อคส.ชง‘ป.ป.ช.’ ฟันอดีตบิ๊กปี63 อุ้ม‘เอกชน’โกง

อคส.จ่อยื่น ป.ป.ช.ฟัน “อดีตรักษาการ ผอ.อคส.” ปี 2563 ออกเกณฑ์เอื้อประโยชน์เอกชนที่ถูกดำเนินคดีอาญา-แพ่ง ฐานยักยอกมันในโครงการรับจำนำ 3 ปีซ้อน ทำเสียหายกว่า 1 พันล้านบาท

เมื่อวันอาทิตย์ที่ 18 มิ.ย.2566 นายเกรียงศักดิ์ ประทีปวิศรุต ผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้า (อคส.) เปิดเผยว่า  อคส.ได้ยื่นเรื่องต่อสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้สืบสวนสอบสวนกรณีที่อดีตรักษาการผู้อำนวยการ  อคส. ในช่วงปี 2563 ออกหลักเกณฑ์เอื้อประโยชน์ทางการชดใช้ความเสียหายและทางคดีให้ผู้ประกอบการลานมันสำปะหลังที่มีคดียักยอกมันสำปะหลังในโครงการรับจำนำมัน ปี 2551/2552, ปี 2554/2555 และปี 2555/2556 รวมกว่า 30,000 ตัน คิดเป็นมูลค่าที่ อคส.เสียหายเฉพาะมัน 30,000 ตัน กว่า 210 ล้านบาท หากรวมความเสียหายอื่นๆ และค่าปรับแล้ว จะมียอดเสียหายกว่า 1,000 ล้านบาท

 “การออกหลักเกณฑ์เอื้อประโยชน์ให้ลานมัน คณะกรรมการสืบสวนของ อคส.ได้ตรวจสอบพบว่ามีเหตุอันควรสงสัยว่าอดีตรักษาการผู้อำนวยการรายนี้ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และทำให้รัฐเสียหาย เพราะได้กำหนดหลักเกณฑ์โดยมิชอบ เป็นการเปิดโอกาสให้ลานมันที่ยักยอกมันออกจากคลังที่ฝากเก็บนำมันราคาถูกตันละไม่เกิน 200 บาทมาคืนแทนมันที่รับจำนำมาตันละกว่า 7,000 บาท ทำให้ราคาที่รัฐได้รับการชดใช้น้อยลงจากราคาเดิมกว่า 50 เท่า”นายเกรียงศักดิ์กล่าว

 นายเกรียงศักดิ์กล่าวอีกว่า การดำเนินการดังกล่าวยังเป็นเหตุให้ลานมันนำมาอ้างเป็นประเด็นต่อสู้ทางคดีกับ อคส. และนำมาร้องเรียนผู้บริหารปัจจุบันว่าลานมันไม่ได้ยักยอกมันออกจากคลังเก็บ และต่อสู้คดีกับ อคส. ซึ่งหาก อคส.แพ้คดี นอกจากจะไม่สามารถเรียกให้ผู้ยักยอกชดใช้ความเสียหายได้แล้ว อคส.อาจต้องชดใช้ค่าสินไหมทดแทนต่างๆ รวมทั้งค่าฝากเก็บระหว่างที่มันหายไปประมาณ 5 ปีให้ผู้ยักยอกด้วย

สำหรับกรณีดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงปี 2563 อดีตรักษาการผู้อำนวยการ อคส.ได้พยายามช่วยเหลือลานมันที่ อคส.ฝากเก็บมันจากโครงการรับจำนำและทำมันหายไปรวม 30,000 ตัน เพื่อให้ลานมันนำมันมาคืนได้ครบตามจำนวนที่หายไป จากก่อนหน้านี้เมื่อปี 2557 คณะกรรมการสายตรวจเฉพาะกิจ ประกอบด้วย อคส., กรมการค้าภายใน,  กรมการค้าต่างประเทศ และมีเจ้าของคลัง ได้ตรวจนับสินค้าในคลัง และพบว่ามันหายไปจากคลังเก็บ 12 แห่ง รวม 30,000 ตัน ความเสียหายกว่า 1,000 ล้านบาท ทำให้ อคส.ต้องฟ้องร้องดำเนินคดีทั้งทางแพ่งและอาญา รวมถึงไม่จ่ายค่าฝากเก็บให้ลานมันด้วย รวมเวลาประมาณ 5 ปี

ทั้งนี้ การออกหลักเกณฑ์ช่วยเหลือลานมันในปี 2563 นั้น ส่งผลให้ผู้ที่ยักยอกมันออกจากคลังเก็บนำมาคืนในภายหลังจนครบทั้ง 12 คลังเพื่อยุติคดีอาญา แต่เป็นการนำมันราคาถูกตันละไม่เกิน 200 บาทมาคืน ขณะที่มันในคลังเก็บรับจำนำมาตันละประมาณ 7,000 บาท ทำให้มูลค่ามันของรัฐน้อยลงจากราคารับจำนำกว่า 50 เท่า ซึ่งคณะกรรมการสืบสวนของ อคส.เห็นว่า การนำมันราคาถูกมาคืนแทน อาจนำมาซึ่งการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ และการถอนคดี ซึ่งสอดคล้องกับการตรวจสอบของคณะกรรมการสืบสวนของ อคส. ที่พบว่าเจ้าของคลัง 6 แห่ง จาก 12 แห่ง ยอมรับว่าเอามันออกไปและนำมาคืนจริง และ อคส.ในยุคอดีตรักษาการผู้อำนวยการได้ถอนคำร้องทุกข์ไป 5 เรื่อง เหลือ 1 เรื่อง ส่วนมันที่นำมาคืนครบนั้น ภายหลัง อคส.นำมาเปิดประมูลขายได้ไม่ถึง 6 ล้านบาท.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง