ข้าราชการระดับสูง 14 รายหนาว “เรืองไกร” ร้อง ป.ป.ช.ตรวจสอบเสียภาษีให้แผ่นดินถูกต้องหรือไม่ พบมี 10 ผู้ว่าราชการจังหวัดกระจายหลายภูมิภาค และ 4 อธิบดีใน 4 กระทรวง
เมื่อวันอาทิตย์ที่ 25 มิ.ย.2566 นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดเผยว่า ได้ส่งหนังสือทางไปรษณีย์ด่วนพิเศษ (EMS) ถึงสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อขอให้ตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของเจ้าหน้าที่ของรัฐ กรณีผู้ดำรงตำแหน่งระดับสูง ตามมาตรา 102 (7) ว่ามีการนำรายได้ที่แจ้งต่อ ป.ป.ช.ไปชำระภาษีให้กรมสรรพากรโดยถูกต้อง หรือไม่ตามตำแหน่งของเจ้าหน้าที่รัฐ ดังนี้
1.ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล กรณีพ้นจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 10 เม.ย.2566 ซึ่งแสดงรายได้ของคู่สมรส รวมเป็นเงิน 1,164,000 บาท แต่แสดงเงินได้พึงประเมินในรอบปีที่ผ่านมา 84,307.82 บาท 2.ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร กรณีเข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 2 ธ.ค.2565 มีการแสดงรายได้ของคู่สมรส รวมเป็นเงิน 720,000 บาท แต่ไม่ได้แสดงเงินได้พึงประเมินในรอบปีที่ผ่านมา 3.ผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี กรณีเข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 2 ธ.ค.2565 ซึ่งแสดงรายได้ของตนเอง รวมเป็นเงิน 8,660,257 บาท แต่แสดงเงินได้พึงประเมินในรอบปีที่ผ่านมา 1,110,545 บาท ผลต่างที่เกิดขึ้น อาจมีทั้งเงินได้ที่ไม่ต้องเสียภาษี แต่อาจมีเงินได้ที่ต้องเสียภาษีคือ รายได้ค่าที่ดิน/อาคาร 4.ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร กรณีเข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 2 ธ.ค.2565 ซึ่งมีการแสดงรายได้ของตนเอง 1,410,359.22 บาท แต่แสดงเงินได้พึงประเมินในรอบปีที่ผ่านมา 936,482.76 บาท มีการแสดงรายได้ของคู่สมรส รวมเป็นเงิน 2,894,294.72 บาท แต่แสดงเงินได้พึงประเมินในรอบปีที่ผ่านมา 1,678,151.59 บาท ผลต่างที่เกิดขึ้นอาจมีทั้งเงินได้ที่ไม่ต้องเสียภาษี แต่อาจมีเงินได้ที่ต้องเสียภาษี คือรายได้ค่าเช่าคอนโดมิเนียม รายได้ค่าเช่าที่ดิน
5.ผู้ว่าฯ สุโขทัย กรณีเข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 2 ธ.ค.2565 ซึ่งแสดงรายได้ของคู่สมรส (คนที่สอง) รวมเป็นเงิน 771,500 บาท แต่ไม่ได้แสดงเงินได้พึงประเมินในรอบปีที่ผ่านมา 6.ผู้ว่าฯ สมุทรปราการ กรณีเข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 2 ธ.ค.2565 ซึ่งแสดงรายได้ของตนเอง รวมเป็นเงิน 1,210,000 บาท แต่แสดงเงินได้พึงประเมินในรอบปีที่ผ่านมา 99,254.96 บาท 7.ผู้ว่าฯ ยะลา กรณีเข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 2 ธ.ค.2565 ซึ่งแสดงรายได้ของตนเอง 1,401,600 บาท แต่ไม่แสดงเงินได้พึงประเมินในรอบปีที่ผ่านมา 8.ผู้ว่าฯ พิจิตร กรณีเข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 2 ธ.ค.2565 ซึ่งแสดงรายได้ของตนเอง 1,196,455.77 บาท แสดงรายได้ของคู่สมรส รวมเป็นเงิน 555,574 บาท แต่ทั้งสองคนไม่แสดงเงินได้พึงประเมินในรอบปีที่ผ่านมา 9.ผู้ว่าฯ นนทบุรี กรณีดำรงตำแหน่งครบ 3 ปีเมื่อวันที่ 1 ต.ค.2565 มีการแสดงรายได้ของตนเอง 1,354,600 บาท แต่แสดงเงินได้พึงประเมินในรอบปีที่ผ่านมา 90,549.33 บาท และแสดงรายได้ของคู่สมรส 798,100 บาท แต่แสดงเงินได้พึงประเมินในรอบปีที่ผ่านมา 33,066.76 บาท 10.ผู้ว่าฯ นครศรีธรรมราช กรณีเข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 1 ต.ค.2565 ซึ่งแสดงรายได้ของคู่สมรส รวมเป็นเงิน 930,000 บาท แต่ได้แสดงเงินได้พึงประเมินในรอบปีที่ผ่านมา 747,309.85 บาท ผลต่างที่เกิดขึ้น อาจมีเงินได้ที่ต้องเสียภาษีคือ รายได้ค่าเช่าอาคารพาณิชย์
11.อธิบดีกรมทางหลวงชนบท กรณีดำรงตำแหน่งครบ 3 ปีเมื่อวันที่ 15 ม.ค.2566 ซึ่งมีการแสดงรายได้ของตนเอง รวมเป็นเงิน 3,193,164 บาท แต่แสดงเงินได้พึงประเมินในรอบปีที่ผ่านมา 133,864.30 บาท และมีการแสดงรายได้ของคู่สมรส 10,612,163.60 บาท แต่แสดงเงินได้พึงประเมินในรอบปีที่ผ่านมา 270,760.64 บาท 12.อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กรณีดำรงตำแหน่งครบ 3 ปีเมื่อวันที่ 21 พ.ย.2565 ซึ่งมีการแสดงรายได้ของคู่สมรส รวมเป็นเงิน 562,840 บาท แต่แสดงเงินได้พึงประเมินในรอบปีที่ผ่านมา 102,070.50 บาท 13.อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กรณีดำรงตำแหน่งครบ 3 ปีเมื่อวันที่ 1 ต.ค.2565 ซึ่งมีการแสดงรายได้ของตนเอง รวมเป็นเงิน 2,719,200 บาท แต่แสดงเงินได้พึงประเมินในรอบปีที่ผ่านมา 1,595,878.50 บาท ผลต่างที่เกิดขึ้น อาจมีเงินได้ที่ต้องเสียภาษีคือ รายได้ค่าเช่าคอนโดฯ และค่าเช่ารถ และ 14.อธิบดีกรมการค้าภายใน กรณีดำรงตำแหน่งครบ 3 ปีเมื่อวันที่ 5 มิ.ย.2565 ซึ่งมีการแสดงรายได้ของคู่สมรส รวมเป็นเงิน 3,068,633.99 บาท แต่ไม่แสดงเงินได้พึงประเมินในรอบปีที่ผ่านมา ผลต่างที่เกิดขึ้น อาจมีเงินได้ที่ต้องเสียภาษี คือรายได้ค่าเช่าที่
“ข้อมูลข้างต้นสรุปมาจากเว็บไซต์ของ ป.ป.ช. ซึ่งไม่สามารถพิมพ์ออกมาได้ แต่ผลต่างที่เกิดขึ้นมีเหตุที่ควรตรวจสอบว่ามีการนำรายได้ที่แจ้งต่อ ป.ป.ช. ไปชำระภาษีให้แก่กรมสรรพากรโดยถูกต้องหรือไม่ ดังนั้นจึงต้องขอให้ ป.ป.ช. ไปตรวจสอบรายละเอียดตามคำร้องต่อไปเอง เพราะเอกสารทั้งหลายทั้งปวงอยู่ที่ ป.ป.ช.แล้ว” นายเรืองไกรระบุ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ออกหมายจับแล้ว! DSI บุกรวบตัวแม่ ไร้เงา 'สามารถ'
ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เจ้าหน้าที่ได้คุมตัวมารดาของนายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช หลังออกหมายจับ
ตั้งกก.สอบผกก.บางซื่อ ทนายปาเกียวเล็งทิ้งตั้ม
“ดีเอสไอ” เตรียมสรุปสำนวนคดี 18 บอสดิไอคอนเสนออัยการคดีพิเศษภายใน 20 ธ.ค.นี้
นิกรหักเพื่อไทย เตือนส่อผิดกม. ให้กมธ.ตีความ
“นิกร” หักข้อเสนอ “ชูศักดิ์” เลยช่วงเวลาแปลงร่างประชามติเป็นกฎหมายการเงินแล้ว
‘สนธิ’ลั่นการเมืองใกล้สุกงอม!
“อุ๊งอิ๊ง” เมินปม กกต.สอบครอบงำต่อ เด็ก พท.ยันเป็นการดำเนินการตามปกติ
จ่อส่งคดีหมอบุญให้DSI
ตร.สอบปากคำอดีตภรรยา-ลูกสาว “หมอบุญ” เพิ่มเติม
ทักษิณรอดคลุมปี๊บ! ส้มเหลวปักธงอุดรธานี ‘คนคอน’ตบหน้า‘ปชป.’
เลือกตั้ง อบจ. 3 จังหวัด “เพชรบุรี-อุดรธานี-นครศรีธรรมราช” ราบรื่น