"เพื่อไทย" แห่ลงพื้นที่ตกเขียวชาวนา คุยโวลั่นทุ่งปลุกผีจำนำข้าวยุคยิ่งลักษณ์แก้จนครบวงจร มันปากเหยียบจมดิน ประกันข้าวยุค "บิ๊กตู่" ไร้ประสิทธิภาพ ทำแค่ชดเชยส่วนต่าง ไร้น้ำยาสางปมข้าวราคาดิ่งเหว ตบท้ายแบไต๋ขอคะแนนปูทางกลับทำเนียบฯ
เมื่อวันจันทร์ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยนายนพ ชีวานันท์ ส.ส.พระนครศรีอยุธยา นายจิรทัศ ไกรเดชา ส.ส.พระนครศรีอยุธยา น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส.กทม.และ โฆษกพรรคเพื่อไทย น.ส.จิราพร สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ด น.ส.อรุณี กาสยานนท์ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย น.ส.ตรีชฎา ศรีธาดา รองโฆษกพรรคเพื่อไทย และ น.ส.ชญาภา สินธุไพร รองโฆษกพรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่ตำบลชายนา อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อรับฟังปัญหาความทุกข์ยากของพี่น้องชาวนาในพื้นที่
นางบุญสม งามประดับ หรือผู้ใหญ่จิ๋ม นายวีระ ธนสุทธิ์, นายสายันต์ สุภาเพียร ร่วมด้วยตัวแทนชาวนาอำเภอเสนาได้สะท้อนปัญหาการทำนาว่า ขณะนี้ทุกหย่อมหญ้าของประเทศได้รับความเดือดร้อนจากการบริหารงานของรัฐบาล ตลอด 7 ปีที่ผ่านมาไม่เคยมีใครจากรัฐบาลลงพื้นที่เข้ามาดูแลชาวบ้านเลย ทั้งที่เป็นจุดที่ได้รับผลกระทบจากการบริหารจัดการน้ำ เนื่องจากพื้นที่อำเภอเสนาเป็นแก้มลิงชะลอรับน้ำท่วมพื้นที่เศรษฐกิจ เมื่อมีน้ำเข้านากลับมีปริมาณมากเกิน แต่เมื่อต้องการน้ำทำนากลับไม่มีน้ำใช้ น้ำแล้ง และน้ำส่งไปไม่ทั่วถึงที่นาชาวบ้าน
นอกจากนี้ ราคาปุ๋ยราคายาแพงขึ้นกว่าเท่าตัว ทำให้ต้นทุนการผลิตสูง แต่ขายข้าวได้ราคาต่ำ ชาวนาตั้งราคาขายเองไม่ได้ บางรายเกี่ยวข้าวไม่ทันน้ำท่วมพื้นที่ ทำให้ขายได้เพียงตันละ 2,300 บาท ทั้งที่โดยทั่วไปได้ราคา 5,000-6,000 บาท หรือบางรายได้ 7,000 บาท บางพื้นที่ยังประสบปัญหาน้ำเปรี้ยวซึ่งส่งผลต่อการผลิตข้าว จากการสูบน้ำออกจากบ่อดิน เมื่อมีน้ำท่วมทำให้การคมนาคมขนส่งเป็นไปอย่างยากลำบาก
นพ.ชลน่านกล่าวว่า ขณะนี้พี่น้องชาวนาไทยหลายครัวเรือนต้องเจ็บปวดทนทุกข์ยากลำบาก ขณะที่ ส.ส.พื้นที่ก็ได้ประสานงานอย่างสุดความสามารถเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนหลายเรื่อง แต่รัฐบาลไม่เคยใส่ใจ รวมทั้งจะนำสิ่งที่ได้รับฟังไปพัฒนาเป็นนโยบายแก้ไขปัญหาให้พี่น้องชาวนาไทยอยู่ดีกินดี มีชีวิตที่ดีกว่าวันนี้ พรรคเพื่อไทยจะฟื้นศักดิ์ศรีให้ชาวนาไทยกลับมายืนตรงมองฟ้าอย่างองอาจอีกครั้ง
“สำหรับปัญหาเชิงโครงสร้างจะต้องได้รับการแก้ไขอย่างเป็นระบบครบวงจร เมื่อมีโอกาสกลับมาบริหารประเทศอีกครั้ง คุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของคนไทยจะต้องดีขึ้น โครงการประกันรายได้ไม่ส่งเสริมการลดต้นทุน ไม่ส่งเสริมการผลิต และไม่ส่งเสริมการตลาด เป็นเพียงการชดเชยส่วนต่าง ซึ่งแตกต่างกับโครงการรับจำนำข้าว ที่เป็นการเข้าจัดการกลไกราคาตลาด ทำให้ราคาข้าวสูงขึ้น ชาวนาขายข้าวได้มากขึ้น” นพ. ชลน่านกล่าว
ด้าน น.ส.ธีรรัตน์กล่าวว่า สำหรับพื้นที่พระนครศรีอยุธยาน่าเสียดายแผนการจัดการน้ำอย่างเป็นระบบ 2 ล้านล้านบาท สมัยอดีตนายกฯ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ได้เริ่มไว้ถูกทำลายลงด้วยการเข้ามาของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา 7-8 ปีที่ผ่านไปรัฐบาลใช้งบประมาณหลายแสนล้านบาท แต่ก็ยังไม่สามารถแก้ปัญหาได้ ประเทศไทยสูญเสียโอกาสไปอย่างน่าเสียดาย ถ้าคนส่วนใหญ่ของประเทศยังยากจนอยู่ ขอให้ประชาชนพี่น้องชาวนาไทยอย่าเพิ่งหมดหวัง ขอให้มีกำลังใจ พรุ่งนี้เพื่อไทยจะกลับมาดูแลพี่น้องประชาชนให้อยู่ดีกินดีมีชีวิตที่ก้าวหน้าขึ้น.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
บิ๊กต่อแจงบ้านลอนดอน รมว.ดีอีดีดรับพ่อนายกฯ
ป.ป.ช.เปิดขุมทรัพย์ “บิ๊กต่อ” หลังพ้นเก้าอี้ ผบ.ตร. ทรัพย์สิน 209 ล้าน
ภท.เฮรอดคดียุบพรรค! อิ๊งค์ขอเริ่มทำงาน2ม.ค.
“ภท.” เฮ รอดยุบพรรค กกต.ยุติสอบ “วันนอร์” ไม่หวั่นถูกเลื่อยขาเก้าอี้
ธปท.จับตาแจกเงินเฟส2-3
“คลัง” ฟุ้งเศรษฐกิจไทยเดือน พ.ย.โตต่อเนื่อง อานิสงส์ส่งออก-ท่องเที่ยวหนุนเต็มพิกัด
ชวนบี้แก้ปมท้องถิ่นชิงลาออก
“แสวง” ลงพื้นที่ปราจีนบุรี ส่องรับสมัครนายก อบจ.วันสุดท้าย
จี้สอบ6ข้อป่วยทิพย หวั่น‘สมศักดิ์’แทรกแซง/‘แม้ว’ถก‘อันวาร์’เรื่องอาเซียน!
"บิ๊กป้อม" เลี่ยงเผชิญหน้า "ทักษิณ" ยกเลิกร่วมงานอวยพรครบรอบ 75 ปี
ฉายาสภาเหลี่ยม(จน)ชิน
ถึงคิวสื่อสภา ตั้งฉายา สส. "เหลี่ยม (จน) ชิน" จากการพลิกขั้วรัฐบาลเขี่ย