ศาลพิพากษาคดี "แตงโม" จำคุก "ปอ" 2 ปี 9 เดือน "โรเบิร์ต" 2 ปี 2 เดือน แต่ให้รอลงอาญา 3 ปี พร้อมให้บำเพ็ญประโยชน์ "แม่" พอใจคำตัดสิน ชี้ทั้งคู่ได้เยียวยาและดูแลอย่างดี วอนเลิกมองหน้าเงิน
เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม เวลา 12.00 น. ที่ศาลจังหวัดนนทบุรี มีคำพิพากษาในคดีการเสียชีวิตของ น.ส.ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโม ดาราสาวที่พลัดตกเรือเสียชีวิต ในช่วงกลางดึกของคืนวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2565 ที่ผ่านมา
โดยศาลมีคำพิพากษาให้นายตนุภัทร หรือปอ เลิศทวีวิทย์ จำเลยที่ 1 มีความผิดตามฟ้อง มีคำพิพากษาตัดสินให้จำคุกจำเลยที่ 1 เป็นเวลา 5 ปี 8 เดือน ปรับเป็นจำนวนเงิน 128,000 บาท แต่จำเลยมีเจตนาจ่ายค่าชดเชยเยียวยาบรรเทาโทษแก่ผู้เสียหายหรือโจทก์ร่วม จึงลดโทษให้กึ่งหนึ่ง และมีเหตุอันควรปรานี พิพากษาให้จำคุกเหลือ 2 ปี 9 เดือน ปรับเป็นเงิน 64,000 บาท และให้รอการลงโทษเป็นระยะเวลา 3 ปี และรายงานตัวบำเพ็ญประโยชน์แก่สังคมสาธารณะ
ส่วนนายไพบูลย์ หรือโรเบิร์ต ตรีกาญจนานันท์ จำเลยที่ 2 ศาลมีคำพิพากษาตัดสินจำคุกเป็นเวลา 4 ปี 4 เดือน และให้ปรับ 108,000 บาทถ้วน แต่จำเลยที่ 2 มีเจตนาเยียวยาชดเชยค่าสินไหมทดแทนให้กับผู้เสียหายจนเป็นที่พอใจ ลดโทษให้กับจำเลยที่ 2 เป็นจำคุกเป็นเวลา 2 ปี 2 เดือน ปรับ 54,000 บาทถ้วน และให้รอการลงโทษเป็นระยะเวลา 3 ปี และให้บำเพ็ญประโยชน์แก่สังคมและสาธารณะ
ภายหลังคำตัดสินของศาลเสร็จสิ้น นางภนิดา ศิระยุทธโยธิน มารดาแตงโม พร้อมด้วยนายปอและนายโรเบิร์ต ทั้งสามเดินจูงมือลงมาจากศาลด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ท่าทีผ่อนคลาย ก่อนที่นางภนิดา จะให้สัมภาษณ์ว่า ภายหลังจากที่ศาลมีคำพิพากษาลงโทษให้รอลงอาญากับลูกปอและลูกโรเบิร์ต ก็ดีใจที่คำตัดสินออกมาในลักษณะนี้ โดยเมื่อคืนตนได้มีการจุดธูปอธิษฐานขอให้แตงโมช่วยดลใจผู้พิพากษาว่าคนไหนผิดคนไหนถูก ท่านจะได้ตัดสินอย่างยุติธรรม
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในวันนี้ได้รับความยุติธรรมกับตัวคุณแม่รวมถึงตัวคุณแตงโมหรือไม่ นางภนิดากล่าวว่า รู้สึกพอใจกับผลการตัดสินในวันนี้ ส่วนตัวได้มีการส่งใจถึงลูกสาวมาโดยตลอด และเชื่อว่าการตัดสินวันนี้มาจากการที่ลูกสาวดลใจไปถึงท่านผู้พิพากษา ให้ผลออกมาอย่างเป็นธรรม
หลังจากนี้ ในส่วนของตน ลูกปอและลูกโรเบิร์ต จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ในเรื่องของสัญญาที่มีการทำกันไว้ และจนมาถึงวันนี้ไม่ได้มีการรู้สึกติดใจหรือสงสัยสาเหตุที่เกิดเหตุบนเรือขึ้นกับลูกสาวและลูกทั้งสองคนอีกแล้ว เพราะทั้งสองแสดงให้เห็นถึงสำนึกผิด และความตั้งใจในการชดใช้เยียวยาดูแลตนมาตลอด 1 ปี 3 เดือน รวมถึงยังรู้สึกสัมผัสได้ถึงลูกสาวว่าอยู่สบายดี จึงยืนยันว่าวันนี้ไม่ติดใจสาเหตุการเสียชีวิตของลูกสาวอีกแล้ว เพราะอาจจะเป็นเหตุบังเอิญ หรือจริงๆ แล้วก็คือประมาท ตามคำพิพากษาของศาล
แม่แตงโมยืนยันว่า ไม่ได้เป็นคนหน้าเงิน และรักทั้งสองคนเพราะทั้งสองคนจ่ายเงินแต่อย่างใด เพราะเคยพูดในศาลอย่างชัดเจนว่าไม่ได้ต้องการเงิน แต่ต้องการลูกสาวกลับขึ้นมา ดังนั้นใครที่มองว่าตนเป็นคนหน้าเงิน ให้เลิกมองแบบนี้ได้แล้ว เพราะวันนี้ความยุติธรรมได้เกิดขึ้นแล้ว มันไม่ใช่เรื่องของการเห็นแก่เงิน แต่ที่ทั้งสองให้เพราะเป็นการช่วยเหลือเยียวยาตนในฐานะผู้เสียหายที่ต้องสูญเสียลูกสาวไป
ส่วนคำพิพากษาในวันนี้จะมีผลกับจำเลยอีก 4 คนที่เหลือหรือไม่ นางภนิดา กล่าวว่า คงตอบไม่ได้ ต้องอยู่ที่ทนายความ
ด้านนายชัยวัฒน์ โลมากุล ที่ปรึกษาด้านกฎหมายของนางภนิดา กล่าวเพิ่มเติมในประเด็นนี้ว่า ในส่วนของคดีที่เหลือของอีก 4 จำเลย จะต้องมีการพิสูจน์หลักฐานไปตามข้อเท็จจริง ซึ่งจะเข้าสู่กระบวนการพิจารณาในวันที่ 29 มิถุนายนที่จะถึงนี้ ไม่ขอก้าวล่วงในส่วนของอีกสำนวนหนึ่ง
เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามนายปอและนายโรเบิร์ตว่า หลังมีคำพิพากษาตัดสินในวันนี้ ทั้งสองคนรู้สึกอย่างไร นายปอกล่าวว่า เชื่อมั่นในความยุติธรรม และยอมรับคำตัดสินที่ศาลมีคำพิพากษาในวันนี้ ส่วนตัวนายโรเบิร์ตกล่าวว่า ต้องขอขอบคุณคุณแม่ภนิดาด้วยที่ให้อภัยตนกับสิ่งที่เกิดขึ้น และเอ็นดู รวมถึงให้ความรักกับตน จนทำให้เรื่องราวมาถึงจุดจบในวันนี้
ขณะที่ผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึงความรู้สึกทั้งสองคนหลังจากเกิดเหตุการณ์มาจนถึงวันนี้ ทั้งคู่ไม่ได้มีการตอบคำถามในประเด็นนี้ แต่เมื่อถามว่าจะมีการฝากไปถึงจำเลยที่เหลืออีกหรือไม่ หรือเกี่ยวกับการที่จำเลยทั้งสี่ไม่ได้มีการช่วยเหลือในการเยียวยานางภนิดา นายปอระบุว่า ไม่ขอก้าวล่วงบุคคลอื่น เพราะเป็นเรื่องแล้วแต่บุคคล เชื่อว่าแต่ละคนมีมุมมองที่แตกต่างกันไป แต่ในส่วนของตนและโรเบิร์ต ยังคงยืนยันตามคำที่เคยพูดว่าจะรับดูแลคุณแม่ไปตลอด ซึ่งตนและโรเบิร์ตก็ทำตามคำพูดดังกล่าวมาจนถึงวันนี้ ส่วนจำเลยทั้งสี่ไม่ได้มีการพูดคุยกัน แต่ก็ยังคงความเป็นเพื่อนกันด้วยดี อดีตเคยคุยกันอย่างไร ปัจจุบันก็คุยกันตามเดิม ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลง แต่ไม่ได้มีการพบปะหรือพูดคุยกันบ่อย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังทั้งสามให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน นายปอและนายโรเบิร์ตได้เดินประคองนางภนิดาไปส่งขึ้นรถ โดยก่อนที่คุณแม่จะกลับขึ้นรถได้มีการโอบกอดทั้งสองก่อนแยกย้ายออกจากศาลจังหวัดนนทบุรี.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ฉายาสภาเหลี่ยม(จน)ชิน
ถึงคิวสื่อสภา ตั้งฉายา สส. "เหลี่ยม (จน) ชิน" จากการพลิกขั้วรัฐบาลเขี่ย
ตอกฝาโลงกิตติรัตน์ ‘กฤษฎีกา’ชี้ขาดคุณสมบัติ เหตุมีส่วนกำหนดนโยบาย
"กฤษฎีกา" ชี้ชัดสมัย "นายกฯ เศรษฐา" ตั้ง "กิตติรัตน์" เป็นประธานที่ปรึกษาของนายกฯ
‘เท้งเต้ง’ไม่ทน! ชงแก้ข้อบังคับ รมต.ตอบกระทู้
ทนไม่ไหว! “หัวหน้าเท้ง” หารือประธานสภาฯ ขอให้แก้ข้อบังคับการประชุม
แม้วพบอันวาร์กลางทะเล เตือนเสือกทุกเรื่องทำพัง!
ปชน.จี้ถามรัฐบาล “ทักษิณ” มีอำนาจจริงปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์หรือไม่
ให้กำลังใจจนท.ดูแลปีใหม่ เข้มงวด‘ความปลอดภัย’
นายกฯ ให้กำลังใจตำรวจ-กรมทางหลวง ทำงานหนักช่วงปีใหม่
กฤษฎีกาเอกฉันท์โต้งหมดสิทธิ์
กฤษฎีกามติเอกฉันท์ "กิตติรัตน์" ขาดคุณสมบัติ หมดสิทธิ์นั่ง "ประธานบอร์ดแบงก์ชาติ"