สุราก้าวหน้าคึก จี้ทลายทุนใหญ่ พ.ท.โดดขวาง

กระแส "พิธา" ปลุกชีพเหล้าชุมชนทั้งประเทศ  “ขอนแก่น-สกลนคร” โรงงานแทบแตกออร์เดอร์ล้นผลิตไม่ทัน แกนนำชาวบ้านชี้ปมโซ่ตรวนกฎหมายมัดเหล้าพื้นบ้านไทย เขย่าอย่าเป็นไฟลามทุ่ง ต้องทลายทุนใหญ่ผูกขาด ขณะที่อดีต ส.ส.เพื่อไทยขวางลำก้าวไกลโยนหินยกเลิกขายเหล้าวันพระ “พุทธะอิสระ” สวดยับนโยบายสุราก้าวหน้าพรรคส้มเช้ง กัญชาเสรีชิดซ้าย

เมื่อวันจันทร์ จากกระแสสุราชุมชนที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ว่าที่แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ได้สร้างขึ้นมาจากนโยบายสุราก้าวหน้าของพรรคก้าวไกล นายสวาท อุปฮาด ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนกลุ่มเมล็ดพันธุ์และการแปรรูปผลผลิตทางการเกษตรบ้านโนนเชือก ผลิตสุราชุมชน จ.ขอนแก่น ได้เปิดเผยว่า ในขณะนี้แม้ว่าจะมีฝ่ายการเมืองมาทำเรื่องสุราแบบจริงจัง จนเป็นกระแสที่จะทำเรื่องนี้ให้เป็นเสรี แต่ตอนนี้ปัญหาคือระเบียบข้อกฎหมายหลังจากมี พ.ร.บ.สุรา  2493 ที่มีรายละเอียดมากจนไม่สามารถทำได้ ทั้งนี้ได้มีการมาขับเคลื่อนตั้งแต่ปี 2544-2547 ให้มีการปรับเปลี่ยนแก้ไขกฎหมายมี พ.ร.บ.จดแจ้งเหล้าขึ้นมา หลายส่วนเข้าสู่ระบบ ซึ่งก็เชื่อว่าระบบที่มีอยู่ยังไม่อิสระ ยังไม่ให้อำนาจพอจะไปทำแข่งขันในตลาดได้

 “ผู้ผลิตสุราชุมชนทุกคน มีความต้องการอยากให้เอากฎหมายที่เป็นข้อจำกัดยกเลิกไป และให้สามารถที่จะทำการผลิตได้เลย และถ้าจะไปสู่การควบคุมหรือจัดระบบการเสียภาษี ตรงจุดนี้เชื่อว่าสามารถคุยกันได้ มาออกแบบร่วมกันได้ แต่ที่ผ่านมาเรื่องแบบนี้ชาวบ้านไม่มีโอกาสจะได้ไปคุย มีแต่คนข้างในกำหนดกฎออกมาและตามมาด้วยระเบียบเยอะแยะมากมาย ซึ่งผมเชื่อว่าถ้าสุราชุมชนมีการพัฒนาจริงๆ ต่อเนื่อง 3 ปี สุราชุมชนของไทยสามารถที่จะไปแข่งได้ในระดับโลก” นายสวาทระบุ

นายสวาทกล่าวอีกว่า การทำสุราชุมชนของกลุ่มนั้นเพื่อจะให้เกิดการถ่ายทอดความรู้ เรื่องเศรษฐกิจ เรื่องรายได้เป็นเรื่องรอง แต่ช่วงนี้มีกระแสตอบรับจากสังคมค่อนข้างสูง มียอดสั่งจองเพิ่มมากขึ้นหลายเท่าตัว โดยเดือนนี้ มียอดสั่งจองแล้วกว่า 2,000 ขวด มีคนที่สนใจสั่งมาอย่างล้นหลาม อย่างไรก็ตามเชื่อว่าในอนาคตจะทำการตลาดได้ เพราะมีคนสนใจหลายกลุ่ม ทั้งกลุ่มคนเมือง ทั้งกลุ่มเชฟอาหาร และกลุ่มเครือข่ายที่ทำงานร่วมกัน จึงอยากให้นโยบายสุราก้าวหน้าเป็นจริงเสียที

 ที่ จ.สกลนคร นายธรรมวิทย์ ลิ้มเลิศเจริญวนิช เจ้าของผลิตภัณฑ์ออนซอน กล่าวว่า ตอนนี้ของในสต๊อกหมดเกลี้ยง กำลังการผลิตต้องใช้เวลา เนื่องจากสุราชุมชนมีเวลาการผลิต จากปัจจัยของโรงผลิตขนาดเล็กน่าจะทำให้สุราชุมชนขาดช่วงไป เรื่องข้อกฎหมายทุนผูกขาด ตอนนี้ทุกคนพยายามเรียกร้องแก้กฎหมายเรื่องเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และเรื่อง พ.ร.บ. จะมีหลายเรื่องที่ทำให้เราโตไม่ได้ เรียกว่าไม่ค่อยแฟร์กับคนทำงานเกี่ยวกับพวกนี้ แต่หลักๆ คือเรื่องของการห้ามโฆษณาตาม ม.32

 “กรณีนายพิธาพูดเกี่ยวกับกระแสสุราชุมชน อย่างสุราออนซอนเองก็เป็นที่รู้จักขึ้นมาทันที จนคนสกลนครแท้ๆ ยังไม่รู้เลยว่ามีสุราออนซอน เพราะว่าเราพูดไม่ได้ เราบอกไม่ได้ว่าทำสุราที่สกลนคร ตัวนี้เป็นประเด็น เรื่องของทุนผูกขาดเป็นเรื่องหนึ่งที่ผมพูดมาตลอด บางร้านที่นำไปฝากจำหน่ายให้ เขาไม่สามารถเอาสุราเราไปขายได้ เพราะติดสัญญากับบริษัท ตอนนี้พอเป็นกระแสเกรงว่าจะเป็นไฟลามทุ่งรีบซื้อ ที่จริงอยากให้สนับสนุนมากกว่านี้ เพราะจะเกิดการท่องเที่ยวแบบใหม่ เช่นไปเที่ยวจังหวัดนี้ ดื่มกินของจังหวัดนี้” นายธรรมวิทย์ระบุ

นายธรรมวิทย์ระบุด้วยว่า กลุ่มสุราชุมชนมองเห็นแล้วว่าอนาคตของวงการสุรา เบียร์ ไวน์ของคนไทย น่าจะมีโอกาสที่ฝันมีสินค้าอื่นๆ ของตัวเองได้วางจำหน่ายได้ง่าย จากการส่งเสริมของภาครัฐ จึงฝากให้รัฐบาลใหม่ผลักดันสุราก้าวหน้าให้สำเร็จ เปิดโอกาสให้กลุ่มทุนเล็กๆ ได้เติบโตสร้างรายได้กระจายสู่ท้องถิ่น

วันเดียวกัน ดร.นิยม เวชกามา อดีต ส.ส.สกลนคร เขต 2 พรรคเพื่อไทย ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวบ่งบอกความไม่สบายใจกับข่าวของอดีต ส.ส.ก้าวไกล ที่ออกความเห็นอยากให้ยกเลิกการห้ามขายเหล้า ฆ่าสัตว์ในวันพระว่า "อยากถามย้อนไปหาอดีต ส.ส.คนนี้ว่าได้นับถือศาสนาพุทธหรือเปล่า? ผมรู้ครับว่าทุกศาสนามีหลักคำสอน สอนคนให้เป็นคนดี มีศีลธรรม จริยธรรม มีหลักการปฏิบัติประพฤติตนตามทำนองคลองธรรมของศาสนานั้นๆ เช่นกันครับ ในหลักธรรมคำสอนในพระพุทธศาสนา เพื่อให้พุทธศาสนิกชนใช้เป็นหลักยึดเหนี่ยว นั่นคือศีล 5"

"ผมไม่ได้มาเทศน์ แค่อยากจะออกมาตอกย้ำสามัญสำนึก ในฐานะผมเป็นพุทธศาสนิกชนคนหนึ่งที่เคยบวชเรียนมา การรักษาศีลเบื้องต้น โดยเฉพาะศีลข้อที่ 5 เว้นจากการดื่มน้ำเมา สุรา ยาเสพติด เป็นของมึนเมาและให้โทษ ดื่มเข้าไปย่อมทำให้คนดีๆ กลายเป็นคนบ้าได้ เพราะศีลคือวินัย ในทางศาสนาพุทธแล้ว ตามหลักคำสอนมุ่งเน้นผู้คนในเรื่องการมีสติสัมปชัญญะที่สมบูรณ์ ซึ่งการห้ามดื่มสุราในพุทธศาสนาไม่ว่าจะอยู่ที่เจตนาหรือไม่เจตนา ศีลข้อนี้เขียนขึ้นมาเพื่อป้องกันไม่ให้คนขาดสติ ที่ส่งผลมาจากการมีแอลกอฮอล์ในร่างกายจนขาดสติในการควบคุมตนเอง"

 ดร.นิยมระบุอีกว่า "ตลอดทศวรรษที่ผ่านมา ทั้งภาครัฐและเอกชนได้รณรงค์ลด ละ เลิกการดื่มสุรา เพราะปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุจนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตยังคงเป็นการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และยังรวมถึงปัจจัยเสี่ยงของปัญหาต่างๆ อาทิ ปัญหาครอบครัว ปัญหาความยากจน ปัญหาสังคม และไม่เว้นแม้แต่ปัญหาสุขภาพของผู้ดื่มแอลกอฮอล์ หรือการสูญเสียคนดีๆ จากผลกระทบของคนเมาแล้วขับรถ ที่เขาต้องกลายเป็นบุคคลทุพพลภาพ อีกหลายร้อยหลายพันคนที่เขาได้รับผลกระทบทั้งทางร่างกายและจิตใจครับ ดังนั้นหลักคำสอนในพุทธศาสนามีส่วนช่วยอย่างมากในการลดจำนวนการดื่มสุรา โดยสอนให้เห็นโทษของสุราที่ทำให้เสื่อมทรัพย์ และทำลายชีวิตและครอบครัว"

  "จึงขอสะท้อนความเห็นต่างไปยังอดีต ส.ส.พรรคก้าวไกล ว่าการที่ประชาชนในประเทศไทย 93% ที่นับถือศาสนาพุทธ เขาได้รักษาศีลพื้นฐานเป็นผู้มีศีล มีความประพฤติเรียบร้อยทางกาย ทางวาจา ที่จะเป็นรากฐานในการพัฒนาคุณธรรมชีวิตในระดับที่สูงขึ้น อย่างน้อยพุทธศาสนิกชนก็ได้ใช้ช่วงวันสำคัญๆ ทางพุทธศาสนา ไม่ว่าจะเป็นวันวิสาขบูชาที่ผ่านมา วันอาสาฬหบูชา วันเข้าพรรษาที่กำลังจะมาถึง หรืออย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 วัน คือวันพระในแต่ละสัปดาห์ ให้เป็นวันแห่งการลด ละ เลิกอบายมุข งดดื่มสุราและของมึนเมา การพนันทั้งหลาย เพราะการที่บุคคลมีศีลอันเป็นข้อปฏิบัติในเชิงปฏิเสธ เพื่อควบคุมความประพฤติทางกาย ทางวาจาของตนเอง และได้ตระหนักในสิทธิเสรีภาพ ความปลอดภัยและความสงบสุขของสังคมโดยรวม ให้สังคมมีความสงบสุขเถอะ" ดร.นิยมระบุ

ขณะที่พุทธะอิสระ อดีตเจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย ได้โพสต์ภาพนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พร้อมข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า "ใครจักรู้ว่าชายคนนี้เขาทุกข์ขนาดไหน ใจความช่วงหนึ่งว่า สุราก้าวหน้า (แบบว่า ใครจะผลิตขายก็ได้), ขายเหล้าได้ตลอดทั้งวัน ยกเลิกการห้ามขายเหล้า-ฆ่าสัตว์ในวันพระ, กาสิโนถูกกฎหมาย รัฐกำกับดูแล, กาสิโนออนไลน์ถูกกฎหมาย รัฐกำกับดูแล พระบรมศาสดาทรงสอนว่า เหล่านี้คือเหตุแห่งความฉิบหาย ซึ่งในทุกรัฐบาลที่ผ่านมาเขาพยายามหลีกเลี่ยงไม่เข้าใกล้ หรือไม่นำมาทำให้สังคมไทยฉิบหาย เสียหาย แตกแยก" 

“และสุดท้าย ไอ้ที่ไปด่าเขา ว่าเขาเรื่องกัญชาเสรี พอเจอกับนโยบายเหล่านี้คงต้องชิดซ้ายไปเลย แต่มาวันนี้ พวกพรรคส้มเช้ง กลับมาออกนโยบายให้เกิดความเสียหาย ฉิบหายต่อสังคม เศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และวัฒนธรรมความเชื่อของชนเผ่าไทยมาช้านาน ตั้งแต่เริ่มก่อร่างสร้างชาติ” พุทธะอิสระระบุ.