“ในหลวง-พระราชินี” เสด็จฯ ไปทรงวางศิลาฤกษ์แท่นฐานพระบรมราชานุสาวรีย์พ่อหลวงรัชกาลที่ 9 หัวใจอุทยานเฉลิมพระเกียรติฯ ประชาชนทั่วทุกสารทิศเฝ้าฯ รับเสด็จเนืองแน่น ปีติเปล่งเสียงทรงพระเจริญกึกก้อง ปลาบปลื้มพระมหากรุณาธิคุณพระราชทานปอดแห่งใหญ่ใจกลางเมืองแก่พสกนิกร เชิญชวนคนไทยชมนิทรรศการสื่อสวนป่ากลางเมืองแห่งใหม่ถึงวันที่ 6 ธ.ค.นี้
เมื่อวันอาทิตย์ที่ 5 ธันวาคม พุทธศักราช 2564 เวลา 16.34 นาฬิกา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วย สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ไปทรงประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์แท่นฐานพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ณ อุทยานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เขตดุสิต กรุงเทพฯ โอกาสนี้ เจ้าคุณพระสินีนาฏ พิลาสกัลยาณี โดยเสด็จในการนี้ด้วย
ครั้นเสด็จฯ ถึงอุทยานเฉลิมพระเกียรติฯ ทรงพระดำเนินเข้าประทับในพลับพลาพิธี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงจุดธูปเทียนนมัสการบูชาพระรัตนตรัย ทรงกราบ แล้วประทับพระราชอาสน์ ทรงศีล เมื่อสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ถวายศีลจบ ทรงพระดำเนินออกจากพลับพลาพิธีไปยังมณฑลพิธีวางศิลาฤกษ์ฯ ที่โต๊ะเครื่องบวงสรวงสังเวย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงจุดเทียนทอง เทียนเงิน และธูปที่โต๊ะเครื่องบวงสรวงสังเวย แล้วทรงจุดธูปหางปักที่เครื่องสังเวย จากนั้นทรงตั้งพระราชสัตยาธิษฐานถวายเครื่องราชสักการะ ทรงโปรยข้าวตอกดอกไม้ที่โต๊ะเครื่องบวงสรวงสังเวย ทรงคม ทรงพระดำเนินไปยังแท่นวางศิลาฤกษ์ ทรงพระสุหร่าย ทรงเจิมแผ่นอิฐทอง นาก เงิน และแผ่นศิลาฤกษ์แล้ว ทรงวางแผ่นอิฐทอง นาก เงิน และแผ่นศิลาฤกษ์ลงในหลุมศิลาฤกษ์ฯ ก่อนทรงพระดำเนินเข้าพลับพลาพิธี
เวลาต่อมา ทรงประเคนจตุปัจจัยไทยธรรมถวายพระสงฆ์ ประทับพระราชอาสน์ ทรงหลั่งทักษิโณทก ทรงกราบที่หน้าเครื่องนมัสการ ทรงลาพระสงฆ์ ทรงพระดำเนินออกจากพลับพลาพิธีไปทอดพระเนตรนิทรรศการอุทยานเฉลิมพระเกียรติฯ ในหัวข้อสวนแห่งความสุขและความยั่งยืน แบ่งการจัดแสดงเป็น 12 ส่วน ดังนี้ 1.วีดิทัศน์โครงการ 2.แนวคิดการออกแบบพระบรมราชานุสาวรีย์ 3.น้ำคือชีวิตจากนภา ผ่านภูผา สู่มหานที ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ (แก้มลิง) 4.แนวคิดการบริหารจัดการน้ำ 5.แนวคิดการออกแบบพรรณไม้ในโครงการ 6.ไม้มงคลพระราชทานประจำจังหวัด 77 จังหวัด 7.เส้นทางการสัญจรในโครงการ (จักรยาน/วิ่ง/เดิน) 8.ทัศนียภาพในโครงการ 9.ผังแม่บทโครงการ 10.นันทนาการและสนามกีฬา 11.ภาพในอดีตและโครงการที่กำลังเกิดขึ้น และ12.วีดิทัศน์แสดงความคืบหน้าโครงการ ก่อนทรงพระดำเนินไปยังบริเวณที่ทรงปลูกต้นไม้
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงปลูกต้นรวงผึ้งเป็นปฐมฤกษ์ จำนวน 1 ต้น สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงปลูกต้นคำมอกหลวง จำนวน 1 ต้น สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ทรงปลูกต้นโมกหลวง จำนวน 1 ต้น และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงปลูกต้นรัตนพฤกษ์ จำนวน 1 ต้น ในการนี้ เจ้าคุณพระสินีนาฏ พิลาสกัลยาณี ปลูกต้นฝ้ายคำ จำนวน 1 ต้น จากนั้นประทับรถยนต์พระที่นั่งเสด็จฯ ออกจากอุทยานเฉลิมพระเกียรติ ไปยังพระบรมมหาราชวัง
ในโอกาสนี้ พสกนิกรชาวไทยจำนวนมากพร้อมใจแต่งกายด้วยสีสุภาพ โทนอ่อนหรือสีประจำพระชนมวารรัชกาลที่ 9 และรัชกาลที่ 10 เฝ้าฯ รับเสด็จและชื่นชมพระบารมีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี บริเวณโดยรอบภายในอุทยานเฉลิมพระเกียรติฯ และบริเวณตลอดเส้นทางเสด็จฯ ถนนศรีอยุธยาอย่างพร้อมเพรียง และเปล่งเสียงทรงพระเจริญดังกึกก้อง พร้อมโบกธงชาติ ธงพระปรมาภิไธย วปร.และธงพระนามาภิไธย สท.ด้วยความจงรักภักดี
ทั้งนี้ ประชาชนที่มาเฝ้าฯ รับเสด็จภายในอุทยานเฉลิมพระเกียรติฯ ต่อแถวเพื่อรอเข้ารับการตรวจ ATK ซึ่งมี 2 จุดด้วยกัน ได้แก่ กรมทางหลวงและโรงเรียนราชวินิตมัธยม โดยเริ่มตรวจตั้งแต่เวลา 10.00 น. สำหรับจุดคัดกรองก่อนเข้าพื้นที่บริเวณอุทยานเฉลิมพระเกียรติฯ มี 4 จุด ได้แก่ จุดกลับรถถนนศรีอยุธยา, ฝั่งตรงข้ามวัดเบญจมบพิตร, โรงเรียนราชวินิตมัธยม และกรมทางหลวง โดยประชาชนได้สวมใส่หน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยเพื่อให้เป็นไปตามมาตรการรักษาความปลอดภัย และป้องกันการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ทั้งนี้ พื้นที่รองรับประชาชนเฝ้าฯ รับเสด็จ 6,300 คน
ภายหลังเสด็จฯ ออกจากอุทยานเฉลิมพระเกียรติฯ ข้าราชการและประชาชนได้ร่วมกันปลูกต้นไม้จำนวน 104 ต้น ภายในบริเวณอุทยานเฉลิมพระเกียรติฯ อาทิ ขนุนพันธุ์ไพศาลทักษิณ, จันทน์กะพ้อ, จำปีสิรินธร, ตะเคียนทอง, ชิงชัน, บัวสวรรค์, ปีบทอง, มะฮอกกานี, ยางนา, ราชพฤกษ์, ลำดวน, ศรีตรัง, กระพี้จั่น, แก้วเจ้าจอม, ขี้เหล็กบ้าน, ประดู่ป่า, โมกมัน, สะเดา, ชงโค, ตะกู, ตะแบกนา, ลีลาวดี, สมอไทย, สมอพิเภก, สะเดาช้าง, เสลาใบ, หว้า, อินทนิลน้ำ และอินทรชิต เป็นต้น
ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานเลี้ยงอาหารและเครื่องดื่มแก่ประชาชนและเจ้าหน้าที่ทุกคน ตั้งแต่เวลา 11.00 น.เป็นต้นไปจนถึงภายหลังเสร็จพิธี ซึ่งประกอบด้วย รถครัวสนามโดยกองทัพบก และร้านอาหารจากสมาคมภัตตาคารไทย นอกจากบริการอาหารและเครื่องดื่มแล้ว ยังมีการแสดงดนตรีจากวงดุริยางค์ตำรวจ และการให้ข้อมูลเกี่ยวกับอุทยานเฉลิมพระเกียรติฯ โดย พ.อ.วันชนะ สวัสดี และจิตอาสา อีกทั้งยังมีหน้าจอขนาดใหญ่ตั้งอยู่ภายในบริเวณ เพื่อถ่ายทอดบรรยากาศภายในอุทยานเฉลิมพระเกียรติฯ ให้ประชาชนรับชม
สำหรับนิทรรศการอุทยานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่จัดแสดง ณ อุทยานเฉลิมพระเกียรติฯ จะเปิดให้ประชาชนได้เข้าชมจนถึงวันที่ 6 ธ.ค. โดยเนื้อหาจัดแบ่งเป็น 12 โซน เริ่มจากโซนที่ 1 Interactive ผังแม่บทโครงการ ประกอบด้วยพื้นที่น้ำ 47 ไร่ พื้นที่สีเขียว 105 ไร่ พื้นที่จอดรถยนต์ 700 คัน ที่จอดรถบัส 9 คัน
โซนที่ 2 แนวคิดการออกแบบพระบรมราชานุสาวรีย์ เสนอเรื่องราวพระบรมราชานุสาวรีย์ ถือเป็นหัวใจและศูนย์กลางของสวนแห่งนี้ โดยพระบรมรูปรัชกาลที่ 9 มีสัดส่วนสูง 5.19 เมตร ซึ่งมีขนาดเป็นสามเท่าของพระองค์จริง ฐานพระบรมราชานุสาวรีย์มีความสูง 18.7 เมตร จากระดับถนนศรีอยุธยา ตั้งอยู่ในลานรูปไข่ มีพื้นที่ 2,173 ตารางเมตรบนเนินสูง 7 เมตร โอบล้อมด้วยสวนป่าผสมผสานแท่นฐานพระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 9 ตั้งอยู่บนผังแปดเหลี่ยม ตามคติพระที่นั่งอัฐทิศอุทุมพรราชอาสน์ อันเป็นสัญลักษณ์เบื้องแรกแห่งการประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
โซนที่ 3 Interactive แนวคิดหลักการออกแบบโครงการ ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ โซนที่ 4 แนวคิดการบริหารจัดการน้ำ ประกอบด้วยแก้มลิงแห่งใหม่, บ่อน้ำเลข 9, กังหันน้ำชัยพัฒนา เปรียบเสมือนหัวใจของแหล่งน้ำ ที่ทั้งคน สัตว์ และพืชพรรณธรรมชาติอันอุดมได้อยู่ร่วมกันในระบบนิเวศ เช่น ฝายและป่าต้นน้ำ, โซลาร์เซลล์ลอยน้ำ หรือ Floating Solar เพื่อนำพลังงานที่ได้มาใช้ในพื้นที่บางส่วนของโครงการ สูบน้ำจากปลายน้ำหมุนเวียนกลับขึ้นไปยังต้นน้ำ การเลี้ยงปลา เช่น กระโห้, ตะเพียนขาว, ตะพาก, กระแห พึ่งพิงกันเป็นระบบนิเวศ รวมถึงพืชชุ่มน้ำ เพื่อให้มีความหลากหลายทางธรรมชาติและกรองน้ำที่ไหลสู่บ่อน้ำเลข 9
โซนที่ 5 Interactive แนวคิดการออกแบบพรรณไม้ในโครงการ ประกอบด้วยหลักการจัดวางพรรณไม้ การวางตำแหน่งต้นไม้ อัตราการเจริญเติบโต
โซนที่ 6 Interactive ไม้มงคลพระราชทาน ประจำจังหวัด 77 จังหวัด โซนที่ 7 และ 8 เส้นทางการสัญจรในโครงการ ประกอบด้วยเส้นทางจักรยาน 3.5 กิโลเมตร กว้าง 5 เมตร เส้นทางวิ่ง 3.5 กิโลเมตร กว้าง 6 เมตร เส้นทางเดิน โซนที่ 9 Interactive วีดิทัศน์โครงการ โซนที่ 10 นันทนาการและสนามกีฬา ประกอบด้วยลานออกกำลังกายกลางแจ้ง ลานกิจกรรมกลางแจ้ง โซนที่ 11 ภาพในอดีตและโครงการที่กำลังเกิดขึ้น และโซนที่ 12 Interactive วีดิทัศน์แสดงความคืบหน้าโครงการ
ในเวลา 17.30 นาฬิกา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จฯ โดยรถยนต์พระที่นั่งจากอุทยานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ไปยังพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ในพระบรมมหาราชวัง เนื่องในพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร
ในการนี้ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระรัตนตรัย แล้วทรงจุดธูปเทียนเครื่องราชสักการะ กราบถวายบังคมพระบรมอัฐิพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระบรมอัฐิพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร พระอัฐิสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก พระอัฐิสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี และพระอัฐิสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยานิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์
พระสงฆ์ 30 รูปเจริญพระพุทธมนต์จบแล้ว ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทรงธรรม พระราชาคณะถวายศีลและถวายพระธรรมเทศนากัณฑ์ 1 จบแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงประเคนจตุปัจจัยไทยธรรมบูชากัณฑ์เทศน์ แล้วทรงทอดผ้าไตรพระสงฆ์ที่เจริญพระพุทธมนต์และที่ถวายพระธรรมเทศนา พระสงฆ์สดับปกรณ์ ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก ถวายพระพรลา เสด็จพระราชดำเนินกลับพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต
ในการนี้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้พระบรมวงศานุวงศ์ ข้าราชการ และประชาชน เข้าถวายบังคมสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราชที่ปราสาทพระเทพบิดร ตั้งแต่เวลา 0 8.00 น. ถึงเวลา 17.00 น.
นางเตือนใจ วงศ์วีระชัย อายุ 64 ปี ชาวบุรีรัมย์ กล่าวว่า เดินทางมาพร้อมสามีด้วยรถโดยสารจาก อ.เมืองบุรีรัมย์ เมื่อคืนวันที่ 4 ธ.ค. ถึงกรุงเทพฯ เวลา 04.00 น.วันที่ 5 ธ.ค. จากนั้นมาลงทะเบียนตรวจเอทีเคที่ รร.ราชวินิตมัธยม เมื่อผลตรวจผ่านก็ขึ้นชัตเติลบัสมาอุทยานเฉลิมพระเกียรติ ร.9 ทันที เพื่อจับจองพื้นที่แถวหน้าเฝ้าฯ รับเสด็จ บริเวณพระบรมราชานุสาวรีย์ ร.9 เพราะอยากชื่นชมพระบารมีในหลวงอย่างใกล้ชิด และอยากเป็นส่วนหนึ่งของเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ทรงวางศิลาฤกษ์พระบรมราชานุสาวรีย์ ร.9 เพราะได้เห็นภาพออกแบบพระบรมรูป ร.9 ทรงสง่างามมาก ตั้งใจจะมาอีกครั้งหากพระบรมราชานุสาวรีย์สร้างเสร็จ ซึ่งถือเป็นศูนย์รวมใจชาวไทย
น.ส.ประมวล เสโร ชาวอำเภอโกสุมพิสัย จังหวัดมหาสารคาม ร่วมกับนางมณฑิรา คุ้มครอง ชาวเขตบางคอแหลม กรุงเทพฯ และนางรัศมี พรตรีสัตย์ เขตคลองสาน กรุงเทพฯ สมาชิกกลุ่มเรารักในหลวง มาปักหลักนั่งรอแถวหน้าสุดริมเส้นทางเสด็จฯ ภายในอุทยานเฉลิมพระเกียรติฯ กล่าวร่วมกันว่า พวกเราทยอยมาถึงตั้งแต่ช่วงเช้าเพื่อมาจับจองที่นั่ง เพราะอยากชื่นชมพระบารมีทุกพระองค์ให้ใกล้ที่สุด ทนได้กับแสงแดดที่ร้อน เพราะตามเฝ้าฯ รับเสด็จมาตลอดอยู่แล้ว ทั้งนี้รู้สึกปลาบปลื้มดีใจที่ในหลวงรัชกาลที่ 10 พระราชทานอุทยานฯ แห่งนี้ให้เป็นปอดแห่งใหญ่ใจกลางเมืองแก่พสกนิกร หากสร้างเสร็จแล้วพวกเราจะมาใช้บริการแน่นอน
ส่วน น.ส.ชลดา เงินสมบัติ อายุ 20 ปี นักศึกษาวิทยาลัยพยาบาลและสุขภาพ มรภ.สวนสุนันทา และนักเรียนมูลนิธิทุนการศึกษาพระราชทานสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร (ม.ท.ศ.) รุ่นที่ 9 มาเป็นจิตอาสาช่วยบุคคลสำคัญปลูกต้นไม้ปีบทองในอุทยานเฉลิมพระเกียรติฯ กล่าวด้วยสีหน้ายิ้มแย้มว่า สมัครใจมาเป็นจิตอาสาช่วยปลูกต้นไม้ในงาน ซึ่งเป็นคุณสมบัติของนักเรียนทุน ม.ท.ศ.ที่ให้ทุนการศึกษานักเรียนที่เรียนดีแต่ยากจนและมีจิตอาสา โดยได้รับพระราชทานตั้งแต่มัธยมปลายจนจบมหาวิทยาลัย ทั้งนี้ ตนรู้สึกสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่พระราชทานทุน ม.ท.ศ. ให้โอกาสทางการศึกษา และยังได้ไปเรียนรู้งานโครงการพระราชดำริในพื้นที่ต่างๆ ร่วมกับนักเรียนทุน ม.ท.ศ. ก็อยากตอบแทนด้วยการกลับไปเป็นพยาบาลในพื้นที่บ้านเกิด จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งกำลังขาดแคลนคน
น.ส.กานดา ดนตรี ชาวบางกอกน้อย กรุงเทพฯ นัดรวมกลุ่มกับเพื่อนประมาณ 250 คนมาเฝ้าฯ รับเสด็จ กล่าวว่า เดินทางมาตรวจเอทีเคตั้งแต่เมื่อวานที่กรมทางหลวง นำผลตรวจมาแลกสติกเกอร์เข้างานวันนี้ ซึ่งมีเพื่อนสมาชิกในกลุ่มได้ร่วมปลูกต้นไม้ในบริเวณอุทยานเฉลิมพระเกียรติฯ แห่งนี้ด้วย ในหลวงพระราชทานพื้นที่แห่งนี้เพื่อเป็นประโยชน์แก่สาธารณชน รู้สึกปลื้มปีติมากเพราะจะได้มีปอดแห่งใหม่ใจกลางกรุง พระองค์ทรงเป็นผู้ให้เฉกเช่นเดียวกับพระราชบิดาที่ทรงงานหนักเพื่อประชาชนของพระองค์มาโดยตลอด ดังนั้นการสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์ ในหลวงรัชกาลที่ 9 จะได้มีสถานที่ให้ประชาชนได้มากราบสักการะและระลึกถึงพระองค์ท่านได้ตลอดเวลา ตั้งใจว่าหากอุทยานเฉลิมพระเกียรติฯ สร้างเสร็จจะมาเที่ยวแน่นอน
ด้านนายศุภศักดิ์ โชคอุปถัมภ์ อายุ 22 ปี นศ.ชั้นปีที่ 3 คณะครุศาสตร์ มรภ.พระนครศรีอยุธยา นักเรียนทุนการศึกษา ม.ท.ศ. รุ่นที่ 8 กล่าวว่า ได้รับพระมหากรุณาธิคุณอย่างสูงสุดในการได้รับพระราชทานทุนการศึกษา แบ่งเบาภาระของครอบครัวที่พ่อแม่มีอาชีพค้าขายได้ อนาคตตั้งใจจะประกอบอาชีพเป็นครู วันนี้มีโอกาสร่วมปลูกต้นไม้ภายในอุทยานเฉลิมพระเกียรติฯ ด้วย รู้สึกปลาบปลื้มใจมากที่สนามม้านางเลิ้งเก่าจะกลายเป็นปอดแห่งใหม่สำหรับประชาชนทุกเพศทุกวัย ได้อยู่ใกล้ชิดกับธรรมชาติ ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงเป็นพระราชาผู้ทรงธรรมและทรงทำเพื่อประโยชน์สุขแก่อาณาประชาราษฎร์ โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงสืบสาน รักษา และต่อยอด ตนได้น้อมนำปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้บริหารจัดการชีวิต เพราะการได้รับทุนต้องใช้เงินทุกบาทอย่างสมเหตุสมผล” นายศุภศักดิ์กล่าว
ขณะเดียวกัน ทุกจังหวัดทั่วประเทศไทยต่างก็มีการจัดพิธีสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์และทำบุญตักบาตร รวมทั้งจัดกิจกรรมต่างๆ เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ซึ่งถือเป็นวันชาติและวันพ่อแห่งชาติอีกด้วย โดยที่ส่วนกลาง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วยนางนราพร จันทร์โอชา ภริยา เป็นประธานในพิธีสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์และทำบุญตักบาตร ณ ท้องสนามหลวง โดยมีประธานองคมนตรีและภริยา คณะองคมนตรีและภริยา ประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกาและภริยา ประธานวุฒิสภา ประธานองค์กรตามรัฐธรรมนูญและภริยา รองนายกรัฐมนตรีและภริยา หน่วยราชการในพระองค์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครและภริยา ผู้บัญชาการเหล่าทัพและภริยา และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและภริยา ร่วมในพิธี
ส่วนที่ จ.ปทุมธานี มีพิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ สามเณร จำนวน 89 รูป ก่อนทำพิธีวางพานพุ่มดอกไม้สดถวายราชสักการะ ถวายราชสดุดี และถวายบังคมเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์รัชกาลที่ 9 ณ ศาลากลางจังหวัด ที่ จ.เชียงใหม่ มีการทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ 89 รูป และถวายพานพุ่ม เช่นเดียวกับที่ จ.อำนาจเจริญ, ขอนแก่น, ตราด, นครศรีธรรมราช และภูเก็ต
ขณะที่ จ.ลำปาง มีการจัดกิจกรรมบวชป่าเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ส่วน จ.ชัยนาท เจ้าของร้านหนูยิ้มหมูดี เมืองชัยนาท ได้จัดกิจกรรมแจกอาหารคาวหวาน 500 ชุด ให้ประชาชนกินฟรี เพื่อเป็นการทำความดีถวายเป็นพระราชกุศลแด่ในหลวง ร.9 เช่นเดียวกับที่ จ.นครพนม นายเทียมศักดิ์ เวียงศรีประเสริฐ อายุ 74 ปี และนางเกตุวดี เวียงศรีประเสริฐ อายุ 72 ปี สองสามีภรรยา เจ้าของผลิตภัณฑ์ข้าวสาร ข้าวเหนียวตราเรือไฟ ฯลฯ ได้จัดกิจกรรมทำข้าวกล่องแจกประชาชนเป็นปีที่ 18 ติดต่อกัน.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ครม.ไร้วาระโต้ง ชื่อยังไม่ถึงคลัง ผวาขัดกฎหมาย
นายกฯ เมินเสียงวิจารณ์ "กิตติรัตน์" นั่ง ปธ.บอร์ด ธปท.
สันติผงาด‘น.1’ ‘ก.ตร.’ถกเดือด อาวุโสน้อยพรึ่บ
"นายกฯ อิ๊งค์" นั่งหัวโต๊ะประชุม ก.ตร. 20 พ.ย. แต่งตั้งรอง ผบ.ตร.-ผบช. กว่า 40 ตำแหน่ง จับตาถกเดือด!
‘อิ๊งค์’ตีปี๊บผลงาน100วัน
“นายกฯ อิ๊งค์” ต่อสายยินดี “ทรัมป์” พร้อมชวนมาเมืองไทย นายกฯ
สุริยะสั่งฟ้องเขากระโดง ‘ที่ดิน’ยันยึดคำพิพากษา
ปมเขากระโดงยังไม่จบ “สุริยะ” ย้ำที่ดินพิพาทเป็นของ รฟท.
60ปีเฮได้เงินหมื่น จ่ายไร่ละพันพักหนี้
“นายกฯ อิ๊งค์” ชี้ “ทักษิณ” จ้อการเมืองแค่สีสันสนุกสนาน ไม่ฉุดเศรษฐกิจดิ่ง
ทักษิณ-พท.โคม่า! ธีรยุทธเมินอสส.ตัดตอน เทียบคดีก.ก.ศาลรับร้อง
อสส.ไม่รับดำเนินคดี "ทักษิณ-เพื่อไทย" ล้มล้างการปกครอง