ผวาฟรีโหวตปธ.สภา ก้าวไกลคาดได้ข้อยุติก่อน เพื่อไทยขู่ไปตัดสินในสภา

ชิงเก้าอี้ "ประธานสภาฯ"  เดือด! "ศิริกัญญา" ลั่นก้าวไกลพรรค ส.ส.อันดับ 1 ขอตำแหน่งประมุขนิติบัญญัติด้วยผิดแปลกอะไร เชื่อ "เพื่อไทย" จะไม่ทิ้งกัน คาดได้ข้อยุติก่อนถึงขั้นฟรีโหวต เหตุเอ็มโอยูเขียนชัดต้องซื่อสัตย์จริงใจ เผย ส.ว.เริ่มยอมรับ "พิธา" นั่งนายกฯ บ้างแล้ว "ประเสริฐ” ระบุ "ก.ก." ได้นายกฯ ไปแล้ว ขอ "ปธ.สภาฯ"  ไม่ใช่เรื่องเสียหาย ชู "ชลน่าน" เหมาะสม "รองเลขาฯ พท." ฮึ่ม เมื่อเห็นไม่ตรงกันก็ไปตัดสินด้วยการโหวตในสภา "เสื้อแดง-FC เพื่อไทย" นัดรวมตัวบุกพรรค 28 พ.ค. ยื่น 2 ข้อเสนอให้ถอนตัวจากร่วมรัฐบาลได้ พร้อมให้อิสระจับมือพรรคอื่น "จตุพร" เชื่อรัฐบาล 8 พรรค 312 เสียงพังแน่

ที่พรรคก้าวไกล วันที่ 25 พ.ค. น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) และว่าที่ ส.ส.พรรคก้าวไกล แถลงถึงความคืบหน้าในการจัดตั้งรัฐบาลว่า หลังจากที่ได้ลงนามบันทึกความเข้าใจร่วมกันระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งทิศทางเป็นไปในทางบวก หลังจากที่เรามีความชัดเจนในจุดยืนและนโยบายของพรรค ทางด้าน ส.ว.มีความเข้าใจมากขึ้น และยอมรับในหลักการที่จะยกมือโหวตให้กับนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลเป็นนายกรัฐมนตรีมากขึ้น

"เราได้เดินหน้าเจรจากับ ส.ว.เป็นรายบุคคลอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเราจำเป็นที่จะต้องได้รับเสียงสนับสนุนให้ครบ เชื่อมั่นว่าจะได้เสียงมากพอที่จะโหวตให้นายพิธาเป็นนายกฯ ได้ ซึ่งหลังจากนี้จะเดินหน้าอย่างต่อเนื่องเพื่อพบกับสภาแรงงาน สภาหอการค้าไทย เชื่อมั่นว่าการพูดคุยจะทำให้ทุกฝ่ายมีความเชื่อมั่นกับนโยบายของพรรคก้าวไกลมากขึ้น" น.ส.ศิริกัญญากล่าว

รองหัวหน้าพรรค ก.ก.กล่าวว่า ในส่วนตำแหน่งประธานรัฐสภา พรรคยืนยันว่าจำเป็นที่จะต้องมีตำแหน่งประธานรัฐสภาไว้กับพรรค นอกเหนือจากที่เราจะต้องใช้อำนาจฝ่ายบริหารแล้ว เรามีอีก 3 วาระที่จะจำเป็นต้องใช้ตำแหน่งที่เป็นประมุขของฝ่ายนิติบัญญัติเช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นการผลักดันกฎหมายทั้ง 45 ฉบับของพรรค เพื่อทำตามนโยบายที่ได้หาเสียงเอาไว้ รวมถึงกฎหมายของพรรคการเมืองอื่น หรือกฎหมายที่เสนอโดยประชาชนก็จะสามารถทำได้อย่างรวดเร็ว ที่ผ่านมา 4 ปีน่าจะเห็นแล้วว่าตำแหน่งของประธานสภาฯ มีความสำคัญมากแค่ไหน ในการอำนวยความสะดวกและขัดขวางการออกกฎหมายเพื่อประโยชน์ของประชาชน

"การที่พรรคที่มี ส.ส.มากเป็นอันดับ 1 จะขอตำแหน่งประธานสภาฯ เพื่อจะเป็นประมุขในนิติบัญญัติด้วยก็ไม่ใช่เรื่องที่ผิดแปลกอะไร" รองหัวหน้าพรรค ก.ก.กล่าว

น.ส.ศิริกัญญากล่าวถึงจำนวน ส.ส.ของพรรคที่ลดลงจาก 113 ที่นั่ง เหลือ 112 ที่นั่งว่า เมื่อ กกต.ได้แก้ไขข้อผิดพลาดในส่วนของ ส.ส.เขตในจังหวัดปราจีนบุรี ซึ่งเป็นไปตามคาดการณ์ และไม่เป็นที่กังวลการจัดตั้งรัฐบาลแต่อย่างใด พรรคจะเดินหน้าต่อ คือการเจรจากับพรรคร่วมรัฐบาลในเรื่องของประเด็นต่างๆ รวมไปถึงการจัดแบ่งกระทรวง ตำแหน่งรัฐมนตรี ตำแหน่งสำคัญอย่างอื่นๆ รวมไปถึงการหารือพูดคุยนโยบายที่ยังเห็นต่าง ที่ผ่านมานี้เอ็มโอยูจะเป็นการแถลงถึงนโยบายที่เห็นร่วม แต่มีนโยบายอื่นๆ ที่ยังเห็นต่างกัน ต้องมีการหารือกันต่อไป

ถามว่า มีการวางตัวตำแหน่งประธานสภาฯ ไว้แล้วว่าต้องเป็นใครหรือไม่ เนื่องจากหลายคนคาดการณ์ไปที่นายณัฐวุฒิ บัวประทุม รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะหัวหน้าฝ่ายกฎหมาย น.ส.ศิริกัญญายอมรับว่ามีการพูดคุยกัน แต่ยังไม่ได้ข้อสรุปว่าจะเป็นใคร ในพรรคมีคนที่เหมาะสมหลายคน คาดว่าจะมีการเปิดเผยรายชื่อในช่วงใกล้วันที่จะต้องโหวตประธานสภาฯ ซึ่งตำแหน่งนี้ไม่ได้เพียงควบคุมการประชุมเท่านั้น แต่ยังมีประเด็นในการขับเคลื่อนฟื้นฟูประชาธิปไตย ตนมั่นใจว่าคนของพรรคก้าวไกลสามารถทำได้

ก.ก.เอาแน่ประธานสภาฯ

ซักว่า มั่นใจว่าคนของพรรคก้าวไกลมีวุฒิภาวะมากพอในการควบคุมดูแลสภา น.ส.ศิริกัญญากล่าวว่า "แน่นอน" เมื่อถามว่า นายอดิศร เพียงเกษ ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) ระบุพรรค ก.ก.ได้ฝ่ายบริหารแล้ว ไม่ควรกินรวบ น.ส.ศิริกัญญากล่าวว่า พรรคยึดตัววาระและนโยบายเป็นหลัก ส่วนการเจรจาต่อรองคงต้องไปพูดคุยกันในรายละเอียดว่าได้ฝ่ายบริหารไปแล้วคือใครได้กระทรวงไหนอย่างไร ซึ่งการที่พรรคที่มีจำนวน ส.ส.มากเป็นอันดับหนึ่ง จะขอตำแหน่งประธานสภาฯ ซึ่งเป็นประมุขฝ่ายนิติบัญญัติด้วยในเวลาเดียวกันก็ไม่ใช่เรื่องผิดแผก

พอถามว่า สาเหตุที่พรรค ก.ก.ต้องการตำแหน่งประธานสภาฯ เพราะไม่ไว้ใจว่าพรรค พท.จะตั้งรัฐบาลแข่งใช่หรือไม่ น.ส.ศิริกัญญากล่าวว่า ไม่ได้กังวลเรื่องนี้ เพราะเชื่อใจพรรค พท.อย่างเต็มที่ว่าจะร่วมหัวจมท้ายไปกับพรรค ก.ก.

ถามว่า ที่นายอดิศรเสนอให้เปิดเป็นฟรีโหวตในสภา รองหัวหน้าพรรค ก.ก.กล่าวว่า "ยังไม่ไปถึงขั้นนั้น เราคาดว่าน่าจะได้ข้อยุติกันก่อนที่จะไปถึงให้ฟรีโหวต" เมื่อถามถึงกระแสพรรค พท.อาจพิจารณาถอนตัว รองหัวหน้าพรรค ก.ก.กล่าวว่า มั่นใจพรรค พท.ยังไงก็อยู่ร่วมรัฐบาลกับพรรค ก.ก. ไม่ว่าจะมีตำแหน่งประธานรัฐสภาหรือไม่ ส่วนปรากฏการณ์จะมีการแทงข้างหลังหรือไม่ ยืนยันว่าไม่มี เพราะในข้อความเอ็มโอยูระบุต้องซื่อสัตย์และจริงใจต่อกัน ดังนั้นการแทงข้างหลังจึงไม่เกิดขึ้นแน่นอนทางฝั่งของพรรคก้าวไกล รวมทั้งไม่เชื่อว่าพรรค พท.จะถอนตัว เพราะพูดคุยกันหลายครั้ง

รองหัวหน้าพรรค ก.ก.กล่าวถึงข้อพิพาทระหว่าง นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค พท. และ น.ต.ศิธา ทิวารี เลขาธิการพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) ว่า คิดว่าการที่มีข้อพิพาทกันก็จะสามารถคลี่คลายไปในทางที่ดีได้ เมื่อทั้งสองฝ่ายได้อารมณ์เย็นลง ไม่คิดว่าเรื่องนี้จะเป็นปัญหาในการร่วมงานกันต่อไปในอนาคต ซึ่งหาก นพ.ชลน่านอยากให้ พรรค ก.ก.เป็นตัวกลางในการเคลียร์ใจเราก็ยินดี

ขณะที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค พท. กล่าวถึงตำแหน่งประธานสภาฯ ว่า  ในวันที่ 22 พ.ค.ที่ผ่านมา 8 พรรคคงได้ลงนามเอ็มโอยู พรรค พท.ได้แจ้งความประสงค์ไปยังแกนนำพรรค ก.ก.ถึงตำแหน่งประธานสภาฯ ซึ่งพรรค ก.ก.ขอเวลาอีก 2-3 วัน เพื่อจะเอาคำตอบมาให้ และขณะนี้ก็รออยู่

นายประเสริฐกล่าวว่า ตอนนี้กองเชียร์ทั้ง 2 ฝั่งก็ประสงค์ที่จะให้ ส.ส.และแกนนำของแต่ละพรรคเป็น ตนมองว่าด้วยความที่เสียงใกล้กันมาก โดยเฉพาะส.ส.แบบแบ่งเขตที่พรรค ก.ก.และ พท.ได้ 112 เท่ากัน ฉะนั้นอยากให้มีการพูดคุยกันเพื่อหาทางออก และเป็นสิ่งที่พรรค พท.เคยประสานงานไปแล้ว จึงอยากให้บรรยากาศการทำงานเป็นไปได้ด้วยดี เพราะได้ลงนามเอ็มโอยูไปแล้ว ไม่อยากให้บางเรื่องมาเป็นอุปสรรค ซึ่งคงต้องมีการพูดคุยกัน เพราะหากปล่อยให้ต่างฝ่ายออกมาพูดก็ไม่จบซะที ยิ่งนานไปก็ไม่ใช่ผลดี

ถามว่า น.ส.ศิริกัญญาออกมาแถลงยืนยันตำแหน่งประธานสภาฯ ต้องเป็นของพรรค ก.ก. นายประเสริฐกล่าวว่า ทั้ง 2 ฝั่งต่างออกมาพูดว่าตำแหน่งต้องเป็นของฝั่งไหน ซึ่งตำแหน่งประธานสภาฯ เป็นตำแหน่งสำคัญ ถ้าพรรค ก.ก.ไม่ยอม พท.ก็คงต้องกลับมาหารือกันอีกครั้งว่าแกนนำพรรคจะทำอย่างไร หรือกรรมการบริหารพรรคจะว่าอย่างไร

พท.ลั่นโหวตกันในสภา

"ตำแหน่งนี้เป็นตำแหน่งที่สำคัญ เป็นตำแหน่งศักดิ์ศรีของประเทศ เป็นหมายเลข 1 ของนิติบัญญัติ เพราะฉะนั้นการตั้งประธานสภาฯ ต้องใช้ความละเอียดอ่อน และอยากให้ทุกฝ่ายหันหน้าคุยกัน ทางพรรคก้าวไกลได้นายกฯ เบอร์ 1 ไปแล้ว ถ้าเพื่อไทยจะมีโอกาสทำงานตรงนี้ก็ไม่ใช่เรื่องเสียหาย”นายประเสริฐกล่าว

ซักว่าจะถึงขั้นเสนอชื่อแข่งกันหรือไม่ เลขาฯ พรรค พท.กล่าวว่า ยังไม่อยากให้มองอย่างนั้น ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า พรรค  พท.มีรายชื่อในใจว่าจะเสนอใครแล้วหรือยัง นายประเสริฐกล่าวว่า คงเป็นเรื่องที่กรรมการบริหารพรรคต้องนำมาหารือในที่ประชุมอีกครั้ง 

เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้มีชื่อของ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค พท. นายประเสริฐกล่าวว่า นพ.ชลน่านมีความเหมาะสม มีประสบการณ์ในสภา เป็นส.ส. 6 สมัย และเก่งเรื่องข้อบังคับ รวมถึงยังเป็นหัวหน้าพรรคด้วย ซึ่งหัวหน้าพรรคหนึ่งเป็นนายกฯ และหัวหน้าพรรคหนึ่งเป็นประธานสภาฯ ก็ไม่เลวนะ

น.ส.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รองเลขาธิการพรรค พท. และรักษาการโฆษกพรรค โพสต์ข้อความบนทวิตเตอร์ว่า #ประธานสภา #พรรคเพื่อไทย หากเคารพในในหลักการ ประชาธิปไตยกันอย่างแท้จริง เมื่อมีความคิดเห็นไม่ตรงกัน ก็ต้องเข้าไปตัดสินด้วยการโหวตในสภาและเคารพเสียงข้างมากนะคะ

1.เพื่อไทยให้เกียรติพรรคแกนนำมาตลอด ตั้งแต่วันนี้รู้ว่าพรรคเพื่อไทยไม่ได้เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล พรรคเพื่อไทยแสดงสปิริตทางการเมืองทันที ยินดีกับพรรคอันดับ 1 และพร้อมร่วมมือไม่มีการจัดตั้งรัฐบาลแข่ง ถึงคะแนนจะห่างกันเพียง 10 ที่นั่ง นั่นคือความจริงใจ 2.เรื่องบางเรื่องทำไมไม่นำหารือกันในวงประชุมก่อนของทุกพรรคร่วม การประกาศผ่านสื่อ และสร้างความกดดันยิ่งทำให้เกิดความขัดแย้ง

3.ตำแหน่งประธานสภาฯ เป็นเรื่องของการคุมเกมในสภา แม่นหลักการและกฎหมาย ให้เกียรติผู้อื่น และผู้อื่นให้ความเกรงใจ ต้องมีวัยวุฒิ คุณวุฒิ วุฒิภาวะ เพราะในอดีตก็เคยเกิดเหตุวุ่นวายในสภาตอนปี 56 มาแล้วถ้ายังจำกันได้ และตรงนี้ตำแหน่งประธานสภาฯ บุคลากรของพรรคเพื่อไทยมีความเหมาะสมในทุกมิติ 4.ถ้ามองกันแบบมิตรจริงๆ และเชื่อใจกัน ประมุขฝ่ายบริหารเป็นของพรรคแกนนำอันดับ 1 และประมุขฝ่ายนิติบัญญัติเป็นของพรรคร่วม ก็ไม่น่ามีความกังวลใจใดถ้ามองอย่างมิตร ยกเว้นว่าคุณไม่เคยมองเราเป็นมิตร 5.สุดท้ายหากมีการจัดสรร  รมต.ในอนาคต ต้องเป็นไปตามความรู้ ความสามารถ ทีมงาน และความถนัดของแต่ละพรรค และเกิดจากการประชุมและตกลงร่วมกัน

"การยอมเสียสละก็เพื่อรักษาไว้ซึ่งบางสิ่ง อย่ามองว่าเสียสละกว่าใคร  พรรคเพื่อไทยก็ถอยจนสุดแล้วเช่นกัน" รองเลขาธิการพรรค พท.ระบุ

ด้าน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หรือ อุ๊งอิ๊ง แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค พท. บุตรสาวนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์อินสตาแกรมระบุว่า "ทิ้งลูกไว้กับคุณยาย 2 วัน แม่คิดถึงคุณตา ไม่เจอเลย แต่… แม่จะจ๋อยมั้ย ยังไม่ขึ้นเครื่อง ก็คิดถึง 2 จิ๋วของแม่แล้ววววว หลากหลายอารมณ์เหลือเกิน"

เฟซบุ๊กปีใหม่ ปีใหม่ ซึ่งเป็นเพจ FC นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและคนเสื้อแดง ได้โพสต์เนื้อหาตอนหนึ่งระบุว่า มีคนถามตลอดคืน "วันอาทิตย์นี้เสื้อแดง และ FC เพื่อไทยนัดกันไปพรรคเพื่อไทยจริงไหม?" จริงค่ะ! บ่าย 2 นะคะ คนเสื้อแดงเขานัดกันไปยื่นหนังสือให้พรรคเพื่อไทยมีข้อเสนอ 5 ข้อที่ทำให้พรรครู้สึกผ่อนคลาย ไม่รู้สึกว่าทำผิดมารยาทหรือครรลองประชาธิปไตย เมื่อพรรคเดินตามครรลองแล้ว คนเสื้อแดงเขามีอีก 2 ข้อเสนอ ที่ไม่บีบคั้นอะไร แต่กดดันนิดหน่อย นั่นคือให้พรรคถอนตัวออกมาจากการร่วมรัฐบาลกับก้าวไกล และให้อิสระพรรคตัดสินใจจะร่วมรัฐบาลกับพรรคใดก็ได้ หรือจะเป็นฝ่ายค้านก็ตามอัธยาศัย

ด้านนายดวงฤทธิ์ บุนนาค สถาปนิก และแกนนำกลุ่มแคร์ คิด เคลื่อน ไทย ผู้สนับสนุนนายทักษิณ โพสต์ข้อความบนทวิตเตอร์ Duangrit Bunnag ว่า ต้องทนให้คนที่เรียกตัวเองว่าเพื่อน เอาตีนถีบหน้าอยู่ทุกวันจริงหรือครับ เพื่อนที่โกหก คอยแทงข้างหลังตลอด แต่ต้องช่วยมัน เพราะลำพังตัวเองมันไปเองก็ไม่รอด ไม่ช่วยมันกูก็ผิด ช่วยมันกูก็เจ็บ

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้รีทวีตข้อความของนายดวงฤทธิ์ บุนนาค พร้อมกับโพสต์ข้อความสั้นๆ ว่า "Sound Familiar krub" (คุ้นๆ นะครับ)

'จตุพร' ชี้ 312 เสียงพังแน่

ที่พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค ชทพ. กล่าวถึงการตั้งรัฐบาลของพรรค ก.ก.ว่า ชทพ.เรานิ่ง เพราะเราไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งในตรงนั้น รอดูทั้ง 8 พรรคหลังจากที่เซ็นเอ็มโอยูกันแล้วว่าเขาจะดำเนินการไปอย่างไร เราเป็นผู้ดู ตนได้อ่านเอ็มโอยูทุกข้อแล้ว แต่ไม่มีความเห็น เป็นเรื่องของพรรคการเมืองทั้ง 8 พรรคที่เขาเซ็นร่วมกัน เราเป็นคนนอกขอเป็นผู้ดู  

ถามว่า อยากเห็นคนที่จะมาเป็นผู้นำรัฐบาลมีสเปกอย่างไร น.ส.กัญจนา กล่าวว่า คนที่อาสามาเป็นนายกฯ อาจจะต้องมีระดับดีกรีตรงนี้สูงกว่าหน่อย เพราะเป็นนายกฯ เป็นหัวหน้ารัฐบาล แต่เชื่อมั่นว่านักการเมืองทุกคนที่อาสามาทำงานคงหวังดีกับประเทศชาติและประชาชนเหมือนๆ กัน 

"ส่วนประธานสภาฯ ในความเห็นส่วนตัวต้องเก่งเรื่องกฎหมายพอสมควร อย่างที่ผ่านมา นายชวน หลีกภัย อดีตประธานสภาฯ วางมาตรฐานไว้ดีมาก แม่นกฎหมาย แม่นข้อบังคับ มีลูกล่อลูกชน ทำบรรยากาศที่ตึงเครียดให้ผ่อนคลายลง นายชวนมีบารมีที่จะเบรกเรื่องต่างๆ ที่ดูไม่เหมาะสม ท่านวางประธานสภาฯ ไว้สูงมาก ซึ่งน่าจะเป็นตัวอย่างคนที่เป็นประธานสภาฯ คนต่อๆ ไป ที่จะได้ดูนายชวนเป็นตัวอย่าง" น.ส.กัญจนาระบุ  

ขณะที่นายอนุชา บูรพชัยศรี รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวถึงการปรับเปลี่ยนพรรค รทสช.ว่า พรรคเตรียมที่จะมีการปรับกลยุทธ์ในการสื่อสารให้มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้นเพื่อสื่อสารไปยังประชาชนให้เข้าใจ โดยจะมีการเสริมทีมด้านการสื่อสารเข้ามาช่วยจากทีมเดิมที่มีอยู่แล้ว

"พรรคไม่ได้มีการผ่าโครงสร้างหรือเปลี่ยนตัวผู้บริหาร แต่จะมีทีมเข้ามาช่วยเสริมการทำงานแทน ย้ำว่าไม่ใช่การรีแบรนดิ้ง แต่จะเป็นการปรับกลยุทธ์ในด้านต่างๆ ให้เข้ากับยุคสมัยและให้มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น และพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรค ยังคงอยู่กับพรรคต่อไป" รองหัวหน้าพรรค รทสช.กล่าว

วันเดียวกัน นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊กไลฟ์ ประเทศไทยต้องมาก่อน   ตอน "พังก่อน?" ช่วงหนึ่งระบุว่า การจัดตั้งรัฐบาล 312 เสียงไม่มีทางสำเร็จเพื่อหนุนส่งให้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ได้เป็นนายกฯ ตัวจริง เนื่องจากกล่อมเสียง ส.ว. 64 เสียงมาเติมให้ครบ 376 เสียงไม่ได้ อีกทั้งพรรคเพื่อไทยเริ่มเล่นเกมทะเลาะ ตบตี แย่งชิงประธานสภาฯ หาเหตุแตกแยกแล้วย้ายข้างไปตั้งรัฐบาลแข่ง ซึ่งเป็นสถานการณ์บ่งชี้ว่าเอ็มโอยู 8 พรรคต้องพังลง

นายจตุพรกล่าวว่า ในความจริงแล้วเรื่องแรกควรเป็นเพียงการจับมือร่วมกันจะดำเนินการจัดตั้งรัฐบาลให้สำเร็จ ไม่ควรคุยในเรื่องนโยบายของพรรคร่วม และไม่ควรแบ่งตำแหน่งอะไรให้ใครและพรรคใดทั้งสิ้น เพียงรับรู้ เห็นชอบอย่างเดียวว่าใครจะเป็นนายกฯ เท่านั้น หากเดินตามแนวทางนี้ ตำแหน่งประธานสภาฯ และแบ่งรัฐมนตรีจะไม่มีปัญหาเกิดขึ้น ส่วนนโยบายจะไม่หน้าแตกยับ ดังนั้นการเมืองเป็นสิ่งที่ต้องรู้อย่างแน่ชัดในการทำอะไรก่อนและหลัง

"การแย่งชิงตำแหน่งประธานสภาฯ ราวกับเป็นจุดแบ่งเกิดความแตกแยกของ 8 พรรคร่วม และคงเป็นทางเลี้ยวตีจากของพรรค พท.ได้ย้ายขั้ว สลับข้างอย่างคลาสสิกที่สุด กับการไปถึงจุดนัดหมาย พร้อมจัดการกับฝ่ายพรรคประชาธิปไตยหรือเสรีนิยมได้อย่างเบ็ดเสร็จสิ้นเชิงในการหาเหตุทะเลาะกันแล้วตัดสินด้วยการเลือกประธานสภาฯ  เนื้อหาการพูดคุยในฝ่ายพรรค พท.เริ่มมีเสียงดังกับการจัดตั้งรัฐบาลแข่งกันมากเป็นลำดับ โดยอาจกลับมายังจุดนัดหมายที่ประชาชนสงสัยมาตั้งแต่ต้น คือ หวนมาจับมือกับ พล.อ.ประวิตรและ พปชร. กับพรรคอื่นๆ ในซีกเสียงข้างน้อย ให้แปลงร่างเป็นฝ่ายพรรคเสียงข้างมากขึ้นมาแทนที่ พรรค พท.คิดได้และทำได้กับการย้ายข้างไปอยู่กับบางพรรคฝ่าย 188 เสียง แล้วมี พปชร.ร่วมเป็นรัฐบาล แต่จะปกครองได้หรือไม่ และอับอายหรือไม่ กับคำประกาศในช่วงหาเสียงว่า ไม่จับมือกับ พปชร.-รทสช.”นายจตุพรกล่าว

 เขากล่าวว่า การเมืองไม่มีอะไรซับซ้อน เห็นๆ กันอยู่ว่าพรรค พท.กำลังจะซิ่งหนีกัน ด้วยการหาสาเหตุตบตี แย่งชิง ประธานสภาฯ แล้วทะลวงไปเอาตำแหน่งนายกฯ ด้วย ดังนั้นเมื่อพรรค พท.ต้องการประธานสภาฯ จึงเป็นเหตุที่หามาเพื่อเป็นการอ้างแยกตัวหนีจากพรรคก้าวไกลแล้วไปตั้งรัฐบาลแข่งขัน

"มันเป็นเกมจัดการพรรคก้าวไกล และคุณสมบัติของนายพิธา ที่หลายฝ่ายลงมือทอดผ้าป่า ร่วมมือกันจัดการชัดเจน แต่ไม่ได้หมายความว่าหลังจากนั้นพวกร่วมจัดการด้วยจะมีทางสะดวกหรือไม่ ฝ่ายอนุรักษนิยมกำลังนั่งรอให้ฝ่ายประชาธิปไตยแตกความสามัคคีกัน เพราะขณะนี้ฝ่ายนี้กำลังถูกล้อมทั้ง ส.ว. 250 เสียง กกต. และองค์กรอิสระ แล้วยังมาแย่งชิงทะเลาะกันในตำแหน่งประธานสภาฯ ดังนั้น ฝ่ายประชาธิปไตยเมื่อเปรียบกับคำพูด น.ต.ศิธา ก็จะโจรแตกความสามัคคีในการแบ่งสมบัติ จึงไม่มีสัจจะในฝ่ายประชาธิปไตยเช่นกับในหมู่โจร" นายจตุพรระบุ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง