ก้าวไกล:กกต.องค์กรนั่งร้าน

ไทยโพสต์ ๐ อดีต กกต.ฟันธง ม.151    เป็นวัตถุดิบเพียงพอต่อเหล่า ส.ว. ที่ตั้งใจไม่เลือกพิธาเป็นนายกฯ ไม่ยกมือให้ โดยมีข้ออ้างแบบไม่ตะขิดตะขวงใจ   ขณะที่ก้าวไกลเดือดจัด! "วิโรจน์" ชี้ฝ่ายอนุรักษนิยมอยากแช่แข็งประเทศต่อ ซัด กกต.องค์กรนั่งร้าน "โรม" โวยมีขบวนการทำลายมติมหาชน แนะ ส.ว.ต้องเชื่อ "พิธา" เป็นผู้บริสุทธิ์

     หลังคณะกรรมการ​การ​เลือกตั้ง​ (กกต.)​ มีมติเป็นเอกฉันท์ 6 เสียง ไม่รับคำร้องกรณีนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ มีคุณสมบัติลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญในการสมัครรับเลือกตั้งเหตุการถือหุ้นไอทีวี 42,000 หุ้น แต่ให้รับเรื่องไว้พิจารณาเป็นความปรากฏ โดยเห็นว่าคำร้องที่ได้ยื่นมาของทั้ง 3 คน เป็นคำร้องที่ยื่นเกินระยะเวลาที่จะสั่งรับคำร้องไว้พิจารณา 

     แต่เนื่องจากกรณีคำร้องดังกล่าวมีรายละเอียดเกี่ยวกับข้อเท็จจริงและพฤติการณ์และมีหลักฐานพอสมควร     และมีข้อมูลเพียงพอที่จะสืบสวนไต่สวนต่อไป ว่านายพิธาเป็นบุคคลผู้มีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้ง   และรู้อยู่แล้วว่าตนไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเนื่องจากมีลักษณะต้องห้าม แต่ได้สมัครรับเลือกตั้ง อันเข้าข่ายเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนมาตรา 42 (3) และมาตรา 151 แห่ง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. จึงเห็นควรพิจารณาสั่งให้ดำเนินการไต่สวนเป็นกรณีที่มีเหตุอันควรสงสัยหรือความปรากฏนั้น มีการแสดงความเห็นอย่างกว้างขวางตามมา    

     นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กว่า หวยออก 151 เป็นบวกหรือลบต่อพิธา การยกคำร้องคดีถือหุ้น แต่กลับเตรียมดำเนินคดีอาญาฐานรู้ว่าขาดคุณสมบัติแต่ยังมาสมัคร ส.ส. ของพิธานั้น เป็นบวกหรือลบ

     1.คดีอาญานั้น ต้องฟ้องศาลอาญา ซึ่งมีกระบวนการที่ยาวนาน เป็นปี และเป็นหลักประกันความยุติธรรมว่าต้องผิดจริงจึงถูกลงโทษ ไม่สามารถเอาผิดโดยง่าย แต่โทษรุนแรงกว่า เพราะมีโทษจำคุกสูงสุดถึง 10 ปี และตัดสิทธิทางการเมืองถึง 20 ปี

     2.การที่ กกต.ฟ้องดำเนินคดีอาญา แม้ยังอยู่ในขั้นกระบวนการยังไม่เสร็จสิ้น แต่ก็เป็นวัตถุดิบเพียงพอ ต่อเหล่า ส.ว. ที่ตั้งใจไม่เลือกพิธาเป็นนายกฯ ไม่ยกมือให้ โดยมีข้ออ้างแบบไม่ตะขิดตะขวงใจ

     3.การยกคำร้องคดีถือหุ้นสื่อ ต่อศาลรัฐธรรมนูญ ยังไม่ตายสนิท มีโอกาสฟื้นโดย ใช้ ส.ส. 50 คน หรือ ส.ว. 25 คน หรือยื่นโดย กกต.เองในฐานะความปรากฏ หลังจากการรับรอง ส.ส. โดยใช้สิทธิตามมาตรา 82 ของรัฐธรรมนูญ

     4.อาวุธหนักต่างๆ กำลังลำเลียงสู่สมรภูมิสนามรบ และไม่จบแค่ปืนต่อสู้อากาศยาน 151 แต่แพ้ชนะกลับอยู่ที่ฝ่ายเสนาธิการผู้วางแผน

     สำหรับพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2561 มาตรา 151 บัญญัติว่า ผู้ใดรู้อยู่แล้วว่าตนไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเนื่องจากขาดคุณสมบัติ หรือมีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ได้สมัครรับเลือกตั้งหรือทําหนังสือยินยอมให้พรรคการเมืองเสนอรายชื่อเพื่อสมัครรับเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อ ต้องระวางโทษจําคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี และปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกําหนดยี่สิบปี

     ในกรณีที่ผู้กระทําความผิดตามวรรคหนึ่งเป็นผู้ซึ่งได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ให้ศาลมีคําสั่งให้ผู้นั้นคืนเงินประจําตําแหน่งและประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่นที่ได้รับมาเนื่องจากการดํารงตําแหน่งดังกล่าวให้แก่สํานักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรด้วย

แช่แข็งประเทศต่อ

     นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ว่าที่ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ทวีตข้อความผ่านทวิตเตอร์ว่า "ฝ่ายอนุรักษนิยมอยากแช่แข็งประเทศต่อ แต่ก็กังวลว่าจะได้ไม่คุ้มเสีย กลัวว่าค่านิยมทางสังคม ความเชื่อ ที่คอยค้ำยันเครือข่ายศักดินามาช้านาน จะเปลี่ยนแปลงแบบกู่ไม่กลับ องค์กรที่เป็นนั่งร้าน ตอนนี้ก็งงว่าจะไปต่อยังไง ระหว่างที่รอคำสั่ง ก็ต้องทำนิติสงคราม เอาชนักมาปักหลังไว้ก่อน เมื่อมีเสียงของประชาเป็นธงชัย มันผู้ใดจะหาญกล้ามาทำลาย"

     "องค์กรนั่งร้านเขาไม่คิดอะไรมากอยู่แล้ว ถ้ามีคำสั่งมา ก็พร้อมที่จะใช้นิติสงคราม ฝืนมติของประชาชนอยู่แล้ว เพียงแต่ด้วยนิสัยความเป็นลูกน้อง ก็คงแจ้งหัวหน้ากลับไปว่า "ทำน่ะทำให้ได้ แต่ถ้าเกิดอะไรขึ้น ไม่ขอรับผิดชอบนะ" หัวหน้าก็เลยหันรีหันขวาง ไม่กล้ากดปุ่ม"

     "การใช้กฎหมายที่ถูกต้อง คือการดำเนินการไปตามกฎหมาย ส่วนผลจะเป็นอย่างไร ก็เป็นอย่างนั้น แต่การใช้กฎหมายที่เลว คือการล็อกผล ตั้งธงให้เป็นไปตามอำเภอใจของผู้มีอิทธิพลไว้ก่อน แล้วก็ก้มหน้าก้มตาหาช่องของกฎหมาย สร้างเหตุ ให้ผลเป็นไปตามธงให้ได้"

     "อย่าไปเครียด ตอนนี้เราทำดีที่สุดแล้ว เหมือนสอบได้คะแนนดีแล้ว ก็รอประกาศขึ้นบอร์ดอย่างเดียว คนที่เครียด คือคนที่พยายามหาช่องให้คนที่สอบตกแซงขึ้นมาเป็นที่หนึ่ง ตอนนี้คนพวกนี้เครียดมาก เรื่องทำน่ะหน้าด้านทำได้อยู่แล้ว แต่กลัวว่าจะถูกจับได้ กลัวจะต้องรับผิดชอบ ระแวงไปหมด"

     "คนที่สั่งให้คุณทำความผิด ถึงเวลาเขาไม่ช่วยคุณหรอก มีแต่จะถีบหัวส่ง ให้ความผิดไม่พันมาถึงตัวเอง" ข้อความจากทวิตเตอร์ระบุ

     ด้านนายรังสิมันต์ โรม ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ว่า พรรคไม่กังวล เราพร้อมต่อสู้คดี เรื่องดังกล่าวเป็นกระบวนการที่ชัดเจนว่าพยายามจะเตะตัดขาไม่ให้มีรัฐบาลพรรค ก.ก. สกัดกั้นไม่ให้นายพิธาเป็นนายกรัฐมนตรี แต่อย่างไรก็ตาม เราก็พร้อมสู้ตามกระบวนการกฎหมายเต็มที่ และเราก็เชื่อมั่นในฉันทามติของประชาชนที่ได้มอบผ่านการเลือกตั้ง ว่าต้องการที่เห็นนายพิธาเป็นนายกฯ และจัดตั้งรัฐบาลได้

     เขาบอกว่า อยากจะพูดไปถึงคนที่พยายามทำกระบวนการเหล่านี้ทั้งหมดว่า สุดท้ายประชาชนทุกคนก็รู้ว่าที่ทำไปทั้งหมดเป็นเรื่องทางการเมือง ฉะนั้นอย่าคิดว่าผลลัพธ์ทั้งหมดที่ทําเอาไว้จะจบแบบเดิม และเราเล็งเห็นว่ากระบวนการนี้คงต้องใช้เวลา ซึ่งมั่นใจว่านายพิธาคงจะได้รับเลือกเป็นนายกฯ ก่อน หลังจากนั้นคงต้องสู้คดีกันต่อไป ใช้เวลาในการพิสูจน์หลักฐาน

พิธาเป็นผู้บริสุทธิ์

     “กระบวนการเหล่านี้เป็นคนละส่วนกับการเลือกนายกรัฐมนตรี อย่าเอามาใช้เป็นข้ออ้าง เรื่องนั้นเมื่อถึงที่สุด ตามรัฐธรรมนูญเราก็ต้องสันนิษฐานไว้ก่อนว่าทุกคนเป็นผู้บริสุทธิ์ นั่นหมายความว่าต่อให้นายพิธาถูกดำเนินการในเรื่องนี้ ก็ต้องสันนิษฐานไว้ว่านายพิธาเป็นผู้บริสุทธิ์ ดังนั้นจะต้องไม่เอามาปะปนกับการเลือกนายกรัฐมนตรี สิ่งที่เราอยากให้มันเกิดขึ้นมากที่สุดคือ ทุกฝ่ายในสังคมตอนนี้ต้องเคารพต่อมติมหาชน ตามที่ได้ใช้สิทธิใช้เสียงผ่านการเลือกตั้ง แล้วอย่ามาใช้กระบวนการใดๆ ในทางการเมืองเพื่อทำลายมติมหาชนนี้” นายรังสิมันต์กล่าว

     ผู้สื่อข่าวถามว่า กังวลว่า ส.ว.จะใช้เรื่องนี้เป็นข้ออ้างในการไม่โหวตให้นายพิธาหรือไม่ นายรังสิมันต์กล่าวว่า เชื่อว่าไม่ใช่ ส.ว.ทุกคนที่จะคิดแบบเดียวกัน อาจจะมีบางคนที่พยายามสร้างกระบวนการแบบนี้ แต่ต้องเรียนตามตรงว่า ถึงที่สุดเรื่องคดีก็ต้องว่ากันไป แต่ ณ ตอนนี้ นายพิธาคือผู้บริสุทธิ์ ก็ต้องว่ากันไปตามหลักการที่ว่า บุคคลที่ถูกดำเนินคดีในทางอาญาเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะมีคำพิพากษาของศาลอันเป็นที่สุด

     เมื่อถามว่า กรณีนี้จะเป็นการสร้างบรรทัดฐานที่ผิดเพี้ยนหรือไม่ นายรังสิมันต์กล่าวว่า ถึงที่สุดเราก็ต้องสู้บรรทัดฐานในมุมของเราเหมือนกัน เรื่องนี้เรายืนยันในความบริสุทธิ์ ยืนยันว่าสิ่งที่เราทำทั้งหมดเป็นสิ่งที่ถูกต้อง หากยังจำกันได้ กรณีของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ แม้จะโดนคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญต่างๆ  แต่ถึงที่สุดอัยการก็มีคำสั่งไม่ฟ้อง สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ต้องสู้กันในกระบวนการตามกฎหมาย ซึ่งต้องใช้เวลา และต้องไม่เอามาเกี่ยวพันกับการเลือกนายกฯ ที่จะเกิดขึ้นต่อไป

     ถามว่า ทางทีมกฎหมายของพรรค ก.ก. ได้เตรียมรับมือเรื่องนี้อย่างไร นายรังสิมันต์กล่าวว่า เตรียมตัวในการต่อสู้คดีตามพยานหลักฐานที่เรามี ซึ่งคงต้องใช้เวลา

     ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคเพื่อไทยว่า ที่ผ่านมาในวงหารือของ 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลที่พรรคก้าวไกลเป็นแกนนำ ไม่เคยนำกรณีที่นายพิธาถูกร้องขึ้นมาหารือ เพราะเป็นเรื่องของพรรคก้าวไกล แต่เมื่อ กกต.ตั้งกรรมการไต่สวนขึ้นมา  ทางแกนนำพรรคเพื่อไทยมีความเป็นห่วง ว่าประเด็นดังกล่าวจะกระทบกับการเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาล แต่ไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะเป็นสิ่งที่พรรคก้าวไกลต้องจัดการเอง พรรคเพื่อไทยได้แต่ให้กำลังใจ และขออย่าให้ประเด็นนี้เป็นอุปสรรคกับการจัดตั้งรัฐบาล เนื่องจากพรรคเพื่อไทยมุ่งมั่นให้การจัดตั้งรัฐบาลสำเร็จไปได้ด้วยดี และยังไม่คิดต่อไปว่าหากเกิดอะไรขึ้น ทางออกของการจัดตั้งรัฐบาลจะเป็นอย่างไร เพราะวันนี้พรรคเพื่อไทยยังเชื่อมั่นว่าพรรคก้าวไกลจะเดินหน้าเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลได้

ขอให้รอดูนิดเดียว

     ด้านนายประเสริฐ จันทรรวงทอง  เลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ว่า จริงๆ แล้ว เรื่องนี้หากให้กรรมการไต่สวนของ กกต.ได้ดำเนินการ เชื่อว่าไม่มีอะไร นายพิธาจะสามารถตอบคำถามได้เคลียร์ทุกประเด็น เพราะอยู่ระหว่างการดำเนินการขั้นต้น ในฐานะที่เป็นแกนนำร่วมจัดตั้งรัฐบาลด้วยกัน ก็ให้กำลังใจนายพิธาในการแก้ไขข้อกล่าวหาต่างๆ ให้ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี

     เมื่อถามว่า แต่โทษค่อนข้างแรงเพราะเป็นโทษทางอาญา นายประเสริฐ กล่าวว่า โทษหนัก แต่ตนเชื่อมั่นในความบริสุทธิ์ยุติธรรมของ กกต. ว่าจะดำเนินการไต่สวนเรื่องนี้ด้วยความเป็นธรรมกับนายพิธา อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้จะมีความเป็นห่วง แต่ก็ให้กำลังใจ ส่วนความกังวลว่ากระบวนการเลือกนายกรัฐมนตรีอาจจะสะดุดหรือไม่นั้น เรื่องนี้เราไม่กังวล เชื่อว่านายพิธาสามารถผ่านพ้นตรงนี้ไปได้

     ถามว่า จะกลายเป็นเงื่อนไขในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีของ ส.ว.หรือไม่ เพราะกระบวนการยังไม่เสร็จ เลขาธิการพรรคเพื่อไทยตอบว่า ต้องดูผลของการไต่สวนก่อนว่านายพิธาและคณะกรรมการของ กกต.มีข้อไต่สวนอย่างไร ขอให้รอดูนิดเดียว คิดว่าคงไม่นาน เพราะการเลือกตั้งผ่านมาร่วมเดือนแล้ว อีกไม่นานจะมีการรับรองผลส.ส.ทั่วประเทศ

     เมื่อถามว่าพรรค พท.มีสิทธิเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี นายประเสริฐ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ขอดูก่อน และต้องพูดคุยกัน เพราะเราอยู่ร่วมกัน 8 พรรค ฉะนั้นไม่อยากให้เรื่องนี้เกิดขึ้น อยากให้การจัดตั้งรัฐบาลของพรรค ก.ก.ที่เป็นแกนนำสามารถจัดตั้งได้สำเร็จ

     นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รักษาการหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ว่า การเมืองนั้นทุกอย่างต้องนับหนึ่งจากการรับรองของกกต. จึงจะมีการเปิดการประชุมรัฐสภา และไปสู่เรื่องการเลือกประธานสภาฯ  และการเลือกนายกรัฐมนตรี และการตั้งรัฐบาลต่อไป ขั้นตอนเป็นไปตามรัฐธรรมนูญอยู่แล้ว ส่วนรัฐบาลใหม่หน้าตาจะเป็นอย่างไร ยังไม่สามารถตอบได้   แต่ขณะนี้ต้องถือว่าพรรคก้าวไกลยังทำหน้าที่เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลอยู่ ซึ่งตนคิดว่าประชาชนก็เฝ้าดูอยู่ว่าสุดท้ายแล้วจะเป็นอย่างไร

     "ส่วนตัวคิดว่าเมื่อพรรคก้าวไกลสามารถรวมเสียงข้างมากในสภาได้ ก็เป็นการทำหน้าที่ในการเดินหน้าจัดการรัฐบาลต่อไป และทุกอย่างก็จะเข้าสู่กระบวนการที่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญและเป็นไปตามกฎหมาย" นายจุรินทร์กล่าว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

30วันเลือกนายกปทุม

"พิเชษฐ์" แจ้งสภา 143 สส.สังกัดพรรคประชาชนแล้ว ด้าน "ณัฐวุฒิ" เผยใช้อักษรย่อ "ปชน."

เคาะ‘กริพเพน’ แทนขับไล่F16 ออปชันจัดเต็ม

ทอ.เคาะเลือก "JAS 39 Gripen   E/F"  บินขับไล่โจมตีฝูงใหม่ หลัง “สวีเดน” จัดเต็มทั้งให้ลิขสิทธิ์ลิงก์-จรวดนำวิถีตัวเก่ง-offset policy ถึงแม้สหรัฐเสนอ Link 16 ฟรีให้ไทย