กิตติศักดิ์มั่นใจ ไร้เอี่ยวบุก‘วัด’ ท้าเจอใน‘ศาล’

“กิตติศักดิ์” พร้อมผู้ใหญ่บ้านให้การภาคเสธ 3 ข้อหา ปมกลุ่มชายชุดดำบุกทำร้ายพระ ชาวบ้านในวัดบางคลาน ลั่นไปเจอกันในชั้นศาล เพราะมั่นใจไม่ผิด “เจ้าอาวาส” รับชื่อเสียงวัดป่นปี้ คนเข้าวัดแค่วันละ 10-20 คน ไวยาวัจกรปูดเงินหาย 95 ล้านบาท!

เมื่อวันอาทิตย์ที่ 28 พ.ค.2566 ยังคงมีความต่อเนื่องจากกรณีนายกิตติศักดิ์  รัตนวราหะ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.)  พร้อมนายดุสิต คำศิลา ผู้ใหญ่บ้าน ต.บึงนาราง อ.นาราง จ.พิจิตร ได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.โพทะเล  เพื่อรับฟัง 3 ข้อกล่าวหาจากเหตุการณ์ชายชุดดำบุกวัดหิรัญญาราม หรือวัดบางคลาน เมื่อวันที่ 6 เม.ย.

 โดยนายกิตติศักดิ์กล่าวว่า ได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.โพทะเลเรียบร้อย ซึ่งตามกำหนดมีการออกหมายเรียกให้ไปพบวันที่ 1 มิ.ย.2566 แต่ตนมีเวลาว่างเลยตัดสินใจมาพบก่อนนัดหมาย เพื่อรับทราบ 3 ข้อหา ทั้งใช้จ้างวานฯ, ก่อเหตุวิวาทฯ และบุกรุกบริเวณวัดบางคลาน ซึ่งตนพร้อมด้วยนายดุสิตให้การภาคเสธ และไม่ให้การใดๆ ทั้งสิ้น ถึงแม้ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะอ้างมีหลักฐาน ก็ว่ากันไป

“ผมได้ตั้งทนายขึ้นมาสู้คดี ยืนยันไม่ได้ผิดอะไร อีกทั้งไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับวัดบางคลานหรือชายชุดดำแต่อย่างใด  และไม่ได้อยู่ในวัด ดังนั้นเมื่อตำรวจอ้างว่ามีหลักฐาน ก็ว่ากันไปตามกระบวนการยุติธรรม เมื่อเราไม่ผิดก็ต้องให้การภาคเสธ และไปว่ากันในชั้นศาล” นายกิตติศักดิ์ระบุ

ด้านพระครูพิสุทธิวรากร เจ้าอาวาสวัดบางคลาน กล่าวว่า ขอขอบคุณ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) และผู้บัญชาการตำรวจภาค 6 ที่เข้ามาดูแลคดีจนสามารถจับผู้ต้องหาได้ 21 คน และสาวถึงตัวผู้บงการได้ แม้ว่า ส.ว.กิตติศักดิ์และนายดุสิตจะให้การภาคเสธ แต่มั่นใจในหลักฐานที่ตำรวจมีอยู่ในมือ หากไม่มีหลักฐานตำรวจจะขอศาลออกหมายจับได้อย่างไร

พระครูพิสุทธิวรากรระบุอีกว่า การที่ตำรวจจับชายชุดดำและผู้จ้างวานได้ จะทำให้คนที่คิดไม่ดีเบาบางลง เพราะตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ชายชุดดำบุกวัด ทุกวันนี้ประชาชน นักท่องเที่ยว เข้ามาวัดบางคลานน้อยลง วันละ 10-20 คน ชื่อเสียงของวัดก็ได้รับความเสียหายหมดแล้ว ก่อนหน้านี้เคยถูกกลุ่มเห็นต่างร้องไปที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ซึ่งอาตมาและทางไวยาวัจกรได้นำหลักฐานไปชี้แจงเรื่องนี้ ป.ป.ช.ก็เข้ามาตรวจสอบจนสิ้นสงสัยแล้ว แต่กลุ่มคนเหล่านี้ยังไม่ยอมเลิกรา สร้างปัญหาหนักขึ้นทุกวัน ยึดวัด ยึดกุญแจวัด จนตนเองและไวยาวัจกรยังไม่สามารถเข้าวัดไปบริหารจัดการในวัดได้เพราะเกรงกลัวว่าจะถูกทำร้าย

“ทุกวันนี้อาตมาทำได้เพียงขับรถผ่านไปผ่านมา ถ่ายภาพไว้เท่านั้น ทางกลุ่มเห็นต่างเคยถูกศาลตัดสินไปแล้ว แต่ยังเอากฎหมู่มาอยู่เหนือกฎหมาย” พระครูพิสุทธิวรากรระบุ

ส่วนนายพร ปั้นเพ็ง ไวยาวัจกรวัดกล่าวว่า เมื่อได้เข้ามาดำรงตำแหน่งจึงได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบทรัพย์สิน จึงได้พบการทุจริตมากมาย แบ่งออกเป็นหลายประเด็น และได้ส่งฟ้องไปหมดแล้ว รวมทั้งได้ตรวจสอบบัญชีวัดกว่า 20 เล่ม และได้พบ 5-6 บัญชีที่ถูกถอนไปแล้วหายไปเลยประมาณ 95 ล้านบาท.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ตอกยํ้าดีลฮ่องกง ลิ่วล้อแจงแทนนาย ‘พรรคส้ม’ ยากเป็นรัฐบาล

ตอกย้ำดีลฮ่องกงเหลว! "ณัฐวุฒิ" ขยายความ "ทักษิณ" คุย "ธนาธร" แค่เล่าชะตากรรม ไม่มีการพาดพิง ม.112 กับก้าวไกล เผยตั้งแต่โหวต "พิธา"

‘อิ๊งค์’ โชว์30บ. เวทีผู้นำเอเปก

นายกฯ อิ๊งค์โชว์ผลงาน 30 บาทรักษาทุกที่ บนเวทีผู้นำภาคเอกชนเอเปก พร้อมชวนลงทุนด้านธุรกิจดูแลสุขภาพในไทย มั่นใจหลังให้นโยบาย “บีโอไอ”