เชือดตร.เพื่อนโจ๊กเว็บพนัน หึ่งนายพลรีดมาดามรถถัง

“บิ๊กโจ๊ก” ปิดคดีพนันออนไลน์อุ้มโปรแกรมเมอร์ จับเพื่อนร่วมรุ่นเจ้าของ 3 เว็บดังผิด กม. คืบหน้าชุดรีดทรัพย์ 140 ล้าน แจ้งข้อหา ตร.คนขับรถบอยทำรายงานเท็จ ลุยคุ้ยต่อเส้นทางเงิน ปัดโยงดรามาแย่งเก้าอี้ ผบ.ตร.คนใหม่ ขณะที่ “ทร.” ฉาว เพจดังปูด “นายพล ช.”เรียกค่าคอมมิชชันมาดามรถถัง

จากกรณีเมื่อวันที่ 6 ก.พ.2566 นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด พาผู้เสียหาย อาชีพวิศวกรโปรแกรม ทำหน้าที่แอดมินเว็บพนัน เข้าพบ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ร้องขอความช่วยเหลือและขอให้ดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้อง หลังผู้เสียหายอ้างว่าถูกเจ้าของเว็บพนันออนไลน์ซึ่งเป็นตำรวจยศ “พล.ต.ต.” และเป็นเพื่อนร่วมรุ่น นรต.47 ของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ อุ้มไปทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บ

เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์แถลงผลการดำเนินคดีผู้บังคับการกับพวก ฐานร่วมกันจัดให้มีการเล่นพนันออนไลน์ และสมคบกันฟอกเงิน หลังทีมแอดมินอุ้มโปรแกรมเมอร์เว็บพนันไปทำร้ายร่างกายและยึดเงิน โดยมีการแจ้งข้อกล่าวหาพร้อมเตรียมขยายผลยึดทรัพย์ ทั้งนี้ หลังทราบเรื่องได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่สืบสวนเร่งดำเนินการสืบสวนขยายผลจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้องกับเว็บพนันดังกล่าวด้วย เนื่องจากผู้เสียหายให้ข้อมูลว่าเว็บพนันดังกล่าวมีนายตำรวจเกี่ยวข้องอยู่เบื้องหลัง ให้ดำเนินการสืบสวนความเชื่อมโยงและไล่เส้นทางการเงินจากผู้เกี่ยวข้อง โดยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ดำเนินการตรวจสอบเส้นทางการเงินจากกลุ่มผู้ต้องหาดังกล่าว พบว่าเว็บไซต์การพนันที่เกี่ยวข้องมี 3 เว็บไซต์ ได้แก่ sexy789,   red789 และ blue789

โดยมีการแบ่งหน้าที่กันทำอย่างชัดเจนในการเป็นแอดมิน และการจัดหาบัญชีม้า เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถรวบรวมพยานหลักฐานและดำเนินคดีกับผู้ต้องหาทั้ง 9 ราย ประกอบด้วย 1.พล.ต.ต.เอกภพ อายุ 52 ปี (เจ้าของเว็บ) 2.พ.ต.อ.ปวริศ อายุ 41 ปี (จัดหาบัญชีม้า) 3.น.ส.พัชวัญญ์ อายุ 39 ปี (ซูเปอร์แอดมิน) 4.นายมนตรี อายุ 39 ปี (ซูเปอร์แอดมิน) 5.น.ส.อมรรัตน์ อายุ 26 ปี (จัดหาบัญชีม้า) 6.นายสนธิ์ อายุ 57 ปี (บัญชีม้า) 7.นางวันเพ็ญ อายุ 59 ปี (บัญชีม้า) 8.นายคมเดช อายุ 32 ปี (บัญชีม้า) 9. น.ส.กนกวรรณ อายุ 37 ปี (บัญชีม้า)

 “เบื้องต้นในส่วนของคดีปล้นทรัพย์นั้น ได้สรุปสำนวนฟ้องเสนอพนักงานอัยการแล้ว คดีอยู่ในชั้นศาล และในส่วนของสำนวนคดี ป.ป.ช.ซึ่งดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่รัฐที่ค้นข้อมูลทะเบียนราษฎรนั้น  ป.ป.ช.ได้พิจารณาชี้มูลความผิดและส่งให้ ภ.จว.สระแก้วดำเนินการตามกฎหมายแล้ว นอกจากนี้ยังได้ส่งเรื่องให้ทาง ปปง.ทราบ และพิจารณาดำเนินการในการตรวจสอบทรัพย์สินเพื่อยึดอายัดในขั้นต่อไป” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ระบุ

วันเดียวกัน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าวถึงความคืบหน้าคดีอดีตผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรีและพวก ร่วมกันตบทรัพย์ผู้ต้องหาในคดีพนันออนไลน์ 140 ล้านบาทว่า ชุดทำงานได้เรียก ส.ต.ท.ธนวัตร จันทร์ต๊ะมูล ผบ.หมู่ (สส.) สภ.สัตหีบ มาแจ้งข้อกล่าวหา 4 ข้อหา หลังพบว่าตำรวจรายนี้เป็นผู้ทำรายงานการสืบสวนเท็จ และเป็นบุคคลใกล้ชิดของนายบอยด้วย โดยมักจะไปเป็นคนขับรถให้นายบอย ซึ่งสอบสวนแล้วให้การรับสารภาพทั้งหมด ขณะนี้อยู่ระหว่างการขยายผลไปยังตำรวจที่มีส่วนเกี่ยวข้องเพิ่มเติมอีก คาดว่าสัปดาห์หน้าจะชัดเจนเรื่องการออกหมายเรียกและหมายจับเพิ่มเติม

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าวว่า วันที่ 20 มิ.ย.ที่ผ่านมา ได้มีการเข้าตรวจค้นบ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ สภ.แสนสุข จังหวัดชลบุรี ซึ่งการเข้าจับกุมในครั้งนี้นำไปสู่การสร้างรายงานการสืบสวนเท็จ ซัดทอดไปยังนายเป้ เพื่อจะขออำนาจศาลออกหมายจับ และหมายค้นกลุ่มของนายเป้ และเข้าไปจับกุมในวันที่ 23 พ.ค.63 ก่อนจะเกิดเหตุรีดทรัพย์ 140 ล้านบาทขึ้น ซึ่งกรณีนี้ยังเข้าข่ายการละเมิดอำนาจศาลด้วย

 “เรื่องนี้ตำรวจได้เงินไม่มาก แต่คนนอกได้มหาศาล เป็นความเสียหายที่ใช้คนนอกมาทำงาน มากำกับตำรวจ เพราะตำรวจไม่รู้ว่าเว็บไหนใหญ่ไม่ใหญ่ ใครเป็นเจ้าของ ต้องใช้คนนอกคือนายบอย มาช่วยกำหนดเป้าและตั้งราคา จากนั้นนายบอยก็สั่งการตำรวจต่อให้เข้าไปข่มขู่ จนพ่อของนายเป้เส้นเลือดในสมองแตกในวันที่เข้าตรวจค้น พอหลังพิงฝา นายเป้จึงต้องสู้ นำมาสู่การแจ้งความส่วนการตรวจสอบเส้นทางการเงินของขบวนการนี้ อยู่ระหว่างการรวบรวม ซึ่งมีกว่า 200 บัญชีที่เกี่ยวข้อง คาดว่าจะได้ข้อมูลครบภายในสัปดาห์หน้า ก็จะเห็นข้อมูลเส้นทางการเงินทั้งหมด ส่วนทรัพย์สินของนายบอย ถ้าไปดูแล้วจะตกใจ เพราะมีมากกว่าพันล้านบาท” รอง ผบ.ตร.ระบุ

ส่วนกรณี พ.ต.ท.ณรงค์ฤทธิ์ วาพันสุ รอง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี ซึ่งเป็นรายชื่อที่ถูกเปิดเผยออกมาในตอนแรกว่ามีส่วนเกี่ยวข้อง แต่ต่อมารายชื่อได้หายไปนั้น ล่าสุด จากการตรวจสอบพยานหลักฐานยืนยันได้แล้วว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง หลังจากนี้ก็จะมีการออกคำสั่งให้กลับมาปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งเดิม

เมื่อถามว่า ดรามาเรื่องวงการสีกากีในคดีนี้ เกี่ยวข้องกับการแย่งชิงเก้าอี้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติหรือไม่ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติระบุว่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หรือผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนไหนเลย แต่เป็นการกระทำความผิดของลูกน้องที่ทำชั่วซ้ำซาก พอรู้ว่าไปไม่รอด ก็มาพูดบ่ายเบี่ยง ทำให้เกิดการทะเลาะกัน และโยงไปถึงประเด็นแย่งชิงตำแหน่ง พร้อมยืนยันว่ารองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติไม่มีคนไหนที่เกี่ยวข้องหรือสั่งการให้ลูกน้องทำแบบนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีเพจ CSI LA โพสต์ข้อความระบุว่า คนในกองทัพเรือรู้สึกไม่สบายใจที่มี นายพล ช. เรียกเงินจากบริษัท ชัยเสรี ของมาดามรถถัง 15% และเรียกให้บริษัท Rv Connex ดูแลตอนไปเบอร์ลิน รวมทั้งบังคับให้แก้สัญญาอาคารที่ยังสร้างไม่เสร็จ โครงการใหญ่ในกองทัพเรือ เพื่อเอื้อผลประโยชน์ให้บริษัทรับเหมาก่อสร้างของพวกพ้องตัวเอง

 ล่าสุด นางนพรัตน์ กุลหิรัญ หรือ มาดามรถถัง นักธุรกิจหญิงชาวไทย ผู้ก่อตั้งบริษัท ชัยเสรีเม็ททอลแอนด์รับเบอร์ จำกัด ซึ่งอยู่ระหว่างการพักฟื้นตัวหลังได้รับการผ่าตัด ระบุว่า ยังไม่ทราบเรื่องนี้ เพราะรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ยอมรับว่าขณะนี้โรงงานกำลังทำรถหุ้มเกราะ 8×8 แต่ไม่แน่ใจว่าให้กองทัพเรือหรือกระทรวงกลาโหม แต่เห็นในโรงงานกำลังทำอยู่ เพียงแต่ต้องเข้ารับการผ่าตัดก็เลยไม่ได้เข้าไปดูและติดตาม

ด้าน พล.ร.ต.ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษก ทร. ระบุสั้นๆ ว่า ยังไม่ทราบประเด็นดังกล่าว ขอไปตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน.