‘แม้ว’ติดคุก‘อุ๊งอิ๊ง’รับได้!

ไทยโพสต์ ๐ "อุ๊งอิ๊ง" รับได้หาก "ทักษิณ" กลับมาติดคุก แต่ "จตุพร" อัดยับอดีตนายใหญ่เท้าชอบแกว่งหาเสี้ยนอยูู่ตลอด ต่อไปรัฐบาลพรรคเพื่อไทยคงต้องย้ายที่ประชุมกันมาอยู่ในคุก เพื่อจะได้ปรึกษาการบริหารประเทศกับทักษิณ

     เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2566 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกฯพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี

นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ จะกลับไทยในเดือนกรกฎาคมว่า "คุณพ่อพูดอย่างนั้นนะคะ ยังไม่ได้คุยกันในรายละเอียดมาก จริงๆ เรื่องเดือนคุยกันแล้วคุณพ่อทวีตออกมา รู้สึกว่าอาจจะบวกลบนิดหน่อยหรือไม่ ไม่แน่ใจเหมือนกัน  ยังไม่ได้คุยกันในรายละเอียด"

     เมื่อถามว่า ในฐานะลูกสาวจะทำใจได้หรือไม่ถ้านายทักษิณกลับมาแล้วจะต้องติดคุก น.ส.แพทองธารกล่าวว่า ถ้าเป็นการตัดสินใจของเขาเราก็ยอมรับได้

     นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊กไลฟ์ประเทศไทยต้องมาก่อน ตอน "กระดานการเมือง ก่อน-หลังเลือกตั้ง ตอน 2" โดยสงสัยการกลับบ้านของนายทักษิณ ชินวัตร แล้วมาติดคุก และจะมีบทบาทให้คำปรึกษาด้านเศรษฐกิจกับรัฐบาลเพื่อไทยจากในคุก จะทำได้ด้วยหรือ?  คนคุกมีอำนาจสั่งการรัฐบาลได้หรือ?  เพราะเป็นสิ่งผิดกฎหมาย และ รธน.ไม่อนุญาตให้ทำได้

     การเคลื่อนไหวของนายทักษิณ ชินวัตร ผู้มากบารมี และผู้นำทางจิตวิญญาณของพรรคเพื่อไทย ไม่ได้ปรากฏขึ้นด้วยข้อความทวิตเตอร์ “ขออนุญาตกลับบ้าน...ก่อนวันเกิด ก.ค...และลงท้ายด้วย “เจ้านายของเรา” เหมือนโพสต์เมื่อ 9 พ.ค.ที่ผ่านมา

     ถัดมาอีก 3 วัน คือ 12 พ.ค.ที่ผ่านมา บนเวทีปราศรัยใหญ่หาเสียงทิ้งทวนของพรรคเพื่อไทย การเคลื่อนไหวของทักษิณล่าสุดจึงปรากฏ โดยผ่านคำบอกเล่าของลูกสาว อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร หนึ่งในสามแคนดิเดตของพรรคเพื่อไทย

     อุ๊งอิ๊งปราศรัยเมื่อวันที่ 12 พ.ค. ไล่เรียงพรรคเพื่อไทยต่อสู้กับการัฐประหารมาตลอดจนถูกยุบพรรคสองครั้ง แล้วตอนหนึ่งพูดว่า “ทักษิณฝากความมาบอกว่า จะกลับมาติดคุกและจะเป็นที่ปรึกษาในคุกให้รัฐบาลในด้านเศรษฐกิจ"

     นายจตุพรกล่าวว่า ทักษิณ ปกติเป็นคนไม่ชอบอยู่ว่าง และเท้าชอบแกว่งหาเสี้ยนอยูู่ตลอด ครั้งหนึ่งเมื่อเดือน มิ.ย. 2549 เคยพูดว่า พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ อดีตประธานองคมนตรี เป็น "ผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญ” แต่ไม่มีหลักฐานปรากฏชัด

     “แต่เมื่อทักษิณว่ากล่าวคนอื่น กลับต้องมาทำเอง เป็นเสียเอง การพูดจะกลับมาติดคุก แล้วเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาล จะให้คำปรึกษารัฐบาลได้ การพูดเช่นนี้แสดงถึงเป็นผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญอย่างชัดเจนที่สุด”

     นายจตุพรแย้งว่า รธน.ให้คนในคุกมาเป็นที่ปรึกษารัฐบาลได้ด้วยหรือ? และนโยบายของรัฐออกจากคุกไม่ได้ ดังนั้น การพูดแบบนี้เป็นการยอมรับในที่สาธารณะว่า ทักษิณเข้ามาติดคุกเมื่อพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล แล้วให้เป็นที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจ

เหน็บประชุม ครม.ในคุก

     “ต่อไปรัฐบาลพรรคเพื่อไทยคงต้องย้ายที่ประชุมกันมาอยู่ในคุก เพื่อจะได้ปรึกษาการบริหารประเทศกับทักษิณ ซึ่งไม่นานก็คงไม่ได้ออกจากคุกเลย” นายจตุพรประชดประชัน เพราะไม่เชื่อว่าคำพูดของทักษิณที่ฝากผ่านอุ๊งอิ๊งมานั้นจะสามารถทำได้และถูกต้องด้วยกฎหมาย

     อีกทั้งเห็นว่า เมื่อเอาคำที่ทักษิณกล่าวว่าคนอื่นเป็นผู้มีบารมีนอก รธน.ตัวจริง แต่การเอาคำปรึกษามาจากคุก ซึ่งผิดกฎหมาย เพราะการบริหารรัฐบาลจะสั่งการจากเรือนจำไม่ได้ ถ้าไม่พูดเลย ก็ไม่มีใครรู้ ซึ่งเรื่องแบบนี้แม้จะทำจริงก็ไม่ควรนำเรื่องจากคุกมาพูดกันโจ่งแจ้ง ถึงกับประกาศต่อสาธารณะจะเข้ามาติดคุกให้เป็นที่ปรึกษารัฐบาล

     นายจตุพรกล่าวว่า เมื่อเอาระเบียบกรมราชทัณฑ์มาพิจารณาแล้ว พบว่าไม่ง่ายเลย เพราะเรื่องการบริหารราชการแผ่นดินเป็นเรื่องใหญ่มาก ดังนั้น ไม่รู้ทักษิณพูดเพื่ออะไร ความจริงเขาจะไม่พูด ไม่รู้พูดทำไม สะท้อนถึงผู้มีบารมีนอก รธน.ตัวจริง

     “การให้คำปรึกษา หรือนำความคิดจากคุกทำไม่ได้ คนติดคุกจะมีอำนาจเหนือรัฐไม่ได้ เรื่องในคุก แม้เป็นเรื่องง่ายๆ ของคนข้างนอกคุก แต่เป็นเรื่องยากที่สุดในคุก การพูดให้มวลชนฟังมันง่าย รื่นหู ปลุกใจ ถ้าพูดถึงความจริงแล้วมันผิดกฎหมาย แล้วรัฐบาลเอาความคิดคนติดคุกมาบริหารประเทศ ในทางลับก็อาจทำได้ แต่ทางสาธารณะทำไม่ได้เลย”

     พร้อมระบุว่า สิ่งสำคัญในกรณีของทักษิณกลับบ้านนั้น ควรพิจารณาในสามประเด็นสำคัญก่อนคือ หนึ่ง กลับจริงหรือไม่ก่อน สอง จะปรึกษาคนติดคุกจะทำได้หรือไม่ ต้องถามเรือนจำก่อน และสาม ดูกฎหมายคนต้องคดี จะให้คำปรึกษารัฐบาลทำได้หรือไม่ หากตัดสินใจทำเลยอาจยิ่งจะกลายเป็นปัญหาใหญ่ตามมา

     ส่วนวันที่ 14 พ.ค.นี้ เป็นวันเลือกตั้ง นายจตุพรกล่าวว่า ประชาชนจะเลือกใคร และเชื่อในสิ่งไหนก็เลือกแบบนั้น อย่างไรก็ตาม การเลือกตั้งครั้งนี้ หากคิดกันง่ายๆ แล้วคือการเลือกเพื่อประเทศไทย ดังนั้น จึงต้องทำให้ใจบริสุทธิ์ เพื่อประเทศจะได้เป็นอย่างที่ต้องการให้เป็นจริงได้ หลังวันที่ 14 พ.ค.ไปแล้ว ประชาชนจะเห็นการเมืองของจริงเกิดขึ้นตามลำดับ ท้ายที่สุดจะไม่เป็นไปตามความเชื่อกับสิ่งที่เกิดปรากฏการณ์ครั้งแรก เพราะจะเกิดเรื่องอีกหลากหลายชนิดจำกันไม่ไหว

'พิธา' กระดุม 4 เม็ด

     นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวกรณีที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ไปยื่นเอกสารเพิ่มเติมกรณีถือหุ้นสื่อผิดระเบียบของพรรคก้าวไกลด้วยว่า เป็นสิ่งที่เขาอนุมานว่าผิดตั้งแต่แรก ไปพูดถึงกระดุมเม็ดที่ 3 เม็ดที่ 4 ทั้งที่เม็ดที่ 1ยังไม่จบเลย

     ส่วนนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ เปิดเผยว่า เห็นคลิปใน TikTok ที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ พูดว่า “แต่เรื่องของหุ้น อย่างมาก อย่างมากที่สุดเลยนะ worst case ของ worst case ก็คือตัดสิทธิ ส.ส. แต่ยังเป็นนายกฯ ได้อยู่ เป็นรัฐมนตรีได้อยู่”

     นายเรืองไกรกล่าวว่า พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 มาตรา 14 วรรคหนึ่ง (2) บัญญัติไว้ส่วนหนึ่งโดยชัดเจนแล้วว่า “ผู้ได้รับการเสนอชื่อต้องเป็นผู้...ไม่มีลักษณะต้องห้ามที่จะเป็นรัฐมนตรี ตามที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ...”

     นายเรืองไกรกล่าวต่อว่า รัฐธรรมนูญ มาตรา 160 (6) และมาตรา 98 (3) บัญญัติไว้ดังนี้

     “มาตรา 160 รัฐมนตรีต้อง ... (6) ไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 98”

     “มาตรา 98 บุคคลผู้มีลักษณะดังต่อไปนี้ เป็นบุคคลต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ... (3) เป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใด ๆ”

     นายเรืองไกรกล่าวตามมาว่า คำพูดของนายพิธา จึงคลาดเคลื่อนไม่ตรงกับตัวบทกฎหมายดังที่ยกขึ้นมาข้างต้น ทั้งที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็น ส.ส.มาแล้วประมาณ 4 ปี ซึ่ง ส.ส.เป็นฝ่ายนิติบัญญัติ จะอ้างว่าไม่รู้กฎหมายคงฟังไม่ขึ้น ดังนั้น การที่นายพิธาพูดว่า “แต่เรื่องของหุ้น อย่างมาก อย่างมากที่สุดเลยนะ worst case ของ worst case ก็คือตัดสิทธิ ส.ส. แต่ยังเป็นนายกฯ ได้อยู่ เป็นรัฐมนตรีได้อยู่” นั้น จึงเป็นเหตุต้องขอให้ กกต.ตรวจสอบต่อไป

     นายเรืองไกรสรุปว่า จึงได้ส่งหนังสือไปถึง กกต. ทางไปรษณีย์ EMS เพื่อขอให้ตรวจสอบว่า นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ในฐานะผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีของพรรคก้าวไกลนั้น มีลักษณะต้องห้ามที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี ตามความในพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2561 มาตรา 14 วรรคหนึ่ง (2) ประกอบรัฐธรรมนูญ มาตรา 160 (6) และมาตรา 98 (3) หรือไม่.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

30วันเลือกนายกปทุม

"พิเชษฐ์" แจ้งสภา 143 สส.สังกัดพรรคประชาชนแล้ว ด้าน "ณัฐวุฒิ" เผยใช้อักษรย่อ "ปชน."

เคาะ‘กริพเพน’ แทนขับไล่F16 ออปชันจัดเต็ม

ทอ.เคาะเลือก "JAS 39 Gripen   E/F"  บินขับไล่โจมตีฝูงใหม่ หลัง “สวีเดน” จัดเต็มทั้งให้ลิขสิทธิ์ลิงก์-จรวดนำวิถีตัวเก่ง-offset policy ถึงแม้สหรัฐเสนอ Link 16 ฟรีให้ไทย