กองปราบฯ บุกจับกุมล็อตสองสมุนอดีตพระอาจารย์คมเพิ่ม เป็นพระ 5 คนขับรถ 1 ช่วยขนย้ายทรัพย์สิน ซุกซ่อน 100 ล. หลังหัวหมอแกล้งยืมโทรศัพท์หาญาตินำยารักษาโรคมาให้ แต่แอบสั่งย้ายของมีค่าออกนอกวัด
วันที่ 9 พ.ค.66 ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป., พ.ต.อ.ธงชัย อยู่เกษ รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.วิจักขณ์ ตารมย์ รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.วิวัฒน์ จิตรโสภากุล ผกก.3 บก.ป. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสังกัด กก.3 บก.ป. ร่วมกันจับกุม 1.นายบุญส่ง หรืออดีตพระบุญส่งฯ 2.นายบุญเหลือ หรืออดีตพระบุญเหลือฯ 3.นายธนกฤษ หรืออดีตพระธนกฤษฯ 4.นายบัณฑิต หรืออดีตพระบัณฑิตฯ 5.นายณัฐพัชร์ หรืออดีตพระณัฐพัชร์ฯ และ 6. นายบุญศักดิ์ ผู้ต้องหา ตามหมายจับศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบ โดยกล่าวหาว่า “เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตนหรือของผู้อื่นโดยทุจริต, เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และร่วมกันรับของโจร”
พร้อมด้วยของกลาง เงินสดรวม 76,021,813 บาท, ทองคำรูปพรรณ 920 รายการ น้ำหนักประมาณ 100 บาท มูลค่าประมาณ 2.8 ล้านบาท, ทองคำแท่ง 46 รายการ น้ำหนักประมาณ 500 บาท มูลค่าประมาณ 16 ล้านบาท, ทองคำแผ่น 540 รายการ น้ำหนักประมาณ 100 บาท มูลค่าประมาณ 3.2 ล้านบาท รวมมูลค่าประมาณ 22 ล้านบาท, สมุดบัญชี จำนวน 30 เล่ม, หนังสือเดินทาง จำนวน 3 เล่ม, รถยนต์ตู้จำนวน 1 คัน, โทรศัพท์มือถือ จำนวน 11 เครื่อง
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากกรณีเมื่อวันที่ 6 พ.ค.ที่ผ่านมา กองบังคับการปราบปรามได้จับกุมนายคม หรือพระอาจารย์คม อดีตเจ้าอาวาสวัดป่าธรรมคีรี พร้อมกับพวก ที่ได้ก่อเหตุยักยอกเงินบริจาควัดป่าฯ มูลค่ากว่า 180 ล้านบาท โดยตลอดภายหลังการจับกุม กองบังคับการปราบปรามได้ทำการสืบสวนขยายผลเพิ่มเติม จนทราบข้อมูลสำคัญจากนายวุฒิมา หนึ่งในผู้ต้องหาคดียักยอกเงินวัด ให้การว่า ตนได้นำเงินของวัดจำนวน 9 ล้านบาทไปซื้อทองคำตามคำสั่งนายคม มาเก็บรักษาไว้ในตู้เซฟภายในกุฏิของนายวุฒิมา
ต่อมาเมื่อวันที่ 7 พ.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมด้วยคณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินวัดป่าธรรมคีรี และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันเข้าตรวจสอบภายในกุฏิของนายวุฒิมา พบว่าทองคำตามที่นายวุฒิมาให้การไว้ข้างต้นได้หายไป จนกระทั่งทราบว่ามีขบวนการช่วยเหลืออดีตพระอาจารย์คม เป็น พระสงฆ์จำนวน 5 รูป และนายบุญศักดิ์ ซึ่งเป็นคนขับรถของวัด ช่วยกันขนย้ายทองคำแท่งและทรัพย์สินต่างๆ ขนใส่รถตู้ ก่อนจะนำทรัพย์สินไปซุกซ่อนที่ภายนอกวัด เมื่อทราบข้อมูลดังกล่าว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้วางแผนให้กลุ่มผู้ช่วยเหลืออดีตพระอาจารย์คมนำเอาทองคำและทรัพย์สินกลับเข้ามาในวัดอีกครั้ง ก่อนจะทำการตรวจยึดทรัพย์สินต่างๆ ไว้เป็นของกลาง รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ตรวจยึดคิดเป็นมูลค่ากว่า 100 ล้านบาท
จากการสืบสวนทราบว่า ก่อนที่นายคม นายวุฒิมา และน้องสาวนายคม จะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุม ปรากฏว่านายคมและนายวุฒิมาได้สั่งการให้ขบวนการนี้ขนย้ายทรัพย์สินออกไปจากกุฏิของตนให้หมด ไปซุกซ่อนไว้ตามสถานที่ต่างๆ ภายในวัด ต่อมาหลังจากที่ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมและถูกควบคุมอยู่ นายคมได้ออกอุบายขอยืมโทรศัพท์จากเจ้าหน้าที่ตำรวจ อ้างว่าขอติดต่อญาติ ให้นำยารักษาโรคประจำตัวของน้องสาวมาให้
แต่นายคมได้แอบใช้โทรศัพท์มาสั่งการให้กลุ่มขบวนการนี้ช่วยกันทำการขนย้ายเงินสดและทองคำ ให้ขนย้ายออกไปข้างนอกวัดให้หมด ซึ่งมีทรัพย์สินบางส่วนที่ไม่สามารถขนย้ายได้ทัน จึงได้นำไปขุดฝังเอาไว้ที่ภูเขาด้านหลังวัดจากข้อมูลข้างต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขอศาลออกหมายจับ เข้าทำการจับกุมผู้ต้องหาที่ 1-6 เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
กฤษฎีกาเอกฉันท์โต้งหมดสิทธิ์
กฤษฎีกามติเอกฉันท์ "กิตติรัตน์" ขาดคุณสมบัติ หมดสิทธิ์นั่ง "ประธานบอร์ดแบงก์ชาติ"
อิ๊งค์สนอง‘พ่อแม้ว’ ลุยปราบแก๊งโกงล้างบางมาเฟีย/โต้สนธิปั่นMOU44ลงถนน
"นายกฯ อิ๊งค์" โชว์ภาพแฟ้มกองโตเต็มโต๊ะส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่
เปิดศูนย์ปีใหม่ 10วันอันตราย ดื่ม-ง่วงไม่ขับ
นายกฯ เรียก ผบ.ตร.หารือ ห่วงปีใหม่ ปชช.เดินทางกลับภูมิลำเนาปลอดภัย
30บาทรักษาทุกที่เฟส4 เริ่ม1ม.ค.ลดแออัดรพ.
นายกฯ คิกออฟ 30 บาทรักษาทุกที่ เฟส 4 ครอบคลุมทั่วไทย 1 ม.ค.68
ชงปลดล็อกโซลาร์รูฟท็อป มติกพช.ชะลอซื้อพลังงาน
นายกฯ มอบ "พีระพันธุ์" นั่งหัวโต๊ะถก คกก.นโยบายพลังงาน
กกต.ปลุก‘กปน.’ จับโกงเลือกอบจ. พท.ทุบพรรคส้ม
กกต.ติวเข้มวิทยากรเตรียมพร้อมเลือกตั้ง อบจ. กำชับ 3 ชั่วโมงสุดท้ายก่อนปิดหีบต้องทำให้เกิดความน่าเชื่อถือ