โอ่ทลายโซ่ตรวน‘เจ้าสัว’ เตือนเจี๊ยบอย่าร้อนวิชา!

ก้าวไกลโวเหลืออีกก้าวเดียวโซ่ตรวนผูกขาดสุราจะถูกทำลายลง เค้ก 5 แสนล้านจะกระจายไปทั่ว “เพชรวรรต” ดีดปาก “อมรัตน์” เรื่องยกเลิกขายเหล้าวันพระใหญ่ บอกบ้านเมืองต้องมีขื่อมีแป เจ้าคุณประสารให้พระสงฆ์แผ่เมตตาเจี๊ยบ สอนอย่าร้อนวิชา ฟาดฟันไปทุกเรื่อง

เมื่อวันอาทิตย์ที่ 4 มิ.ย.2566 ยังคงมีความต่อเนื่องกรณีนางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) แสดงความคิดเห็นคัดค้านประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดวันห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2558 ที่ห้ามมิให้ผู้ใดขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวันมาฆบูชา วันวิสาขบูชา วันอาสาฬหบูชา วันเข้าพรรษา และวันออกพรรษา ยกเว้นการขายเฉพาะร้านค้าปลอดอากรภายในอาคารท่าอากาศยานนานาชาติ โดยมองว่าควรยกเลิกประกาศคำสั่งไม่ค่อยมีเหตุผล หรือแก้ไขให้เหมาะสม

ในขณะที่เพจเฟซบุ๊กพรรคก้าวไกล  โพสต์คลิปวิดีโอผู้ผลิตสุราพื้นบ้านต่างๆ ของไทย พร้อมบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับสุราไทยจากพื้นที่ต่างๆ และข้อความเรื่อง รัฐบาลก้าวไกล อนาคตสุราไทยต้องไม่เหมือนเดิม ระบุว่า เป็นเวลามากกว่า 70 ปี ที่อำนาจรัฐให้อำนาจผูกขาดธุรกิจสุราให้อยู่ในมือเจ้าสัว แต่เหลืออีกเพียงก้าวเดียว โซ่ตรวนที่ปิดกั้นศักยภาพของผู้ผลิตสุราไทยกำลังถูกทำลายลง มูลค่าธุรกิจสุราทั้งหมด 500,000 ล้านบาท จากที่อยู่ในมือของรายใหญ่ 2-3 ราย กำลังกระจายไปสู่ผู้ประกอบการรายเล็กรายน้อยทั่วประเทศ ให้สร้างสรรค์เอกลักษณ์สินค้าเกษตรของท้องถิ่นตัวเอง สินค้าเกษตรเก็บไว้ในโกดังมีแต่ราคาจะลด เหล้าเก็บไว้ในไหมีแต่ราคาจะสูงขึ้น

“การปลดล็อกธุรกิจสุราไม่ใช่ชัยชนะของผู้ผลิตสุรารายย่อยที่มีต่อทุนใหญ่  แต่คือชัยชนะของประชาชนที่มีต่อระบอบนายทุน ขุนศึก ศักดินา ที่ใช้อำนาจผูกขาดกัดกินประเทศ สุราก้าวหน้าเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้น ประเทศไทยยังมีศักยภาพอีกหลายอย่างที่รอให้รัฐบาลก้าวไกลเข้าไปพัฒนา”

นายเพชรวรรต วัฒนพงศศิริกุล อดีตรองประธานกรรมาธิการการศาสนา   ศิลปะและวัฒนธรรม สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีนางอมรัตน์ว่า บ้านเมืองควรมีขื่อมีแป นอกจากเป็นวิถีวัฒนธรรมของพระพุทธศาสนาที่ประชาชนถือศีลแปดเข้าวัดฟังธรรมในอดีตแล้ว กฎหมายดังกล่าวยังช่วยป้องกันการเกิดอุบัติเหตุได้ดีขึ้น หากพิจารณาดูแล้วยอดผู้ดื่มสุราและจับได้ในขณะขับรถมียอดที่แปรผันเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ยกตัวอย่างสถิติคดีที่ศาลสั่งคุมความประพฤติ เมื่อวันที่ 16 เม.ย.2566 มีจำนวนทั้งสิ้น 843 คดี จำแนกเป็นคดีขับรถขณะเมาสุรา 836 คดี ซึ่งถือว่าเป็นสถิติที่ค่อนข้างสูง

 “ที่ว่าในต่างประเทศไม่มีกฎหมายนี้  ในหลายประเทศยกตัวอย่างในสหรัฐอเมริกา รัฐยูทาห์ ไม่ใช่ว่าห้ามดื่มสุราเป็นบางวันนะครับ เขาห้ามดื่มทุกวันในรัฐนี้ แล้วจะอ้างว่าเมืองไทยไม่ใช่เมืองพุทธอย่างเดียว หากไปดูศาสนาอื่นที่ประเทศตะวันออกกลาง เช่น ซาอุดีอาระเบีย ไม่ใช่ว่าห้ามดื่มเหล้านะครับ ห้ามขายเหล้ากันด้วย” นายเพชรวรรตระบุ

พระราชวัชรสารบัณฑิต หรือเจ้าคุณประสาร เลขาธิการศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย ระบุว่า วันนี้โลกกำลังเผชิญวิกฤตมากมาย ปัญญาอันมีรากฐานมาจากศาสนาจะช่วยคลี่คลายปัญหาต่างๆ ของชาวโลกได้ ดังนั้นขอให้มองศาสนาในแง่ศีลธรรม ที่ประกอบด้วยสันติ สงบ ร่มเย็นและปัญญาที่ก่อเกิดจากสัมมาทิฏฐิ กรุณาอย่าเอาวันสำคัญทางศาสนาแล้วถือโอกาสวิพากษ์วิจารณ์ ซึ่งอาจทำให้สาวกผู้เคารพเลื่อมใสในศาสนานั้นๆ เข้าใจคลาดเคลื่อนในเจตนาได้ และเรื่องแบบนี้ก็อาจบานปลายกลายเป็นน้ำผึ้งหยดเดียวได้ในที่สุด

เจ้าคุณประสารระบุอีกว่า ขณะนี้องค์กรชาวพุทธทั้งในและต่างประเทศได้ติดต่อมาในฐานะเลขาธิการศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาฯ เป็นจำนวนมาก เพื่อจะได้พูดคุยและกำหนดท่าทีของชาวพุทธในกรณีดังกล่าว โดยในการพูดคุยและกำหนดท่าทีนั้น มุ่งเน้นการใช้ปัญญาในการแสวงหาความจริงให้ปรากฏ โดยไม่ประสงค์ที่จะมุ่งเน้นการสร้างวาทกรรมเพื่อให้เกิดความแตกแยกของคนในสังคม ณะนี้ได้ให้สำนักงานกลางศูนย์พิทักษ์ฯ แจ้งไปทุกองค์กรว่า ขอให้ทุกท่านช่วยกันบำเพ็ญขันติบารมี แผ่เมตตาให้มาก ทุกคนย่อมมีสิทธิในการวิพากษ์ได้ แม้ท่านจะมองเจตนาว่าเป็นการวิพากษ์ในวันสำคัญของชาวพุทธ มองว่าไม่ยกย่องก็อย่าเหยียบย่ำ จึงได้ย้ำไปว่า ขณะนี้ประเทศของเราบอบช้ำมามากแล้ว เราชาวพุทธก็ไม่ควรไปซ้ำเติมสุมปัญหาเข้าไปอีก  เพียงแต่อยากบอกทุกฝ่ายด้วยเมตตาว่า  การเมืองวันนี้ท่านก็ว่าของท่านไป อย่าฟาดฟันไปทุกเรื่อง ค่อยคิดค่อยทำ อย่าร้อนวิชา

“อาตมาเรียกร้องให้ใช้สติสัมปชัญญะให้มาก วันนี้ใครรวมกับใคร พระไม่มีสิทธิจะไปก้าวล่วง แต่เมื่อนโยบายของท่าน พรรคของท่านแปรเปลี่ยนมาเป็นนโยบายรัฐบาล แน่นอนย่อมมีผลกระทบกับทุกคน ไม่เว้นแม้แต่พระสงฆ์สามเณร ดังนั้น จะพูดจะคิดจะทำอะไร พระพุทธองค์สอนให้มีสติรอบคอบ จะนำประโยชน์มากกว่า” พระราชวัชรสารบัณฑิตกล่าว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง