สุดเศร้า! เกิดโศกนาฏกรรม ถังดับเพลิงบึ้มกลางโรงเรียนราชวินิตฯ ระหว่างสาธิตเรื่องอัคคีภัย ทำ “น้องเบนซ์” เด็กชั้น ม.6 เสียชีวิต บาดเจ็บนับสิบราย นครบาลจ่อฟ้อง 2 ข้อหาหนักทีม ปภ.สามเสน เจ้าหน้าที่ 8 นายสุดช็อก ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์ “บิ๊กตู่” สั่งคุ้ยหาข้อเท็จจริง ชัชชาติรับเป็นครั้งแรกในเมืองกรุง แต่อย่าตื่น
เมื่อวันศุกร์ที่ 23 มิถุนายน 2566 ได้เกิดเหตุสลด เวลา 11.15 น. ตำรวจ สน.นางเลิ้งได้รับแจ้งจากพนักงานรักษาความปลอดภัยโรงเรียนราชวินิตมัธยม ใกล้ทำเนียบรัฐบาล ว่าเกิดเหตุระเบิดภายในโรงเรียน มีผู้เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บจำนวนมาก ซึ่งหลังได้รับแจ้งพนักงานสอบสวน สน.นางเลิ้ง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยและอาสาสมัคร และอาสาสมัครกู้ชีพหลายหน่วยงาน ได้เดินทางเข้าไปตรวจสอบภายในพื้นที่
จากการตรวจสอบพบว่าบริเวณลานหน้าเสาธง พบผู้บาดเจ็บนอนเกลื่อนกลาดอยู่ด้านหน้าเสาธง ซึ่งมีเพื่อนนักเรียนและครูอาจารย์เร่งให้การช่วยเหลือ เพื่อนำส่งเข้าห้องพยาบาลของโรงเรียน ขณะที่ผู้เสียชีวิตเป็นนักเรียนชาย 1 ราย กระเด็นออกไปตรงรั้วอาคาร
ทั้งนี้ การสอบถามผู้เห็นเหตุการณ์ระบุว่า เมื่อช่วงเช้าเวลา 11.00 น. โรงเรียนได้เชิญเจ้าหน้าที่ดับเพลิงสามเสนมาทำการซักซ้อมการควบคุมเพลิง พร้อมวิธีการอพยพให้เด็กนักเรียน ระหว่างที่เจ้าหน้าที่เปิดแก๊สถังขนาด 20 กก. และทำการจุดไฟเพื่อสาธิตวิธีการดับไฟเบื้องต้น แก๊สได้รั่วไหลออกมา เป็นเหตุให้ระเบิด จนทำให้ผู้เสียชีวิตกระเด็นไปไกลกว่า 10 เมตร ขณะที่เจ้าหน้าที่ซึ่งทำหน้าที่เป็นวิทยากรได้รับบาดเจ็บด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ เมื่อมีการระเบิด เสียงได้ดังสนั่นไปทั่วทั้งโรงเรียน ทำให้หลายคนเกิดอาการตกใจ
สำหรับผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตนั้น ผู้เสียชีวิตคือ นายขุมทอง เปรมมณี ชั้น ม.6/7 ส่วนผู้บาดเจ็บจำนวน 10 ราย ได้แก่ 1.นายชนะชัย เณรนุ่ม ม.5/9 บาดเจ็บแผลสะเก็ด 2.นายกฤติภูมิ ศรีเณหะ ม.6/8 มีอาการหูอื้อด้านขวา 3.ด.ญ.ติณณา ฮา ม.2/2 มีอาการหูอื้อ 4.นายพงศ์ศิริ แพทย์พิทักษ์ ม.5/4 ส่งโรงพยาบาลวชิรพยาบาล 5.นายศรัณย์ วสุธาร ม.6/8 ส่ง รพ.กลาง 6.นายภิวรกาณ ธนบวเวส ม.6/4 ส่ง รพ.วชิระ 7.นายธิติธร เกศมณี ม.6/1 8.น.ส.จันมกานต์ ควรเสนอ ส่ง รพ.วชิระ 9.น.ส.กิ่งหวาย พรายศรี ม.5/1 และ 10.นายอนันตชัย โวภาสจิต ม.6/3 นอนดูอาการที่โรงเรียน
ผศ.นพ.จักราวุธ มณีฤทธิ์ คณบดีแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล กล่าวถึงอาการของนักเรียนที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุถังดับเพลิงระเบิดว่า รพ.วชิรพยาบาลรับผู้บาดเจ็บ 5 รายมาที่โรงพยาบาลช่วงเวลา 12.06 น. ผู้บาดเจ็บรายที่ 1 เป็นนักเรียนชาย อายุ 16 ปี มาด้วยอาการปวดไหล่ขวา, ผู้บาดเจ็บรายที่ 2 เป็นนักเรียนชาย อายุ 17 ปี มาด้วยอาการเจ็บฝ่ามือขวา และถลอกหน้าแข้งขวา, ผู้บาดเจ็บรายที่ 3 นักเรียนชาย อายุ 18 ปี มาด้วยอาการปวดหู, ผู้บาดเจ็บรายที่ 4 เป็นนักเรียนหญิง อายุ 13 ปี มาด้วยอาการปวดศีรษะ เจ็บคอร้าวไปที่แขนซ้าย, ผู้บาดเจ็บรายที่ 5 เป็นนักเรียนหญิง อายุ 13 ปี มาด้วยอาการปวดหู ซึ่งผู้บาดเจ็บทั้ง 5 รายได้รับการดูแลรักษาอาการบาดเจ็บไม่รุนแรง และจะไม่ส่งผลให้มีอาการหูดับในอนาคต แต่ต้องดูแลอย่างใกล้ชิด ขณะนี้มีอาการคงที่ มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางและพยาบาลดูแลสังเกตอาการอย่างใกล้ชิด ขณะเดียวกันได้มีการพูดคุยกับผู้บาดเจ็บบางส่วน เป็นเพื่อนของผู้เสียชีวิต ยังคงมีอาการตกใจ ทีมแพทย์ได้มีการส่งจิตแพทย์เข้าไปพูดคุยและให้กำลังใจอย่างใกล้ชิด ส่วนค่ารักษาพยาบาล รพ.วชิรพยาบาลได้ดูแลในส่วนของค่ารักษาพยาบาลทั้งหมด
ผศ.นพ.จักราวุธกล่าวอีกว่า ผู้เสียชีวิตเป็นนักเรียนชายอายุ 18 ปีคือ นายขุมทอง หรือน้องเบนซ์ เสียชีวิตที่เกิดเหตุ โดยแพทย์นิติเวชได้ผ่าชันสูตรศพเบื้องต้น พบว่าพบอาการบาดเจ็บมีร่องรอยบาดแผลฉีกขาดที่บริเวณกระดูกต้นแขน และมีแผลฉีกขาดขนาดใหญ่บริเวณหน้าอก พร้อมกับมีอวัยวะภายในทรวงอกฉีกขาด เป็นสาเหตุให้ถึงแก่ชีวิต
จ่อแจ้ง 2 ข้อหาหนัก
ด้าน พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวว่า ได้ประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) เข้าเก็บหลักฐานและตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุทั้งหมดแล้ว ผู้เสียชีวิตอยู่ระหว่างรอแพทย์นิติเวช รพ.ตำรวจเข้าตรวจสอบ ขณะที่พนักงานสอบสวน สน.นางเลิ้ง นำตัวเจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) 7 คน ครูและนักเรียนไปสอบปากคำ โดยในขณะเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ ปภ.กำลังสาธิตการดับเพลิงให้กับนักเรียนและครู ระหว่างนั้นถังดับเพลิงสีแดง หรือถัง CO2 ที่อยู่หลังครูฝึกสำหรับเตรียมไว้ใช้สาธิตครั้งต่อไประเบิด ทำให้นักเรียนที่นั่งอยู่หน้าศาลพระภูมิถูกแรงอัดจนร่างกระเด็นไปไกลกว่า 10 เมตร เสียชีวิตทันที ตำรวจได้แจ้งข้อหาเจ้าหน้าที่ ปภ.จำนวน 3 ราย ฐานประมาทจนทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และจากการตรวจสอบ พบว่าถังดับเพลิงที่ระเบิดมีสภาพฉีกขาด ซึ่งเป็นถังใช้ซ้ำที่ไม่มีระบบวาล์วเซฟตี้ติดตั้งอยู่ เจ้าหน้าที่ พฐ.วิเคราะห์เบื้องต้นคาดว่าถังดังกล่าวถูกนำไปบรรจุแก๊สเพิ่ม ประกอบกับวางตากแดดเป็นเวลานานจนอุณหภูมิเพิ่มสูงขึ้น เกิดแรงดันขยายตัวและระเบิดเนื่องจากไม่มีวาล์วเซฟตี้
พ.ต.อ.รัฐธนนท์ เอกฐิติกุลพัทธ์ ผกก.สน.นางเลิ้ง กล่าวว่า ได้นำตัวเจ้าหน้าที่ชุดสาธิตของสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เขตสามเสน 8 ราย ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 7 ราย และหัวหน้าชุดปฏิบัติงาน 1 รายมาสอบปากคำในฐานะพยานก่อน เพื่อสอบถามถึงข้อเท็จจริง อาทิ ประเด็นบริษัทที่ทำหน้าที่เติมแก๊ส อายุการใช้งานของถังดับเพลิง สภาพถังดับเพลิงว่ามีการใช้งานมาอย่างไร สภาพลักษณะถังดับเพลิง เป็นถังเก่าหรือใหม่ รวมถึงหลักการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ชุดสาธิตดับเพลิง เพราะในขณะที่มีการสาธิตบริเวณดังกล่าวมีแดดแรง และต้องดูว่าอาจจะเป็นความประมาทหรือไม่ที่นำถังดับเพลิงไปตั้งไว้เช่นนั้น
เมื่อถามว่า ทาง น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศธ. ได้ให้ข้อมูลว่าปกติแล้วโรงเรียนแห่งนี้จะมีการสาธิตเกี่ยวกับความปลอดภัยให้นักเรียน เช่น สาธิตการ CPR แต่การสาธิตเรื่องอัคคีภัยดังกล่าวถือเป็นการดำเนินการครั้งแรกในรอบ 6 ปีของโรงเรียน ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร พ.ต.อ.รัฐธนนท์ระบุว่า การสาธิตดับเพลิงดังกล่าวเป็นการอนุมัติให้เป็นโครงการ มีการขอความร่วมมือกันระหว่าง ปภ.เขตสามเสน กรุงเทพมหานคร และโรงเรียน ไม่ใช่ในกรณีที่โรงเรียนส่งหนังสือขอความอนุเคราะห์ไปยัง ปภ.เขตสามเสนแต่อย่างใด ส่วนจะมีโรงเรียนอื่นๆ เพิ่มเติมในโครงการด้วยหรือไม่ ต้องให้ ศธ.ชี้แจงรายละเอียด
พ.ต.อ.รัฐธนนท์กล่าวอีกว่า ข้อหาเบื้องต้นที่พิจารณาไว้ หากพบว่าใครมีส่วนเกี่ยวข้อง อาจแจ้ง 2 ข้อหา ได้แก่ มาตรา 291 ผู้ใดกระทำโดยประมาท และการกระทำนั้นเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และมาตรา 390 ผู้ใดกระทำโดยประมาท และการกระทำนั้นเป็นเหตุให้ผู้อื่นรับอันตรายสาหัส
ขณะที่ นายสุริยชัย รวิวรรณ รองผู้อำนวยการ ปภ. เดินทางมาที่ สน.นางเลิ้ง เพื่อติดตามความคืบหน้าคดี โดยระบุว่า ถังดับเพลิงที่ระเบิดนั้นเป็นถังที่เจ้าหน้าที่เตรียมไว้สำรองเวลาเกิดเหตุฉุกเฉิน ซึ่งถังนี้วางอยู่ด้านหลัง เป็นคนละถังกับที่ให้เด็กใช้ซักซ้อมดับไฟ ซึ่งสารที่เติมในถังดังกล่าวเป็นก๊าซ CO2 หรือก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ใช้ดับไฟ ที่ปกติถังพวกนี้มีมาตรฐาน และการเติมก๊าซตามโรงงานก็มีมาตรฐานการเติม ซึ่งจะมีเกณฑ์ในการวัด ถ้าแรงดันเกินก็จะมีตัวเช็กระบบความปลอดภัย ส่วนสาเหตุเกิดจากอะไร คงต้องไปตรวจสอบกันต่อไป ซึ่งถังดับเพลิงมีมาตรฐาน มีการดูแลบำรุงรักษาวาล์วหัวฉีดให้พร้อมใช้งานหากเกิดเหตุฉุกเฉิน
8 เจ้าหน้าที่ ปภ.เครียด
“ตอนนี้ทางหน่วยงานได้เข้ามาดูแลเจ้าหน้าที่ทั้ง 8 คนที่อยู่ในเหตุการณ์ ซึ่งถูกนำตัวมาสอบปากคำที่ สน.นางเลิ้ง โดยทางหน่วยงานได้เตรียมเอกสารหลักฐานต่างๆ เพื่อประกันตัวหากมีการแจ้งข้อกล่าวหา เบื้องต้นมีข้อมูลว่าผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งวิทยากรและคนที่อยู่ในเหตุการณ์ทั้งหมดรู้สึกเสียใจ บางคนร้องไห้ มีอาการช็อก และเครียดอย่างเห็นได้ชัด เพราะเป็นบุคลากรที่เข้าไปให้ความรู้เด็กเรื่องวิธีการดับเพลิงเป็นประจำ” นายสุริยชัยกล่าว
ส่วนนายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแล เยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงสภาพจิตใจของนักเรียนและครูโรงเรียนราชวินิตฯ จากเหตุการณ์ดังกล่าว และเมื่อเวลาประมาณ 13.30 น. นายกฯ ได้มอบให้ น.ส.ตรีนุชและตนเองลงพื้นที่เกิดเหตุ
“นายกฯ ได้กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบหาสาเหตุและข้อเท็จจริงของการเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้ เพื่อสร้างความปลอดภัย ป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นอีก พร้อมขอให้ทุกฝ่ายหลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลภาพผู้เสียชีวิตบนสื่อสังคมออนไลน์ เพื่อให้เกียรติแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิตด้วย” นายอนุชากล่าว
ขณะที่ น.ส.ตรีนุชพร้อมคณะลงพื้นที่ระบุว่า กิจกรรมสาธิตป้องกันสาธารณภัย มีนักเรียนชั้น ม.5 และ ม.6 เข้าร่วมกิจกรรม 126 คน ในช่วงเวลาประมาณ 11.20 น. โดยเหตุดังกล่าวส่งผลให้มีนักเรียนเสียชีวิต 1 ราย และได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก โดยเหตุระเบิดมาจากระหว่างฝึกสาธิต มีนักเรียนรอเข้าอบรมแบ่งเป็น 2 กลุ่มคือ กลุ่มแรกฟังการบรรยาย ส่วนกลุ่มสองเป็นภาคปฏิบัติ ซึ่งเหตุเกิดจากกลุ่มสองที่รอฝึกสาธิตระหว่างนั่งรอเจ้าหน้าที่เตรียมอุปกรณ์ถังดับเพลิงก็เกิดระเบิดขึ้น
“เจ้าหน้าที่ ปภ.สามเสนที่เข้ามาฝึกอบรมให้แก่นักเรียนนั้นเป็นเจ้าหน้าที่มืออาชีพ เป็นผู้เชี่ยวชาญโดยตรง และมีการฝึกสาธิตตามสถานศึกษาต่างๆ หลายครั้งแล้ว แต่ครั้งนี้ก็เป็นเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดและไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น ซึ่งต้องรอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนหาสาเหตุต่อไป”น.ส.ตรีนุชกล่าว
ชัชชาติลุยสอบ 2 ประเด็น
ขณะที่นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. เดินทางมายัง รพ. ก่อนให้สัมภาษณ์ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มีผู้บาดเจ็บทั้งหมด 21 คน กลับบ้านไปแล้ว 12 คน รักษาตัวอยู่ที่ รพ. 9 คน แบ่งเป็นอยู่ที่ รพ.กลาง 4 คน และ รพ.วชิรพยาบาล 5 คน โดยผู้บาดเจ็บทั้งหมดอยู่ในโซนสีเขียวไม่มีอาการสาหัส จะมีเพียงแค่หูอื้อเท่านั้น แต่ยังไม่ถึงขั้นแก้วหูอักเสบ และบาดเจ็บที่ข้อมือเล็กน้อย ตอนนี้ก็ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง นอกจากนี้ยังได้ส่งทีมนักจิตวิทยาเข้าไปดูแลสภาพจิตใจเด็กๆ เพราะหลายคนยังตกใจ ส่วนใหญ่จะเป็นคนใกล้ชิดกับเหตุการณ์
นายชัชชาติกล่าวอีกว่า ในส่วนของผู้ที่เสียชีวิต บาดเจ็บ และนักเรียนทั้งหมดก็คงต้องมีการเยียวยาตามระเบียบของทางราชการ รวมถึงต้องมีการเยียวยาทางด้านจิตใจสำหรับนักเรียนที่ประสบเหตุ เนื่องจากเป็นภาพที่น่าตกใจ ซึ่ง กทม.จะจัดส่งเจ้าหน้าที่ที่ดูแลเกี่ยวกับเรื่องสุขภาพจิตเข้ามาดูแลด้วย โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมี 2 จุดที่ต้องตรวจสอบ คือ 1.มาตรฐานของอุปกรณ์ เนื่องจากไม่ควรจะมีการระเบิดขึ้น 2.การจัดวางอุปกรณ์ก่อนฝึก ซึ่งจากการตรวจสอบก็เป็นพื้นที่จำกัด ซึ่งในอนาคตต้องให้อยู่ห่างกว่านี้หรือไม่ หรือว่าควรมีอุปกรณ์ มีคอกใส่ป้องกันไว้ให้เป็นระเบียบหรือไม่ ซึ่ง กทม.ต้องนำไปทบทวน แต่เท่าที่ทราบมาในประวัติศาสตร์ กทม.ไม่เคยระเบิด
“นี่อาจเป็นครั้งแรกที่มีการระเบิด ซึ่งต้องไปหาสาเหตุอย่างจริงจัง ประกอบกับขณะนี้เราก็มีการสั่งซื้อถังดับเพลิงแบบใหม่ที่จะแจกชุมชนอยู่แล้วประมาณเกือบหมื่นถังเพื่อแจกในชุมชน ซึ่งเป็นคนละแบบกับที่ระเบิด เป็นถังพิเศษ และมีแรงดันต่ำ ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้อยู่ในสถานที่ราชการ จึงไม่ต้องตื่นตระหนก โดย กทม.จะเพิ่มความเข้มข้นในการทบทวนตรวจสอบด้านความปลอดภัยของถังดับเพลิงต่อไป” นายชัชชาติกล่าว.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ฉายาสภาเหลี่ยม(จน)ชิน
ถึงคิวสื่อสภา ตั้งฉายา สส. "เหลี่ยม (จน) ชิน" จากการพลิกขั้วรัฐบาลเขี่ย
ตอกฝาโลงกิตติรัตน์ ‘กฤษฎีกา’ชี้ขาดคุณสมบัติ เหตุมีส่วนกำหนดนโยบาย
"กฤษฎีกา" ชี้ชัดสมัย "นายกฯ เศรษฐา" ตั้ง "กิตติรัตน์" เป็นประธานที่ปรึกษาของนายกฯ
‘เท้งเต้ง’ไม่ทน! ชงแก้ข้อบังคับ รมต.ตอบกระทู้
ทนไม่ไหว! “หัวหน้าเท้ง” หารือประธานสภาฯ ขอให้แก้ข้อบังคับการประชุม
แม้วพบอันวาร์กลางทะเล เตือนเสือกทุกเรื่องทำพัง!
ปชน.จี้ถามรัฐบาล “ทักษิณ” มีอำนาจจริงปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์หรือไม่
ให้กำลังใจจนท.ดูแลปีใหม่ เข้มงวด‘ความปลอดภัย’
นายกฯ ให้กำลังใจตำรวจ-กรมทางหลวง ทำงานหนักช่วงปีใหม่
กฤษฎีกาเอกฉันท์โต้งหมดสิทธิ์
กฤษฎีกามติเอกฉันท์ "กิตติรัตน์" ขาดคุณสมบัติ หมดสิทธิ์นั่ง "ประธานบอร์ดแบงก์ชาติ"