หอการค้าไทยเผยดัชนีความเชื่อมั่นเม.ย.66 ปรับตัวสูงสุดในรอบ 38 เดือน หลังภาคการท่องเที่ยวฟื้นชัด หนุนความเชื่อมั่นพุ่งขึ้นยกแผง พร้อมคงจีดีพีปีนี้ไว้ที่ 3.6% ต่อปี กังวลรัฐบาลใหม่ไร้เสถียรภาพ-จัดตั้งล่าช้า ฉุดเศรษฐกิจไทยโตต่ำกว่า 3% “แบงก์รัฐ” เด้งรับรัฐบาลชุดใหม่ เตรียมขนมาตรการพักหนี้อุ้มประชาชน แจงไม่เป็นห่วง-กังวล ยันพร้อมดำเนินการเต็มสูบ ถือเป็นหน้าที่ต้องช่วยเหลือสังคม
เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ เปิดเผยถึงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนเมษายน 2566 ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับตัวดีขึ้น จากระดับ 53.8 มาอยู่ที่ระดับ 55.0 ซึ่งเป็นการปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 11 และอยู่ในระดับสูงสุดในรอบ 38 เดือน นับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2563 เนื่องจากผู้บริโภครู้สึกว่า เศรษฐกิจเริ่มปรับตัวดีขึ้นหลังจากที่การท่องเที่ยวฟื้นตัวขึ้นอย่างชัดเจน
ทั้งการท่องเที่ยวของคนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีน ที่เริ่มเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยมากขึ้น ตลอดจนบรรยากาศการหาเสียงเลือกตั้งที่คึกคักทั่วประเทศ ส่งผลให้เกิดเม็ดเงินหมุนเวียนในประเทศมากขึ้น โดยมีเงินสะพัดในระบบเศรษฐกิจ 5-6 หมื่นล้านบาท และจะเพิ่มมากขึ้นในช่วง 2 สัปดาห์สุดท้ายก่อนเลือกตั้ง 2-3 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นส่วนที่เหลือจาก 5-6 หมื่นล้านบาท ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจในภูมิภาคต่างๆ ปรับตัวดีขึ้น ประกอบกับราคาน้ำมันปรับตัวลดลง ทำให้ประชาชนรู้สึกผ่อนคลายเรื่องค่าครองชีพลง ส่งผลให้ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคทุกรายการปรับตัวดีขึ้นทุกรายการ
โดยดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภดปรับตัวดีขึ้น ส่งผลให้ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวมอยู่ที่ระดับ 49.4 โดยเป็นการปรับตัวดีขึ้นทุกรายการเมื่อเทียบกับดัชนีในเดือนมีนาคม ที่อยู่ในระดับ 48.0 ซึ่งเป็นการปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่สอง ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสหางานทำโดยรวมอยู่ที่ 52.0 จากระดับ 50.9 และดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคตอยู่ที่ 63.6 จาก 62.5 สะท้อนว่าผู้บริโภคเริ่มมีความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจไทยกำลังฟื้นตัวขึ้น
“เดือนนี้เป็นเดือนแรกที่ดัชนีทุกตัว ทั้งภาพรวมเศรษฐกิจ ทั้งปัจจุบัน อนาคต และภาพรวม ปรับตัวสูงสุดในรอบ 64 เดือน ตั้งแต่ที่เริ่มสำรวจมาในเดือน ม.ค.ปี 61 โดยมีค่าดัชนีสูงกว่าระดับค่ากลาง คือ 50 ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นในอนาคตก็ปรับตัวดีต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 ถือเป็นสัญญาณทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้นชัดเจน โดยทุกภาคส่วนชี้ว่าเศรษฐกิจไทยได้รับอานิสงส์จากภาคการท่องเที่ยว รวมทั้งมียอดคำสั่งซื้อที่ดีขึ้น ทำให้ภาคธุรกิจมีความมั่นใจในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ เช่นเดียวกับการบริโภคประชาชน ภาคอุตสาหกรรม ภาคบริการ ก็ปรับตัวดีขึ้นมากกว่า 50 จุด”
อย่างไรก็ตาม ผู้บริโภคยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับค่าครองชีพที่ยังทรงตัวสูง โดยเฉพาะค่าไฟฟ้า รวมถึงความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์สถาบันการเงินของโลก เศรษฐกิจโลกชะลอตัว รวมถึงสถานการณ์การเมืองในประเทศหลังการเลือกตั้ง สำหรับสถานการณ์หลังการเลือกตั้ง คาดการณ์ว่าจะเห็นการจัดตั้งรัฐบาล มีการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีได้ในช่วงเดือนกรกฎาคมหรือสิงหาคม 2566 หากหน้าตารัฐบาลดี ผลออกมาเป็นบวก คนจะเริ่มลงทุน และจะเริ่มมีนักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนเพิ่มขึ้น เศรษฐกิจจะมีความคึกคักในช่วงไตรมาส 4
“จากปัจจัยทั้งหมด จึงทำให้หอการค้าฯ ยังคงคาดการณ์ว่าอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยปีนี้อยู่ที่ 3.6% ต่อปี และจะประเมินอีกครั้งหลังเห็นหน้าตาของรัฐบาลใหม่และนโยบายทางเศรษฐกิจ แต่เชื่อว่าเศรษฐกิจมีโอกาสเติบโตอยู่ในกรอบที่ 3-3.5% และมีโอกาสน้อยมากที่เศรษฐกิจไทยโตต่ำกว่า 3% โดยมีเพียงปัจจัยเดียวที่ทำให้เศรษฐกิจโตต่ำกว่า 3% ได้ คือรัฐบาลใหม่ขาดเสถียรภาพ เพราะเป็นตัวบั่นทอนความเชื่อมั่นผู้บริโภคและนักลงทุน ทำให้การลงทุนในประเทศล่าช้า นอกจากนี้ยังมีผลต่อภาคการท่องเที่ยว ซึ่งหวังว่าสถานการณ์นี้จะไม่มีใครทำให้เกิดขึ้น แต่หากว่ารัฐบาลมีเสถียรภาพ และสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้เร็ว ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยเร็ว ก็เชื่อว่าโอกาสที่เศรษฐกิจไทยจะเติบโตได้ 3.5-4% ต่อปีจะมีมากขึ้น” นายธนวรรธน์กล่าว
นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยถึงกรณีรัฐบาลชุดใหม่จะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น มาตรการพักหนี้ หรือมาตรการใหม่ ๆ ออกมาว่า ธนาคารออมสินในฐานะสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ ก็พร้อมที่จะดำเนินการตาม ไม่ได้มีความเป็นห่วงหรือเป็นกังวลแต่อย่างใด เพราะถือว่าเป็นหน้าที่ของธนาคารที่ต้องช่วยเหลือสังคม อย่างไรก็ดี ไม่ว่าจะเป็นมาตรการใดๆ หากมีผลกระทบต่อธนาคาร โดยปกติรัฐบาลก็จะต้องมีการอุดหนุนในส่วนดังกล่าวเป็นเรื่องปกติ ดังนั้นก็ต้องพิจารณารายละเอียดในแต่ละมาตรการอีกครั้ง
นายวิทัยกล่าวว่า ในส่วนของลูกหนี้ธนาคารที่ยังมีปัญหา ปัจจุบันเหลืออยู่ราว 2-3 แสนราย โดยส่วนใหญ่ดีขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจ และลดลงจากช่วงวิกฤตโควิด-19 ที่มีมาตรการช่วยเหลือกว่าล้านราย และจำนวนที่เหลืออยู่ก็ถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับลูกหนี้ทั้งหมดหลายสิบล้านราย ออมสินจะทำหน้าที่ตามปกติในการช่วยลดต้นทุนให้กับประชาชน โดยเฉพาะในตลาดที่การแข่งขันไม่สมบูรณ์ คิดอัตราดอกเบี้ยไม่เป็นธรรม อย่างเช่นการร่วมสัญญาลงทุนตั้งบริษัท เงินสดทันใจ จำกัด กับ บริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และดำเนินการลดดอกเบี้ยจำนำทะเบียนรถในระบบ จาก 28% เหลือ 16-18%
นายฉัตรชัย ศิริไล ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ในส่วนของ ธ.ก.ส. พร้อมที่จะดำเนินการตามนโยบายเกี่ยวกับการพักหนี้ของรัฐบาลชุดใหม่ แต่คงต้องมีการหารือพูดคุยกันในรายละเอียดก่อน เนื่องจากธนาคารเองยังไม่ได้เห็นตัวโครงสร้างการชดเชยหรือว่าผลกระทบที่จะมีต่องบดุลของธนาคาร แต่ด้วยความที่ ธ.ก.ส.เป็นธนาคารของรัฐ และลูกค้าหลักคือเกษตรกร ซึ่งเป็นแกนหลักของประเทศ ดังนั้นธนาคารก็พร้อมยินดีที่จะปฏิบัติตามนโยบายอยู่แล้ว
“ธ.ก.ส.ยินดีที่จะปฏิบัติ แต่คงต้องขอดูในรายละเอียด ไม่ว่าจะเป็นตัวดีเทลต่างๆ ของนโยบายที่จะออกมา รวมถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับธนาคาร เพราะอย่างที่เรียนว่า ธ.ก.ส. ก็เป็นธนาคาร ดังนั้นภายในธนาคารเรามีลูกค้าหลายกลุ่มที่จะต้องดูแล ทั้งลูกค้าเงินฝาก ลูกค้าสินเชื่อ รวมถึงลูกค้าเกษตรกรด้วย” นายฉัตรชัยกล่าว.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
‘จุรินทร์’ เผย8ปัจจัย การเมืองปี68เดือด!
"จุรินทร์" เปิด 8 ปัจจัยการเมืองปี 2568 จับตามีคดีความที่มีผู้ร้องไปยื่นร้องนายกฯ และผู้เกี่ยวข้องไว้ที่ศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระต่างๆ ซึ่งปัจจุบันมีเรื่องที่ค้างอยู่อย่างน้อย
‘จ่าเอ็ม’ ผวาขออารักขา
กัมพูชาส่งตัว "จ่าเอ็ม" ให้ไทยแล้ว นำตัวเข้ากรุงสอบเครียดที่ สน.ชนะสงคราม แจ้งข้อหาฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน เจ้าตัวร้องขอเจ้าหน้าที่คุ้มครองเป็นพิเศษ
เป็นแม่ที่ดีหรือยัง! ‘อิ๊งค์’ เปิดอกวันเด็กสมัยก่อนไม่มีไอแพดโวยถูกบูลลี่
"นายกฯ อิ๊งค์" เปิดงานวันเด็กคึกคัก! เด็กขอถ่ายรูปแน่น พี่อิ๊งค์ล้อมวงเปิดอกตอบคำถามเด็กๆ มีพ่อเป็นต้นแบบ เผยวัยเด็กไม่มีไอแพด โทรศัพท์ ไลน์ พี่มีลูกสองคน
‘บิ๊กอ้วน’ เอาใจทอ. เคาะซื้อ ‘กริพเพน’
ปิดจ๊อบภายในปีนี้! "บิ๊กอ้วน" ไฟเขียว ทอ.เลือก "กริพเพน" มั่นใจคนใช้เป็นคนเลือก รออนุมัติแบบหลังทีมเจรจาออฟเซตกับสวีเดนจบ แจงทูตสหรัฐแล้ว ไทยยันไม่มีนโยบายกู้เงินซื้ออาวุธตามข้อเสนอขายเอฟ
กฤษฎีกายี้กม.เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์
จับตา ครม.ถกร่าง กม.เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ 13 ม.ค.นี้
กสม.ตบปากทักษิณ ซัดปราศรัยเหยียดเชื้อชาติ/‘พท.’ชง‘ลูกอิ๊งค์’คุยพ่อลดดีกรี
"ประธาน กกต." ลั่นพร้อมดูแลเลือกตั้งนายก อบจ. 1 ก.พ.แล้ว