งนี้ (27 มิ.ย.) โดยจะยังไม่มีการนำรายชื่อเข้าแต่อย่างใด

เมื่อถามว่า พรรคได้คุยกับนายสุชาติแล้วหรือยัง นายประเสริฐกล่าวว่ายังไม่ได้คุย ส่วนจำเป็นที่จะต้องคุยกับนายสุชาติหรือไม่นั้น ตนคิดว่าไม่ เพราะพรุ่งนี้ (27 มิ.ย.) ในที่ประชุมพรรคคงมีความชัดเจนในเรื่องนี้มากขึ้น

ถามอีกว่า แสดงว่าวันที่ 28 มิ.ย.จะมีรายชื่อเปิดเผยออกมาเลยใช่หรือไม่ นายประเสริฐกล่าวว่า อาจจะสรุปร่วมกันได้ว่าทิศทางประธานและรองประธานสภาฯ จะเป็นอย่างไร แล้วหลังจากนั้นจะเข้าสู่กระบวนการสรรหาของแต่ละพรรค ทั้งนี้ต้องมีการตกลงกันก่อนว่าใครจะอยู่ตรงไหน ซึ่งตนคิดว่าในวันที่ 28 มิ.ย.หากสามารถพูดคุยกันได้ พรรคเพื่อไทยก็จะดำเนินการในเรื่องของรายชื่อโดยเร็ว

จี้เปิดข้อมูลขายที่ดิน

นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่า วันนี้ได้ส่งหนังสือทางไปรษณีย์ไปถึงนายพิธาเพื่อขอให้เปิดเผยข้อมูลการขายที่ดิน 14 ไร่ 62.7 ตร.ว. ที่ อ.ปราณบุรี กรณีที่นายพิธาได้ขายที่ดินแปลงดังกล่าวเมื่อวันที่ 27 มี.ค.66 ในราคา 6.5 ล้านบาท ขณะที่ที่ดินแปลงนี้ นายพิธาเคยแจ้งต่อสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ กรณีเข้ารับตำแหน่ง ส.ส.วันที่ 25 พ.ค.62 ในราคา 18 ล้านบาท เป็นการขายที่ดินในราคาต่ำกว่าที่เคยแจ้งไว้  

จึงมีเหตุอันควรสงสัยที่ต้องขอให้นายพิธาเปิดเผยข้อมูลรายละเอียดการขายที่ดินให้สาธารณชนทราบ ทั้งตัวหนังสือและตัวเลข อาทิ หนังสือสัญญาขายที่ดิน (ท.ด.13), ใบเสร็จรับเงินในราชการกรมที่ดิน, ราคาทุนทรัพย์, ราคาประเมิน,  ค่าธรรมเนียมโอนที่ดิน และขอให้เปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมด้วยว่า ที่ดินแปลงดังกล่าวขายไปจริงในราคาเท่าใด แตกต่างจากที่ระบุในหนังสือสัญญาขายที่ดินหรือไม่ อย่างไร การขายที่ดินดังกล่าวมีนายหน้าหรือไม่ มีการจ่ายค่านายหน้าหรือไม่ เท่าใด มีการทำสัญญาจะซื้อจะขายไว้ก่อนหรือไม่ และมีการมอบอำนาจให้ใครเป็นตัวแทนในการขายหรือไม่

วันเดียวกัน สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญแจ้งว่า ศาลรัฐธรรมนูญได้ประชุมพิจารณาคดีที่นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร อดีตทนายความของพุทธะอิสระ ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 ว่าการกระทำของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และ พรรคก้าวไกลที่เสนอร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่...) พ.ศ... เพื่อยกเลิกประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 โดยใช้เป็นนโยบายในการหาเสียงเลือกตั้ง และยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่องนั้น เป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49 วรรคหนึ่ง หรือไม่ โดยนายธีรยุทธกล่าวอ้างในคำร้องว่าได้ยื่นคำร้องขอฉบับลงวันที่ 30 พ.ค. 66 เพื่อขอให้อัยการสูงสุดร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสั่งการให้เลิกการกระทำของนายพิธาและพรรคก้าวไกลแล้ว แต่อัยการสูงสุดมิได้ดำเนินการภายใน 15 วันนับแต่วันที่ได้รับคำร้องตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49 วรรคสาม

ศาลรัฐธรรมนูญจึงมีมติให้สอบถามอัยการสูงสุดว่า มีคำสั่งรับหรือไม่รับดำเนินการตามที่ร้องขอ หากมีคำสั่งรับคำร้องขอ ดำเนินการแล้วอย่างไร และผลการดำเนินการเป็นอย่างไร โดยให้แจ้งศาลรัฐธรรมนูญภายใน 15 วัน

 นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวตอบเมื่อถามถึงกรณีมีกระแสข่าวการซื้อเสียง ส.ส.หัวละ 100 ล้านเพื่อแลกการโหวตว่า "คนรับก็เป็นงู แต่คนจ่ายเป็นอะไรไม่รู้ที่มี 2 เขา คงไม่มีคนจ่าย มีแต่ควายจ่ายเท่านั้น”

ถามถึงกรณีความเป็นไปได้ของรัฐบาลเสียงข้างน้อย นายอนุทินกล่าวย้ำว่า "ไม่มีทางเป็นไปได้ พรรคภูมิใจไทยไม่มีแนวคิด และไม่เชื่อเรื่องดังกล่าว รวมถึงจะไม่ไปในทางนั้นแน่นอน"

บิ๊กป้อมขยับสุมหัวลูกพรรค

นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค เดินทางกลับมาจากอังกฤษแล้วและวันนี้มีการประชุมค้ามนุษย์

ขณะที่ความเคลื่อนไหวของพรรคพลังประชารัฐ ในวันที่ 27 มิ.ย.นี้ ได้เรียกประชุม ส.ส.พรรค เวลา 14.00 น. โดยกำหนดการเดิมเป็นประชุมที่พรรค แต่ล่าสุดได้เปลี่ยนมาเป็นที่มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด เพื่อเตรียมความพร้อมในการเปิดประชุมรัฐสภา และหารือถึงแนวทางโหวตเลือกประธานสภาฯ

ส่วนที่บริเวณวัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม  พร้อมด้วยนางนราพร จันทร์โอชา ภริยา เป็นประธานในพิธีทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศล งานฉลองพระชนมายุ 8 รอบ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาน สมเด็จพระสังฆราช  สกลมหาสังฆปริณายก 26 มิถุนายน 2566

บิ๊กตู่จ่อเหยียบ รทสช.อีกรอบ

ภายหลังพิธีทำบุญตักบาตร พล.อ.ประยุทธ์ได้ทักทาย นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และทักทายบรรดารัฐมนตรีที่มาร่วมพิธีด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม พร้อมปฏิเสธตอบคำถามการเมือง โดยกล่าวเพียงสั้นๆว่า "ไม่มีอะไรหรอก อย่ามาถามเราเลย เรื่องการเมืองก็ว่ากันไป" ทั้งนี้ก่อนเดินทางกลับ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ได้เข้าไปพูดคุยกับ พล.อ.ประยุทธ์ด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ว่า ในวันที่ 27 มิ.ย. เวลา 16.00 น. นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรคเรียกประชุม 36 ส.ส. ทั้ง ส.ส.ระบบเขตและบัญชีรายชื่อ เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนพิธีเปิดสมัยประชุมรัฐสภาในวันที่ 3 ก.ค.

นอกจากนี้ มีรายงานว่าที่ประชุมพรรค รทสช.จะหารือถึงทิศทางการโหวตประธานและรองประธานสภาฯ ด้วย พร้อมติวเข้มข้อกฎหมายและระเบียบข้อบังคับสภา เพื่อให้มีความพร้อมการทำงาน โดยคาดว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค หากไม่ติดภารกิจใดๆ จะเดินทางเข้าพรรค ภายหลังเสร็จสิ้นเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อไปแสดงความยินดีกับ 36 ส.ส.ใหม่ ของพรรคที่ได้เข้ารายงานตัวต่อสภาไปแล้วเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการขยับไทม์ไลน์เลือกประธานสภาผู้แทนราษฎรและเลือกนายกรัฐมนตรี ได้มีการแจ้งมายังรัฐบาลหรือไม่ว่า วันที่ 3 ก.ค.จะเป็นวันเสด็จฯ ไปทรงเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎรอยู่แล้ว และอยู่ในกรอบ 15 วัน วันสุดท้ายเป็นวันที่ 15 ก.ค. ทั้งนี้ สภาผู้แทนราษฎรจะเป็นผู้กำหนดวัน ซึ่งจะต้องประสานกับพรรคการเมืองต่างๆ ว่าสามารถมาเข้าร่วมประชุมได้หรือไม่ และไม่ต้องแจ้งมายัง ครม.เพราะ ครม.ไม่ต้องเข้าร่วมประชุมด้วย สภาต้องแจ้ง ส.ส.เท่านั้น ไม่เหมือนกับการเลือกนายกรัฐมนตรี เพราะเป็นเรื่องใหญ่ที่ต้องประสานกับวุฒิสภาว่าสามารถมาประชุมได้หรือไม่

เมื่อถามว่า พรรคการเมืองเสียงข้างน้อยสามารถเสนอชิงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรได้หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า แล้วแต่ว่าแต่ละพรรคจะเสนอ เพราะจะนำไปสู่การลงคะแนนลับ      

ด้านนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมความพร้อมพิธีเปิดสมัยประชุมรัฐสภาในวันที่ 3 ก.ค.ว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะเสด็จพระราชดำเนินมาทรงประกอบรัฐพิธีเปิดสมัยประชุมรัฐสภา เวลา 17.00 น. โดยมีนายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี (ครม.) คณะทูตานุทูตจากประเทศต่างๆ ส.ส.และ ส.ว.เข้าร่วม สำหรับความพร้อมตนได้ลงพื้นที่ตรวจดูความเรียบร้อยแล้ว จะเป็นห่วงก็แค่แม้จะเป็นห้องโถงใหญ่ แต่เนื่องจากจะมีผู้เข้ามาร่วมจำนวนมาก เกรงว่าที่จะคับแคบ แต่คิดว่าทุกอย่างจะเรียบร้อย และกำชับส่วนต่างๆ ให้ดำเนินการด้วยความระมัดระวัง

นายพรเพชรระบุว่า ส่วนการรายงานตัว ส.ส.ทราบว่าใกล้จะครบแล้ว และจะประสานไปยังเลขาฯ สภาผู้แทนราษฎร เพราะในวันที่ 4 ก.ค.จะมีการประชุมรองประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎร เวลา  09.00-09.30 น. ส่วนการแสดงวิสัยทัศน์ของแคนดิเดตประธานสภาฯ คาดว่าจะใช้เวลาไม่นาน โดยจะเป็นการประชุมลับและลงมติลับ ส่วนวิธีการโหวตทำได้ 2 แบบ โดยแบบแรกคือการกดปุ่มแสดงตน แต่วิธีนี้สามารถค้นหาย้อนหลังได้ว่าใครเลือกใคร ส่วนวิธีที่ 2 เป็นการหย่อนบัตร ซึ่งวิธีนี้จะใช้เวลานานหน่อย แต่ก็ต้องดูว่าเขาจะใช้วิธีไหน

เมื่อถามว่า วันโหวตเลือกประธานสภาฯ และนายกรัฐมนตรีจะมีการเลื่อนวันอีกหรือไม่ นายพรเพชรกล่าวว่า ไม่ได้อยู่ที่ดุลพินิจของตน ตนไม่มีดุลพินิจที่จะไปสั่งการอะไรทั้งสิ้น ถ้าสภาพร้อมเมื่อไหร่ก็จะมีการแจ้งมาและก็จะดำเนินการ ทั้งนี้ การโหวตเลือกประธานสภาฯ ยังเป็นวันที่ 4 ก.ค. ยกเว้นหัวหน้าพรรคต่างๆ ไปตกลงกันใหม่ร่วมกันอาจจะเปลี่ยนก็ได้ แต่ขณะนี้ตนเชื่อว่าจะไม่เปลี่ยน และวันนั้นจะมีการโหวตเลือกรองประธานสภาฯ 2 คนด้วย

เมื่อถามว่า ทิศทางการโหวตนายกฯ ของ ส.ว.เสียงจะเป็นไปในทิศทางเดียวกันหรือไม่ นายพรเพชรกล่าวว่า พูดได้เลยว่าไม่เป็นไปในทิศทางเดียวกันหรอก ตนไม่ทราบว่าใครคิดยังไง เขามีความคิดของเขา แต่ละคนมีเหตุผลและวุฒิภาวะ เลือกที่จะตอบได้ว่าทำไมถึงเลือกและทำไมถึงไม่เลือกในการออกเสียง.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'มท.หนู' ลั่นมหาดไทยยุคนี้ ไร้อำนาจเก่าไม่แตกแถว ผู้ว่าฯ ทำงานเกียร์ 10

'มท.หนู' ลั่นมหาดไทยยุคนี้ไม่แตกแถว ไร้ปัญหาฝ่ายการเมืองปะทะขรก.ประจำ ยันผู้ว่าฯ เข้าเกียร์ 10 ชี้ใครไม่สนองงานชาวบ้าน มีวิธีจัดการร้อยแปดพันเก้า