"สุพัฒนพงษ์" ลั่นทำทุกวิถีทางดูแลราคาดีเซล รวมถึงชง กกต. ยันไม่ทิ้งภาระให้รัฐบาลชุดใหม่ ปลัดพลังงานประกาศตรึง 31.94 บาทต่อลิตรถึงสิ้นปี "จุรินทร์" สั่งกรมการค้าภายในประเมินผลกระทบล่วงหน้า
เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยภายหลังพิธีลงนามสัญญาแบ่งปันผลผลิตกับบริษัทผู้ได้รับสิทธิสำรวจและผลิตปิโตรเลียม สำหรับแปลงสำรวจในทะเลอ่าวไทย ครั้งที่ 24 จำนวน 3 แปลง ว่าประเด็นการยกเลิกการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล ตั้งแต่ 21 ก.ค. 2566 เป็นต้นไปนั้น เบื้องต้นได้มีการหารือร่วมกับกระทรวงการคลังแล้ว และกระทรวงพลังงานจะติดตามสถานการณ์น้ำมันดีเซลว่าจะไปในทิศทางใด หากจะต้องมีการดูแลราคาจะพิจารณาทุกวิธี รวมถึงการใช้กลไกของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงมาช่วยด้วย
"เชื่อว่ายังพอมีเวลาในการตัดสินใจอยู่ ซึ่งในระยะต่อไปถ้าราคาน้ำมันมีความน่าเป็นห่วง ต้องใช้ทุกวิถีทางมาดูแล แม้จะต้องขออนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ก็ต้องทำ แต่ในส่วนของค่าการตลาดนั้น ก็ต้องยอมรับว่าคือราคาเสรี เราอาจจะไม่สามารถเข้าไปควบคุมได้ แต่จะมีการพูดคุยกับผู้ประกอบการเพื่อขอความร่วมมือให้ดูแลในส่วนนี้ ซึ่งในฐานะที่เป็นประธานคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) ก่อนที่จะมีการยุบสภาได้มีการให้แนวทางดูแลราคาน้ำมันให้อยู่ในกรอบ ต้องดูให้ดีในทุกมิติ ทั้งความสามารถในการแข่งขันกับประเทศเพื่อนบ้าน เงินเฟ้อ และต้นทุน” นายสุพัฒนพงษ์ระบุ
ส่วนกรณีที่ปริมาณก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทยที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นในช่วงปลายปี 2566 จะส่งผลต่อราคาพลังงานหรือไม่นั้น ปัจจุบันยังเป็นไปตามแผน โดยคาดว่าแหล่งเอราวัณ ในเดือน ก.ค.ปีนี้ จะมีกำลังการผลิตอยู่ที่ประมาณ 400 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ในเดือน ธ.ค. 2566 จะเพิ่มเป็น 600 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน และเดือนเม.ย.2567 จะเพิ่มเป็น 800 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ซึ่งเป็นไปตามแผนงานที่วางไว้ แต่ในอนาคตก็จะต้องมาดูถึงภาคการซื้อขายอีก เนื่องจากในช่วงเข้าเดือน ธ.ค. ก็จะเป็นช่วงหน้าหนาว อาจจะส่งผลให้ราคาผันผวนอีกครั้ง
“หากนำไปพิจารณาร่วมกับราคาซื้อขายก๊าซธรรมชาติในตลาดจร (Spot LNG) มองว่าเป็นเรื่องของ กกพ. ที่จะต้องไปพิจารณาราคาค่าไฟร่วมกับผู้นำเข้า รวมถึงต้องดูโอกาสและความเหมาะสมในการนำเข้าก๊าซธรรมชาติในสัญญาระยะยาวด้วย ประกอบกับต้องติดตามเรื่องเงินเฟ้อ ค่าเงินบาท และการซื้อขาย รวมถึงปัญหาเรื่องภูมิรัฐศาสตร์ หลายประเทศก็ต้องพิจารณาโครงสร้างการผลิตไฟฟ้าให้มีเสถียรภาพอีกด้วย” รมว.พลังงานระบุ
นายสุพัฒนพงษ์กล่าวถึงรัฐบาลใหม่ว่า แต่ละพรรคมีนโยบายเรื่องพลังงานที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับว่าจะได้พรรคไหนมาเป็นรัฐบาล คิดว่าอะไรที่ปรับได้ก็ต้องปรับ สิ่งที่ส่งมอบในวันนี้ไม่เป็นภาระต่อรัฐบาลใหม่อย่างแน่นอน ซึ่งรัฐบาลชุดปัจจุบันทำดีที่สุดแล้ว ส่วนเรื่องนโยบายฟื้นฟูพื้นที่ทับซ้อนไทย-กัมพูชานั้น เป็นเรื่องของรัฐบาลใหม่ที่ต้องหารือกับกระทรวงการต่างประเทศ
ด้านนายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ยืนยันว่าจะพยายามดูแลราคาน้ำมันดีเซลให้อยู่ที่ 31.94 บาทต่อลิตรไปจนถึงสิ้นปี แม้ว่ามาตรการลดภาษีสรรพสามิตจะสิ้นสุดวันที่ 21 ก.ค. และไม่มีการต่ออายุออกไป เพราะหากดูจากสถานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงที่ติดลบน้อยลง และยังมีเงินกู้ เสริมสภาพคล่องที่ยังมีวงเงินเหลืออีก 70,000 ล้านบาท ยังสามารถดูแลราคาน้ำมันดีเซลได้
อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าต้องอยู่ภายใต้สมมติฐานราคาน้ำมันในตลาดโลกเฉลี่ยอยู่ในระดับปัจจุบัน 90 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล หรือไม่เปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรง จะสามารถดูแลราคาดีเซลต่อเนื่องไปได้อีก แต่หากราคาน้ำมันในตลาดโลกรุนแรงขึ้น หรือมีความผันผวน ตามขั้นตอนจะต้องเสนอมาตรการดูแลบรรเทาผลกระทบ และนำเสนอให้ กกต.พิจารณา เช่นเดียวกับค่าไฟฟ้า
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า เบื้องต้นสั่งให้กรมการค้าภายในศึกษากรณีที่จะมีการยกเลิกมาตรการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล 5 บาทต่อลิตร จะมีผลกระทบต่อราคาสินค้ามากน้อยแค่ไหนอย่างไร.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
บิ๊กทินเช็กแล้ว ข่าว‘เรือดำน้ำ’ ไทย-จีนถกอยู่
“สุทิน” ยันเช็กแล้ว จีนไม่ได้เสนอขายเรือดำน้ำติดเครื่อง MTU เยอรมนีให้อิเหนา
นายกฯไม่ขวาง เพิ่มวันประชุม ก.ก.เหน็บ‘ผู้นำ’
“เศรษฐา” ไม่ขัดก้าวไกลอยากได้วันประชุมสภาเพิ่ม “ศุภณัฐ” เหน็บผู้นำไม่เคยทำตัวให้ว่าง
เศรษฐาตื่น!สั่งสางซื้อขายเก้าอี้
ยิ่งสาวยิ่งเจอ! "เศรษฐา" จำใจเห็นด้วยสางกรณีซื้อขายตำแหน่งผู้ติดตามภายในทำเนียบรัฐบาล
โต้‘แบงก์ชาติ’แนะคิดบวก
รัฐบาลเรียงหน้าโต้ปมผู้ว่าฯ แบงก์ชาติประเมินภาพเศรษฐกิจ
200สภาสูงยังป่วน! จี้‘นับคะแนน-เลือกใหม่’ สภาจัดพื้นที่รายงานตัว
"วุฒิสภา" เตรียมสถานที่รับรายงานตัว 200 สว.ชุดใหม่แล้ว
ผู้ว่าธปท.ยอมรับ ศก.ไทยฟื้นตัวช้า จี้เน้นการลงทุน
"ผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ" รับเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวช้า โตได้แค่ 3% ยากดีดถึง 4-5%