ขอหมายล่าบอย จี้ผู้การแจง5วัน ไม่เกี่ยวผบ.ใหม่

ชุดคลี่คลายคดีรีด 140  ล้านขีดเส้น "ผู้การชลบุรี" มีเวลา 5 วันชี้แจงเหตุคุมตัว "เป้" เข้ากองบังคับการฯ  ก่อนสรุปสำนวนส่ง ป.ป.ช.ภายใน 30 วัน จ่อขอหมายจับเพิ่มผู้เกี่ยวข้องจ่ายเงินทั้ง 5 จุด "บิ๊กโจ๊ก" ประสานกองการต่างประเทศขอหมายแดงล่าตัว "บอย"  และพวก "บิ๊กเด่น" ชี้ทีมควบคุมตัวทำผิดขั้นตอน พ.ร.บ.อุ้มหายด้วย ไม่เชื่อโยงชิงเก้าอี้ ผบ.ตร.คนต่อไป ฉาวอีก สภ.บางชันตั้ง กก.สอบ-ย้าย 4 ตร.รีดคดียาเสพติดแลกปล่อยตัว

เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน พ.ต.อ.ภาคภูมิ พิศมัย รองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 4 (รอง ผบก.สส.ภ.4) คณะทำงานชุดคลี่คลายคดีเจ้าหน้าที่ตำรวจชลบุรีรีดเงินเจ้าของเว็บพนันออนไลน์ 140 ล้านบาท เปิดเผยถึงความคืบหน้าของคดีดังกล่าวว่า คำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาของ พล.ต.ต.กัมพล ลีลาประภาภรณ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี (ผบก.ภ.จว.ชลบุรี) ช่วยราชการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.)  ที่จะต้องนำส่งให้พนักงานสอบสวน (พงส.) ภายในระยะเวลา 5 วันนั้น เจ้าตัวไม่มีเหตุจำเป็นต้องเข้ามาเอง สามารถมอบหมายให้บุคคลอื่นนำเข้ามาส่ง หรือ จะเข้ามาส่งเองก็ได้ ส่วนประเด็นที่เจ้าตัวจะต้องชี้แจงเกี่ยวข้องกับเรื่องที่ถูกตั้งข้อกล่าวหา อาทิ ม.157 การละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ, ม.149 การเรียกรับผลประโยชน์, ม.309 ข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใดไม่กระทำการใด เป็นต้น                    

"เพื่ออธิบายว่าการนำตัวผู้ต้องหาไปพบในวันเกิดเหตุข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ทำไมจึงนำตัวผู้ต้องหาไปที่ บก.ภ.จว.ชลบุรี และเมื่อเข้าไปพบแล้ว มีพฤติการณ์เรียกรับเงินตามที่ถูกกล่าวอ้างหรือไม่อย่างไร และการที่ผู้ต้องหาถูกนำตัวไปยังจุดอื่นๆ หลายที่ เพราะสาเหตุอะไร ในขณะนั้นไปในสถานะใด เป็นไปตามที่ถูกกล่าวหาหรือไม่"

พ.ต.อ.ภาคภูมิกล่าวอีกว่า ยังมีประเด็นเรื่องเงิน 140 ล้านบาท ว่าผู้การชลบุรีมีความเกี่ยวข้องในเรื่องนี้อย่างไร ซึ่งเจ้าตัวก็จะต้องชี้แจงผ่านหนังสือคำให้การแก้ข้อกล่าวหาให้ครบถ้วนทุกประเด็น ถ้าหากมีประเด็นใดที่ พงส.เล็งเห็นเพิ่มเติม เห็นควรว่าต้องเรียกมาสอบปากคำ จากนั้นจึงค่อยออกหมายเรียกต่อไป แต่ถ้าไม่มีเหตุให้สอบปากคำเพิ่มเติม ก็จะยึดในคำให้การนั้นๆ ถัดไป จึงส่งสำนวนให้กับทาง ป.ป.ช. เพื่อพิจารณาไต่สวนในส่วนของพฤติการณ์การทุจริตของเจ้าหน้าที่รัฐ โดยเรามีกรอบระยะเวลา 30 วัน

เมื่อถามถึงเรื่องการที่นายเป้และผู้การชลบุรีมีส่วนร่วมในการตั้งศูนย์ ศปอส.ชลบุรี พร้อมร่วมคัดเลือกตำรวจผู้ปฏิบัติงานเองนั้น พ.ต.อ.ภาคภูมิระบุว่า ในประเด็นนี้เจ้าตัวก็จะต้องทำคำชี้แจงให้การเช่นเดียวกัน และ พงส.ก็จะต้องไปตรวจสอบดู และแม้นายเป้ในขณะนี้ยังถือว่าเป็นผู้เสียหายในคดี แต่ในอีกกรณีหนึ่งก็เป็นผู้ต้องหาในคดีจัดให้มีการเล่นการพนัน-ฟอกเงิน หากมีประเด็นใดที่ต้องสอบถามเพิ่มเติม ก็จะต้องเรียกมาสอบปากคำในฐานะพยานเพื่อให้ได้ข้อมูล ส่วนเรื่องเว็บพนันที่เจ้าตัวเกี่ยวข้อง เจ้าหน้าที่ก็จะดำเนินการต่อ ทั้งการมอนิเตอร์และไล่ตรวจสอบความเกี่ยวข้องกับบุคคลอื่นๆ รวมถึงเรื่องทรัพย์สินที่มาจากการทำเว็บพนันโดยตรง

"หลังจากนี้เราจะเร่งติดตามการจ่ายเงินทั้ง 5 จุด ว่ามีผู้เกี่ยวข้องใดอีกบ้าง เพื่อพิจารณาออกหมายจับ หรือเรียกมารับทราบข้อกล่าวหา คาดว่าจะมีอีกมาก อาทิ เจ้าหน้าที่ตำรวจ 4-5 นาย และพลเรือน 4-5 นาย เป็นต้น เพราะจุดจ่ายเงินที่พบนั้น จากแนวทางการสอบสวน ประกอบด้วย 1.พิกัดคูคต อ.ลำลูกกา 2.พิกัดจังหวัดเชียงราย 3.พิกัดสนามบินสุวรรณภูมิ 4.พิกัดโรงแรมเซ็นทารา พัทยา และ 5.พิกัดร้านกาแฟแห่งหนึ่งใน อ.บางละมุง เราทราบตัวผู้รับเงินในบางจุดแล้ว ประมาณ 2-3 จุด จากนี้จะให้พยานมาชี้ตัวบุคคล เพราะพยานสามารถจำหน้าได้ โดยเราก็จะหารูปมาให้พยานชี้ว่าคนนี้คือบุคคลที่อยู่ในจุดรับจ่ายเงินหรือไม่" พ.ต.อ.ภาคภูมิระบุ

ด้าน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เปิดเผยความคืบหน้าในคดี หลังมีการติดตามพยานพร้อมกระเป๋าใส่เงิน 28 ล้านบาทมาตรวจสอบขยายผลว่า จากการสอบปากคำพยาน 4 ปาก ยืนยันไม่รู้ว่าเงินทั้ง 28 ล้านบาทเป็นเงินที่ถูกรีดไถ แต่เข้าใจว่าเป็นค่าพระเครื่อง ซึ่งสอบปากคำเสร็จสิ้นเจ้าหน้าที่ได้ปล่อยตัวกลับไป โดยในชั้นนี้ยังไม่มีการแจ้งดำเนินคดีใด

ทั้งนี้ จากข้อมูลการสืบสวนหลังจากที่นายเป้ถูกเรียกเงินรีดไถ 140 ล้านบาท นายเป้จึงติดต่อไปยังเครือข่ายเว็บพนันที่อยู่ฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน (เมียนมา) ให้โอนเงิน 28 ล้านบาทผ่านบัญชีม้า แล้วให้เจ้าของบัญชีถอนเงินทั้งหมดบรรจุใส่ในกระเป๋าเดินทางใบดังกล่าว ก่อนจะจ้างวานให้พยานทั้ง 4 คนไปส่งมอบให้ตำรวจที่เป็นเครือข่ายของผู้การชลบุรี โดยได้นัดหมายส่งมอบเงินกันที่วัดแสงแก้วโพธิญาณ จ.เชียงราย ก่อนที่ชุดจับกุมจะเปลี่ยนถ่ายเงินออกจากกระเป๋าแล้วไปใส่กระเป๋าใบอื่น จากนั้นได้คืนกระเป๋าใบดังกล่าวมาให้พยาน

ส่วนการติดตามตัวผู้ต้องหาพลเรือนที่ยังอยู่ระหว่างการหลบหนีอยู่ต่างประเทศอีก 3 คน คือ นายบอย, นายต้น และแฟนนายบอยนั้น พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ บอกว่า ก่อนหน้านี้นายบอยประสานขอเข้ามอบตัวเพื่อต่อสู้คดีผ่านทางลูกน้องของตน โดยมีการยื่นเงื่อนไขว่าหากมามอบตัวจะต้องได้รับการประกันตัวในชั้นสอบสวน ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ปฏิเสธเงื่อนไขดังกล่าวไป เพราะไม่สามารถดำเนินการตามความต้องการของนายบอยได้ จึงยังไม่มีความชัดเจนในประเด็นการมอบตัว แต่อย่างไรก็ตาม ตนประสานกองการต่างประเทศเพื่อขออนุมัติหมายแดงเพื่อส่งหมายไปยังประเทศต้นทางที่นายบอยและพวก 3 คนหลบหนี เพื่อติดตามตัวกลับมาดำเนินคดีแล้ว

ขณะที่ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. กล่าวถึงคดีรีดเงิน 140 ล้านบาท มีการพาดพิงถึงว่าที่ ผบ.ตร.คนใหม่ว่า ไม่ได้ทราบรายละเอียด ส่วนคดีของชลบุรีจะต้องทำตรงไปตรงมา ซึ่งได้กำชับทาง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ไปแล้วว่าคดีนี้เป็นคดีที่ประชาชนให้ความสนใจ  เป็นเรื่องการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจที่เข้าข่ายเรื่องผิดในตำแหน่งหน้าที่ จะต้องทำอย่างตรงไปตรงมา โปร่งใสที่สุด

เมื่อถามว่า บุคคลที่เกี่ยวข้องมีถึงระดับผู้บังคับการ และยังมีการกล่าวหาไปยังคนที่ใหญ่กว่าผู้บังคับการ จะต้องตรวจสอบหรือไม่ ผบ.ตร.กล่าวว่า ที่มีการกล่าวหาระดับผู้บังคับการ ตนยังไม่ได้ยินจาก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ จะต้องฟังจากผู้ที่กำกับดูแลก่อน คงจะมีการรายงานมาเป็นระยะๆ ซึ่งทาง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์บอกว่ามีหลักฐานค่อนข้างเยอะแต่ในส่วนที่จะเกี่ยวข้องในเรื่องของตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ.2565 พ.ศ.2566 หรือ "พ.ร.บ.อุ้มหาย" เห็นว่าการกระทำของตำรวจอาจจะผิดขั้นตอนไปหลายขั้นตอน ซึ่งจะเข้าข่ายผิดกฎหมายตาม พ.ร.บ.ดังกล่าวนี้ด้วย

เมื่อถามว่า จะดูแลกวาดบ้านอย่างไรในเมื่อพื้นที่จังหวัดชลบุรีมีเรื่องอยู่บ่อยครั้ง พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์กล่าวว่า ทุกเรื่องอาจจะมีปัญหาสะสมมานาน ในโลกยุคโซเชียลบางทีโผล่ขึ้นมาเราก็จะรีบแก้ไขโดยเร็ว อะไรที่เป็นปัญหาสะสม  อะไรที่แก้ให้มันดีขึ้นก็จะรีบแก้ ทุกอย่างจะทำงานแบบตรงไปตรงมา

 ถามว่า จะมีการทบทวนการแต่งตั้งชุดเฉพาะกิจในพื้นที่ต่างๆ หรือไม่ ผบ.ตร.กล่าวว่า วันนี้ในการประชุมบริหารตร.ครั้งที่ 6/2566 จะมีการกำชับเรื่องการปฏิบัติตามระเบียบ ข้อกฎหมาย ในทุกๆ เรื่อง ส่วนคำว่าชุดเฉพาะกิจต่างๆ  ไม่ได้เป็นคำสั่งในคณะทำงาน อาจจะเป็นการกระทำ เขาเรียกว่าพฤตินัย ไม่ใช่เป็นนิตินัย เพราะว่าคำสั่งในการแต่งตั้งศูนย์ต่างๆ เป็นการแต่งตั้งโดยหัวหน้าศูนย์ ตนก็บอกว่าจะประชุมเอง ถ้าเป็นไปได้อยากให้ผู้บัญชาการ ผู้บังคับการ ลงมาควบคุม แต่เน้นปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ปัญหายาเสพติด ปัญหาการหลอกลวงทางออนไลน์ แต่ที่มีชุดไปจับกุมลักษณะการพนันออนไลน์อาจจะเพี้ยนไป

เมื่อถามว่า ข่าวที่ปรากฏมีลักษณะศึกชิงเก้าอี้ ผบ.ตร.คนใหม่ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์กล่าวว่า ต้องไปถามคนที่มีความคิดนี้ ตนยังไม่ทราบรายละเอียดเรื่องนี้ ยังไม่ได้คิดไกลขนาดนั้น เรื่องนี้มีการร้องเรียนและมีการไปแจ้งความที่ สภ.คูคต นำไปสู่การตรวจสอบ ไม่ได้มีกระบวนการที่จะต้องไปแซะอะไร อาจจะเป็นความเชื่อของแต่ละบุคคล ก็ว่ากันไป

วันเดียวกัน ตามที่ปรากฏข่าว “ฉาวอีก! ร้องตรวจสอบ ตร.จับคดียารีดเงินผู้ต้องหาแลกปล่อยตัว” โผล่เมืองคอนอีก!  แก๊งตำรวจนอกรีต 4 นาย จับคดียาเสพติด ก่อนรีดเงินผู้ต้องหาแลกการปล่อยตัว พบหนังสือแค่สั่งย้ายปฏิบัติหน้าที่อื่น ไร้ถูกตั้งกรรมการสอบเอาผิดวินัย-อาญานั้น

ตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราช ขอชี้แจงรายละเอียดว่า พ.ต.อ.จักรกฤช  แต้วัฒนา ผกก.สภ.บางขัน ได้รับการร้องเรียนว่า ชุดสืบสวน 4 นาย กรณีรับแจ้งทางโทรศัพท์จากผู้บังคับบัญชาระดับสูงตำรวจภูธรจังหวัดกระบี่ และผู้บังคับบัญชาระดับสูง บก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช ว่าชุดสืบสวนเรียกรับผลประโยชน์จากการจับกุมคดียาเสพติด เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2566 ตามคดีอาญาที่ 209/ 2566 รวมของกลางยาเสพติด 12,054 เม็ด เหตุเกิด 69 ม.8 ต.บ้านลำนาว อ.บางขัน ทาง สภ.บางขัน จึงแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงตำรวจทั้ง 4 นาย จึงได้มอบหมายให้ข้าราชการตำรวจทั้ง 4 นาย ไปปฏิบัติหน้าที่พนักงานวิทยุ 3 นาย และอีก 1 นาย กลับไปปฏิบัติหน้าที่ผู้ช่วยพนักงานสอบสวนตามตำแหน่งเดิม.