‘จุรินทร์’ทิ้งหัวหน้าปชป. อึ้ง!ล้มช้าง-บ้านใหญ่อื้อ

"จุรินทร์" ไขก๊อกหัวหน้า ปชป.เซ่นพ่ายยับเลือกตั้ง ขณะที่ก้าวไกลแลนด์สไลด์กวาด กทม. 32 เขต  ล้มช้าง-โค่นตระกูล "อยู่บำรุง" พร้อมหอบแกนนำ ผู้ต้องหาคดี 112 เข้าสภาเพียบ ขณะที่ "อนุชา รทสช." ยังเหนียวหนึบ เชียงใหม่ "ชินวัตร" แพ้ระเนนระนาดคว้าได้แค่ 2 เขต ด้านภูเก็ตหนึ่งเดียวภาคใต้สร้างตำนานส้มยึดเกาะ

เมื่อเวลาประมาณ 23.30 น. วันที่ 14 พฤษภาคม 2566 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ได้ส่งข้อความผ่านไลน์กลุ่มของพรรคประชาธิปัตย์ โดยระบุใจความช่วงหนึ่งว่า "ผมขอแสดงความรับผิดชอบต่อผลการเลือกตั้ง ด้วยการลาออกจาก ตำแหน่งหัวหน้าพรรค และขอให้ทุกท่านช่วยกันทำหน้าที่เพื่อพรรคต่อไป สำหรับผมไม่ว่าจะอยู่ในสถานะใด ผมพร้อมอยู่เคียงข้างพรรคเสมอ ดังเช่นที่เคยปฏิบัติมาตลอดชีวิตการเมืองของผมครับ”

ที่พรรคประชาธิปัตย์ น.ต.สุธรรม ระหงษ์ ผอ.พรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่า นับแต่วันที่ 14 พ.ค.ให้ถือว่ากรรมการบริหารพรรคชุดนี้สิ้นสภาพตามหัวหน้าพรรคที่ประกาศลาออก แต่ยังถือว่ารักษาการตามระเบียบข้อบังคับพรรค ต้องมีการหารือภายในว่าจะมีการเรียกประชุมใหญ่วิสามัญประจำปีเพื่อให้มีการเลือกคณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) ชุดใหม่ ภายใน 60 วันนับแต่วันที่ประกาศลาออก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากผลการเลือกตั้งทั่วไปครั้งนี้ ที่พรรคก้าวไกลสามารถได้รับชัยชนะอย่างท่วมท้นทั่วประเทศ ส่งผลกระทบต่อพรรคประชาธิปัตย์ที่ได้ ส.ส.เข้ามาเพียง 27 ที่นั่ง อีกทั้งยังทำให้อดีต ส.ส.คนสำคัญของพรรคต้องสอบตกไปหลายคน อาทิ คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช, นายนิพนธ์ บุญญามณี, นายองอาจ คล้ามไพบูลย์, นายเกียรติ สิทธีอมร, น.ส. จิตภัสร์ ตั๊น กฤดากร, นางวทันยา บุนนาค, นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์, นายสามารถ ราชพลสิทธิ์

รวมถึงอดีต ส.ส.คนดังที่ฝีปากกล้าในสภาก็สอบตกไปด้วยเช่นกัน เช่น นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ, นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย, นายสาธิต ปิตุเตชะ, นายสาคร เกี่ยวข้อง, นายอลงกรณ์ พลบุตร, น.ส.พิมพ์รพี พันธุ์วิชาติกุล, นางกันตวรรณ ตันเถียร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผลการนับคะแนนเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการ (99.18%) ข้อมูล ณ เวลา 11.40 น. ในส่วนของ ส.ส.ระบบเขต จำนวน 400 เขต พบว่า พรรคก้าวไกลชนะเลือกตั้ง 112 เขต โดยมี 10 จังหวัดที่ชนะยกเขต ประกอบด้วย กรุงเทพมหานคร จำนวน 33 เขต เบื้องต้นพรรคก้าวไกลกวาดที่นั่ง 32 เขต เว้นเขต 20 ที่คะแนนยังไม่ยืนยันเนื่องจากผู้สมัคร ส.ส.จากพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกลมีคะแนนห่างกันแค่หลักหน่วย

จังหวัดสมุทรปราการ 8 เขต ผู้สมัคร ส.ส.จากพรรคก้าวไกลชนะทุกเขต เช่นเดียวกับจังหวัดนนทบุรี ผู้สมัครจากพรรคก้าวไกลก็ชนะเลือกตั้งทั้ง 8 เขต จังหวัดระยอง 5 เขต จังหวัดจันทบุรี 3 เขต จังหวัดสมุทรสาคร 3 เขต จังหวัดภูเก็ต 3 เขต จังหวัดสมุทรสงคราม 1 เขต จังหวัดตราด 1 เขต ซึ่งพบว่าผู้สมัคร ส.ส.จากพรรคก้าวไกล ชนะยกจังหวัด

อย่างไรก็ตาม สำหรับผลการเลือกตั้งเมื่อ 14 พ.ค. ที่ผ่านมา พบว่ามีนักเคลื่อนไหวการเมืองนอกรัฐสภาที่น่าสนใจที่สอบได้ ชนะการเลือกตั้ง ส.ส.ระบบเขต อาทิ น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว หรือลูกเกด ที่ได้รับเลือกตั้งให้เป็น ส.ส.ปทุมธานี เขต 3 ซึ่งก่อนหน้านี้เคยถูกดำเนินคดี 112 เป็นอดีตแกนนำกลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย โดยมีบทบาทสำคัญในช่วงม็อบสามนิ้วปี 2563 ที่เป็นผู้ประสานงานม็อบราษฎรหรือม็อบสามนิ้ว

นอกจากนี้ยังมี โตโต้ หรือนายปิยรัฐ จงเทพ อดีตหัวหน้าการ์ดวีโว่ม็อบสามนิ้ว ซึ่งตอนปี 2562 ลงเลือกตั้งที่บ้านเกิดกาฬสินธุ์กับพรรคอนาคตใหม่ แต่ไม่ได้รับเลือกตั้ง รอบนี้ย้ายมาลงที่เขตบางนา-พระโขนง ก็ได้รับชัยชนะแบบทิ้งห่างคู่แข่งขัน ทั้งรวมไทยสร้างชาติและเพื่อไทยแบบขาดลอย ขณะที่เจ้าตัวยังมีคดีความที่อยู่ในชั้นศาล เช่นจำเลยในความผิดมาตรา 112 ซึ่งล่าสุดเมื่อ 9 พ.ค.66 ได้เดินทางไปสืบพยานคดีดังกล่าวที่ศาล แต่ศาลนัดสืบพยานครั้งหน้า วันที่ 24 เม.ย.67

ส่วนคนดังอีกคนหนึ่งของก้าวไกลที่ชนะเลือกตั้ง ส.ส.เขตใน กทม.ก็คือ หมิว-สิริลภัส กองตระการ นักแสดง นางแบบ ที่วิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ โดยได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส.กทม.เขต 14 วังทองหลาง (คลองเจ้าคุณสิงห์), บางกะปิ หลังเอาชนะฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ อดีต ส.ส.เขตดังกล่าว ที่ย้ายจากพลังประชารัฐมาอยู่รวมไทยสร้างชาติ

ส่วนเซเลบคนดัง นักแสดง นักร้องที่ลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ในครั้งนี้แต่ไม่ประสบความสำเร็จ ไม่ได้รับเลือกตั้ง ก็มีหลายคน เช่น อ๋อม-สกาวใจ พูนสวัสดิ์ นักแสดง พิธีกรชื่อดัง ที่ลงสมัคร ส.ส.ครั้งแรกแต่แพ้ให้กระแสพรรคก้าวไกล

นอกจากนี้ยังมี “ฟิล์ม” รัฐภูมิ โตคงทรัพย์ นักแสดงชื่อดังที่ลงสมัคร ส.ส.กทม. เขต 22 เขตสวนหลวง ประเวศ พรรคพลังประชารัฐ ก็สอบตกเช่นกัน รวมถึงนักร้องชื่อดัง “เมธี อรุณ” นักร้องชื่อดังวงลาบานูน ลงสมัคร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ในพื้นที่นราธิวาส เขต 2 สุดท้ายแพ้ให้แก่พลังประชารัฐ

ยังมีปรากฏการณ์ล้มช้างในพื้นที่ อาทิ น.ส.รักชนก ศรีนอก ตัวแทนพรรคก้าวไกล ที่สามารถเอาชนะคู่แข่งในพื้นที่เขตบางบอนอย่างตระกูลอยู่บำรุงได้ โดย น.ส.รักชนกมีชื่อเสียงจากการเข้าไปแสดงความคิดเห็นในห้องแอปพลิเคชัน Clubhouse วิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาล ไอซ์-รักชนกจึงตัดสินใจลงสมัคร ส.ส.สังกัดพรรคก้าวไกล ในเขตเลือกตั้งที่ 28 ประกอบด้วยเขตจอมทอง (เฉพาะแขวงบางขุนเทียน) เขตบางบอน (ยกเว้นแขวงบางบอนใต้และแขวงคลองบางบอน) เขตหนองแขม (เฉพาะแขวงหนองแขม) ซึ่งใครๆ ก็รู้ว่า เขตนี้เป็นฐานเสียงเดิมที่เหนียวแน่นมาอย่างยาวนานของตระกูลอยู่บำรุง  แม้รู้ว่าเป็นเรื่องยากที่จะเจาะฐานเสียงของเขตนี้ แต่ น.ส.รักชนกก็สร้างกิมมิกปั่นจักรยานหาเสียงในเขตพื้นที่ของตัวเองอย่างหนัก นำแผ่นนโยบายมาทำเป็นมาลัยคล้องคอมอบให้ประชาชน เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่เข้าใจและเข้าถึงนโยบายของพรรค รวมถึงสิ่งที่เธอต้องการจะทำหากได้รับเลือกเป็น ส.ส.

ที่ จ.เชียงใหม่ นายนพดล สุยะ ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการของแต่ละเขตว่า ผู้สมัครจากพรรคก้าวไกลล้มเจ้าของพื้นที่เดิมจากพรรคเพื่อไทยอย่างขาดลอย โดยชนะการเลือกตั้งถึง 7 เขต คือเขต 1-4 เขต 6-8 ส่วนพรรคเพื่อไทยได้มา 2 เขต คือเขต 5 และเขต 10 โดยมีพรรคพลังประชารัฐแทรกมา 1 เขต คือเขต 9

ที่ จ.นครราชสีมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผลการนับคะแนนเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการ เมื่อเวลา 04.15 น. ส.ส. 16 เขต ประกอบด้วย พรรคเพื่อไทยได้จำนวน  12 เขต พรรคก้าวไกลได้ 3 เขต พรรคภูมิใจไทยได้ 1 เขต โดยมีผู้มาใช้สิทธิ์ 1,617,061 คน คิดเป็นร้อยละ 76.26

ส่วนผลคะแนนในเขตเลือกตั้งที่ 1, 2 และ 3 ปรากฏว่าพรรคก้าวไกลมีคะแนนชนะพรรคชาติพัฒนากล้าทั้ง 3 เขต นำโดยนายฉัตร สุภัทรวณิชย์ ว่าที่ ส.ส.เขต 1 พรรคก้าวไกล อดีตรองประธานสภาเทศบาลนครนครราชสีมา และเป็นหัวหน้าทีมผู้สมัครของพรรคก้าวไกล จ.นครราชสีมา ที่ได้คะแนน 40,722 คะแนน นำนายเทวัญ ลิปตพัลลภ ที่ได้คะแนน 29,228 คะแนน

ทั้งนี้ คะแนนที่ออกมาจนเป็นที่แน่ชัดแล้วว่า นายฉัตร เป็นผู้ชนะในเขตเลือกตั้งที่ 1  โดยสามารถล้มยักษ์อย่างนายเทวัญ ลิปตพัลลภ ผู้สมัครจากพรรคชาติพัฒนากล้าได้แบบหักปากกาเซียน ทำให้บรรยากาศที่โรงแรมลีโอซอ ภายในเขตเทศบาลนครนครราชสีมา ซึ่งเป็นฐานที่มั่นของนายฉัตรมีความคึกคักเป็นอย่างมาก        

ที่ จ.ชัยนาท นายสำรวม บุญล้น ผอ.กกต.ประจำจังหวัดชัยนาท เปิดเผยว่า ผลการเลือกตั้ง ส.ส.ชัยนาท อย่างไม่เป็นทางการ โดยพื้นที่เขต 1 ผลการนับคะแนนผู้สมัคร ส.ส. คะแนนอันดับ 1 ได้แก่ หมายเลข 9 นายอนุชา นาคาศัย จากพรรครวมไทยสร้างชาติ ได้คะแนน 43,874 คะแนน

ที่ จ.ภูเก็ต สำหรับผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการ ปรากฏว่าเขตเลือกตั้งที่ 1 ผู้ได้รับเลือกตั้ง ได้แก่ ว่าที่ร้อยตรีสมชาติ เตชถาวรเจริญ พรรคก้าวไกล หมายเลข 2 ได้ 21,252 คะแนน ส่วนเขตเลือกตั้งที่ 2 ได้แก่ นายเฉลิมพงศ์ แสงดี พรรคก้าวไกล หมายเลข 2 ได้ 21,913 คะแนน และเขตเลือกตั้งที่ 3 นายธิติกันต์ ฐิติพฤฒิกุล พรรคก้าวไกล หมายเลข 5 ได้ 20,421 คะแนน ทำให้ผู้สมัครรับเลือกตั้งพรรคก้าวไกลได้รับเลือกตั้งยกจังหวัด

ที่ จ.นครศรีธรรมราช ผู้สื่อข่าวรายงานผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการ 10 เขต  ผลคะแนนเขตที่น่าสนใจ อาทิ เขต 1 นายราชิต สุดพุ่ม อดีตผู้ว่าราชการจังหวัด จากพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) สามารถเอาชนะ ดร.รงค์ บุญสวยขวัญ จากพรรคพลังประชารัฐไปอย่างสูสี ส่วนเขต 6 นายสุธรรม จริตงาม จาก พปชร.สามารถล้มช้างเอาชนะนายประกอบ รัตนพันธ์ อดีต ส.ส.เก่าหลายสมัยจากพรรค ปชป., เขต 7 นายษฐา ขาวขำ อดีตนายอำเภอ จากพรรคภูมิใจไทย สามารถล้มช้างเอาชนะนายชินวรณ์ บุณยเกียรติ อดีต รมต.และ ส.ส.ปชป.หลายสมัยของพรรค ปชป.ไปได้อย่างสูสี อย่างไรก็ตาม ผลคะแนนล่าสุดประชาธิปัตย์ได้เพียง 6 ที่นั่ง ส่วนพรรคภูมิใจไทยปักธง จ.นครศรีธรรมราชได้ 2 ที่นั่ง พลังประชารัฐได้ 1 ที่นั่ง และรวมไทยสร้างชาติได้ 1 ที่นั่ง.