ได้ส.ส.เขตน้อย‘ลุงตู่’กลับบ้านนอน

“บิ๊กตู่” ตระเวนหาเสียงทั่วเมืองคอน อ้อนคนใต้มีอุดมการณ์เดียวกันกา "รทสช." ทั้ง 2 เบอร์ บอกถ้าได้ ส.ส.เขตน้อย ลุงตู่ต้องกลับบ้านนอน   อย่าร้องไห้คิดถึงนะ พร้อมเข้าไหว้ศาลหลักเมือง ขอให้ได้ ส.ส.ทั้งจังหวัด โค้งท้ายปราศรัยใหญ่ศูนย์ฯ สิริกิติ์ 12 พ.ค.นี้ “พปชร.” โชว์ 5 เหตุผลเลือก "ประวิตร" นายกฯ คนที่ 30 “องอาจ” เปิดแคมเปญ SAVE ปชป.ขอคะแนนแฟนคลับขนานแท้ “อนุทิน” มั่นใจจุดแข็ง ภท. “ชทพ.” เชื่อ 25 เก้าอี้ไม่พลาด “เศรษฐา” ลั่นเชียงใหม่โฮมทาวน์ต้องได้ ส.ส.ทุกเขต “พท.” ตั้งวอร์รูมเกาะติดนับคะแนน “ทสท.” ลุยพื้นที่บางกะปิ-วังทองหลาง

เมื่อวันที่ 11 พ.ค. เวลา 08.30 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรค และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ลาราชการ เดินทางลงพื้นที่หาเสียง จ.นครศรีธรรมราช พร้อมคณะ โดยพบปะประชาชนที่ลานหน้าโรงเรียนสตรีปากพนัง อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช เพื่อช่วยนายนนทิวรรธน์ นนทภักดิ์ ผู้สมัครเบอร์ 3 เขต 3

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวปราศรัยตอนหนึ่งว่า คนใต้อารมณ์ดี นี่คือดินแดนภาคใต้ที่น่ารัก ประชาชนเชื่อมั่นรวมไทยสร้างชาติหรือไม่ เราเป็นคนที่มีอุดมการณ์เดียวกัน ซื่อสัตย์ สุจริต ดูแลทุกคนด้วยความเป็นธรรม ถ้าเราได้เข้าในสภาได้มากขึ้น มี ส.ส.ได้มากขึ้นก็สามารถเลือกนายกฯ ได้

 “ขอให้เชื่อใจผมอีกครั้งหนึ่ง ท่านเชื่อใจผมมาครั้งหนึ่งแล้ว และเชื่อใจมา 60 ปีแล้วในการเป็นทหารของผม ผมรับราชการทหารมาเกือบ 40 ปีเต็มๆ ทหารผ่านมาทุกระดับ และวันนี้จำเป็นต้องเข้ามาดูแลบ้านเมือง ผมใช้คำว่าจำเป็นต้องเข้ามา ถ้าการเมืองดีอยู่แล้วผมก็ไม่ต้องเข้ามา นั่นคือปัญหาที่ทุกคนอาจพูดว่าผมเข้ามาทำไม ผมเข้ามาเพื่อต้องการอำนาจหรือ ผมมีอำนาจ แต่ผมมีงานที่ต้องรับผิดชอบเยอะมาก นี่คือสิ่งที่ผมต้องรับผิดชอบมากกว่าที่ผมเป็นทหาร” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างปราศรัยได้มีหนูน้อยเป็นเด็กชายและเด็กหญิงเดินขึ้นมาบนเวที โดยเด็กหญิงนำพวงมาลัยมาให้ พล.อ.ประยุทธ์​ ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ได้หยุดพูด พร้อมเข้าไปอุ้มหนูน้อยและรับพวงมาลัย จากนั้นเด็กชายที่เป็นแฟนคลับได้ขอลายเซ็น และบอกรักลุงตู่ พร้อมร้องเพลงลุงตู่อยู่ไหน พล.อ.ประยุทธ์จึงกล่าวขอบคุณและสวมกอด พร้อมกล่าวอีกว่า 3-4 วันขึ้นเครื่องบินมาแต่เช้า กลับไปก็ค่ำไม่ได้คุยกับภรรยาเลย แต่เพื่อชาติสำคัญกว่า เพราะภรรยารักกันอยู่แล้ว

ในช่วงท้าย พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า อย่าลืมเลือกเขตและพรรคด้วย ลุงตู่มีคนเดียวที่นิสัยน่ารักแบบนี้ ปกติตนเป็นคนใจดี ค่อนข้างตลกด้วยซ้ำไป เล่าเรื่องตลกเพื่อนฝูงรักหมด แต่พอทำการเมืองหงุดหงิดมากไปหน่อย เพราะภาระเยอะ ต้องขอโทษด้วยแล้วกันถ้าใครไม่ชอบ

จากนั้นเวลา 11.00 น. พล.อ.ประยุทธ์เดินทางไปที่โรงเรียนชะอวด อ.ชะอวด ขึ้นเวทีหาเสียงช่วยนายพงศ์สินธุ์ เสนพงศ์ ผู้สมัคร ส.ส.นครศรีธรรมราช เขต 4 เบอร์ 10 โดย พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า สิ่งสำคัญที่สุดคือเราต้องมี ส.ส.ให้มากขึ้น เขาก็สามารถเสนอตนเป็นนายกฯ ได้ จำเอาไว้ รักตนคนเดียวไม่ได้ ต้องรักผู้สมัคร ส.ส.พรรคด้วย พรรค รทสช.ไม่ขัดแย้งกับใครทั้งสิ้น ให้ประชาชนเป็นคนตัดสิน แล้วจะตัดสินให้พรรคได้เสียงให้ได้มากที่สุดหรือไม่

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ตนจริงใจ รักทุกคน รักจังฮู้ รักแรง คนใต้เขาว่ารักใครรักจริง รักแล้วรักเลยใช่ไหม เพราะฉะนั้นรักแล้ว รักอยู่ และรักต่อ ตนต้องการแค่นี้เป็นกำลังใจให้พวกเราในการทำงานให้ประเทศชาติ เราจะได้ทำสิ่งที่ทำไปแล้วทำให้เกิดประโยชน์ไปถึงข้างล่างให้ได้ ข้อสำคัญต้องให้ใครเป็นนายกฯ เป็นรัฐบาล และให้ใครเป็น ส.ส. เบอร์ 10 และอย่าลืมเบอร์ 22 ต้องเลือก 2 ใบเท่านั้นถึงจะมาเป็นนายกฯ เป็นรัฐบาล จะได้ทำสิ่งที่ยังทำไม่เสร็จ ทำต่อ วันนี้ต่างประเทศมาลงทุนหลายล้านล้านบาทแล้ว รัฐบาลต้องเข้มแข็ง รัฐบาลอ่อนแอ ประชาชนแตกแยก เขาจะมาไหม เราต้องสามัคคี เราต้องการเสียงจากทุกเสียงไม่ว่าจะคนรุ่นไหนผมฟังหมด

ลุงตู่อ้อนเลือก รทสช. 2 ใบ

 “บอกน้องๆ ลูกหลานด้วยที่ยังเรียนหนังสืออยู่ ลุงไม่ใช่ศัตรูของหลาน ไม่ใช่ แต่มีศัตรูอย่างเดียวคือความไม่ซื่อสัตย์สุจริต คนทุจริต คนคดโกง ผมไม่คอร์รัปชัน ผมไม่เคยได้เงินจากนายกฯ นอกจากเงินเดือนเท่านั้น เชื่อหรือไม่เชื่อ แล้วยังต้องการอะไรอีก มีเงินเป็นหมื่นล้าน แสนล้าน ตายเหมือนกันหรือเปล่า เพราะฉะนั้นแผ่นดินผืนนี้ให้เราทั้งเกิด แก่ เจ็บ ตาย คือแผ่นดินผืนนี้เท่านั้น เราต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

ต่อมาเวลา 14.30 น. พล.อ.ประยุทธ์เดินทางไปที่โรงเรียนวัดพิศาลนฤมิตร อำเภอร่อนพิบูลย์ ขึ้นเวทีปราศรัยช่วยนายสนั่น พิบูลย์ ผู้สมัคร ส.ส.ของ รทสช. เขต 5 เบอร์ 1 หาเสียง

พล.อ.ประยุทธ์ปราศรัยตอนหนึ่งว่า สิ่งที่ประชาชนเดือดร้อน ขอเพียงให้เราได้เป็นรัฐบาลเถอะ ให้ได้หรือไม่ ตนจะได้ทำต่อ ก็ต้องเลือกทั้ง ส.ส.เขตและเลือกพรรค ที่มาวันนี้ต้องการมายืนยันและความตั้งใจของเราว่า ถ้าเราได้เป็นรัฐบาลก็จะสานงานต่อทันที ขอสัญญาว่าจะทำให้ดีที่สุดถ้าเลือกพรรครวมไทยสร้างชาติ เลือกทั้งพี่ตู่ และ ส.ส.เขต เพราะ ส.ส.เขตมีความสำคัญกับลุงตู่ ถ้าได้ ส.ส.เขตน้อย ลุงตู่ก็กลับบ้านนอน แล้วอย่าคิดถึงเวลาไม่อยู่ อย่าร้องไห้นะ ทั้งหมดอยู่ที่พวกเรา

เวลา 15.25 น. พล.อ.ประยุทธ์เดินทางมาที่สนามหน้าที่ว่าการอำเภอทุ่งสง ขึ้นเวทีหาเสียงช่วยนายฉัตรชัย ธนาวุฒิ ผู้สมัคร ส.ส.นครศรีธรรมราช เขต 6 เบอร์ 10 โดยขอให้ชาวทุ่งสงอย่าลืมเลือกนายฉัตรชัย เบอร์ 10 และอย่าลืมเลือกพี่ตู่ด้วย เบอร์ 22 การที่จะให้ตนเป็นนายกฯ ก็ต้องเลือก ส.ส.พรรคให้มากที่สุด ทุกอย่างจะต้องทำต่อ ฉะนั้นต้องเลือก 2 ใบ เลือกเขตเยอะๆ มารวมปาร์ตี้ลิสต์ของพรรค ถ้ามีคะแนนมากตนก็มีแต้มต่อได้เป็นรัฐบาล 

กระทั่งเวลา 18.00 น. พล.อ.ประยุทธ์เดินทางไปยังศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช เข้าสักการะศาลหลักเมือง ท่ามกลางประชาชนชาวนครศรีธรรมราชที่มาต้อนรับจนแน่นศาลหลักเมือง

จนเวลา 19.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่ปักธงเมืองคอน ที่สนามหน้าเมือง อ.เมืองเทศบาล จ.นครศรีธรรมราช โดยมีบรรดาแกนนำพรรค และผู้สมัคร ส.ส. จ.นครศรีธรรมราช สลับกันขึ้นปราศรัยบนเวที ซึ่งพื้นที่เทศบาลเมืองเป็นเขตของ นายพูน แก้วภราดัย ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 เบอร์ 8

พล.อ.ประยุทธ์ขึ้นเวทีปราศรัยพร้อมออกมาแบ่งกล้ามโชว์ และหันหลังโชว์เบอร์ 22 บนเสื้อ ก่อนกล่าวเป็นภาษาใต้ว่า สวัสดีพ่อแม่พี่น้องทุกคน วันนี้มาด้วยความรักและความคิดถึง ส่งใจถึงกันมาโดยตลอดใช่ไหม รักจังฮู้ หรอยแรง วันนี้มาจังหวัดนครศรีธรรมราชเสียงแหบ เจอแต่ความรัก ความห่วงใย อวยชัยให้พร ตื้นตันจริงๆ วันนี้ดีใจที่พี่น้องมาพบปะ วันนี้ถือเป็นเวทีสุดท้ายของจังหวัดนครศรีธรรมราช แต่ไม่ใช่ท้ายสุด เพราะเราต้องเจอกันอีกในวันเลือกตั้ง ไปให้หมดนี้ วันนี้กลับไปไม่มีเสียงแน่นอน ดีใจ ตั้งแต่เช้าเห็นแววตาความร่วมมือร่วมแรงร่วมใจที่จะร่วมงานกับพรรครวมไทยสร้างชาติ ในการที่จะพัฒนาประเทศ จังหวัดนครศรีธรรมราชคนเยอะ มืดฟ้ามัวดิน ไม่เสียชื่อชาวนครฯ คนนครฯ รักพี่ตู่ไหม พี่ตู่ก็รักคนนครฯ เป็นร้อยเท่า

“เมื่อสักครู่ได้ไปบูชาศาลหลักเมือง จตุคามรามเทพ ผมอธิษฐานให้บ้านเมืองปลอดภัย ให้คนไทยปลอดภัย ให้คนนครศรีธรรมราชปลอดภัย ให้พรรครวมไทยสร้างชาติประสบความสำเร็จ และขอให้ได้ ส.ส.ทั้งจังหวัด ท้ายสุดขอไว้หน่อยขอให้ พล.อ.ประยุทธ์ปลอดภัย เพราะเสี่ยงทุกวัน ไม่ทะเลาะกับใครก็เสี่ยง” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

มีรายงานว่า ในวันที่ 12 พ.ค. พรรค รทสช.เตรียมจัดเวทีปราศรัยใหญ่ครั้งสุดท้ายปิดการหาเสียงเลือกตั้ง ที่ห้อง Exhibition Hall ชั้น G ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ในหัวข้อ “อย่าให้ลุงตู่สู้คนเดียว ออกมาช่วยกันรักษาบ้านเมือง รวมทุกหัวใจ รวมไทยสร้างชาติ” เริ่มตั้งแต่เวลา 16.00-19.00 น. ซึ่งทั้งนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค รทสช., นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค รทสช. ผู้สมัคร ส.ส.กทม. ขึ้นเวที ก่อนปิดท้ายด้วย พล.อ.ประยุทธ์

ส่วนวันที่ 13 พ.ค. ช่วงเช้า พล.อ.ประยุทธ์ นายพีระพันธุ์ นายเอกนัฏ และแกนนำพรรค จะขึ้นรถแห่หาเสียงช่วงเช้ารอบ กทม. ซึ่งเป็นวันสุดท้ายที่ให้มีการหาเสียง ก่อนเข้าสู่ช่วงเวลางดหาเสียงในเวลา 18.00 น. โดยจะเริ่มต้นแห่ที่ฝั่งธนบุรีก่อน  ส่วนในวันที่ 14 พ.ค. ซึ่งเป็นวันเลือกตั้ง พล.อ.ประยุทธ์จะเดินทางไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ที่หน่วยเลือกตั้งที่ 13 เขตพญาไท บริเวณใต้ทางด่วนซอยประดิพัทธ์ 5

ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นายชาญกฤช เดชวิทักษ์ โฆษกคณะกรรมการยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรค พปชร.แถลงถึง 5 คุณสมบัติของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค พปชร. ที่เหมาะสมจะก้าวสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ว่า 1.การลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.บัญชีรายชื่อ เพื่อผ่านการเลือกตั้งจากประชาชนทั้งประเทศตามวิถีประชาธิปไตย 2.การเป็นมือประสาน 10 ทิศ สามารถทำงานกับฝ่ายการเมืองได้กับ​ทุกพรรค ทุกฝ่าย 3.สามารถทำงานกับข้าราชการ และเข้าถึงคนรุ่นใหม่ 4.การเป็นผู้มากบารมี สามารถเชื้อเชิญบุคลากรที่มีความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์ ให้มาร่วมกันแก้ปัญหาปากท้องของประชาชน และทำงานขับเคลื่อนประเทศไทยไปข้างหน้าโดยไม่สะดุด 5.ทำให้รัฐบาลมีเสถียรภาพ เกิดความมั่นคงตลอดระยะเวลา 4 ปี

ส่วนนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรค ในฐานะผู้ดูแลกำกับการเลือกตั้ง กทม. พปชร.ลงพื้นที่ช่วย นายภักดีหาญส์ หิมะทองคำ ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขต 13 เขตลาดพร้าว เขตบึงกุ่ม หมายเลข  8 ในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนเลือกตั้งในวันที่ 14 พ.ค. เพื่อรับฟังปัญหาและข้อเสนอแนะต่างๆ และขอให้ประชาชนช่วยลงคะแนนเสียงให้ตัวผู้สมัครและพรรค พปชร.

พท.ตั้งวอร์รูมลุ้นคะแนน

ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค ปชป. กล่าวถึงแคมเปญก่อนเข้าคูหากาเลือกประชาธิปัตย์ "#SAVE ประชาธิปัตย์ เพื่อ #SAVE ประชาธิปไตยไม่โกง" ว่าเกิดจากหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ประชาชนมีหลายคนร่วมกันติดแฮชแท็ก "Saveประชาธิปัตย์" เผยแพร่จำนวนมากในโลกออนไลน์ พรรคจึงใช้กระบวนการ ฟัง คิด ทำ นำความคิดเห็นประชาชนมาเป็นแนวทางปฏิบัติ และแนวทางหาเสียงช่วง 3 วันสุดท้าย ก่อนการเลือกตั้งในวันที่ 14 พ.ค.นี้ เพื่อให้ผู้สนับสนุน สมาชิกทั่วไป และประชาชนทั่วไปที่เคยทิ้งพรรค กลับมาช่วยกันรักษาพรรคประชาธิปัตย์ให้มีโอกาสทำงานต่อเพื่อประโยชน์ของประชาชนต่อไป

ด้านพรรคภูมิใจไทย (ภท.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค ภท. กล่าวถึงเหตุผลที่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งต้องเลือกพรรค ภท.ไปบริหารประเทศว่า เพราะบ้านเมืองต้องการพรรคที่ทำงานได้ และมีผลงานเป็นประโยชน์กับประชาชน ซึ่งพรรคมั่นใจว่าเรามีความสามารถตรงนั้น รัฐมนตรีของพรรคทำงานแบบทุ่มสุดตัว วันนี้การคมนาคมขนส่งของไทยเติบโตอย่างมาก มีการพัฒนาอย่างเป็นรูปธรรม เรื่องค่าโง่ 2.5 หมื่นล้าน เราสู้ และตอนนี้ต้องรื้อคดีกันใหม่ รถไฟฟ้า เราก็สู้ ไม่ให้มีการปรับขึ้นราคา ซึ่งคำว่าพูดแล้วทำ มันเป็นนิยามที่ประชาชนมอบให้

 “การที่เรามุ่งทำงาน ไม่สร้างปัญหา ทำให้รัฐบาลมีเสถียรภาพ ตลอด 4 ปีที่ผ่านมาภูมิใจไทยถึงมีสมาชิกที่เพิ่มขึ้น เราไม่เล่นเกมการเมือง แม้จะถูกกระทำอยู่บ่อยครั้ง สิ่งที่ยอมไม่ได้คือเรื่องของคอร์รัปชัน และเรื่องสถาบัน รวมทั้งเราไม่สร้างความขัดแย้ง” นายอนุทินระบุ

ที่พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าพรรค ชทพ. กล่าวถึงโค้งสุดท้ายในการเลือกตั้งว่า วันที่ 12 พ.ค. จะหาเสียงที่ จ.สุพรรณบุรี จะไปเดินตลาดสดใน อ.เมือง เพื่อหาเสียงขอคะแนน เชิญชวนมาลงคะแนนในวันที่ 14 พ.ค. ส่วนในพื้นที่ กทม. ภาคอีสาน ภาคเหนือ ผู้สมัคร ส.ส.ของเรายังเดินหน้าเต็มที่ เคาะประตูทุกบ้าน ขณะนี้ตนยังมั่นใจอยู่ว่าจะทำได้ตามเป้า คือไม่ต่ำกว่า 25 ที่นั่ง 

ส่วนพรรคเพื่อไทย (พท.) นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย (พท.) ยังคงลงพื้นที่ จ.เชียงใหม่ หาเสียงช่วยผู้สมัครพรรคในช่วงโค้งสุดท้าย โดยยืนยันว่าจังหวัดเชียงใหม่ถือเป็นจังหวัดที่สำคัญที่สุดของพรรค ถือเป็นโฮมทาวน์ของเรา ดังนั้นเราจึงมีความคาดหวังว่าเราจะได้ ส.ส.ยกทั้งจังหวัด

มีรายงานว่า ในวันเลือกตั้ง 14 พ.ค.เมื่อแกนนำพรรคเพื่อไทยไปใช้สิทธิเลือกตั้งเรียบร้อยแล้ว หลังปิดหีบเลือกตั้ง แกนนำพรรค ทั้งนายเศรษฐา น.ส.แพทองธาร ชินวัตร รวมทั้งกรรมการบริหารพรรค จะทยอยเดินทางเข้าพรรคเพื่อติดตามผลการนับคะแนน ตั้งแต่เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป โดยพรรค พท.เปิดศูนย์ติดตามผลการเลือกตั้งที่ชั้น 7 ของที่ทำการพรรค

ทสท.ลุยหาเสียงโค้งสุดท้าย

ในส่วนพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) นายตรีรัตน์ ศิริจันทโรภาส รองเลขาธิการพรรค ทสท.และผู้สมัคร ส.ส.เขตบางกะปิ-วังทองหลาง (เฉพาะแขวงคลองเจ้าคุณสิงห์) เบอร์ 12 จัดปราศรัย “ยกระดับบางกะปิ-วังทองหลาง” ที่วัดบึงทองหลาง โดยมีผู้คนเข้ารับฟังจำนวนมากถึง 2,000 คน โดยมีทีมโฆษกพรรคได้เข้ามาร่วมปราศรัยประชาสัมพันธ์นโยบายพรรค

นายตรีรัตน์ปราศรัยถึงจุดยืนพรรค ทสท.บนเวทีว่า เลือกพรรคไทยสร้างไทยและเลือกตนเป็น ส.ส. คะแนนเสียงจะไม่ตกน้ำแน่นอน เพราะตนจะไม่มีวันยกมือสนับสนุนให้ลุงตู่ หรือลุงป้อมเป็นนายกฯ โดยเด็ดขาด และนอกเหนือจากนี้ ยังทำงานเป็น และรู้วิธีการแก้ปัญหาให้ชาวบางกะปิ เพราะอยู่กับประชาชนมาตลอด 6 ปี แม้จะสอบตกมาแล้ว ก็ไม่ทิ้งพื้นที่ไปไหน

“หากพรรคไทยสร้างไทยมีคะแนนเสียง ส.ส.ถึง 25 คน ก็จะสนับสนุนให้คุณหญิงสุดารัตน์เป็นนายกรัฐมนตรี แต่หากมีคะแนนเสียงไม่ถึง ก็พร้อมยกมือให้นายกฯ จากฝั่งประชาธิปไตย ไม่ว่าจะเป็นคุณพิธา จากพรรคก้าวไกล หรือแคนดิเดตนายกฯ จากพรรคเพื่อไทย เพื่อเป็นนายกรัฐมนตรีฝั่งประชาธิปไตย สืบทอดเจตนารมณ์ของประชาชนที่ต้องการความเปลี่ยนแปลง” นายตรีรัตน์กล่าว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

30วันเลือกนายกปทุม

"พิเชษฐ์" แจ้งสภา 143 สส.สังกัดพรรคประชาชนแล้ว ด้าน "ณัฐวุฒิ" เผยใช้อักษรย่อ "ปชน."